จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 36)

ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 36

ทวน ทองรุ่ง ตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น เปิดประตูออกมา สูดอากาศในยามเช้าที่ระเบียงบ้าน เสียงไก่ขันรับอรุณดังรอบ ๆ หมู่บ้าน ลูกบ้านหลายคนออกมาทำกิจการตอนเช้าทั้งผู้หญิงผู้ชาย เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ความเงียบสงบทำให้ทวนยิ้มออกมาอย่างสบายใจ

เสียงฝีเท้าย่องขึ้นมาทางบันไดเบา ๆ ทวนหันไปมองทางนั้น

เด็กสาวคนหนึ่งก้าวขึ้นมา ในมือประคองถาดใบย่อม ๆ ขึ้นมาด้วย บนถาดนั้นมีชามข้าวที่มีควันกรุ่นวางอยู่ พร้อมด้วยถ้วยน้ำและจานรอง

“ บัว ” ทวนร้องทัก “ เอ็งเอาอะไรมาน่ะ ”

“ ข้าวต้มร้อน ๆ พี่ทวน ” เด็กสาวตอบ เดินประคองถาดมาหาทวน
“ ฉันเห็นพี่ทวนออกมายืนรับลมที่ระเบียงแต่เช้า ก็เลยตกข้าวต้มร้อน ๆ ที่เตรียมไว้มาให้ เมื่อคืนนี้ทำไมพี่ทวนไม่นอนที่บ้านล่ะจ๊ะ ”

“ เอ็งไม่น่าจะลำบาก ” ทวนกล่าวเป็นเชิงตำหนิ รับถาดมาจากมือเด็กสาว วางลงบนพื้นเรือน แล้วนั่งลงตรงนั้น บัวทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า

“ ไม่ลำบากอะไรหรอก พี่ทวน ” หล่อนพูดยิ้มแย้ม “ จะได้ไม่ต้องยุ่งกับลุง เพราะฉันเห็นว่าลุงฝ้ายไม่มีแม่บ้าน แกมีอีผันอยู่คนเดียว จะต้องมาวุ่นกับพี่ทวนอีกมันจะไหวหรือ ”

“ อีผัน ” ทวนทวนคำ

“ พี่ทวนคงยังไม่เห็นมัน มัวแต่ยุ่ง วิ่งไปวิ่งมาไม่เห็นได้หยุดอย่างคนอื่นเขา ”

“ ใครอีกล่ะ อีผันน่ะ ” ทวนถามออกมา คิ้วขมวด

“ เด็กบ้านโน้น ” บัวชี้มือไปที่บ้านเบื้องหลัง “ น้าแม้นเขาเอามาฝากลุงเลี้ยง เห็นว่าลุงไม่มีใครดูแลเรื่องสำรับกับข้าว เขาก็เลยเอามันมาให้อยู่เป็นเพื่อนลุง ”

ทวนพยักหน้าช้า ๆ ยิ้มกับตัวเอง

“ ข้าไม่เคยเห็นมัน แล้วมันนอนห้องไหน ”

“ ไม่รู้ซี ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ไม่ได้ขึ้นมายุ่งที่นี่ ”

ทวนทักข้าวต้มเข้าปาก
“ เออ อร่อยดีนี่บัว ฝีมือเอ็งหรือใคร ”

“ สู้ที่บ้านหนองตากลับได้ไหมล่ะพี่ ” เด็กสาวค้อนขวับ

ทวนหลบตาลงต่ำ คำพูดของบัวทำให้เขานึกถึงหมู่บ้านนั้นขึ้นมา

“ นิ่งไปเชียวนะ พี่ทวน ” เด็กสาวพูดเสียงสะบัด ๆ

“ ข้าถามเอ็งดี ๆ เอ็งก็รวนข้า ข้าวต้มชามนี้อร่อยจริง ๆ ” ทวนพูดมองหน้าเด็กสาวนิ่ง บัวหลบสายตานั้น ก้มลงแคะกระดานเล่น ไม่ตอบ

