ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 36)
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 36
ทวน ทองรุ่ง ตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น เปิดประตูออกมา สูดอากาศในยามเช้าที่ระเบียงบ้าน เสียงไก่ขันรับอรุณดังรอบ ๆ หมู่บ้าน ลูกบ้านหลายคนออกมาทำกิจการตอนเช้าทั้งผู้หญิงผู้ชาย เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ความเงียบสงบทำให้ทวนยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
เสียงฝีเท้าย่องขึ้นมาทางบันไดเบา ๆ ทวนหันไปมองทางนั้น
เด็กสาวคนหนึ่งก้าวขึ้นมา ในมือประคองถาดใบย่อม ๆ ขึ้นมาด้วย บนถาดนั้นมีชามข้าวที่มีควันกรุ่นวางอยู่ พร้อมด้วยถ้วยน้ำและจานรอง
บัว ทวนร้องทัก เอ็งเอาอะไรมาน่ะ
ข้าวต้มร้อน ๆ พี่ทวน เด็กสาวตอบ เดินประคองถาดมาหาทวน ฉันเห็นพี่ทวนออกมายืนรับลมที่ระเบียงแต่เช้า ก็เลยตกข้าวต้มร้อน ๆ ที่เตรียมไว้มาให้ เมื่อคืนนี้ทำไมพี่ทวนไม่นอนที่บ้านล่ะจ๊ะ
เอ็งไม่น่าจะลำบาก ทวนกล่าวเป็นเชิงตำหนิ รับถาดมาจากมือเด็กสาว วางลงบนพื้นเรือน แล้วนั่งลงตรงนั้น บัวทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า
ไม่ลำบากอะไรหรอก พี่ทวน หล่อนพูดยิ้มแย้ม จะได้ไม่ต้องยุ่งกับลุง เพราะฉันเห็นว่าลุงฝ้ายไม่มีแม่บ้าน แกมีอีผันอยู่คนเดียว จะต้องมาวุ่นกับพี่ทวนอีกมันจะไหวหรือ
อีผัน ทวนทวนคำ
พี่ทวนคงยังไม่เห็นมัน มัวแต่ยุ่ง วิ่งไปวิ่งมาไม่เห็นได้หยุดอย่างคนอื่นเขา
ใครอีกล่ะ อีผันน่ะ ทวนถามออกมา คิ้วขมวด
เด็กบ้านโน้น บัวชี้มือไปที่บ้านเบื้องหลัง น้าแม้นเขาเอามาฝากลุงเลี้ยง เห็นว่าลุงไม่มีใครดูแลเรื่องสำรับกับข้าว เขาก็เลยเอามันมาให้อยู่เป็นเพื่อนลุง
ทวนพยักหน้าช้า ๆ ยิ้มกับตัวเอง
ข้าไม่เคยเห็นมัน แล้วมันนอนห้องไหน
ไม่รู้ซี ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ไม่ได้ขึ้นมายุ่งที่นี่
ทวนทักข้าวต้มเข้าปาก เออ อร่อยดีนี่บัว ฝีมือเอ็งหรือใคร
สู้ที่บ้านหนองตากลับได้ไหมล่ะพี่ เด็กสาวค้อนขวับ
ทวนหลบตาลงต่ำ คำพูดของบัวทำให้เขานึกถึงหมู่บ้านนั้นขึ้นมา
นิ่งไปเชียวนะ พี่ทวน เด็กสาวพูดเสียงสะบัด ๆ
ข้าถามเอ็งดี ๆ เอ็งก็รวนข้า ข้าวต้มชามนี้อร่อยจริง ๆ ทวนพูดมองหน้าเด็กสาวนิ่ง บัวหลบสายตานั้น ก้มลงแคะกระดานเล่น ไม่ตอบ
ทวนมองดูเด็กสาวที่เขารักเหมือนน้องแท้ ๆ ถอนใจยาว ก้มหน้าก้มตาตักข้าวต้มเข้าปากอย่างเอ็ดอร่อยจนหมดชาม ยกถ้วยน้ำดื่ม ล้างปาก ขอบใจ บัว เขาพูด ทีนี้ถ้าตื่นเช้าขึ้นมา ไม่มีข้าวต้มอย่างนี้ ข้าจะทำยังไง ไปหากินได้ที่ไหน
