จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 2 ตอนที่ 3)
ผมปล่อยให้หล่อนชักมือออกไป แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ กอดอกมองดูหล่อน พูดว่า
คุณหลอกผมที่ว่า ยังไม่มีเจ้าของหัวใจ คุณมีแล้ว
หล่อนเงยหน้าขึ้นจากหลอดดูดที่ถ้วยเหล้า แล้วหัวเราะกิ๊ก
หมอเดา หล่อนว่า
เจ้าของหัวใจของคุณเป็นคนในเครื่องแบบ ผมพูด นัยน์ตาจับนัยน์ตาหล่อน และเขาจากคุณไปเสียแล้ว หรือมิฉะนั้นก็ไม่ได้พบกันนานวันมาแล้ว
หล่อนเม้มริมฝีปาก นัยน์ตาตกไปมองถ้วยเหล้า แล้วเหลือบไปมองที่ฝ่ามือของหล่อนเองที่หงายอยู่บนตัก กลับมามองดูผมแว่บหนึ่ง แล้วหล่อนก็เสก้มไปดูดทอมคอลลินส์ในถ้วย นิ่งนาน
ไม่เห็นคุณปฏิเสธ ผมพูดยิ้ม ๆ คงจะถูก
คุณยังไม่บอกต๊อยเลยว่า ทอมคอลลินส์ของคุณนี่มีอะไรดี หล่อนเปลี่ยนเรื่อง
มันเป็นเครื่องดื่มที่ผู้ชายควรจะสั่งให้ผู้หญิงที่เขาสนิทชิดชอบด้วย
นั่นซีคะ เพราะอะไร
มันทำให้หล่อนอยากจูบผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อดื่มได้ขนาด
อุ๊ย ! หล่อนร้องออกมาเบา ๆ ผละริมฝีปากออกมาจากหลอดดูด ไม่เอาละ
ผมหัวเราะ กลัวมันด้วยหรือ
ไม่จริงหรอก หลอกน่ะ หล่อนว่า พลางมองไปที่ถ้วยเหล้าใบนั้น แหม กินเสียเกือบหมดถ้วยแน่ะ แล้วหล่อนก็มองดูผม จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
ถ้าเรื่องที่ผมดูลายมือคุณออกว่า คุณมีเจ้าของหัวใจแล้ว และเขาจากไปนานแล้วนั้นมันถูก ไอ้เรื่องทอมคอลลินส์นี่ก็คงจะจริง
หล่อนขยับจะพูดอะไรออกมาก็พอดีเสียงดนตรีเปลี่ยนจังหวะ หล่อนรีบลุกขึ้น พร้อมกับพูด
เพลงของต๊อยขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งกลับนะ เดี๋ยวต๊อยจะมาคุยต่อ แล้วหล่อนก็เดินรีบ ๆ ไปยังเวทีดนตรี
ผมควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ แล้วนั่งมองดูหล่อนร้องเพลง พลางจิบวิสกี้ไปพลาง
ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ร้ายกาจบนเวทีขณะหล่อนร้องเพลง ผมชักจะชอบ
หล่อนคงจะยังไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับ ร้อยเอก เชิด ทรงพลัง ผมคิดว่าทาง กรป. กลางคงไม่แจ้งอะไรให้หล่อนรู้ และทางหล่อนจะรู้ได้เองนั้นคงจะยาก
ผมนั่งเพลินอยู่กับเพลงที่หล่อนร้องอยู่ถึงเพลงที่สี่ เพลงที่ห้าหล่อนร้องขึ้นมาเป็นเพลงในจังหวะตะลุงเช่นเดียวกับเพลงแรก ๆ แต่เนื้อร้องของมัน จับปูดำขยำปูนา จับปูม้าคว้าปูทะเล....