ทวนมองดูเด็กสาวที่เขารักเหมือนน้องแท้ ๆ ถอนใจยาว ก้มหน้าก้มตาตักข้าวต้มเข้าปากอย่างเอ็ดอร่อยจนหมดชาม ยกถ้วยน้ำดื่ม ล้างปาก
“ ขอบใจ บัว ” เขาพูด “ ทีนี้ถ้าตื่นเช้าขึ้นมา ไม่มีข้าวต้มอย่างนี้ ข้าจะทำยังไง ไปหากินได้ที่ไหน ”

“ ก็ที่หนองตากลับนั่นไง ” เด็กสาวสวนคำขึ้นทันที ค้อนควักไปด้วย

“ เมื่อไหร่เอ็งถึงจะเลิกพูดเรื่องนี้เสียทีวะ บัว ” ทวนพูดหัวเราะ ๆ “ ว่าแต่อีกไม่กี่วัน นายตำรวจผู้กองคนนั้นเขาคงจะมาอีก เขาหนีไปได้คราวนี้ คงไม่ไปลับหรอก บัว ”

“ หนี ” บัวทวนคำ ทำปากแบะ “ ฉันรู้ทันหรอก พี่ทวนแกล้งปล่อยเขาไป เชอะ พี่ทวนนึกว่าลุงฝ้ายเขารู้ไม่ทันพี่เรอะ เขากลับมาอีกทีละก็ทีนี้จะอยู่กันยังไง ”

ทวนหัวเราะร่วน “ เขากลับมาคราวนี้ ก็เอ็งแหละ ระวังตัวไว้ให้ดี เขาจะมาฉุดเอ็งไป ”

“ บ้าน่ะซี ” บัวสะบัดเสียง

“ เอ็งก็เห็นว่า เขาชมเอ็งว่าสวย แล้วเขาก็หล่อนะ หรือเอ็งว่าเขาไม่หล่อ ”

“ บ้า ” เด็กสาวสะบัดเสียง ใบหน้าแดงเรื่อ กระเถิบตัวเข้าไปดึงถาดเข้ามาใกล้ตัว ยกถาดนั้นขึ้นประคอง “ ฉันไปละ พูดกับพี่ทวนนาน ๆ ไม่ได้ ”

“ ถูกใจดำเข้าละซี ” ทวนหัวเราะร่า

“ บ้า ” เด็กสาวสะบัดเสียงออกมา ก่อนที่จะยกถาดหันกลับลงบันไดไป

“ เสียงเอะอะอะไรกันแต่เช้าเชียววะ ” เสียงเสือฝ้ายพูดอยู่เบื้องหลังทวน

“ ตื่นเหมือนกันหรือ พ่อ ” ทวนหันไปทางเสือที่ยืนยิ้มอยู่

“ ได้ยินเสียงเอ็งทะเลาะกับใครอยู่ละซี ... ใครวะ ”

“ บัว ” ทวนตอบ

“ มันมาทำไม ”

“ มันเอาข้าวต้มมาให้ฉัน ฉันก็เลยคุยกับมันอยู่ ”

“ คุยอะไรกัน เสียงทะเลาะกันนี่หว่า ดังเข้าไปถึงในห้องข้า ”

ทวนหัวเราะ ไม่ต่อความ

“ ทวน ” เสือเรียก

ทวนค่อย ๆ หันไปมองพ่อ “ เอ็งรู้มั้ยว่าอีบัวมันชอบเอ็ง ” เสือผู้พ่อพูด

ทวนถอนหายใจลึก “ แต่ฉันรักมันเหมือนน้องในไส้ ฉันรักมันอย่างอื่นไม่ได้หรอก พ่อ ”

“ กรรมของอีบัวมัน ” เสือฝ้ายพูดถอนหายใจไปด้วย “ เอ็งกับมันเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ กำนันเขาก็มั่นหมายไว้อย่างนั้น เขาเคยพูดกับพ่อ ”

