จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

เงื่อนไขการปฎิวัติ (ตอนที่ 21)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 21

บทที่ ๙ - คลื่นใต้น้ำปะทุ

ในบทที่ ๗ ตอนปฏิบัติการที่ผิดจังหวะ ผมได้เขียนทิ้งท้ายไว้ถึง การปฏิวัติ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๔ หรือที่เรียกกันว่า กบฏ “ แมนฮัตตัน ” ทิ้งไว้เพียงนั้น แล้วมาต่อบทที่ ๙ ด้วยการสรุปเหตุการณ์และวิจัยออกมาถึงสาเหตุและเงื่อนไขของเหตุปฏิวัติในแต่ละครั้งคราวของความวุ่นวายว่ามีอะไร และเกิดจากอะไรในแต่ละครั้งคราวนั้น ๆ ไว้แล้ว เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้วินิจฉัยเอาเองแต่ละเหตุการณ์ให้ได้อ่านบทต่อ ๆ ไปด้วยวิจารณญาณของตัวเอง

ท่านผู้อ่านบางท่านอาจมีอายุไม่ทันพบเหตุการณ์ที่แล้ว ๆ มา เรียกง่าย ๆ ว่า ยังเกิดไม่ทัน ก็จะได้ใช้ความรู้ซึ่งสรุปไว้ในบทที่แล้วมานั้น มาพิจารณาเหตุการณ์ที่จะเกิดต่อไปได้ถูกต้อง

หลังจากเหตุการณ์วังหลวง หรือที่เรียกกันว่า กบฏวังหลวง เมื่อ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๒ ได้สงบราบคาบไปแล้ว ด้วยความกระจอกของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏ ดังที่เขียนมาให้อ่านกันแล้วนั้น ความสงบเงียบก็เกิดขึ้นอีกทั่ว ๆ ไป แต่ภายใต้ความสงบเงียบนั้น คลื่นใต้น้ำได้ก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ เหมือนกัน รอเวลาและจังหวะที่จะปะทุ ยิ่งก่อตัวอยู่นาน ๆ ความหนาแน่นของคลื่นลูกนั้นก็ย่อมหนาแน่นมากขึ้นตามกาลเวลา และจะปะทุขึ้นเองด้วยความกดดันของความแน่นหนาอัดดันของคลื่นลูกนั้น

หลังจากเรื่องกบฏวังหลวงเรียบร้อยลงแล้ว ฝ่ายรัฐบาลก็เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และเร่งรัดปรับปรุงกำลังและความพร้อมเพรียงของหน่วยระวังป้องกันทุกหน่วย ฝ่ายตำรวจโดยการนำของท่านอธิบดีเผ่า ศรียานนท์ ก็เพิ่มงบการบำรุงกำลังตำรวจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ตำรวจสมัยนั้นมีกำลังตำรวจตระเวนชายแดนเกิดขึ้นหลายกอง กองตำรวจตระเวนชายแดนนี้มีวัตถุประสงค์อันเป็นหลักใหญ่อยู่ที่เพื่อให้มีกำลังรบของประเทศอยู่ตามแนวชายแดนแทนกำลังทหาร ซึ่งตามข้อตกลงระหว่างประเทศว่าจะมีกำลังทหารอยู่ใกล้ชิดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านในระยะรัศมีไม่กี่กิโลเมตรไม่ได้ ระยะรัศมีที่ว่านี้มีระยะเท่าไร ผมจำไม่ได้ เอาเป็นว่าประมาณไม่เกินยี่สิบกิโลเมตรก็แล้วกัน ถ้าอยากได้ตัวเลขที่แน่นอน โปรดไปถามเอาที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่นั่นเขารู้ดี

ตำรวจตระเวนชายแดนนี้ก็ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยเหตุผลอันนี้ เพราะชายแดนของไทยนั้นมีระยะยาวมากจากเหนือจรดใต้ และตะวันออกจรดตะวันตก ถ้าเราจะปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นเขตปลอดทหารก็ย่อมไม่เป็นที่ไว้วางใจได้เป็นแน่ รัฐบาลให้งบป้องกันประเทศงบนี้มาอย่างเต็มใจในความคิดที่ถูกต้องของกรมตำรวจ

ตำรวจตระเวนชายแดนจึงเกิดขึ้นและเติบโตจนเป็นกองบัญชาการถึงบัดนี้

เมื่อมีหน่วยกำลังก็ต้องมีอาวุธใส่มือให้ อาวุธของหน่วยตำรวจตระเวนชายแดนนี้เป็นอาวุธที่ทันสมัยและมีอำนาจร้ายแรงกว่าอาวุธของหน่วยอื่น เพราะจะต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

