ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 30)
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 30
ความมืดกำลังปกคลุมอยู่ทั่ว เมื่อทวนควบม้าออกมาจากหมู่บ้านนั้นได้เพียงไม่ถึงชั่วโมง ข้างหน้าเขาในความมืด เงาตะคุ่ม ๆ ของทิวไม้เบื้องหน้าตัดกับท้องฟ้าในยามใกล้ค่ำ ทวนควบม้ามุ่งเข้าไปที่ทิวไม้นั้น
แสงไฟวอมแวมจากตะเกียงเจ้าพายุและมัดไต้จากบางบ้านส่องแสงไปทั่ว ทวนชักม้าย่างเอื่อย ๆ ผ่านเข้าไปตามบ้านที่เรียงรายกันอยู่เป็นระยะ เขานั่งม้าผ่านลานบ้านบางแห่งเรื่อยเข้าไป ผู้คนส่วนมากขึ้นบ้านกันหมด เหลือที่ยังทำกิจบางอย่างอยู่ไม่กี่คน พวกนั้นมองดูทวนที่ย่างม้าช้า ๆ เข้าไปอย่างไม่เอาใจใส่ เมื่อผ่านไปก็ละสายตา ทำงานตรงหน้าต่อไป
ทวนลงจากหลังม้า เขาจูงม้าเข้าไปที่ใต้ถุนบ้านซึ่งมีเงาคนตะคุ่ม ๆ นั่งทำอะไรอยู่บนม้านั่งเตี้ย ๆ ชายคนนั้นละมือจากสิ่งของตรงหน้า มองดูทวนที่เข้ามาถึงตัวเฉยอยู่
ที่นี่บ้านอะไร ลุง ทวนเอ่ยปากถาม
บ้านไผ่หัก ชายคนนั้นตอบ
ฉันอยากจะขอพักที่นี่สักคืน ทวนยังจูงบังเหียนม้าอยู่ในมือ
เอ็งมาจากไหน ไม่ใช่คนบ้านนี้หรือ
ฉันมาจากบ้านผู้ใหญ่เฟี้ยม อ้อ ชายคนนั้นพยักหน้า เอ็งไปพบผู้ใหญ่จวงเขาก่อน มันต้องบอกเขา มาบอกข้าไม่ได้หรอก
ทวนมองไปตามมือชี้ เขาเห็นกองไฟส่องแสงลุกโชนอยู่ที่ลานหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง เขาจูงม้าเดินตรงไปที่นั่น ผูกม้าไว้กับเสาใต้ถุนบ้านหลังนั้น เมื่อเขาเดินออกมาจากใต้ถุนบ้าน ชายคนหนึ่งก็ลงจากบ้านนั้นมายืนอยู่ที่เชิงบันได มองดูทวนนิ่งอยู่
ทวนหยุดตรงหน้าชายคนนั้น
ผู้ใหญ่จวงอยู่ไหม ลุง
ข้าเองแหละ ผู้ใหญ่จวง ชายคนนั้นตอบ
ทวนยกมือไหว้
ฉันชื่อทวน มาจากบ้านผู้ใหญ่เฟี้ยมจ้ะ จะมาขอพักที่นี่สักคืน
เอ็งจะไปทางไหน
พรุ่งนี้ฉันจะไปบ้านผู้ใหญ่ม้วน
ผู้ใหญ่จวงยืนมองทวนนิ่งอยู่อีก แล้วพูดว่า
เอ็งจะไปที่นั่นทำไม เอ็งเป็นพวกตำรวจหรือเปล่า คำถามนั้นทำเอาทวนสะดุ้ง เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่จะตอบว่า ไม่ใช่หรอกจ้ะ ฉันจะไปหาผู้ใหญ่ม้วน ฉันเป็นหลานเขา ไอ้ม้วนมันถูกยิงตายแล้ว เอ็งจะไปหามันอีกทำไม ตำรวจคงอยู่ที่นั่นเต็มไปหมดแล้ว เขาว่ามันถูกเสือฝ้ายยิงเอา พวกเสือฝ้ายยังผ่านบ้านข้าไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทวนทำเป็นยืนนิ่งอยู่กับที่ครู่ใหญ่ แล้วพูดว่า ฉันขอพักอยู่ก่อนเถอะ ผู้ใหญ่ ข่าวนี้ทำเอาฉันยุ่งเสียแล้ว ก็เอา เลือกหาที่นอนเอาเอง ไฟสุมอยู่แล้วนั่น ผู้ใหญ่ชี้ไปที่กองไฟกลางลานที่กำลังส่งเปลววอมแวม ว่าแต่เอ็งกินข้าวกินปลามาแล้วหรือยัง ยังจ้ะ ลุงผู้ใหญ่ ฉันไม่หิวหรอก พอทนได้ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งตายห่า ผู้ใหญ่พูด เสียงมีแววปรานี ข้าพอมีเหลือ เดี๋ยวข้าจะให้เด็กมันหามาให้ เอ็งหาที่นอนเอาตามสบาย ใกล้ ๆ กองไฟนั่นแหละดี ยุงมันจะได้ไม่กัด ความเอื้ออารีตามชนบทมีอยู่เป็นธรรมดาเช่นนี้ ทวนยกมือไหว้เป็นการขอบใจ แล้วหันไปปลดย่ามออกจากอานม้า ดึงเอาสัมภาระที่จะใช้เป็นที่ปูนอนออกมาจัดการปูที่ใกล้ ๆ กองไฟ เขาเดินหาเชื้อเพลิงตามที่ต่าง ๆ มาเตรียมไว้ เพื่อที่จะใช้เติมกองไฟในยามดึก สุมไว้ข้าง ๆ กองไฟ เมื่อทวนจัดการเตรียมตัวเรียบร้อย เด็กผู้หญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งก็ถือชามข้าวใบหนึ่งลงมาจากเรือน เดินมาส่งชามนั้นให้ทวน แล้ววิ่งตื๋อกลับขึ้นเรือนไป ทวนวางชามข้าวนั้นลงข้างตัวพร้อมกับทรุดลงนั่ง ในชามใบนั้นมีข้าวอยู่เกือบเต็ม มีเนื้อสองสามชิ้นวางอยู่บนข้าว เท่านั้นก็พอสำหรับอาหารมื้อจำเป็นนี้แล้ว เขาลงมือเปิบข้าวเข้าปาก ทวนวางชามข้าวที่หมดเกลี้ยงลงที่เชิงบันไดเรือน เดินไปตักน้ำในโอ่งเล็ก ๆ ที่เชิงบันไดกินด้วยกระบอกที่วางคู่อยู่บนฝาโอ่งใบนั้น เช็ดปากคอด้วยผ้าคะม้า จุ่มมือลงในถังน้ำสำหรับล้างเท้าที่เชิงบันไดนั้น ล้างมือที่เปรอะเปื้อนเศษอาหาร เช็ดด้วยผ้าคะม้าผืนเดียวกันนั้น แล้วก็กลับมาเอนกายลงกับพื้นดินกลางลาน ใช้ผ้าคะม้าผืนนั้นเป็นที่รองรับร่างของเขาไปด้วย ทวนกำลังเคลิ้มจะหลับ เขาก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นที่ท้ายบ้าน เขาลุกขึ้นนั่งหันไปมองทางนั้น
Create Date : 09 ธันวาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 9 ธันวาคม 2552 1:28:46 น. |
Counter : 772 Pageviews. |
|
|
|