ทวนจ้องมองพ่อนิ่งนาน ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ แต่ฉันรักมันนอกเหนือกว่านั้นไม่ได้ ”

“ ทำไม เอ็งมีที่อื่นอยู่อีกหรือ ” เสือพูดมองหน้าลูกชาย “ หรือเป็นอีพลอยที่บ้านหนองตากลับนั่น ”

ทวนนิ่ง ก้มหน้าลงมองพื้น

เสือฝ้ายหัวเราะร่วน “ พ่อนึกแล้วว่าเอ็งชอบมัน เพราะมันน่าสงสาร มันกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่ แล้วยังจะต้องรับภาระเลี้ยงน้องอีกคน มันก็น่าสงสารอยู่ ”

ทวนเงยหน้าขึ้นมองเสือผู้พ่อ “ พ่อกินข้าวเช้าเสียเถอะ ”

“ ทำไมล่ะ ” เสือสงสัย

“ ฉันมีธุระที่จะพูดกับพ่อ และเรื่องคงจะยาว ฉันอยากให้พ่ออิ่มข้าวเสียก่อน ”

“ เรื่องอีพลอยนั่นเหรอ ไม่เห็นจะต้องพูดอะไรกันมาก เอ็งชอบพ่อก็จะไปขอให้ ว่าแต่เอ็งจะพูดกับอีบัวมันยังไง มันถึงจะไม่เสียใจ ”

“ ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก พ่อ นั่นมันเรื่องเล็ก ฉันจัดการของฉันเองได้ ”

เสือหยุดมองหน้าทวนอยู่ครู่หนึ่ง “ แล้วมันเรื่องอะไร ”

“ พ่อกินข้าวเสียก่อนเหอะ ” ทวนยืนคำเดิม

“ ไอ้นี่พูดด้วยยาก ” เสือพึมพำออกมาเบา ๆ “ ผินไว้ย ” เสือตะโกนเรียก

ประตูห้องข้าง ๆ เปิดออก ร่างเด็กสาวคนหนึ่งก้าวออกมาจากห้องนั้น ทวนหันไปมองเด็กสาวที่เปิดประตูออกมานั้นซึ่งอยู่ในวัยเดียวกับบัวลูกสาวกำนัน

“ เรียกทำไมจ๊ะ ลุง ” เด็กสาวพูด

“ หาข้าวเช้ามาให้ข้าหน่อย นอนอะไรกันวะ ตะวันโด่งยังไม่ตื่น ” เสือพูดเสียงดุ ๆ

“ จ้ะ ลุง ” เด็กสาวรับคำเสียงสั่น เดินหายไปทางครัว

“ อีผินนี่มาจากไหน พ่อ ” ทวนถาม

“ ลูกยายแม้นมัน มันเอามาฝากไว้ให้เลี้ยง ให้หาข้าวปลาให้พ่อด้วย ”

“ อ้อ ” ทวนพูดคล้ายครางออกมาเบา ๆ “ มิน่า พ่อถึงย้ายมาอยู่นี่ ”

“ เอ็งอย่าเข้าใจผิด ” เสือพูดมองหน้าทวน “ พ่อแก่แล้ว อยู่คนเดียวเขาคงเห็นกันว่าลำบาก เขาส่งคนมาให้อยู่เป็นเพื่อนพ่อ อีผินมันฉลาดดีอยู่ ”

“ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรพ่อนี่ ” ทวนพูดยิ้ม ๆ

“ น้ำเสียงของเอ็งมันไม่ว่ายังงั้น เมื่อไหร่เอ็งหาสะใภ้มาอยู่ด้วย อีผินมันก็ได้กลับไปอยู่กับแม่มัน อีบัวมันก็พร้อมที่จะมาอยู่ด้วย แต่เอ็งก็เล่นตัวเสียยังงี้ แล้วเมื่อไหร่พ่อจะสบายใจเสียที ”