อเมริกันสมัยนั้นกำลังหวั่นไหวต่อเหตุการณ์ทางภาคพื้นนี้อยู่ ก็ยินดีที่จะทุ่มเทอาวุธยุทธภัณฑ์ให้อย่างไม่หวง ฉะนั้น กำลังคนและอาวุธของตำรวจหน่วยนี้จึงมีมาก ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ ไม่เฉพาะแต่อาวุธ กำลังพลก็มีประสิทธิภาพเหนือหน่วยอื่น ๆ แม้แต่หน่วยทหารบางหน่วยเสียอีก

กำลังในสังกัดของกรมตำรวจสมัยนั้น มีกำลังหน่วยพลร่มที่ได้รับการฝึกหัดจากหน่วยช่วยเหลือของอเมริกันหลายหน่วย

อเมริกันเข้ามาตั้งหน่วยให้ความช่วยเหลืออยู่ใจกลางกรุงเทพ ฯ แต่เข้ามาในรูปบริษัทการค้า ทั้งยุทธปัจจัยและบำรุงกำลัง บริษัทนั้นตั้งชื่อว่า บริษัท ซีสัปพลาย เขียนเป็นภาษาฝรั่งว่า SEA Supply คำว่า SEA นั้นย่อมาจาก South East Asia หรือ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

วัตถุประสงค์หลักขององค์การนี้ก็เพื่อช่วยเหลือพันธมิตรด้านเอเชียอาคเนย์ แต่วัตถุประสงค์พลอยได้นอกระบบนั้นย่อมต้องมี เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ของอเมริกันในภูมิภาคนี้

อเมริกันให้ความช่วยเหลือทั้งทางทหารและตำรวจ ทางด้านทหารนั้นมีชื่ออีกต่างหากว่า หน่วยจัสแมค (JUSMAG) ย่อมาจากคำเต็มว่า Joint U.S. Military Adviser Group เป็นที่ปรึกษาทางการทหารไป ประเทศไทยได้มีหน่วยพลร่มทางทหารในสมัยนั้น

หน่วยทหารพลร่มนี้เป็นหน่วยพลรบพิเศษ ทำการรบได้ในทุกสภาพและพื้นที่ซึ่งเป็นหน่วยรบที่ทันสมัย

ในสมัยสงคราม โลกครั้งที่สอง อเมริกันได้ใช้ทหารหน่วยนี้เข้าจู่โจมกรุงเบอร์ลินที่เยอรมันยึดเอาเป็นที่มั่นสุดท้ายอย่างเหนียวแน่นไว้ได้ เป็นการเผด็จศึกขั้นสุดท้ายจนเยอรมันต้องยอมแพ้ กำลังทหารหน่วยนี้มีความสำคัญมากกว่ากำลังทหารหน่วยอื่น เพราะนอกจากจะใช้ในการจู่โจมได้ผลแล้ว ยังมีอำนาจในการยึดพื้นที่ได้อีกด้วย แต่จะมีความสำคัญมากมายอย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องพึ่งกำลังทหารราบอยู่ดี เพราะถ้าไม่ได้กำลังทหารราบบนพื้นดินช่วยเครียร์พื้นที่ภาคพื้นดินให้ขณะที่ลอยตัวลงมาจากอากาศแล้ว ก็จะยุ่งเหมือนกัน เพราะกว่าจะร่อนลงมาเหยียบพื้นดินได้นั้น ถ้าถูกสอยลงมาเสียก่อนก็ไม่ได้ใช้เท้าแตะพื้นดินแน่

ยังไง – ยังไง ความสำคัญของทหารราบย่อมต้องเป็นหนึ่งอยู่เสมอในการรบ

ตำรวจสมัยอธิบดีเผ่า ฯ มีทั้งกำลังหน่วยตำรวจร่มและหน่วยตำรวจรถเกราะ อเมริกันส่งกำลังบำรุงด้านนี้มาให้อย่างไม่อั้น นอกเหนือจากงบประมาณที่ได้รับจากรัฐบาล ตำรวจตระเวนชายแดนนั้นก็มีรถเกราะทั้งเล็กและใหญ่ ไปประจำอยู่ด้วยทั่วทุกภาค เรียกกันว่าเป็นกองทัพตำรวจได้ทีเดียว นอกจากจะต้องมีหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรม ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัดเป็นหน้าที่หลักแล้ว กรมตำรวจสมัยนั้นยังต้องมีหน้าที่ระวังป้องกันศัตรูทางชายแดนที่กำลังฝ่ายทหารเข้าไปไม่ได้อีกด้วย มีกำลังพลเป็นหมื่นเป็นแสนทั่วประเทศ เรียกว่ากองทัพตำรวจได้เต็มปาก