ก็ที่หนองตากลับนั่นไง เด็กสาวสวนคำขึ้นทันที ค้อนควักไปด้วย
เมื่อไหร่เอ็งถึงจะเลิกพูดเรื่องนี้เสียทีวะ บัว ทวนพูดหัวเราะ ๆ ว่าแต่อีกไม่กี่วัน นายตำรวจผู้กองคนนั้นเขาคงจะมาอีก เขาหนีไปได้คราวนี้ คงไม่ไปลับหรอก บัว
หนี บัวทวนคำ ทำปากแบะ ฉันรู้ทันหรอก พี่ทวนแกล้งปล่อยเขาไป เชอะ พี่ทวนนึกว่าลุงฝ้ายเขารู้ไม่ทันพี่เรอะ เขากลับมาอีกทีละก็ทีนี้จะอยู่กันยังไง
ทวนหัวเราะร่วน เขากลับมาคราวนี้ ก็เอ็งแหละ ระวังตัวไว้ให้ดี เขาจะมาฉุดเอ็งไป
บ้าน่ะซี บัวสะบัดเสียง
เอ็งก็เห็นว่า เขาชมเอ็งว่าสวย แล้วเขาก็หล่อนะ หรือเอ็งว่าเขาไม่หล่อ
บ้า เด็กสาวสะบัดเสียง ใบหน้าแดงเรื่อ กระเถิบตัวเข้าไปดึงถาดเข้ามาใกล้ตัว ยกถาดนั้นขึ้นประคอง ฉันไปละ พูดกับพี่ทวนนาน ๆ ไม่ได้
ถูกใจดำเข้าละซี ทวนหัวเราะร่า
บ้า เด็กสาวสะบัดเสียงออกมา ก่อนที่จะยกถาดหันกลับลงบันไดไป
เสียงเอะอะอะไรกันแต่เช้าเชียววะ เสียงเสือฝ้ายพูดอยู่เบื้องหลังทวน
ตื่นเหมือนกันหรือ พ่อ ทวนหันไปทางเสือที่ยืนยิ้มอยู่
ได้ยินเสียงเอ็งทะเลาะกับใครอยู่ละซี ... ใครวะ
บัว ทวนตอบ
มันมาทำไม
มันเอาข้าวต้มมาให้ฉัน ฉันก็เลยคุยกับมันอยู่
คุยอะไรกัน เสียงทะเลาะกันนี่หว่า ดังเข้าไปถึงในห้องข้า
ทวนหัวเราะ ไม่ต่อความ
ทวน เสือเรียก
ทวนค่อย ๆ หันไปมองพ่อ เอ็งรู้มั้ยว่าอีบัวมันชอบเอ็ง เสือผู้พ่อพูด
ทวนถอนหายใจลึก แต่ฉันรักมันเหมือนน้องในไส้ ฉันรักมันอย่างอื่นไม่ได้หรอก พ่อ
กรรมของอีบัวมัน เสือฝ้ายพูดถอนหายใจไปด้วย เอ็งกับมันเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ กำนันเขาก็มั่นหมายไว้อย่างนั้น เขาเคยพูดกับพ่อ
ทวนจ้องมองพ่อนิ่งนาน ก่อนที่จะพูดออกมาว่า แต่ฉันรักมันนอกเหนือกว่านั้นไม่ได้
ทำไม เอ็งมีที่อื่นอยู่อีกหรือ เสือพูดมองหน้าลูกชาย หรือเป็นอีพลอยที่บ้านหนองตากลับนั่น
ทวนนิ่ง ก้มหน้าลงมองพื้น
เสือฝ้ายหัวเราะร่วน พ่อนึกแล้วว่าเอ็งชอบมัน เพราะมันน่าสงสาร มันกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่ แล้วยังจะต้องรับภาระเลี้ยงน้องอีกคน มันก็น่าสงสารอยู่
ทวนเงยหน้าขึ้นมองเสือผู้พ่อ พ่อกินข้าวเช้าเสียเถอะ
ทำไมล่ะ เสือสงสัย
ฉันมีธุระที่จะพูดกับพ่อ และเรื่องคงจะยาว ฉันอยากให้พ่ออิ่มข้าวเสียก่อน
เรื่องอีพลอยนั่นเหรอ ไม่เห็นจะต้องพูดอะไรกันมาก เอ็งชอบพ่อก็จะไปขอให้ ว่าแต่เอ็งจะพูดกับอีบัวมันยังไง มันถึงจะไม่เสียใจ
ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก พ่อ นั่นมันเรื่องเล็ก ฉันจัดการของฉันเองได้
เสือหยุดมองหน้าทวนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมันเรื่องอะไร
พ่อกินข้าวเสียก่อนเหอะ ทวนยืนคำเดิม
ไอ้นี่พูดด้วยยาก เสือพึมพำออกมาเบา ๆ ผินไว้ย เสือตะโกนเรียก
ประตูห้องข้าง ๆ เปิดออก ร่างเด็กสาวคนหนึ่งก้าวออกมาจากห้องนั้น ทวนหันไปมองเด็กสาวที่เปิดประตูออกมานั้นซึ่งอยู่ในวัยเดียวกับบัวลูกสาวกำนัน
เรียกทำไมจ๊ะ ลุง เด็กสาวพูด
หาข้าวเช้ามาให้ข้าหน่อย นอนอะไรกันวะ ตะวันโด่งยังไม่ตื่น เสือพูดเสียงดุ ๆ
จ้ะ ลุง เด็กสาวรับคำเสียงสั่น เดินหายไปทางครัว
อีผินนี่มาจากไหน พ่อ ทวนถาม
ลูกยายแม้นมัน มันเอามาฝากไว้ให้เลี้ยง ให้หาข้าวปลาให้พ่อด้วย
อ้อ ทวนพูดคล้ายครางออกมาเบา ๆ มิน่า พ่อถึงย้ายมาอยู่นี่
เอ็งอย่าเข้าใจผิด เสือพูดมองหน้าทวน พ่อแก่แล้ว อยู่คนเดียวเขาคงเห็นกันว่าลำบาก เขาส่งคนมาให้อยู่เป็นเพื่อนพ่อ อีผินมันฉลาดดีอยู่
ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรพ่อนี่ ทวนพูดยิ้ม ๆ
น้ำเสียงของเอ็งมันไม่ว่ายังงั้น เมื่อไหร่เอ็งหาสะใภ้มาอยู่ด้วย อีผินมันก็ได้กลับไปอยู่กับแม่มัน อีบัวมันก็พร้อมที่จะมาอยู่ด้วย แต่เอ็งก็เล่นตัวเสียยังงี้ แล้วเมื่อไหร่พ่อจะสบายใจเสียที
อีกไม่นานหรอกพ่อ ให้เสร็จเรื่องราวเสียก่อน
เอ็งพูดเป็นปัญหาเรื่อยหมู่นี้
เด็กสาวที่ชื่อผิน ยกเอาสำรับกับข้าวมาวางตรงหน้า เสือฝ้ายนั่งตรงสำรับ
กินด้วยกันไหมล่ะ เสือพูดกับทวนซึ่งทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า
ไม่หรอกพ่อ ทวนพูด ฉันนั่งเป็นเพื่อนพ่อ เสร็จแล้วเราค่อยคุยกัน
เสือฝ้ายเหลือบตามองทวนแวบหนึ่ง ก่อนที่จะลงมือคดข้าวใส่จาน
พ่อไม่ต้องรีบกินนะ ทวนพูด กินตามสบาย เวลายังมีอีกแยะ
เออ เสือพูดออกมาคำเดียว ตักข้าวเข้าปาก
ทวนนั่งมองดูเสือผู้พ่อตักข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าโดยไม่พูดอะไร ในสมองของเขาความคิดวิ่งพล่านอยู่ เขากำลังคิดว่าจะตั้งต้นคำพูดของเขาว่าอย่างไรดี
เสือฝ้ายวางมือจากจานข้าว ยกน้ำขึ้นดื่ม แล้วเรียกเด็กสาวคนเดิมมายกสำรับกลับไป ยกผ้าขาวม้าที่เคียนพุงขึ้นเช็ดปาก
เอ้า ทีนี่พ่ออิ่มดีแล้ว ว่ามา
ทวนลุกขึ้นยืน เข้าไปพูดกันในห้องดีกว่า จะเอาห้องพ่อ หรือห้องฉัน
เสือเหลือบตามองดูลูกชาย ห้องใครก็ได้วะ ยุ่งจริงโว้ย
ทวนหัวเราะ งั้นเอาห้องพ่อ