“ อีกไม่นานหรอกพ่อ ให้เสร็จเรื่องราวเสียก่อน ”

“ เอ็งพูดเป็นปัญหาเรื่อยหมู่นี้ ”

เด็กสาวที่ชื่อผิน ยกเอาสำรับกับข้าวมาวางตรงหน้า เสือฝ้ายนั่งตรงสำรับ

“ กินด้วยกันไหมล่ะ ” เสือพูดกับทวนซึ่งทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า

“ ไม่หรอกพ่อ ” ทวนพูด “ ฉันนั่งเป็นเพื่อนพ่อ เสร็จแล้วเราค่อยคุยกัน ”

เสือฝ้ายเหลือบตามองทวนแวบหนึ่ง ก่อนที่จะลงมือคดข้าวใส่จาน

“ พ่อไม่ต้องรีบกินนะ ” ทวนพูด “ กินตามสบาย เวลายังมีอีกแยะ ”

“ เออ ” เสือพูดออกมาคำเดียว ตักข้าวเข้าปาก

ทวนนั่งมองดูเสือผู้พ่อตักข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าโดยไม่พูดอะไร ในสมองของเขาความคิดวิ่งพล่านอยู่ เขากำลังคิดว่าจะตั้งต้นคำพูดของเขาว่าอย่างไรดี

เสือฝ้ายวางมือจากจานข้าว ยกน้ำขึ้นดื่ม แล้วเรียกเด็กสาวคนเดิมมายกสำรับกลับไป ยกผ้าขาวม้าที่เคียนพุงขึ้นเช็ดปาก

“ เอ้า ทีนี่พ่ออิ่มดีแล้ว ว่ามา ”

ทวนลุกขึ้นยืน “ เข้าไปพูดกันในห้องดีกว่า จะเอาห้องพ่อ หรือห้องฉัน ”

เสือเหลือบตามองดูลูกชาย “ ห้องใครก็ได้วะ ยุ่งจริงโว้ย ”

ทวนหัวเราะ ” งั้นเอาห้องพ่อ ”

เสือลุกขั้นเดินไปเปิดประตูห้องนำหน้าเข้าไป ทวนเดินตามเข้าไปแล้วปิดประตูห้อง

ภายในห้องมีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เสือขึ้นไปนั่งบนเตียงนั้น ทวนนั่งลงบนพื้นตรงข้าง ๆ เสือผู้พ่อ ซึ่งนั่งมองดูเขาอยู่ รอคำพูด ทวนจับเข่าเสือข้างที่พาดอยู่บนที่นอน

“ พ่อต้องทำใจสบาย ๆ ก่อนที่จะฟังฉันพูด ”

“ เออ ชักรำคาญแล้วโว้ย จะเริ่มเรื่องได้เมื่อไรวะ เดี๋ยวใจกูก็จะไม่สบายเสียก่อน ”

“ พ่อ ” ทวนพูด มืดลูบคลำที่หัวเข่าข้างนั้น “ พ่อเคยบอกฉันว่า พ่ออยากจะเลิกเป็นโจรใช่ไหม ”

เสือกวาดสายตาไปทั่วใบหน้าทวนนิ่งอยู่ ถอนหายใจยาว
“ พ่อยังมองไม่เห็นทางว่าจะเลิกได้ยังไง มันจมเข้าไปลึกแล้ว ”

ทวนตบเบาๆ ที่เข่าข้างนั้น “ ยังพอมีทางพ่อ ฉันคิดว่ายังพอมีทาง ถ้าพ่อคิดจะวางมือจริง ๆ ”

“ ไหนเอ็งลองว่ามาที พ่อจะฟัง ” เสือจ้องหน้า

ทวนไม่หลบสายตานั้น พูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ ที่พ่อหนักใจอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะทิ้งพวกลูกๆ ทั้งหมู่บ้านนี้ไปไม่ได้ใช่ไหมพ่อ ”

