จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 42)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 42

สั่งคุมตัว สฤษดิ์ ฯ

วันหนึ่ง ผมถูกเรียกตัวให้เข้าพบท่านอธิบดี เผ่า ฯ ที่วังปารุสกวัน ในยามเย็น เข้าใต้เข้าไฟจวนพลบ ผมไปถึงเอาค่ำพอดี ท่านอธิบดีสั่งให้ผมไปเชิญตัวท่านพลเอก สฤษดิ์ ฯ มาพบ ให้มาตั้งวงกินเหล้ากันที่วังปารุสกวัน ผมรู้สึกมีอะไรผิดปกติในคำสั่งนั้น เพราะอยู่ ๆ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้ผมในเรื่องนี้ ให้ใครไปเชิญมาก็ได้ ทำไมต้องเป็นผม
ท่านสั่งกำชับด้วยว่า “ มึงต้องเอาตัวมันมาพร้อม ๆ กับมึง ”

ผมก็ชักจะรู้สึกว่ามันมีอะไรอยู่เบื้องหลัง ผมถามท่านอย่างไม่เกรงใจว่า “ ท่านให้ผมไปจับท่านแม่ทัพใช่ไหมครับ ”

ผมยังเรียกท่านพลเอกรองผู้บัญชาการ ฯ ว่า ท่านแม่ทัพด้วยความเคยชิน

“ มึงไปเอาตัวมันมาพบกูเดี๋ยวนี้ ” นั่นคือคำสั่ง “ คนอื่นก็ไม่ได้ ต้องมึง มึงกับมันสนิทกันดีไม่ใช่หรือ ”

ผมกับท่านพลเอก สฤษดิ์ ฯ เคยเผชิญหน้ากันมาแล้วในเหตุการณ์อันคับขันวันหนึ่งนานมาแล้ว เรื่องผู้หญิง ท่านได้แสดงความเป็นลูกผู้ชาย โดยถอยกำลังที่นำมาจะแย่งผู้หญิงคนนั้นกลับไป เมื่อผมซึ่งมีปืนอยู่เพียงกระบอกเดียว ทำความเข้าใจกับท่านอย่างลูกผู้ชายได้ ผมยังเคารพในความเป็นลูกผู้ชายของท่านมาตลอด เรื่องนั้นมันยาว ผมเคยเขียนไว้ ผมรอดมาได้เพราะความเป็นลูกผู้ชายของท่านอย่างไร

ผมต้องไปคุมตัวท่านรองผู้บัญชาการ ฯ มาตามคำสั่งให้ได้

ผมออกจากวังปารุสกวัน เลี้ยวรถเข้าไปในที่ตั้งกองทัพภาพที่ 1 ซึ่งอยู่ติด ๆ กับวังปารุสกวันนั่นเอง รถผมผ่านเข้าออกที่ตั้งกองทัพภาคที่ 1 ได้ นายทหารกองรักษาการณ์ที่นั่นจำรถผมได้ดี เพราะเข้าออกที่นั่นบ่อย ๆ เวลานายมีธุระปะปังอะไรกับท่านแม่ทัพก็ใช้ผมเข้าไป ผมนั่งรถไปคนเดียว เพราะผมมีแผนที่จะเชิญตัวท่านรองผู้บัญชาการ ฯ ไว้ในใจแล้ว ไม่ให้เฉลียวใจ

ผมขึ้นไปถึงข้างบน ก็พบกับท่านแม่ทัพนั่งอยู่กับนายทหารคนสนิท และมีนายทหารอื่นอีกสองสามคน กำลังพูดจาอะไรกันอยู่ ท่านหันมาเห็นผมก็ร้องตะโกนทัก

“ เฮ้ย พุฒ มาทำไมวะ ”

ผมเข้าไปโค้ง ยืนกุมเป้ากางเกง
“ ท่านอธิบดีให้มาเชิญท่านแม่ทัพไปกินเหล้าที่วังปารุสกวันครับ ”

ท่านแม่ทัพหัวเราะชอบใจ
“ มันครึ้มอะไรขึ้นมาวะ วันนี้ เออ เดี๋ยวอั๊วตามไป พูดธุระกับพวกนี้เขาหน่อยก่อน ”

ผมยืนอยู่ตรงนั้น พูดกับท่านว่า “ ผมอาศัยรถคนอื่นเขามาหาท่านครับ ไล่กลับไปแล้ว เจ้าของเขามีธุระจะใช้ ”

“ อ้าว แล้วจะกลับยังไงล่ะ ” ท่านแม่ทัพถาม

“ ผมไปกับท่านครับ ท่านยังไม่เสร็จธุระ ผมรอได้ครับ ”