ผมวางแก้วที่ถือเพลิน ๆ อยู่นั้นลงบนโต๊ะ หลังจากที่ฟังเพลินอยู่ครู่หนึ่งแล้วนึกขึ้นมาได้ถึงสัญญาณของพันเอกเยี่ยม
ผมลุกขึ้นเดินตรงไปที่บาร์ ถ้าที่นี่มีโทรศัพท์ มันก็ควรจะอยู่ที่นั่น มีโทรศัพท์อยู่ที่นั่นจริง ๆ
ผมขอเขาโทร ฯ หมุนไปที่หมายเลข ๑๒๓
เสียงกริ่งเพียงกริ่งเดียวก็มีเสียงคนรับสายทางโน้น พอผมร้องฮัลโหลลงไป เสียงผู้การเยี่ยมก็ดังสวนมาทันที ผมจำเสียงเขาได้
ผมจัดส่งรูปถ่ายที่คุณต้องการไปให้แล้ว มันอยู่ที่โต๊ะที่คุณนั่งอยู่นั่นแหละ แต่ว่าอยู่ใต้ผ้าปูโต๊ะตรงเก้าอี้ที่คุณนั่ง
แล้วเขาก็วางหูกริ๊ก
ผมวางโทรศัพท์เข้าที่ เกาหัวแกรกโดยไม่ได้คันอะไร แล้วกลับมาที่โต๊ะของผม
ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม เลิกผ้าปูโต๊ะขึ้น
รูปถ่ายขนาดโปสการ์ดแผ่นหนึ่งสอดอยู่ที่นั่น มันเป็นรูปชาดหาดแห่งหนึ่ง มองเห็นหาดทรายยาวและยื่นลงไปในทะเล ตรงชาดหาดมีร่างของใครคนหนึ่งนอนอยู่ในท่านอนหงาย
ผมยัดรูปแผ่นนั้นเข้าในกระเป๋าเสื้อปล่อยเอวที่ผมสวมอยู่ เหลียวมองดูรอบ ๆ ข้าง ไม่เห็นมีอะไรที่ผิดปกติ โต๊ะที่มีคนที่นั่งใกล้ที่ผมนั่งที่สุดก็ยังห่างออกไปสองโต๊ะ ผู้ที่นั่งอยู่ที่นั่นสองคนก็ยังคงวุ่นอยู่กับผู้หญิงสองคนที่เขาเรียกมานั่ง มือไม้วุ่นวายกันอยู่นัวเนีย ไม่มีท่าทีจะเอาใจใส่กับใครในโลก
แม่ต๊อยจบเพลง จับปูดำ ขยำปูนา ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายของหล่อนพอดี กำลังลงจากเวที หล่อนไม่ได้ตรงมาหาผม แวะทักทายกับพวกที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ ๆ เวที และหล่อนคงจะต้องวนเวียนอยู่ตามโต๊ะอื่น ๆ อีกตามประสานักร้องที่จะต้องเอาใจแขกทั่ว ๆ ไป
ผมชักจะสงสัยแม่คนนี้ว่าแกมีอะไร ๆ อยู่ทาง กรป. กลางหรือเปล่า ลูกน้องผู้การเยี่ยมอีกคนเสียก็ไม่รู้แม่คนนี้
วิสกี้ของผมหมดไปอีกหลายถ้วย กว่าแม่ต๊อยจะนวยนาดกลับมาหา มันเป็นเวลาอีกเพียงห้านาทีจะถึงตีหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ไนท์คลับจะต้องปิด
ผมดูนาฬิกาตอนที่หล่อนกำลังจะหย่อนกายลงนั่ง
ขอโทษนะคะที่ทำให้คอยนาน ต๊อยต้องต้อนรับแขกอื่น ๆ เสียก่อน จะได้มาจบที่คุณเป็นคนสุดท้ายสำหรับคืนนี้ จะได้คุยกันนาน ๆ หน่อย หล่อนพูดยิ้มปลอบใจผมทั้งปากและนัยน์ตา
อีกห้านาทีเขาก็จะปิดแล้ว ผมว่า ยกนาฬิกาให้หล่อนดู
หรือคะ หล่อนว่า ทำไมเวลาถึงได้เร็วยังงั้น