เสือหลบตาลงต่ำ พยักหน้าช้า ๆ “ ถึงพ่อจะเลิกจากการนี้ไปได้ ทางการเขาหรือจะเชื่อ เขาก็ต้องยกมาปราบปรามอีก ที่เขาแตกพ่ายกลับไปนี้เขาก็ต้องยกกันมาใหม่ แล้วเอ็งก็ปล่อยไอ้ตำรวจคนนั้นให้หนีไปเสียอีก มันต้องพยาบาทยกคนมาใหม่ กำลังตำรวจเขามากมายกว่าของเรามากนัก พ่อหนักใจอยู่ก็เรื่องนี้แหละ ”

“ เรื่องนี้พ่อไม่ต้องหนักใจ ” ทวนเงยหน้าขึ้นยิ้ม มองดูเสือผู้พ่อ “ ที่ตำรวจคนนั้นเขาหนีไปได้นี่แหละที่จะทำให้พ่อเลิกเป็นโจรได้ ”

“ พ่อไม่เข้าใจ ” เสือพูดช้า ๆ ส่ายหน้า

“ ตำรวจจะไม่มารบกวนเราอีก ถ้าพ่อเชื่อฉัน ” ทวนมองตาเสือนิ่ง

“ พ่อยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ เอ็งพูดออกมาให้หมดเปลือกดีกว่า ”

“ ฉันจะพาพ่อไปหาตำรวจ ”

“ หา ! เอ็งว่ายังไงนะ ”

“ ฉันจะพาพ่อไปหาตำรวจ ” ทวนย้ำคำ

“ พาไปหาให้มันเอาพ่อเข้าตะรางแล้วเอาไปประหารงั้นเหรอ ”

“ ไม่หรอกพ่อ เขาจะไม่ทำยังงั้นกับพ่อ ฉันว่าเขาจะต้องต้อนรับพ่ออย่างดี ”

เสือกวาดสายตามองหน้าลูกชาย “ เอ็งพูดยังกับว่าเอ็งเป็นตำรวจเสียเอง เอ็งจะรับรองได้ยังไง”

“ ฉันรับรองได้ พ่อต้องเชื่อฉัน ”

เสือถอนใจลึก “ เอ็งบังคับพ่อยังงี้ พ่อก็พูดอะไรไม่ถูก ”

“ พ่อเชื่อฉันมั้ยล่ะว่า ฉันไม่หลอกพ่อไปติดกับตำรวจ ” ทวนพูดบีบที่เข่าพ่อแน่น

“ พ่อเชื่อเอ็ง ” เสือพยักหน้า “ พ่อไม่เคยที่จะระแวงอะไรเอ็ง ”

“ พ่อพร้อมเมื่อไหร่ พ่อบอกฉัน ฉันจะพาพ่อไปพบตำรวจเอง ”

เสือมองหน้าทวน นิ่งอยู่ครู่ใหญ่ พูดว่า “ พ่อพร้อมเสมอ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่า ...” เสือหยุดพูด เว้นจังหวะนิดหนึ่ง “ แล้วไอ้พวกลูกบ้านเรานี่ละ เอ็งจะให้พ่อเอามันไปทิ้งที่ไหน ”

“ พวกนี้ มันก็อยู่ที่นี่อย่างเดิม เหมือนบ้านอื่น ๆ เขา ”

“ เอ็งแน่ใจยังไงว่าพวกตำรวจจะไม่เล่นงานมัน ”

“ พวกนี้เขามีกินมีใช้กันทุกบ้านแล้วไม่ใช่หรือพ่อ ไร่นามันก็มีกินกันทุกบ้านแล้ว งานการมันก็มีทำกัน ทุกคนก็จะทำมาหากินกันอย่างคนธรรมดา ไม่ต้องเที่ยวปล้นเขากินอีก ”

“ ตำรวจเขาจะเชื่อมันหรือ ”

“ ทำไมจะไม่เชื่อ ในเมื่อเสือฝ้ายกลับตัวเป็นพลเมืองดีแล้ว ลูกน้องจะไม่เป็นตามได้ยังไง ”