เสือลุกขั้นเดินไปเปิดประตูห้องนำหน้าเข้าไป ทวนเดินตามเข้าไปแล้วปิดประตูห้อง
ภายในห้องมีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เสือขึ้นไปนั่งบนเตียงนั้น ทวนนั่งลงบนพื้นตรงข้าง ๆ เสือผู้พ่อ ซึ่งนั่งมองดูเขาอยู่ รอคำพูด ทวนจับเข่าเสือข้างที่พาดอยู่บนที่นอน พ่อต้องทำใจสบาย ๆ ก่อนที่จะฟังฉันพูด
เออ ชักรำคาญแล้วโว้ย จะเริ่มเรื่องได้เมื่อไรวะ เดี๋ยวใจกูก็จะไม่สบายเสียก่อน
พ่อ ทวนพูด มืดลูบคลำที่หัวเข่าข้างนั้น พ่อเคยบอกฉันว่า พ่ออยากจะเลิกเป็นโจรใช่ไหม
เสือกวาดสายตาไปทั่วใบหน้าทวนนิ่งอยู่ ถอนหายใจยาว พ่อยังมองไม่เห็นทางว่าจะเลิกได้ยังไง มันจมเข้าไปลึกแล้ว
ทวนตบเบาๆ ที่เข่าข้างนั้น ยังพอมีทางพ่อ ฉันคิดว่ายังพอมีทาง ถ้าพ่อคิดจะวางมือจริง ๆ
ไหนเอ็งลองว่ามาที พ่อจะฟัง เสือจ้องหน้า
ทวนไม่หลบสายตานั้น พูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า ที่พ่อหนักใจอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะทิ้งพวกลูกๆ ทั้งหมู่บ้านนี้ไปไม่ได้ใช่ไหมพ่อ
เสือหลบตาลงต่ำ พยักหน้าช้า ๆ ถึงพ่อจะเลิกจากการนี้ไปได้ ทางการเขาหรือจะเชื่อ เขาก็ต้องยกมาปราบปรามอีก ที่เขาแตกพ่ายกลับไปนี้เขาก็ต้องยกกันมาใหม่ แล้วเอ็งก็ปล่อยไอ้ตำรวจคนนั้นให้หนีไปเสียอีก มันต้องพยาบาทยกคนมาใหม่ กำลังตำรวจเขามากมายกว่าของเรามากนัก พ่อหนักใจอยู่ก็เรื่องนี้แหละ
เรื่องนี้พ่อไม่ต้องหนักใจ ทวนเงยหน้าขึ้นยิ้ม มองดูเสือผู้พ่อ ที่ตำรวจคนนั้นเขาหนีไปได้นี่แหละที่จะทำให้พ่อเลิกเป็นโจรได้
พ่อไม่เข้าใจ เสือพูดช้า ๆ ส่ายหน้า
ตำรวจจะไม่มารบกวนเราอีก ถ้าพ่อเชื่อฉัน ทวนมองตาเสือนิ่ง
พ่อยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ เอ็งพูดออกมาให้หมดเปลือกดีกว่า
ฉันจะพาพ่อไปหาตำรวจ
หา ! เอ็งว่ายังไงนะ
ฉันจะพาพ่อไปหาตำรวจ ทวนย้ำคำ
พาไปหาให้มันเอาพ่อเข้าตะรางแล้วเอาไปประหารงั้นเหรอ
ไม่หรอกพ่อ เขาจะไม่ทำยังงั้นกับพ่อ ฉันว่าเขาจะต้องต้อนรับพ่ออย่างดี
เสือกวาดสายตามองหน้าลูกชาย เอ็งพูดยังกับว่าเอ็งเป็นตำรวจเสียเอง เอ็งจะรับรองได้ยังไง
ฉันรับรองได้ พ่อต้องเชื่อฉัน
เสือถอนใจลึก เอ็งบังคับพ่อยังงี้ พ่อก็พูดอะไรไม่ถูก
พ่อเชื่อฉันมั้ยล่ะว่า ฉันไม่หลอกพ่อไปติดกับตำรวจ ทวนพูดบีบที่เข่าพ่อแน่น
พ่อเชื่อเอ็ง เสือพยักหน้า พ่อไม่เคยที่จะระแวงอะไรเอ็ง
พ่อพร้อมเมื่อไหร่ พ่อบอกฉัน ฉันจะพาพ่อไปพบตำรวจเอง
