13 ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย (ตอนที่ 23)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 23
ทีนี้ก็เปิดวิทยุฟังฝ่ายปฏิวัติกำลังออกแถลงการณ์เจื้อยแจ้วเป็นฉบับ ๆ เจ้านายก็ว่า เฮ้ย... ถ้ามันจับ เราหนีลงเรือไปเอาพลร่มที่หัวหินมาสู้กับมัน ถ้ามันเชิญไปปรับความเข้าใจ ก็ไปหามัน ผมรู้สึกสะท้อน พลางก็คิดอยู่ในใจ ถ้าคิดจะสู้ ก็สู้เสียตอนนี้ ทำไมต้องรอให้เขาจับตัวด้วยล่ะ แต่ผมไม่ได้คัดค้านอะไรท่าน บอกตรง ๆ กลัวจะผิดใจกันเปล่า ๆ นั่งฟังอยู่สักประเดี๋ยวเดียว เขาก็ประกาศออกมาจริง ๆ ให้จอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลผิน ชุณหะวัณ และ พล ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ไปหาหัวหน้าคณะปฏิวัติ ที่หอประชุมกองทัพบก เพื่อปรับความเข้าใจ ไปโว้ย ท่านก็ร้องออกมา ถอดปืนออกให้หมด ไอ้อ้วนขับรถ มึงนั่งไปกับกูข้างหลัง ประโยคหลัง ท่านพูดกับผม ไอ้อ้วนก็ขับรถพาพวกเราออกมาจากบ้านมาถึงสะพานยมราช ตอนที่จะเลี้ยวเข้าถนนพิษณุโลกผ่านไปทางสนามม้า ก็เห็นรถถังคันหนึ่งจอดอยู่ เจ้านายสั่งทันที ไอ้อ้วน ปักหัวไปที่รถเกราะคันนั้น ไอ้อ้วนได้ยินคำสั่งก็ไม่รีรอ ปักหัวรถปังเข้าไป จอดทิ่มหัวตรงหน้ารถถังคันนั้น นายร้อยตรีคนหนึ่งโดดลงมาจากรถถัง พอเห็นท่านเขาก็จำได้ ตะเบ๊ะทันที พร้อมกับถามว่า มีอะไรหรือครับ อั๊วจะไปรายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบก ขึ้นมานั่งกับอั๊วหน่อยซิ ท่านชะโงกหน้าไปพูด นายร้อยตรีคนนั้นก็กระโดดลงมาแพล่บทันที ทิ้งรถถัง
ไอ้อ้วนก็ขับมาถึงหน้าวังปารุสก์ ฯ ซึ่งจะต้องผ่านมาทางด้านนั้น และข้างกองพล ๑ ก็ได้พบนายร้อยเอกคนหนึ่งซึ่งมีเครื่องกีดขวางอยู่ด้วย เสียงเจ้านายตะโกนออกมาจากรถ เอาเครื่องกีดขว้างออก เดี๋ยวจะไปหอประชุมกองทัพบก ไปพบหัวหน้าคณะปฏิวัติ
ร้อยเอกคนนั้นก็ยกเครื่องกีดขวางออก เอ้า... หมวดลงไป เอ้า... ผู้กองขึ้นมา เจ้านายสั่งการ ร้อยตรีคนนั้นก็กลับไป จะกลับไปที่ตั้งรถถังของเขาอีกอย่างไรก็ไม่รู้
ร้อยเอกคนนั้นก็ขึ้นมานั่งแทนอยู่ข้างหน้ารถ พอมาถึงกองพล ๑ ก็มาเครื่องกีดขวางอีก ทีนี้มาเจอ พันโท ยศ เทพหัสดิน ฯ ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้รักษาเครื่องกีดขวางอยู่ตรงนั้น มันรุ่นเดียวกับผม ไอ้ยศเห็นท่านเข้าก็เปิดเครื่องกีดขวาง ท่านก็เรียกให้ ยศ ฯ ขึ้นรถ แล้วไล่ร้อยเอกคนนั้นลง รถก็เข้าไปถึงหอประชุมกองทัพบก