ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 76)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 76
คำสั่งปลดนักการทูต ทางกระทรวงการต่างประเทศเขาแจ้งมาว่า เขารับทราบ แต่ยังไม่ต้องมารายงานตัวตามพิธีการในขณะนี้ก็ได้ ทางเขาเพียงแต่รับทราบไว้ก่อน แต่ขออย่าให้ไปปรากฏตัวในงานพิธีการทูตระหว่างนี้ก่อน เขาจะแจ้งนัดหมายวันเข้าพบเมื่อเห็นควร สวิส ฯ นี่เขาเก่งจริง ๆ เรื่องพิธีทางการทูตอย่างนี้ ยังกับจะดูทิศทางลมออก เพราะ ...
อีกวันเดียวต่อมา เราก็ได้รับแจ้งมายังสถานทูตว่า ทางรัฐบาลคณะปฏิวัติโทรเลขมาสั่งปลดเราทั้งสามคนจากทุกตำแหน่งในทันทีที่ได้รับคำสั่งนี้ ก็เป็นอันว่า เราทั้งสามมีฐานะทางการทูตเพียงคืนหนึ่งกับอีกวันเดียวก็กลายเป็นบุคคลไร้อาชีพ ที่เข้ามาสวิส ฯ อย่างบุคคลธรรมดาสามัญ สาเหตุการสั่งปลดนี้มาจากข่าวบนหนังสือพิมพ์ใน การาจี ในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง หนังสือพิมพ์ในกรุง การาจี พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของฉบับวันรุ่งขึ้นที่เราผ่านไปพักเครื่องที่นั่นว่า นายพลเผ่า ฯ และคณะที่เดินทางหลบหนีการเมืองมาจากประเทศไทยนั้น จะเอาความไปฟ้องสหประชาชาติที่สำนักงานที่กรุงเจนีวา เรื่องที่ถูกขับไล่ออกจากประเทศไทยครั้งนี้ ก็ไอ้คำว่า You know it ที่ผมกะโกนส่งเสียงให้นักข่าวที่หลงหลุดเข้ามาสัมภาษณ์ได้ในห้องพักที่สถานบิน การาจี วันนั้นเอง แล้วเขาก็ว่า ถ้าไม่ให้ข่าว เขาจะมาเขียนเอาเอง เขาเลยจับเอาตอนหนึ่งของคำพูดของผม
You know it เอาเป็นว่า ผมจะไปฟ้องยูโน เสียงมันฟังคล้าย ๆ กัน You know กับ U.N.O ทางสถานทูต การาจี ตัดข้อความนี้ส่งไปเมืองไทย ทางเมืองไทยก็เต้นไปกับหัวข่าวนั้น หาว่าทั้งสามคนนี่ยังมีฤทธิ์จะไปฟ้องยูโน สั่งปลดออกจากทุกตำแหน่งทันที ยังไม่ทันได้ไปพบรายงานตัวกับทางการของสวิส ฯ เลย ทางกระทรวงการต่างประเทศสวิส ฯ คงจะรู้ ๆ ว่า อะไร ๆ มันยังไม่ค่อยจะแน่ เขาถึงให้รอการที่เราจะไปพบรายงานตัวในวันนั้นไว้ก่อน เรื่องอย่างนี้สวิส ฯ เขาแน่นัก ดูทิศทางลมเก่งจริง ๆ ท่านทูตเอาคำสั่งนี้มาให้เรารับทราบ ในคำสั่งนั้น ระบุว่าให้ปลดเราทั้งสามคนจากทุกตำแหน่ง ฐานประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก็ไม่รู้ว่าประพฤติตัวยังไงที่ไม่เหมาะสม เจ้านายกับพันศักดิ์เซ็นรับทราบคำสั่งนั้น ผมไม่เซ็น เพราะไม่รู้ว่าไปประพฤติตัวไม่เหมาะสมอย่างไร ที่ไหน
คุณหลวงวิจิตรวาทการ ท่านว่า ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่เซ็นรับทราบได้ แล้วท่านก็กลับไปพร้อมกับลายเซ็นรับทราบคำสั่งเพียงสองคน ทีนี้ เราทั้งสามคนก็กลายเป็นบุคคลไร้อาชีพสมบูรณ์แบบไปในทันที ก็ต้องอยู่ในเจนีวา ในฐานะบุคคลเข้าเมืองประเภทลี้ภัยทางการเมือง ก็ได้คุณเมธีอีกนั่นแหละที่มาช่วยแก้ปัญหาให้ โดยพาไปพบทนายความชั้นดีของเจนีวา ชื่อ นาย ชอง ดูตัวต์ (Jean Dutoit) ให้เป็นทนายประจำตัว เพื่อคอยแก้ไขเหตุการณ์ทางการเมืองให้ ยังไม่รู้ว่าทางคณะรัฐประหารจะมีลูกเล่นอะไรต่ออีก
พุฒ เจอคดี ฆ่าคนตาย
แล้วก็มีมาจริง ๆ ทางเมืองไทยส่งคำขอตัวมาทางรัฐบาลสวิส ฯ ให้ส่งตัวผมกลับเมืองไทย ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ในคดียิงสี่รัฐมนตรีที่บางเขนนั่น
