จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ทางเสือผ่าน (บทที่ 1 ตอนที่ 3)

ทางเสือผ่าน
บทที่ 1 ตอนที่ 3

เสียงคนที่พูดจาเอะอะกันอยู่ทางเรือนที่ชุมชนนั้นปลุกให้ทวนรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เขาขยับตัวด้วยความปวดร้าว เหลือบตามองไปทางทิศทางนั้น บุคคลในเครื่องแบบตำรวจกลุ่มหนึ่ง กำลังพูดอะไรกันอยู่กับกำนันที่ชานบ้าน คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มตำรวจ เป็นชายหนุ่มอยู่ในเครื่องแบบนายร้อยตำรวจเอก กำลังชี้มือมาที่เขา แต่ทวนจับความไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรกัน

มีเสียงฝีเท้าของคน ๒-๓ คนย่ำเข้ามาใกล้ ทวนได้ยินเสียงกำนันพูดขึ้นมาว่า

“ มันเป็นผู้ต้องหาของผม ผู้กองจะเอาตัวไปยังไง ”

“ กำนันบอกว่า เขาเป็นลูกน้องของเสือฝ้ายไม่ใช่หรือ ” เป็นเสียงของนายตำรวจหนุ่มผู้นั้น

“ ใช่ครับ ”

“ ถ้าเช่นนั้น ผมก็ควรจะเอาตัวเขาไปได้ เพื่อจะซักถามอะไรบางอย่างจากเขา ”

“ มันพาพวกเข้าปล้นที่ตำบลของผม ผมกับพวกลูกบ้านไล่ตามมันมา มันยิงพวกลูกบ้านของผมตายไปหมด กว่าจะจับตัวมันได้ ก็ข้ามวันกับคืนหนึ่ง ผมต้องเอาตัวมันไปให้อำเภอ ”

“ ที่นี่ก็เพิ่งถูกเสือฝ้ายยกกองมาปล้นไปไม่ใช่หรือ ท่านกำนัน ? ”

“ ครับ ... แต่ไม่ใช่สายของไอ้นี่ ผมเองก็มาถึงที่นี่ช้าไปนิดเดียว ผู้กองดูซิครับ ... ไอ้พวกนี้มันทารุณเพียงไหน มันเผาบ้านทั้งหมู่บ้านวอดไปเกือบหมด เหลือแต่พวกชาวบ้านไม่กี่คน ที่ผู้กองเห็นอยู่นั่น ”

เสียงเงียบไปสักครู่ ผู้กองหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นอีก

“ แต่การควบคุมผู้ต้องหาด้วยวิธีทรมานเช่นนี้ ผมไม่ชอบ ถึงแม้เขาจะเป็นเสือที่ร้ายกาจเพียงไร เขาก็ยังเป็นมนุษย์นี่ กำนัน ”

เสียงกำนันหัวเราะ

“ ยังทารุณน้อยกว่าที่พวกมันทำกับชาวบ้าน ”

“ ผมขอให้กำนันเปลี่ยนวิธีควบคุมเขาเสียใหม่ ”

“ เปลี่ยนยังไง ... ผู้กอง ”

“ แก้มัดเขาออก เพียงแต่ใส่กุญแจมือข้างเดียวแล้วล่ามติดไว้กับเสาก็ถมไปแล้วละ กำนัน ”

“ มันเป็นผู้ต้องหาของผม ... ผมจะทำยังไงก็ได้ละมั้งครับ ผู้กอง”

เสียงผู้กองหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วพูดว่า

“ แต่ผมเป็นหัวหน้าตำรวจที่จะต้องให้ความคุ้มครองแก่คนที่ยังตกค้างอยู่ในหมู่บ้านนี้ กำนันจะพักที่นี่ก็ต้องอยู่ในบังคับบัญชาของผม ... แก้มัดเขาออก ”

กำนันเหลือบตาขึ้นมองนายตำรวจหนุ่ม พบสายตาที่กร้าวเอาจริง จ้องคอยประสานอยู่ แม้ว่าใบหน้าของนายตำรวจยังคงยิ้มน้อย ๆ

“ ถ้าผมไม่แก้ ? ” กำนันยังไม่ยอมจำนน

“ กำนันก๊ขัดใจผม ” เป็นคำตอบที่เรียบ ๆ แต่หนักแน่น

กำนันมองไปทางตำรวจอีก ๒ คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้บังคับบัญชาของเขา แต่ละคนอยู่ในท่าที่พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่ง

“ ใครจะรับรอง ถ้าผมเข้าไปใกล้ตัวมัน ... มันจะไม่ทำอะไรผม ” กำนันพูดด้วยเสียงแผ่ว ๆ

นายตำรวจหนุ่มหัวเราะ

“ กำนันกลัวเขาด้วยเรอะ ทั้ง ๆ ที่เขายังอิดโรยอยู่อย่างนี้ ”

“ ผมไม่อยากเข้าใกล้มัน ”

ร้อยตำรวจเอกผู้นั้นไม่ได้พูดว่าอะไร เขาก้าวเท้าเดินเข้ามาที่ทวน งัดเอามีดสนามออกมาจากเอว กระชากใบมีด ตัดไปที่เชือกซึ่งผูกรัดเท้าของทวนอยู่ออก

ทวนเหยียดเท้าคลายความปวดเมื่อย และเมื่อผู้กองผู้นั้นตัดเชือกที่ผูกกุญแจมือที่ติดกับเสานั้นออก ทวนก็ทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยอ่อน ทั้ง ๆ ที่เสาต้นนั้นยังสอดอยู่ในระหว่างอ้อมแขนที่ถูกพันธนาการไขว้หลังอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองนายตำรวจหนุ่มผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มนั้นแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกอันประหลาด

“ ขอลูกกุญแจมือให้ผมเถอะ กำนัน ” นายตำรวจหนุ่มแบมือไปตรงหน้ากำนัน

“ ผมทำหายเสียแล้ว ผู้กอง ” กำนันตอบ

“ แล้วกำนันจะเอาตัวเขาไปได้อย่างไร เสาทั้งต้นยังคร่อมอยู่อย่างนี้ ”

กำนันนิ่ง หลบสายตา ไม่ตอบ

นายตำรวจหนุ่มหัวเราะอีก

“ หรือว่า ... กำนันมีแผนการอะไรนอกจากนี้ เมื่อชาวบ้านนี้จะได้อพยพกันไปหมดแล้ว ” พูดแล้วเขาก็ส่ายหน้าช้า ๆ “ ผมคิดว่า ผมพอจะรู้ มันเป็นวิธีหนึ่งที่ผมไม่ชอบหนักเข้าไปอีก กำนัน ”

เขาพยักหน้าไปทางตำรวจของเขาคนหนึ่งซึ่งมี่ผ้าขาวม้าคาดพุงอยู่

“ ขอผ้าขาวม้าให้อั๊วซิ ... ผ่อน ”

ตำรวจผู้นั้นปลดผ้าขาวม้าออกจากพุงส่งให้ นายตำรวจรับมาบิดมุมของชายผ้าขาวม้าให้เป็นเกลียวแข็ง แล้วสอดเข้าไปในรูกุญแจข้างหนึ่ง บิดเกลียวลึกเข้าไป แล้วค่อยขยับเอาวงสับของกุญแจข้อมือข้างนั้นออก

“ ผมบอกคุณแล้วนะว่า มันเป็นลูกน้องตัวร้ายของเสือฝ้าย ” กำนันพูดขึ้นมาอีก “ ผู้กองจะต้องรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ ”

นายตำรวจหนุ่มยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับกุญแจมือข้างนั้น โดยไม่โต้ตอบอะไร เขาดึงกุญแจมือข้างหนึ่งออกสำเร็จ โยนผ้าขาวม้ากลับคืนไปให้ตำรวจของเขา มือข้างหนึ่งจับกุญแจมือที่ไขออกได้นั้นไว้ ทวนเหยียดแขนข้างที่เป็นอิสระออกด้วยความปวดเมื่อย

“ ลุกขึ้นยืนได้ไหม ” นายตำรวจผู้นั้นถามด้วยเสียงอ่อนโยน

ทวนพยายามลุกขึ้นยืน ร่างของเขาซวนไปเกาะเสานั้นด้วยความอ่อนเพลีย เขายันกายอยู่กับเสานั้นพักหนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตานายตำรวจผู้นั้น

“ เดินได้ไหม ”

ทวนพยักหน้าช้า ๆ

“ ตามอั๊วมา ”

ทวนเดินโซเซตามหลังผู้กองตำรวจผู้นั้นซึ่งมือข้างหนึ่งจับกุญแจมือข้างที่ไขออกไว้มั่น เขามองไปรอบ ๆ เท่าที่จะมองได้

สิ่งที่เขาเห็นเพิ่มเติมจากที่ดูด้วยความลำบากแต่เดิมก็คือ ทั่วบริเวณหมู่บ้านนั้นถูกไฟไหม้ทำลายทั่วไปหมด ควันไฟยังคุกรุ่นอยู่เป็นบางแห่ง ซากศพของชายฉกรรจ์ ผู้หญิงและเด็กเล็ก ๆ กลิ้งอยู่ตามพื้นดินเป็นหย่อม ๆ

ทวนเบือนหน้าหนีจากภาพเหล่านั้น เขาเดินตามหลังนายตำรวจผู้นั้นไปยังเรือนหลังเดียวที่ยังเหลืออยู่

บนเรือนที่ปูด้วยพื้นกระดานเก่า ๆ นายตำรวจหนุ่มสับกุญแจมือข้างที่ไขออก เข้ากับลูกกรงของระเบียงบ้านอันที่เลือกว่าแข็งแรงที่สุด แล้วปล่อยให้ทวนนั่งลงอยู่กับพื้น

ทวนหันไปดูภาพอันน่าสังเวชที่เขาได้เห็นเมื่อครู่นี้อีกครั้งหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงด้วยความรันทด

นายตำรวจหนุ่มถูมือด้วยความพอใจ หันไปมองดูชาวบ้านที่พากันถอยไปอยู่ทางอื่นอีกมุมหนึ่งของบ้าน และพูดว่า

“ พวกเราช่วยกันดูเขาหน่อย ฉันจะจัดยามคอยเฝ้าเขาไว้ให้ด้วย ”

เขาหันไปทางนายสิบตำรวจโทผู้เดินตามมา และพูดว่า

“ เทียม... ลื้อจัดยามเฝ้าผู้ต้องหาไว้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง แบ่งเป็น ๘ ผลัด ผลัดละ ๓ ชั่วโมง พอดีคนของเรา อั๊วจะออกไปดูลาดเลารอบ ๆ เสียหน่อย บอกสมนึกให้ไปกับอั๊วด้วย ”

เขาหันมาพูดกับทวน

“ อยู่เฉย ๆ นะ ... ไอ้เสือ คนของอั๊วมันดุ ๆ ทั้งนั้น ” แล้วเขาก็หัวเราะ ผละกระโดดลงจากเรือนไป




Create Date : 14 ตุลาคม 2552
Last Update : 14 ตุลาคม 2552 0:54:12 น. 0 comments
Counter : 727 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.