แต่ถ้าเราจะไปต่อกันที่อื่น เวลาก็ยังมีอีกเยอะ ผมปรายตามองหล่อน
ต๊อยอยากให้ดูลายมือต่อเท่านั้น ห้านาทีก็คงจะพอ ว่าแล้วหล่อนก็แบมือวางลงโต๊ะ
บอกมาก่อนว่า ที่ผมดูให้เมื่อกี่นี้ ถูกหรือผิด ผมยังเล่นตัว ไม่ยอมเอือมมือไปจับมือที่แบอยู่นั้น
หล่อนพยักหน้าถี่ ๆ
เข้าเค้าค่ะ ไม่ผิด
ผมเอื้อมมือไปจับมือของหล่อนมาพิจารณา แล้วทายออกไป
เจ้าของหัวใจของคุณนี่ อายุอานามเห็นจะขนาด ๆ ผมนี่แหละ หล่อเหลาเอาการอยู่ ตามเส้นบอกว่าเขาน่าจะเป็นนักกีฬา หรือไม่ก็นักมวยชั้นยอดคนหนึ่ง ยศคงขนาดร้อยเอกใช่ไหม
หล่อนเบิกตากว้างแล้วว่า
ต่อไปซีคะ ดูซิว่าเขาเหมาะกับต๊อยหรือเปล่าคนนี้
ถูกหรือเปล่าล่ะที่ว่าเมื่อกี้
หล่อนพยักหน้าอีกโดยไม่พูด
ผมลูบไล้ฝ่ามือของหล่อนเล่นอยู่สักพักแล้วพูด
ตามลายเส้นบอกว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ทำไมล่ะ สีหน้าหล่อนออกกังวล
เขาจะต้องจากคุณไปอย่างไม่มีวันกลับ
มือที่ผมกำลังเกาะกุมอยู่นั้นเริ่มสั่นน้อย ๆ กังวลบนสีหน้าเพิ่มขึ้น
จริง ๆ ด้วย ต๊อยไม่ได้เห็นเขามากว่าอาทิตย์แล้ว เขาไม่เคยเป็นยังงี้ หล่อนพูดเสียงเครือ ๆ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือคะ
ไอ้นี่ก็ต้องดูกันให้ละเอียดกว่านี้ ไว้วันหลังก็แล้วกัน ผมว่าพลางยกแก้ววิสกี้ของผมขึ้นดื่ม บาร์จะปิดอยู่แล้ว เขาทำเพลงเลิกแล้วเห็นไหมล่ะ หล่อนหันไปมองทางดนตรีซึ่งกำลังเล่นเพลงสุดท้ายแล้ว ไฟฟ้าทุกดวงก็เปิดสว่างขึ้น พร้อมกับผู้คนตามโต๊ะต่าง ๆ พากันลุกขึ้นทยอยเดินออกไป งั้นเราไปหาที่อื่นนั่งคุยกันต่อ หล่อนหันมาพูดกับผม ที่ไหนดีล่ะ ผมถาม ที่ไหนก็ได้ นอกจากบ้านคุณแล้วก็โรงแรม หล่อนพูดยิ้ม ๆ ผมเกลียดค้อฟฟี่ช็อบ มันเหม็นกลิ่นอาหาร ต๊อยรู้จักบาร์ที่เขายังเปิดอยู่อีกจนถึงตีสาม เราไปที่นั่นก็ได้ หล่อนเอ่ยชื่อบาร์แห่งหนึ่งในย่านพัฒน์พงศ์ คุณมีรถมาหรือเปล่า มี แต่รถของผมมันรถจิ๊ป คุณจะนั่งหรือ ? ต๊อยมีรถ ไปรถต็อยก็ได้ ทิ้งรถคุณไว้ที่นี่ ขากลับต๊อยจะขับมาส่งที่นี่ หรือคุณจะขับตามไป
ผมจะขับตามไป
งั้น รอต๊อยเดี๋ยว หล่อนลุกขึ้นพลางพูด ไปเอาของหน่อย แล้วออกไปพร้อม ๆ กัน
พวกมดแดงทั้งหลายที่นั่งอ้อยอิ่งคอยแม่ต๊อยอยู่ มองดูผมกับแม่ต๊อยเดินคู่กันออกไปอย่างอิจฉา
Create Date : 27 กรกฎาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 23:00:02 น. |
Counter : 1201 Pageviews. |
|
|
|