“ เอ็งแน่ใจยังไงว่าเขาจะไม่เอาพ่อเข้าตะราง ”

“ ฉันถึงได้บอกพ่อยังไงว่า พ่อต้องเชื่อฉันเรื่องนี้ ฉันอธิบายให้พ่อเข้าใจไม่ได้ ”

เสือจ้องหน้าลูกชายนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะพูดออกมาช้า ๆ ว่า
“ วันนี้เอ็งพูดแปลกกว่าทุกวัน เหมือนกับว่าเอ็งเป็นตำรวจเสียเอง ...
ฮึ ... ไอ้ทวน พ่อชักสงสัย เอ็งหายไปหลายวันก่อนที่จะโดนจับที่หนองตากลับนั่น เอ็งไปพบตำรวจมางั้นเหรอ ”

ทวนสั่นหน้า “ ฉันถูกกำนันมันจับได้ แล้วมันจะยิงฉันทิ้ง ถ้าไม่ได้นายตำรวจคนนั้นช่วยไว้ ฉันกับพ่อก็คงไม่ได้พบกันแล้ว พ่อจำได้ไหม ”

“ แล้วเอ็งก็เลยต้องช่วยไอ้ตำรวจคนนั้นไม่รู้จบ เพราะเอ็งก็เป็นตำรวจเหมือนกันงั้นหรือ ”

“ พ่อพร้อมที่จะไปกับฉันเมื่อไหร่ล่ะ ” ทวนตัดบท

เสือหัวเราะหึ “ พ่อบอกแล้วไงว่า พ่อพร้อมเสมอ ”

“ ถ้างั้น เราก็ไปกันเสียวันนี้เลย ก่อนกินข้าวกลางวัน ”

เสือมองหน้าลูกชายนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ “ เอ็งให้พ่อสงบสติอารมณ์ซักหน่อยก่อนได้ไหม ”

ทวนลุกขึ้นยืน “ ได้ พ่อ ฉันจะลงไปคุยกับไอ้พวกนั้นมันตามบ้านสักครู่ เดี๋ยวจะกลับขึ้นมาหาพ่อใหม่ ”

“ เอ็งจะไปบอกมันเรื่องนี้งั้นหรือ ”

“ ไม่หรอกพ่อ ” ทวนหันมาพูด “ ฉันจะไปลองฟังเสียงมันดูว่ามันรู้สึกยังไงถ้าตำรวจเขาจะยกกันมาเล่นงานเราอีก และมันรู้สึกเบื่อชีวิตโจรกันมั่งหรือยัง ”

เสือไม่พูดต่อ มองดูทวนเปิดประตูห้องออกไปเฉยอยู่ เมื่อร่างของทวนลับหายไปพร้อมกับบานประตูปิดสนิท เสือค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปที่หิ้งพระมุมห้อง จุดธูปเทียน กราบพระพุทธรูปบูชา สงบนิ่ง

ทวน ทองรุ่ง ลงจากบ้านพ่อเดินเรื่อยไปตามบ้านต่าง ๆ ที่เรียงรายกันอยู่นั้น ชาวบ้านหลายคนออกไปทำงานในไร่และท้องนากันบ้างแล้ว ทั่วทั้งหมู่บ้านอยู่ในความสงบ พวกเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ ส่วนพวกผู้หญิงก็ทำงานบ้านกันไปแต่ละบ้าน ทวนเดินขึ้นไปเยี่ยมตามบ้านที่ผู้ชายซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวได้เสียชีวิตไปในระหว่างการต่อสู้ครั้งใหญ่นั้น เขาขึ้นไปปลอบใจบรรดาลูกเมียแต่ละบ้านและพูดคุยด้วย เป็นการช่วยปลดเปลื้องความเศร้าสลด เมื่อเวลาได้ผ่านไปพอสมควรแล้ว ทวนก็กลับขึ้นบ้านพ่อ