ผมเขียนถึงความเป็นมาของกำลังฝ่ายตำรวจให้ทราบก็เพื่อจะให้ท่านผู้อ่านได้มีความเข้าใจก่อนที่จะอ่านต่อไป เพราะผมจะต้องใช้อาวุธและหน่วยรถเกราะออกทำงานในการปราบปรามกบฏแมนฮัตตันครั้งนั้น เดี๋ยวจะไม่เข้าใจว่า อยู่ ๆ ไปเอารถเกราะมาจากไหน ตอนกบฏวังหลวงยังไม่เห็นมี

เอาละ เริ่มเข้าเหตุการณ์กันได้เสียทีครับ

วันเกิดเรื่อง ผมกำลังเล่นกอล์ฟอยู่ที่สโมสรกอล์ฟดุสิตกับพรรคพวกหลายคน ผมไปเล่นกอล์ฟที่นั่นเป็นประจำยามว่างงาน ห่างเหินสโมสรสหมิตรไปเลย

ไอ้เกมกอล์ฟนี่ใครเล่นเป็นแล้วมักจะติดมัน ถึงเวลาแล้วไม่ได้เล่นมันจะลงแดงเอาจริง ๆ ครับ ไม่เชื่อลองไปถามบรรดานักกอล์ฟดู จะได้คำตอบตรงกัน ยิ่งสมัยนี้เขาเล่นกันเป็นการพนันได้เสียกันรอบละเป็นหมื่น ๆ บาทด้วยแล้ว ลูกติดพันมันยิ่งมีมากขึ้น สมัยผมเล่นนั้น รอบละร้อยสองร้อยก็แพงแล้ว

ผมกำลังอยู่ในลูกติดพัน และวันนั้นผมก็ตีดีเป็นพิเศษ หลุมที่ ๑ ตีเข้ามาได้พาร์ หลุมที่ ๒ สมัยนั้นเป็นหลุมสั้นข้ามน้ำ หลุมที่ ๓ ผมทำเบอร์ดี้ ขึ้นทีออฟหลุมที่ ๓ ผมไดรฟ์มาไกล ขึ้นกรีนด้วยไม้เหล็กอย่างสวยงาม ขึ้นมายิงเบอร์ดี้ระยะไม่ถึงคันธง เป็นวันที่ผมเองก็แปลกใจตัวเองว่า ทำไมวันนี้มันถึงได้ฟิตนัก

ผมกำลังเดินขึ้นบนกรีน ดึงไม้พัดออกจากถุง ไอ้ช่วย – คนรถของผม วิ่งหน้าตาตื่นข้ามสะพานข้ามคูมาที่กรีน ผมกำลังตั้งท่าจะพัดลูกอยู่พอดี ผมไม่ได้เงยหน้าดูมัน รอว่าพัดเสร็จถึงจะฟังมันพูด

“ สารวัตรครับ ” มันขึ้นมาอยู่ข้าง ๆ ผมแล้ว พูดเสียงตื่นเต้น “ จอมพล ป. ถูกจับแล้วครับ ”

ผมเงยหน้าขึ้นมองดูมัน

“ ท่านจอมพล ป. ถูกทหารเรือจับไปแล้วครับ ” มันย้ำเสียงตื่น ๆ อีก

ผมก้มลงพัดลูกต่อ มันลงเบอร์ดี้ไปอย่างสวยงาม ผมส่งพัตเตอร์ให้เด็กแคดดี้ หันไปพูดกับพรรคพวกร่วมก๊วน

“ ฝากไว้ก่อนนะ วันหลังค่อยมาต่อ ”

“ ต่อเต่ออะไร ” เสียงดังออกมาพร้อม ๆ กันหลายปาก “ เล่นไม่จบ จะมาคิดได้ยังไง ”

ผมไม่หยุดเถียงกับพวกนั้น เวรจริง ๆ พอจะตีดี รับทรัพย์สักวันก็มามีเรื่องจนได้

ผมออกจากสโมสรด่วนจี๋ กลับไปบ้านก่อน เพราะจะต้องไปแต่งเครื่องแบบ วันนั้นผมก็ไม่ได้เอาเครื่องแบบใส่รถมาด้วยเสียอีก บ้านพักของผมตอนนั้นอยู่ในบริเวณกองปราบสามยอด บึ่งรถไปเดี๋ยวเดียวผมก็กลับมาถึงวังปารุสกวัน อันเป็นที่ทำงานของเจ้านายได้ทันการ