ท่านแม่ทัพมองหน้าผมครู่หนึ่ง หน้าผมคงซื่อจนท่านเชื่อ ท่านพูดว่า “ เออ ถ้างั้นรอข้างนอกเดี๋ยว ”

ผมถอยออกมานั่งที่เก้าอี้ข้างนอกห้อง มีนายทหารคนสนิทของท่านเดินตามออกมาด้วย นั่งเป็นเพื่อน พร้อมทั้งยกแก้วน้ำที่กินแล้วครึ้ม ๆ มาให้แก้คอแห้งด้วยแก้วหนึ่ง

ผมนั่งคุยกับนายทหารคนสนิทของท่านคนนั้นครู่หนึ่ง ท่านแม่ทัพก็เดินออกมาจากข้างใน พยักหน้ากับผม
“ ไปโว้ย ไปได้แล้ว ”

ผมเดินตามท่านลงมาพร้อมกับนายทหารคนสนิทคนนั้น ไม่ได้มีนายทหารคนอื่นตามมาด้วย เป็นการไปพบกันฉันท์มิตรจริง ๆ

รถเลี้ยวเข้าวังปารุสกวัน จอดที่หน้าทางขึ้น ก็ลงรถเดินขึ้นชั้นบน ท่านแม่ทัพเดินนำหน้าอย่างว่องไว ขึ้นบันไดกัง ๆ พอถึงหน้าประตูเข้าห้อง ท่านอธิบดีก็ออกมาต้อนรับ จูงมือกันเข้าไปข้างใน พากันตรงไปที่เก้าอี้รับแขก หน้าโต๊ะทำงาน บนโต๊ะนั้นมีแต่ที่เขี่ยบุหรี่ และกระดาษเอกสารวางอยู่

“ เฮ้ย ” ท่านแม่ทัพอุทานออกมา “ ไหนล่ะวะเหล้า ยกออกมาเร็ว ๆ กูอยากแล้ว ”

ท่าน อ.ตร. หัวเราะ “ นั่งลงก่อนเหอะ ”

ท่านแม่ทัพหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะรับแขก หันไปมองรอบ ๆ

ข้างนอกห้อง มีตำรวจสี่ห้าคนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตัวนายทหารคนสนิทที่ติดตามท่านแม่ทัพมา นั่งอยู่ที่เก้าอี้โต๊ะรับแขกนอกห้อง มีนายตำรวจยืนคุมตัวอยู่ข้าง ๆ ลุกขยับตัวไม่ได้ ตัวผมเองนั้นเข้าไปยืนอยู่ข้างตัวท่านแม่ทัพ พร้อมที่จะปฏิบัติการถ้ามีการขัดขืน สักประเดี๋ยวเพื่อนผม พันศักดิ์ ก็เข้ามายืนข้างผมอีกคน ไม่รู้มันมายังไง

“ เฮ้ย ไอ้เผ่า มึงจะทำอะไรกู ” ท่านแม่ทัพถาม “ ไหนว่าจะเรียกมากินเหล้า ”

ท่าน อ.ตร. หัวเราะ “ ยังไม่ถึงเวลากินเหล้า คุยกันก่อน ”

ท่านแม่ทัพหันไปมองรอบ ๆ ตัวอีก จ้องตาผม ผมยิ้ม
“ มึงจับกูเรอะ ” ท่านหันไปทางท่านอธิบดี “ เอากะกูยังงี้เชียวเรอะ ”

ท่าน อ.ตร. หัวเราะร่วนทีนี้
“ นอนด้วยกันที่นี่สักคืนก่อน เดี๋ยวจะเอาเหล้าออกมากินกัน ”

ท่านแม่ทัพนั่งจ้องหน้าท่าน อ.ตร. ผู้เพื่อนสนิทอย่างค้นหาความจริงในใจ เห็นแต่เพื่อนนั่งหัวเราะเอา หัวเราะเอา ไม่รู้ชอบใจอะไร

ท่านแม่ทัพและรองผู้บัญชาการทหารบก จ้องหน้าเพื่อนอธิบดี อ.ตร. ตาเขม็ง พูดช้า ๆ ออกมาว่า

“ ไอ้เผ่า มึงจะเป็นตัวผู้บัญชาการทหารบกเอง กูก็ยอม ไม่ขัดขวางอะไรมึง ขอให้กูได้สนุกสนานของกูไปวัน ๆ ก็พอแล้ว กูไม่ทะเยอทะยานไปกว่านี้ ทำไมมึงต้องทำกับกูอย่างนี้ พูดกันดี ๆ ก็ได้ ”

ท่านอธิบดี ฯ ยังคงหัวเราะร่วน แล้วหันมาสั่งพวกผมที่ยืนคุมเชิงอยู่ในห้อง

“ พวกมึงออกไปคอยนอกห้องก่อน กูมีเรื่องจะคุยกับไอ้สฤษดิ์มัน ”

