ทางเสือผ่าน (บทที่ 1 ตอนที่ 3)
ทางเสือผ่าน บทที่ 1 ตอนที่ 3
เสียงคนที่พูดจาเอะอะกันอยู่ทางเรือนที่ชุมชนนั้นปลุกให้ทวนรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เขาขยับตัวด้วยความปวดร้าว เหลือบตามองไปทางทิศทางนั้น บุคคลในเครื่องแบบตำรวจกลุ่มหนึ่ง กำลังพูดอะไรกันอยู่กับกำนันที่ชานบ้าน คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มตำรวจ เป็นชายหนุ่มอยู่ในเครื่องแบบนายร้อยตำรวจเอก กำลังชี้มือมาที่เขา แต่ทวนจับความไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรกัน
มีเสียงฝีเท้าของคน ๒-๓ คนย่ำเข้ามาใกล้ ทวนได้ยินเสียงกำนันพูดขึ้นมาว่า
มันเป็นผู้ต้องหาของผม ผู้กองจะเอาตัวไปยังไง
กำนันบอกว่า เขาเป็นลูกน้องของเสือฝ้ายไม่ใช่หรือ เป็นเสียงของนายตำรวจหนุ่มผู้นั้น
ใช่ครับ
ถ้าเช่นนั้น ผมก็ควรจะเอาตัวเขาไปได้ เพื่อจะซักถามอะไรบางอย่างจากเขา
มันพาพวกเข้าปล้นที่ตำบลของผม ผมกับพวกลูกบ้านไล่ตามมันมา มันยิงพวกลูกบ้านของผมตายไปหมด กว่าจะจับตัวมันได้ ก็ข้ามวันกับคืนหนึ่ง ผมต้องเอาตัวมันไปให้อำเภอ
ที่นี่ก็เพิ่งถูกเสือฝ้ายยกกองมาปล้นไปไม่ใช่หรือ ท่านกำนัน ?
ครับ ... แต่ไม่ใช่สายของไอ้นี่ ผมเองก็มาถึงที่นี่ช้าไปนิดเดียว ผู้กองดูซิครับ ... ไอ้พวกนี้มันทารุณเพียงไหน มันเผาบ้านทั้งหมู่บ้านวอดไปเกือบหมด เหลือแต่พวกชาวบ้านไม่กี่คน ที่ผู้กองเห็นอยู่นั่น
เสียงเงียบไปสักครู่ ผู้กองหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นอีก
แต่การควบคุมผู้ต้องหาด้วยวิธีทรมานเช่นนี้ ผมไม่ชอบ ถึงแม้เขาจะเป็นเสือที่ร้ายกาจเพียงไร เขาก็ยังเป็นมนุษย์นี่ กำนัน
เสียงกำนันหัวเราะ
ยังทารุณน้อยกว่าที่พวกมันทำกับชาวบ้าน
ผมขอให้กำนันเปลี่ยนวิธีควบคุมเขาเสียใหม่
เปลี่ยนยังไง ... ผู้กอง
แก้มัดเขาออก เพียงแต่ใส่กุญแจมือข้างเดียวแล้วล่ามติดไว้กับเสาก็ถมไปแล้วละ กำนัน
มันเป็นผู้ต้องหาของผม ... ผมจะทำยังไงก็ได้ละมั้งครับ ผู้กอง
เสียงผู้กองหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วพูดว่า
แต่ผมเป็นหัวหน้าตำรวจที่จะต้องให้ความคุ้มครองแก่คนที่ยังตกค้างอยู่ในหมู่บ้านนี้ กำนันจะพักที่นี่ก็ต้องอยู่ในบังคับบัญชาของผม ... แก้มัดเขาออก
กำนันเหลือบตาขึ้นมองนายตำรวจหนุ่ม พบสายตาที่กร้าวเอาจริง จ้องคอยประสานอยู่ แม้ว่าใบหน้าของนายตำรวจยังคงยิ้มน้อย ๆ
ถ้าผมไม่แก้ ? กำนันยังไม่ยอมจำนน
กำนันก๊ขัดใจผม เป็นคำตอบที่เรียบ ๆ แต่หนักแน่น
กำนันมองไปทางตำรวจอีก ๒ คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้บังคับบัญชาของเขา แต่ละคนอยู่ในท่าที่พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่ง
ใครจะรับรอง ถ้าผมเข้าไปใกล้ตัวมัน ... มันจะไม่ทำอะไรผม กำนันพูดด้วยเสียงแผ่ว ๆ
นายตำรวจหนุ่มหัวเราะ
กำนันกลัวเขาด้วยเรอะ ทั้ง ๆ ที่เขายังอิดโรยอยู่อย่างนี้
ผมไม่อยากเข้าใกล้มัน
ร้อยตำรวจเอกผู้นั้นไม่ได้พูดว่าอะไร เขาก้าวเท้าเดินเข้ามาที่ทวน งัดเอามีดสนามออกมาจากเอว กระชากใบมีด ตัดไปที่เชือกซึ่งผูกรัดเท้าของทวนอยู่ออก
ทวนเหยียดเท้าคลายความปวดเมื่อย และเมื่อผู้กองผู้นั้นตัดเชือกที่ผูกกุญแจมือที่ติดกับเสานั้นออก ทวนก็ทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยอ่อน ทั้ง ๆ ที่เสาต้นนั้นยังสอดอยู่ในระหว่างอ้อมแขนที่ถูกพันธนาการไขว้หลังอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองนายตำรวจหนุ่มผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มนั้นแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกอันประหลาด
ขอลูกกุญแจมือให้ผมเถอะ กำนัน นายตำรวจหนุ่มแบมือไปตรงหน้ากำนัน
ผมทำหายเสียแล้ว ผู้กอง กำนันตอบ
แล้วกำนันจะเอาตัวเขาไปได้อย่างไร เสาทั้งต้นยังคร่อมอยู่อย่างนี้
กำนันนิ่ง หลบสายตา ไม่ตอบ
นายตำรวจหนุ่มหัวเราะอีก
หรือว่า ... กำนันมีแผนการอะไรนอกจากนี้ เมื่อชาวบ้านนี้จะได้อพยพกันไปหมดแล้ว พูดแล้วเขาก็ส่ายหน้าช้า ๆ ผมคิดว่า ผมพอจะรู้ มันเป็นวิธีหนึ่งที่ผมไม่ชอบหนักเข้าไปอีก กำนัน
เขาพยักหน้าไปทางตำรวจของเขาคนหนึ่งซึ่งมี่ผ้าขาวม้าคาดพุงอยู่
ขอผ้าขาวม้าให้อั๊วซิ ... ผ่อน
ตำรวจผู้นั้นปลดผ้าขาวม้าออกจากพุงส่งให้ นายตำรวจรับมาบิดมุมของชายผ้าขาวม้าให้เป็นเกลียวแข็ง แล้วสอดเข้าไปในรูกุญแจข้างหนึ่ง บิดเกลียวลึกเข้าไป แล้วค่อยขยับเอาวงสับของกุญแจข้อมือข้างนั้นออก
ผมบอกคุณแล้วนะว่า มันเป็นลูกน้องตัวร้ายของเสือฝ้าย กำนันพูดขึ้นมาอีก ผู้กองจะต้องรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้
นายตำรวจหนุ่มยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับกุญแจมือข้างนั้น โดยไม่โต้ตอบอะไร เขาดึงกุญแจมือข้างหนึ่งออกสำเร็จ โยนผ้าขาวม้ากลับคืนไปให้ตำรวจของเขา มือข้างหนึ่งจับกุญแจมือที่ไขออกได้นั้นไว้ ทวนเหยียดแขนข้างที่เป็นอิสระออกด้วยความปวดเมื่อย
ลุกขึ้นยืนได้ไหม นายตำรวจผู้นั้นถามด้วยเสียงอ่อนโยน
ทวนพยายามลุกขึ้นยืน ร่างของเขาซวนไปเกาะเสานั้นด้วยความอ่อนเพลีย เขายันกายอยู่กับเสานั้นพักหนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตานายตำรวจผู้นั้น
เดินได้ไหม
ทวนพยักหน้าช้า ๆ
ตามอั๊วมา
ทวนเดินโซเซตามหลังผู้กองตำรวจผู้นั้นซึ่งมือข้างหนึ่งจับกุญแจมือข้างที่ไขออกไว้มั่น เขามองไปรอบ ๆ เท่าที่จะมองได้ สิ่งที่เขาเห็นเพิ่มเติมจากที่ดูด้วยความลำบากแต่เดิมก็คือ ทั่วบริเวณหมู่บ้านนั้นถูกไฟไหม้ทำลายทั่วไปหมด ควันไฟยังคุกรุ่นอยู่เป็นบางแห่ง ซากศพของชายฉกรรจ์ ผู้หญิงและเด็กเล็ก ๆ กลิ้งอยู่ตามพื้นดินเป็นหย่อม ๆ
ทวนเบือนหน้าหนีจากภาพเหล่านั้น เขาเดินตามหลังนายตำรวจผู้นั้นไปยังเรือนหลังเดียวที่ยังเหลืออยู่
บนเรือนที่ปูด้วยพื้นกระดานเก่า ๆ นายตำรวจหนุ่มสับกุญแจมือข้างที่ไขออก เข้ากับลูกกรงของระเบียงบ้านอันที่เลือกว่าแข็งแรงที่สุด แล้วปล่อยให้ทวนนั่งลงอยู่กับพื้น
ทวนหันไปดูภาพอันน่าสังเวชที่เขาได้เห็นเมื่อครู่นี้อีกครั้งหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงด้วยความรันทด
นายตำรวจหนุ่มถูมือด้วยความพอใจ หันไปมองดูชาวบ้านที่พากันถอยไปอยู่ทางอื่นอีกมุมหนึ่งของบ้าน และพูดว่า
พวกเราช่วยกันดูเขาหน่อย ฉันจะจัดยามคอยเฝ้าเขาไว้ให้ด้วย
เขาหันไปทางนายสิบตำรวจโทผู้เดินตามมา และพูดว่า
เทียม... ลื้อจัดยามเฝ้าผู้ต้องหาไว้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง แบ่งเป็น ๘ ผลัด ผลัดละ ๓ ชั่วโมง พอดีคนของเรา อั๊วจะออกไปดูลาดเลารอบ ๆ เสียหน่อย บอกสมนึกให้ไปกับอั๊วด้วย
เขาหันมาพูดกับทวน
อยู่เฉย ๆ นะ ... ไอ้เสือ คนของอั๊วมันดุ ๆ ทั้งนั้น แล้วเขาก็หัวเราะ ผละกระโดดลงจากเรือนไป
Create Date : 14 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 14 ตุลาคม 2552 0:54:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 727 Pageviews. |
|
|
|
| |