รถผมมาถึงหน้าวังปารุส ฯ ก็เห็นเจ้านายยืนหน้าไม่ดีอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าแล้ว ผมยัดแขนเข้าไปในเสื้อเครื่องแบบพลางเดินก้าวยาว ๆ เข้าไปหา ก็พอดีรถคันหนึ่งปาดหน้าผมไปจอดตรงหน้านาย อรรณพซึ่งเป็นสารวัตรอยู่โรงพักบางรัก โดดลงจากรถแต่งเครื่องแบบครบ วิ่งเข้าไปหาเจ้านาย ยกมือตะเบ๊ะจะรายงาน

มือขวาของเจ้านายสลัดพั้วะ เข้าที่หน้าอรรณพ เจ้าตัวเซไป

“ ไอ้บ้า มาทำไม กลับไปรักษาโรงพักของมึงไว้ให้ดี ”

พ่ออรรณพเลยไม่ทันได้รายงาน ยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น มาดี ๆ แท้ ๆ

“ ไปซี ” เสียงคำรามดังลั่นมาอีก นัยน์ตาถลน

ผมหยุดชะงักอยู่กับที่ ยืนแต่งตัวให้เรียบร้อยอยู่ห่าง ๆ พ่ออรรณพหันกลับขึ้นรถ เลี้ยวรถออกไปจากที่นั่น คงกลับไปโรงพัก ผมเฮงไป ถ้าเข้าไปถึงก่อนก็คงจะโดนลูกตบลูกนั้น

“ เฮ้ย เป็นยังไงมั่งวะ ” ท่านตะโกนถามมาที่ผมซึ่งยังยืนอยู่ห่าง ๆ
“ ทางกองมึงเตรียมกำลังพร้อมหรือยัง ”

ผมก้าวเข้าไปใกล้อีกหน่อย แต่ให้พ้นระยะมือ

“ พร้อมครับ ผมมารับคำสั่งปฏิบัติ ” ผมบอก ไม่เข้าใกล้

“ เออ ดี มึงอยู่กับกู ไม่ต้องไปไหน ไอ้อ้วน กูให้ไปยึดโรงไฟฟ้าคืนแล้ว ” ท่านพูด เสียงดีขึ้น

“ ไอ้อ้วน ” ก็คือ ร.ต.อ. พันศักดิ์ วิเศษภักดี เพื่อนร่วมรุ่นผมคนนั้น

ผมมารู้ที่นั่นว่า ทางทหารเรือได้ส่งกำลังไปยึดโรงไฟฟ้าที่วัดเลียบไว้ เป็นกำลังอีกส่วนหนึ่งที่เป็นของใครก็ยังไม่รู้ ทหารเรือที่เข้ามาทำงานครั้งนั้นคงจะเป็นกำลังนาวิกโยธินทางฝั่งธนบุรี เพราะทางฝั่งธนบุรีนั้นมีกำลังนาวิกโยธินอยู่สองกองพัน คือกองพันนาวิกโยธินที่ ๓ และที่ ๔ อยู่แถว ๆ บางยี่เรือ และที่โรงพักบางยี่เรือก็ถูกทหารเรือเข้ายึดไว้แล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าสถานีตำรวจทางด้านฝั่งธน ฯ อีกหลายสถานีต้องถูกยึดด้วย

นายทหารเรือที่เข้าจับจอมพล ป. นั้น มียศ นาวาตรี เขาชื่อ มนัส จารุภา




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
3 comments
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 2:14:33 น.
Counter : 1134 Pageviews.

 

อ่าน 2 ตอนรวด..ไม่รู้คืนนี้จะมีอีกตอนหรือเปล่า..

แต่ต้องขอพักก่อน..ไม่ไหวแล้ว....

จะติดตามอ่านต่อไป.....ขอบคุณมาก..

 

โดย: ก้นกะลา 11 พฤษภาคม 2553 2:50:03 น.  

 

ติดตามอ่านอยู่คับ มีประโยชน์แล้วข้อเท็จจริงในอีกมุมมองนึง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน

 

โดย: เอ IP: 125.25.173.28 11 พฤษภาคม 2553 18:31:48 น.  

 

สวัสดีต่ะ คุณเอ
ยินดีทีได้รู้จักค่ะ
ยินดีที่ได้เพื่อนใหม่ทุกครั้งเลย

ลองคลิ๊ตไปอ่าน เรื่อง "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" ดูนะคะ

สำหรับ คุณก้นกะลา
ดีใจที่ไม่ทิ้งกันไปไหนค่ะ

 

โดย: ธารน้อย 12 พฤษภาคม 2553 20:35:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.