เสือฝ้ายนั่งมวนยาสูบอยู่ด้วยความสงบที่เดิม

“ เป็นยังไง ” เสือพูดเมื่อทวนเปิดประตูย่างเข้ามา “ ไอ้พวกนั้นมันว่ายังไง ”

“ ทุกคนไม่รู้สึกอะไรหรอก พ่อ ” ทวนพูดเมื่อนั่งลงตรงหน้าพ่อ “ มันว่าแล้วแต่พ่อ ถ้าพ่อยังอยู่ จะให้มันทำยังไงก็ได้ และมันเชื่อในตัวพ่อ ว่าถึงยังไง ๆ มันก็ไม่เดือดร้อนถ้าพ่อยังอยู่ ”

เสือถอนหายใจยาว

“ ความจริง ถ้าเราเลิกประพฤติเป็นโจรเสียได้ ก็คงจะอยู่ได้ด้วยความสงบ ถ้าตำรวจเขาไม่คิดอาฆาตพยาบาทเราอย่างที่เอ็งพูดกับพ่อ แต่พ่อก็ยังหนักใจอยู่ดีว่า เขาจะคิดอย่างเอ็งคิดได้หรือ ”

“ ฉันว่า ทางตำรวจเขาก็คงต้องการความสงบเหมือนกัน ” ทวนมองหน้าพ่อด้วยสายตาที่มั่นใจ “ ถ้าเราเข้าหาเขา และได้พูดจาทำความเข้าใจกับเขาให้รู้เรื่องกันไป ฉันว่าเขาก็ต้องพอใจ และถ้าเราเดินเข้าหาความสงบเสียอย่างเดียว ก็จะทำให้พวกโจรก๊กอื่นต้องทำตาม บ้านเมืองก็จะสงบเสียที เราก็จะได้ช่วยทางการเขาทำความดีความชอบด้วยการดึงโจรพวกอื่นให้เข้ามอบตัวได้อีกหลายพวก ”

เสือพยักหน้าช้า ๆ “ เอาละ พ่อตกลงใจแล้ว พ่อจะเชื่อเอ็ง แล้วแต่บุญแต่กรรม ชีวิตพ่อและไอ้พวกลูก ๆ จะได้สงบเสียที ไปกันหรือยังล่ะ ”

“ ไปซีพ่อ ” ทวนลุกขึ้นยืน “ เราไปกันเพียงสองคน ทำทีเป็นขี่ม้าไปตรวจทั่ว ๆ แล้วออกไปเลย ฉันว่า ไม่ถึงเที่ยงวันเราก็ถึงเดิมบาง ฯ ”

“ ไป ” เสือพูดสั้น ๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืน

ทั้งสองพ่อลูกก้าวขึ้นหลังม้าที่สั่งให้สมุนนำมาเมื่อลงมาจากบ้าน ม้าทั้งสองตัวก้าวย่างช้า ๆ ไปตามบ้านต่าง ๆ ทักทายชาวบ้านที่ทำงานอยู่เรียงรายนั้นเหมือนปกติ พ้นท้ายบ้านออกไปสู่ท้องทุ่งที่มีชายฉกรรจ์หลายคนกำลังทำงานในทุ่งกันอยู่นั้น ทั้งสองชักม้าเยื้องย่างทักทายชายฉกรรจ์เหล่านั้นไปตามทาง ต่างสรวลเฮฮา ร้องทักทายหัวหน้าและลูกชายกันเป็นที่ครื้นเครง ไม่มีใครสักคนที่รู้สึกว่าคนทั้งสองกำลังจะเดินทางไปไหน

พ้นเขตการทำนาออกไป ม้าทั้งคู่นั้นก็ห้อเหยียดตะบึงไปตามทิศทาง มุ่งหน้าไปสู่อำเภอเดิมบางนางบวช ฝ่าเปลวแดดยามสายไป




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2552
0 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2552 2:39:37 น.
Counter : 1125 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.