เงื่อนไม่มีปม # 3 เรื่อง " ? " (ตอนที่ 2)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ประพันธ์เมื่อปี พ.ศ. 2516
เรื่อง " ? " (ตอนที่ 2)
มนัสค่อย ๆ วางหูโทรศัพท์เข้าที่ เขาไม่นึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะตกลงใจง่ายยังงั้น และสถานที่ที่เขาเลือก มันก็เป็นสถานที่ที่เขาไม่คิดว่า หล่อนจะยอมตกลงไปคอย เขาคิดว่าหล่อนคงจะต้องโต้แย้ง หรือเกี่ยงงอนเลือกที่ที่เหมาะสมกว่านั่นสักหน่อย
เขาไม่คิดว่าหล่อนจะยอมรับ และวางหูรวดเร็วอย่างนั้น
มนัสเกาศีรษะอย่างไม่เข้าใจ เขายักไหล่กับตัวเอง แล้วหันไปเอาใจใส่กับโต๊ะทำงานของเขาต่อไป ทิ้งเรื่องที่พูดกับใครก็ไม่รู้ทางโทรศัพท์ไว้แค่นั้น
เขาทำใจจดจ่ออยู่กับงานได้ไม่นาน ความรู้สึกนึกคิดของเขาก็กลับมา รบกวน วกวน ถึงเรื่องที่พูดโทรศัพท์เมื่อกี้เข้าอีก ถ้าหากหล่อนเกิดมายืนรอเขาจริง ๆ ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ มารอคนที่ชื่อ ชุมพล ซึ่งหล่อนคิดว่าได้พูดอยู่ด้วยนั้น เขาจะว่าอย่างไร จะปล่อยให้หล่อนคอยเก้ออยู่อย่างงั้นหรือ
มนัสต้องวางปากกาในมือเพื่อที่จะคิดหาคำตอบอันนี้ เขาหาคำตอบที่ถูกใจตัวเองไม่ได้ เขาอยากจะเลิกคิด โดยนึกเสียว่า หล่อนอาจจะไม่มา เพราะสถานที่อย่างนั้น ไม่ใช่สถานที่ที่ผู้หญิงที่มีความรู้สึกนึกคิดสมบูรณ์น่าจะยอมไปคอยใครสักคนหนึ่ง และโดยเฉพาะตอนเที่ยงวัน แต่เสียงที่หล่อนพูด มนัสคิดว่า หล่อนพูดอย่างเอาจริงอาจัง และธุระที่หล่อนจะพูดถึงนั้นดูออกจะเป็นเรื่องที่สลักสำคัญของหล่อนอยู่ หล่อนอาจจะไปจริง ๆ ก็ได้
แต่ว่า หากเขาตกลงจะไปพบหล่อนโดยไม่อยากให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาคอยเก้อ เขาจะพูดเรื่องนี้กับหล่อนได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองก็ยังมารู้เรื่องที่หล่อนจะพูดถึงกับเขานั้นคืออะไร และนายชุมพลคนนั้นเป็นใคร รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร เขาก็ไม่รู้
เรื่องนี้นับว่าไม่ค่อยสำคัญนัก เพราะเท่าที่พูดกันก็พอรู้ว่า หล่อนเองก็ยังไม่รู้จักคนที่ชื่อ ชุมพล คนนั้น เจาพอที่จะปลอมแปลงเป็นตัวนายชุมพลไปพลาง ๆ ได้ ข้อสำคัญ จะพูดอะไรกับหล่อนไม่ถูกเรื่อง พิธีก็จะแตก
เขาคิดว่าจะปล่อยเรื่องนี้ไว้แค่นั้น หล่อนคอยนาน ๆ ไม่มีใครมาพบ ก็คงจะคิดด่านายชุมพลคนนั้นไปเอง แต่ ... เสียงของหล่อนนี่ซิ ที่มันน่าฟัง มันควรจะเป็นเสียงของผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง เขาอยากเห็นหล่อนขึ้นมาเสียแล้ว
มนัสเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันบอกเวลาอีกสิบนาทีจะเที่ยง จากสำนักงานเขา ขับรถไปที่ลานพระรูป ก็ ถึงเที่ยงพอดี เขาลุกขึ้นโดยไม่ได้คิดอะไรให้มากไปอีก สวมเสื้อชั้นนอก เจาคิดว่าเรื่องอื่น ๆ เขาพอที่จะใช้สติปัญญาแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าเอาได้ คนอย่างนายมนัสจนปัญญามีหรือ ไหน ๆ ก็ได้สนุกมาถึงเพียงนี้แล้ว ก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาคอยเก้อ มันออกจะไม่เป็นสุภาพบุรุษไปสักหน่อย ทันเดอร์เบิรด์สีงาช้างของมนัสพุ่งเข้าสู่ลานพระรูปเมื่อเวลาเที่ยงตรงพอดี เขามองเห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งยินอยู่ตรงฐานพระรูป ตั้งแต่เขาเริ่มเลี้ยวรถเจ้าถนนราชดำเนิน หันหน้าตรงเข้าสู่พระรูปนั้นแล้ว เขาต้องหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง แดดตอนเที่ยงที่สาดแสงลงมานั้น ทำให้เห็นถนนไกลออกไปเป็นเงาน้ำด้วยความร้อน
เมื่อรถของเขาเข้ามาใกล้ เขาจึงเห็นชัดว่า ความเข้าใจของเขาไม่ผิด หล่อนเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยคนหนึ่ง ใบหน้าถูกตกแต่งด้วยเครื่องประทินผิวชั้นดี รูปร่างได้สัดส่วน เขาไม่เห็นนัยน์ตาของหล่อน เพราะหล่อนสวมแว่นกันแดดทับไว้ เขาคะเนวัยของหล่อนคงจะไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้า และไม่เกินสามสิบ เป็นสาวใหญ่ที่พ้นวัยรุ่นมาแล้ว สังเกตได้จากการแต่งตัวที่เรียบร้อยสมวัยของหล่อน หล่อนมองดูมาทางเขาอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่เมื่อมนัสขับรถเข้ามาในระยะที่พอเห็นกันถนัด
เขาขับรถเข้าไปใกล้ ๆ หล่อน หล่อนขยับตัวก้มลงมองลอดเข้ามาในรถ ทำท่าลังเลเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาถนัด มนัสหยุดรถ เอื้อมมือไปเปิดประตูให้ เขาชะโงกหน้ามองลอดประทุนไปที่หล่อน แล้วพูดว่า คุณ .. เรไร ?
หล่อนยิ้ม มองดูตัวรถแวบหนึ่ง เหมือนกับจะอ่านยี่ห้อรถ แล้วจึงก้าวเข้ามานั่งที่นั่งเคียงข้างเขา มนัสดึงประตูปิด แล้วพูดว่า มาคอยอยู่นานไหนครับ
มาถึงไม่กี่นาที คุณก็มา หล่อนดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วพูดต่อ คุณมาตรงเวลาดีมาก ดิฉันกำลังคิดว่า หากไม่มา ดิฉันคงจะละลายอยู่ที่ฐานพระรูปนั่นเอง อากาศอะไรไม่รู้ ร้อนเป็นบ้า แล้วหล่อนก็หัวเราะเบา ๆ คุณก็ช่างเลือกที่ หากธุระไม่จำเป็นจริง ๆ แล้ว เห็นจะไม่มา
มนัสหัวเราะ เขาพารถพึ่งปราดออกไปจากที่
Create Date : 11 มกราคม 2555 |
Last Update : 13 มกราคม 2555 2:48:47 น. |
|
2 comments
|
Counter : 727 Pageviews. |
|
|
|