เบา ๆ สมอง ตลกสังคม เรื่องที่ 8
เรื่อง เบา ๆ สมอง
อาทิตย์นี้มาอ่านเรื่องเบา ๆ สมองกันดีกว่า อ่านแล้วได้สบายอารมณ์ในวันพักผ่อน ผมไปได้เรื่องนี้มาอย่างบังเอิญจริง ๆ เลยถือโอกาสเอามาขัดตาทัพไว้พลาง ๆ สองเรื่อง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ เสียด้วย... ! คุณผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่ออะไรอย่ารู้เลย เธอมีนิวาสถานอยู่ซอย ๆ หนึ่ง แถว ๆ ถนนเพชรบุรีนี่เอง แต่เธอมีที่ทำงานอยู่ทางประตูน้ำ ซึ่งก็ไม่ไกลจากบ้านที่อยู่เท่าไร ทุกเช้า เธอจะต้องให้คนที่เรียกว่าผู้ใหญ่ในบ้านคนหนึ่งเป็นผู้หญิงกลางคน เดินออกไปทางปากซอยไปเรียกรถแท็กซี่ให้ แล้วให้ถามว่าไปประตูน้ำเอาเท่าไร ได้ราคาแล้วจึงจะนั่งรถคันนั้นเข้ามารับคุณผู้หญิงของแกที่บ้านในซอยอีกที เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ไปทุกวันอย่างเรียบร้อย ไอ้เหตุการณ์ธรรมดาที่เรียบร้อยนี้ ถึงคราวที่มันจะเกิดไม่เรียบร้อยขึ้นมา มันก็เป็นไปได้อย่างที่ไม่น่าจะเป็น วันหนึ่ง คุณป้าคนนั้นก็เดินออกไปเรียกรถให้คุณผู้หญิงอย่างเคยทุกวัน ตกลงราคาที่จะไปประตูน้ำกันได้แล้ว ก็ขึ้นรถคันนั้นมาอย่างเคยอีกนั่นแหละ เรื่องที่เป็นความเคยชินนี่เองที่ทำให้แกนั่งเพลินไป ในซอยนั้นบังเอิญอีกนั่นแหละที่มีทางแยกเลี้ยวออกไปทางขวา ผ่านโรงแรมอินทราไปออกประตูน้ำได้ พอถึงทางแยกนั้น คนขับรถแท็กซี่ก็เลี้ยวขวับไปออกทางโรงแรมอินทรา จะไปออกทางด้านข้างโรงแรม ไปทางประตูน้ำ คุณป้าก็นั่งเพลินไป ลืมบอกให้รถตรงไปรับคุณผู้หญิง คนขับแท็กซี่ก็ขับเรื่อยไป พาคุณป้าเลี้ยวเข้าทางเข้าโรงแรมอินทราแล้วออกไปทางด้านข้าง จะไปประตูน้ำเสียแล้ว แทนที่จะได้ไปรับคุณผู้หญิงของแก แกก็ตัดสินใจชะโงกไปข้างหน้า สะกิดไหล่คนขับรถแท็กซี่แล้วพูดว่า คุณ คุณ ที่จะไปประตูน้ำน่ะ ไม่ใช่ชั้นหรอกนะ คุณผู้หญิงเขาจะไป เขาให้ฉันมาเรียกรถให์ เดาเอาเองก็แล้วกันว่า คนขับรถแท็กซี่คันนั้นจะว่ายังไง
อีกเรื่อง เป็นของเด็ก ๆ เด็กคนนั้นเป็นหลานของผมเอง ขนาดหลานปู่ เพราะแกเป็นลูกของหลานของผมอีกที คนที่เป็นพ่อของเด็กเจ้าของเรื่องนี้แหละครับ อ้าว ! เผลอไปบอกว่าเราแก่แล้ว ไม่เป็นไร วันหนึ่ง ที่บ้านเขา ไอ้หลานคนนี้กลับจากโรงเรียนพอดี แกเป็นเด็กผู้ชาย อายุซักสี่ขวบเห็นจะได้ หน้าตามันโกงดี เห็นหน้าก็อ่านได้ว่า ไอ้เสือนี่เอาเรื่อง พอเข้ามากราบกรานผมเป็นอันดีแล้ว มันก็หันไปพูดกับพ่อมันว่า ปะป๊ะ ปะป๊ะทำปากจู๋ได้มั้ย ทำไมจะทำไม่ได้ ตัวพ่อมันไม่รู้ว่า ลูกถามปัญหากล้วยอย่างนี้ทำไม ไหน ปะป๊ะลองทำปากจู๋ซิ ไอ้พ่อก็ทำปากจู๋ ให้ลูกดู นี่ไง ปะป๊ะ ทำไมเอาจู๋ไปไว้ที่ปาก แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ ชี้หน้าพ่อมัน ไอ้พ่อไม่รู้จะทำยังไง จะเตะมันก็ตัวนิดเดียว นี่แหละครับ เด็กสมัยนี้ ขนาดสี่ขวบ ยังไว้ใจไม่ค่อยได้
รับรองว่า สองเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
Create Date : 11 กรกฎาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 23:57:32 น. |
Counter : 825 Pageviews. |
|
|
|