เสือมองหน้าทวน นิ่งอยู่ครู่ใหญ่ พูดว่า พ่อพร้อมเสมอ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่า ... เสือหยุดพูด เว้นจังหวะนิดหนึ่ง แล้วไอ้พวกลูกบ้านเรานี่ละ เอ็งจะให้พ่อเอามันไปทิ้งที่ไหน
พวกนี้ มันก็อยู่ที่นี่อย่างเดิม เหมือนบ้านอื่น ๆ เขา
เอ็งแน่ใจยังไงว่าพวกตำรวจจะไม่เล่นงานมัน
พวกนี้เขามีกินมีใช้กันทุกบ้านแล้วไม่ใช่หรือพ่อ ไร่นามันก็มีกินกันทุกบ้านแล้ว งานการมันก็มีทำกัน ทุกคนก็จะทำมาหากินกันอย่างคนธรรมดา ไม่ต้องเที่ยวปล้นเขากินอีก
ตำรวจเขาจะเชื่อมันหรือ
ทำไมจะไม่เชื่อ ในเมื่อเสือฝ้ายกลับตัวเป็นพลเมืองดีแล้ว ลูกน้องจะไม่เป็นตามได้ยังไง
เอ็งแน่ใจยังไงว่าเขาจะไม่เอาพ่อเข้าตะราง
ฉันถึงได้บอกพ่อยังไงว่า พ่อต้องเชื่อฉันเรื่องนี้ ฉันอธิบายให้พ่อเข้าใจไม่ได้
เสือจ้องหน้าลูกชายนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะพูดออกมาช้า ๆ ว่า วันนี้เอ็งพูดแปลกกว่าทุกวัน เหมือนกับว่าเอ็งเป็นตำรวจเสียเอง ... ฮึ ... ไอ้ทวน พ่อชักสงสัย เอ็งหายไปหลายวันก่อนที่จะโดนจับที่หนองตากลับนั่น เอ็งไปพบตำรวจมางั้นเหรอ
ทวนสั่นหน้า ฉันถูกกำนันมันจับได้ แล้วมันจะยิงฉันทิ้ง ถ้าไม่ได้นายตำรวจคนนั้นช่วยไว้ ฉันกับพ่อก็คงไม่ได้พบกันแล้ว พ่อจำได้ไหม
แล้วเอ็งก็เลยต้องช่วยไอ้ตำรวจคนนั้นไม่รู้จบ เพราะเอ็งก็เป็นตำรวจเหมือนกันงั้นหรือ
พ่อพร้อมที่จะไปกับฉันเมื่อไหร่ล่ะ ทวนตัดบท
เสือหัวเราะหึ พ่อบอกแล้วไงว่า พ่อพร้อมเสมอ
ถ้างั้น เราก็ไปกันเสียวันนี้เลย ก่อนกินข้าวกลางวัน
เสือมองหน้าลูกชายนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ เอ็งให้พ่อสงบสติอารมณ์ซักหน่อยก่อนได้ไหม
ทวนลุกขึ้นยืน ได้ พ่อ ฉันจะลงไปคุยกับไอ้พวกนั้นมันตามบ้านสักครู่ เดี๋ยวจะกลับขึ้นมาหาพ่อใหม่
เอ็งจะไปบอกมันเรื่องนี้งั้นหรือ
ไม่หรอกพ่อ ทวนหันมาพูด ฉันจะไปลองฟังเสียงมันดูว่ามันรู้สึกยังไงถ้าตำรวจเขาจะยกกันมาเล่นงานเราอีก และมันรู้สึกเบื่อชีวิตโจรกันมั่งหรือยัง
เสือไม่พูดต่อ มองดูทวนเปิดประตูห้องออกไปเฉยอยู่ เมื่อร่างของทวนลับหายไปพร้อมกับบานประตูปิดสนิท เสือค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปที่หิ้งพระมุมห้อง จุดธูปเทียน กราบพระพุทธรูปบูชา สงบนิ่ง