คำขอตัวนี้ ถูกส่งมายังรัฐบาลสวิส ฯ ในอีกไม่กี่วันหลังจากคำสั่งปลด คำสั่งนี้เราได้รับทราบจากรัฐบาลสวิส ฯ ในสอง-สามวันต่อมา แต่เขาไม่ทำอะไรเรา เพียงแต่ให้ทราบคำสั่งเท่านั้น ก็ได้นายชอง ดูตัวต์ นี่แก้ไขให้
นายคนนี้เคยเป็นนายกเทศมนตรีกรุงเจนีวามาก่อนสมัยหนึ่ง เมื่อพ้นสมัยแล้วก็ออกมาหากินทางทนายความ ก็นับว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของเจนีวา ถ้าไม่ได้คุณเมธีช่วยหาให้ ก็คงยุ่งเมื่อตอนขอตัวผมกลับนี่
นายดูตัวต์ รับทราบคำสั่ง และโต้แย้งไปว่า ทางผู้ต้องหาต้องการได้สำเนาสำนวนเรื่องนี้เพื่อศึกษาก่อน และสำนวนนี้ต้องแปลเป็นสามภาษา คือภาษาฝรั่งเศส-อิตาลี-และเยอรมัน เพราะจะต้องเอาสำนวนไปให้เจ้าหน้าที่ทางศาลก่อน สวิส ฯ แบ่งภาคออกเป็นสามภาคการปกครอง ฉะนั้น จึงต้องการสำนวนที่แปลทั้งสามภาษาให้ครบสามภาค ทั้งฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน ส่งมาให้ทางการที่นี่พิจารณาด้วย
ทางรัฐบาลสวิส ฯ ก็ส่งคำขอของทนายมายังประเทศไทย ก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการส่งตัวผมให้ในขั้นต่อไป เพื่อความเป็นธรรมของฝ่ายผู้ต้องหา
จนป่านนี้ การแปลสำนวนเป็นสามภาษา ก็ยังไม่เสร็จ
เรื่องนี้ก็เงียบไป ทางรัฐบาลสวิส ฯ เขาตั้งข้อสงสัยไปด้วยว่า ตอนที่ผู้ต้องหายังอยู่ในเมืองไทย ทำไมจึงไม่เอาตัวไว้ในข้อหานั้น กลับส่งมาสวิส ฯ ในตำแหน่งเลขาเอกประจำสถานทูตไทยที่กรุงเบิร์น แล้วมาสั่งปลดออกจากตำแหน่งทางการทูต ต่อด้วยการขอตัวให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนในข้อหาฉกรรจ์
สวิส ฯ ไม่มีสัญญาตกลงเรื่องผู้ร้ายข้ามแดนกับเมืองไทย จึงต้องขอความกระจ่างแจ้งในข้อหา และให้ผู้ต้องหาได้ทราบข้อเท็จจริงจากสำนวนการกล่าวหานั้น พร้อมทั้งต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเรื่องนี้ให้ทราบรายละเอียดของสำนวนนี้ทั้งสามภาคด้วย
โดนเข้าไม้นี้ ทางเมืองไทยก็คงอึ้งไป ทำอะไรไม่ถูก มันเป็นการปฏิเสธที่นุ่มนวลตามพิธีอย่างแนบเนียน
ถ้าจะเอาจริง ถึงกับลงทุนแปลสำนวนทั้งสามภาษาได้ ก็คงเจอปัญหาลูกใหม่อีก
การขอใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ก็ต้องอาศัยนาย ดูตัวต์ เขาทำให้อย่างไม่มีปัญหา เพราะในสวิส ฯ นั้น เขาแบ่งแยกการปกครองออกกันสามภาค ทางเจนีวามีอำนาจในการพิจาณาเรื่องนี้เอง ผมก็ได้ใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ทั้งสามคน เป็นใบอนุญาตถาวรเสียด้วย อิทธิพลของนาย ดูตัวต์ ยังมีอยู่มากในเจนีวา
ส่วนคุณเมธี ถูกขอให้หาที่อยู่ใหม่ที่มันดีกว่าโรงแรมนี้ เพราะยังไง ๆ ก็ต้องอยู่ที่เจนีวาเป็นการถาวรแล้ว ยังไม่รู้อนาคตว่าจะต้องอยู่นานแค่ไหน
Create Date : 17 เมษายน 2553 |
Last Update : 18 เมษายน 2553 1:21:42 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1308 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:3:16:27 น. |
|
|
|
โดย: บักบุญเถิง IP: 180.8.5.227, 203.146.217.35 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:12:10:47 น. |
|
|
|
| |