เมื่อเข้าไปข้างในหอประชุม ฯ ก็เจอเพื่อนหลายคน เช่น พ่อสง่า กิตติขจร คุณสำราญ กลัดศิริ เจ้านายก็เดินเข้าไปข้างใน ไปนั่งคุยกับผู้ใหญ่ในนั้น เราก็ได้แต่คุยกับข้างนอก ผมคุยกับคุณสำราญ เขา เอ้า.. คุณสำราญ คุณเป็นตำรวจ เอาเครื่องแบบทหารมาแต่งยังงี้ ผิดกฎหมายนะ คุณสำราญฯ ทำหน้าเจื่อน ๆ ตอนนั้นเขาอยู่ในเครื่องแบบพันตรีทหาร พรรคพวกเขาให้เปลี่ยน ผมก็เปลี่ยน เขาพูด เออดี เปลี่ยนง่ายดี ผมว่า ประเดี๋ยวเดียว พวกนั้นก็ชงเหล้ามาให้เรากิน พอกินเหล้าไปได้สักครู่ ก็มีนายทหารมาเรียกผมสองคนเข้าไป
ในห้องนั้นมี พี่ตุ๊ (พล ท. ประภาส จารุเสถียร) พล ท. ถนอม กิตติขจร จอมพลสฤษดิ์ ฯ และเจ้านาย ผม ๒ คน และพี่กฤษณ์ สีวรา รวม ๗ คน จอมพลสฤษดิ์ ฯ เอ่ยถามเจ้านายผมว่า
เฮ้ย ไอ้เผ่า มึงจะบวช หรือว่าจะไปอยู่เมืองนอกวะ ? ถามกันต่อหน้าพวกผม
เจ้านายก็ว่า ไอ้เรื่องบวช มันตลกว่ะ กูจะไปเมืองนอก มึงจะให้กูไปไหนละ
สวิตเซอร์แลนด์ จอมพล สฤษดิ์ ฯ ตอบออกมาทันที
เอ้า.. สวิตเซอร์แลนด์ ก็ สวิตเซอร์แลนด์ กูจะเอาไอ้อ้วนมันไปด้วย เจ้านายว่า
แล้วไอ้พุฒล่ะ จอมพล สฤษดิ์ ฯ ถาม
ผมยังไม่ตอบอะไรเลย เจ้านายตอบแทน ไอ้พุฒ มึงอยู่ก็แล้วกัน
จอมพล สฤษดิ์ ฯ พูดออกมาทันที มึงไปด้วย ชี้มาที่ผม
ผมตอบว่า ผมจะไปได้อย่างไร พาสส์ปอร์ตก็ไม่มี
ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูจะทำให้ จอมพล สฤษดิ์ ฯ ว่า
ผมพูดต่อ รูปถ่ายผมก็ไม่มี
ไม่เป็นไร เดี๋ยวถ่ายให้ เท่านั้นก็เรียบร้อย
ผมก็ต้องพิงกำแพงถ่ายรูปกันเดี๋ยวนั้น มีจ่าทหารอะไรคนหนึ่ง เขาว่าเดี๋ยวนี้เป็นพันตรีไปแล้ว เป็นคนถ่ายให้ผม
เมื่อพวกเราถ่ายรูปเสร็จ ก็เรียก ม.ล. ปีกทิพย์ มาลากุล ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ไปอยู่ในที่นั้นด้วย ตอนนั้นรักษาการณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปด้วยตัว เนื่องจากถูกปฏิวัติไปแล้ว
หม่อมปีกทิพย์ ฯ ก็รับหน้าที่ไปจัดทำพาสส์ปอร์ตให้ผม
ตอนนั้นราว ๆ ประมาณตี ๑ หรือตี ๓ เห็นจะได้ ประเดี๋ยวเดียวทั้งพาสส์ปอร์ต ทั้งวีซ่าเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาเสร็จเรียบร้อยรวม ๓ ใบ ทั้งของท่าน ไอ้อ้วนและผม
Create Date : 30 เมษายน 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 30 เมษายน 2553 1:17:51 น. |
Counter : 2409 Pageviews. |
|
|
|
เอ๊ะ..เรื่องชุดนี้สั้นเหรอ..ทำไมถึงช่วงท้ายๆเร็วจัง.....
ติดตามอ่านตลอด...ขอบคุณมากๆ..