ทวน ทองรุ่ง ลงจากบ้านพ่อเดินเรื่อยไปตามบ้านต่าง ๆ ที่เรียงรายกันอยู่นั้น ชาวบ้านหลายคนออกไปทำงานในไร่และท้องนากันบ้างแล้ว ทั่วทั้งหมู่บ้านอยู่ในความสงบ พวกเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ ส่วนพวกผู้หญิงก็ทำงานบ้านกันไปแต่ละบ้าน ทวนเดินขึ้นไปเยี่ยมตามบ้านที่ผู้ชายซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวได้เสียชีวิตไปในระหว่างการต่อสู้ครั้งใหญ่นั้น เขาขึ้นไปปลอบใจบรรดาลูกเมียแต่ละบ้านและพูดคุยด้วย เป็นการช่วยปลดเปลื้องความเศร้าสลด เมื่อเวลาได้ผ่านไปพอสมควรแล้ว ทวนก็กลับขึ้นบ้านพ่อ
เสือฝ้ายนั่งมวนยาสูบอยู่ด้วยความสงบที่เดิม
เป็นยังไง เสือพูดเมื่อทวนเปิดประตูย่างเข้ามา ไอ้พวกนั้นมันว่ายังไง
ทุกคนไม่รู้สึกอะไรหรอก พ่อ ทวนพูดเมื่อนั่งลงตรงหน้าพ่อ มันว่าแล้วแต่พ่อ ถ้าพ่อยังอยู่ จะให้มันทำยังไงก็ได้ และมันเชื่อในตัวพ่อ ว่าถึงยังไง ๆ มันก็ไม่เดือดร้อนถ้าพ่อยังอยู่
เสือถอนหายใจยาว
ความจริง ถ้าเราเลิกประพฤติเป็นโจรเสียได้ ก็คงจะอยู่ได้ด้วยความสงบ ถ้าตำรวจเขาไม่คิดอาฆาตพยาบาทเราอย่างที่เอ็งพูดกับพ่อ แต่พ่อก็ยังหนักใจอยู่ดีว่า เขาจะคิดอย่างเอ็งคิดได้หรือ
ฉันว่า ทางตำรวจเขาก็คงต้องการความสงบเหมือนกัน ทวนมองหน้าพ่อด้วยสายตาที่มั่นใจ ถ้าเราเข้าหาเขา และได้พูดจาทำความเข้าใจกับเขาให้รู้เรื่องกันไป ฉันว่าเขาก็ต้องพอใจ และถ้าเราเดินเข้าหาความสงบเสียอย่างเดียว ก็จะทำให้พวกโจรก๊กอื่นต้องทำตาม บ้านเมืองก็จะสงบเสียที เราก็จะได้ช่วยทางการเขาทำความดีความชอบด้วยการดึงโจรพวกอื่นให้เข้ามอบตัวได้อีกหลายพวก
เสือพยักหน้าช้า ๆ เอาละ พ่อตกลงใจแล้ว พ่อจะเชื่อเอ็ง แล้วแต่บุญแต่กรรม ชีวิตพ่อและไอ้พวกลูก ๆ จะได้สงบเสียที ไปกันหรือยังล่ะ
ไปซีพ่อ ทวนลุกขึ้นยืน เราไปกันเพียงสองคน ทำทีเป็นขี่ม้าไปตรวจทั่ว ๆ แล้วออกไปเลย ฉันว่า ไม่ถึงเที่ยงวันเราก็ถึงเดิมบาง ฯ ไป เสือพูดสั้น ๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืน ทั้งสองพ่อลูกก้าวขึ้นหลังม้าที่สั่งให้สมุนนำมาเมื่อลงมาจากบ้าน ม้าทั้งสองตัวก้าวย่างช้า ๆ ไปตามบ้านต่าง ๆ ทักทายชาวบ้านที่ทำงานอยู่เรียงรายนั้นเหมือนปกติ พ้นท้ายบ้านออกไปสู่ท้องทุ่งที่มีชายฉกรรจ์หลายคนกำลังทำงานในทุ่งกันอยู่นั้น ทั้งสองชักม้าเยื้องย่างทักทายชายฉกรรจ์เหล่านั้นไปตามทาง ต่างสรวลเฮฮา ร้องทักทายหัวหน้าและลูกชายกันเป็นที่ครื้นเครง ไม่มีใครสักคนที่รู้สึกว่าคนทั้งสองกำลังจะเดินทางไปไหน พ้นเขตการทำนาออกไป ม้าทั้งคู่นั้นก็ห้อเหยียดตะบึงไปตามทิศทาง มุ่งหน้าไปสู่อำเภอเดิมบางนางบวช ฝ่าเปลวแดดยามสายไป
Create Date : 31 ธันวาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 31 ธันวาคม 2552 2:39:37 น. |
Counter : 1125 Pageviews. |
|
|
|