ผมกับพันศักดิ์ก็ออกมาจากห้อง มารวมอยู่กับพวกตำรวจที่คอยจับตาอยู่ข้างนอกห้อง ตัวนายทหารคนสนิทของท่านแม่ทัพนั้น นั่งนิ่ง ไม่แสดงท่าทีอะไรอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม

สักครู่ใหญ่ ๆ ท่านแม่ทัพก็เดินออกมาจากข้างใน หันไปพยักหน้ากับนายทหารคนสนิทนั้น
“ ไปโว้ย กลับ ”

พวกผมขยับเข้าไปหา ขวางทางลง คิดว่าจะต้องใช้กำลังกันแน่

ท่านอธิบดีเผ่า ฯ เดินออกมาหน้าประตู
“ เฮ้ย ปล่อยเขาไป กูพูดกันรู้เรื่องแล้ว ”

พวกผมก็ต้องถอย เปิดทางให้ท่านแม่ทัพกับนายทหารคนสนิทลงบันไดไป

ผมเข้าไปถึงตัวท่านอธิบดี
“ นี่ ท่านปล่อยเสือเข้าป่านะครับ ทีนี้ก็หาแผ่นดินอยู่กันเถอะ ”

ท่านอธิบดีฯ หัวเราะ “ เฮ่ย ไม่มีอะไรหรอกวะ กูพูดกับมันรู้เรื่องแล้ว ”

“ นั่นแหละครับ ที่ว่ารู้เรื่องอีกหน่อยมันจะไม่รู้เรื่อง ”

“ ไปเหอะ ” ท่านโบกมือไล่ “ พวกมึงกลับไปได้แล้ว ”

ผมกลับบ้านวันนั้นด้วยความไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนไปเชิญตัวท่านแม่ทัพมา ผมไม่กลัวเรื่องนั้น แต่ไม่สบายใจ เพราะวันหนึ่งจะต้องมีเรื่องยุ่ง ๆ มาให้แก้ไข ท่านแม่ทัพไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นด้วยง่าย ๆ ถึงแม้ท่านจะเป็นนักเลงเหล้าชนิดไม่ค่อยจะระวังตัวเท่าไหร่ แต่เมื่อโดนหมิ่นเชิงอย่างนี้ ลูกผู้ชายย่อมยอมไม่ได้ นี่แสดงให้เห็นว่า จะต้องเกิดความระแวงแคลงใจกันขึ้นแล้ว

โบราณท่านว่าไว้ ตีงูข้างหางนั้นอันตราย คำกล่าวนั้นย่อมเป็นคำกล่าวที่เชื่อถือได้

ผมเดาเอาว่า ต้นเรื่องนี้ต้องมาจากท่านจอมพล ป. ตามนโยบาย
“ แบ่งแยก แล้วปกครอง ” ของท่านแน่ ๆ

ผมว่าผมเดาไม่ผิด ท่านจอมพล ป. เริ่มแผนการของท่านแล้ววันนั้น

ผมเอาความคิดนี้ไปนั่งคิด นอนคิด ก็ยิ่งเห็นอนาคตของความยุ่งยากได้ชัดเจน ขณะนั้น ผมมีตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการตำรวจสันติบาลฝ่ายต่างประเทศอยู่ ตัวรองผู้บังคับการฝ่ายในประเทศคือ พันตำรวจเอก อรรณพ พุกประยูร

หน้าที่การงานของผมไม่ได้อยู่แต่เฉพาะในกองตำรวจสันติบาล เมื่อท่านพลตำรวจเอก เผ่า ฯ วางแผนงานขยายออกไปอีก ก็ได้ตั้งกรมประมวลราชการแผ่นดินขึ้น ตัวท่านเองเป็นอธิบดีกรมนี้ กรมนี้ไม่มีรองอธิบดี รองลงมาก็เป็นหัวหน้ากองเลย ซึ่งมีอยู่สามกองด้วยกัน แล้วขยายออกมาเป็นห้ากอง ผมต้องไปเป็นหัวหน้ากองในกรมนี้กองหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นกองที่เท่าไหร่ จำได้แต่ว่าเป็นกองที่มีหน้าที่ในการหาข่าวทางการเมืองทั้งในและนอกประเทศ และติดต่อกับการควบคุมความเคลื่อนไหวของสถานทูตต่างประเทศทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย

ก็หน้าที่ Counter Intelligence ติดตามข่าว และขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการข่าวของฝ่ายตรงกับข้ามดี ๆ นั่นเอง

ผมเรียนรู้เรื่องนี้มาแล้วอย่างละเอียดจากอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีหน่วยงานที่เชี่ยวชาญในทางนี้อยู่ และเป็นหน่วยงานแม่บทของวงการนี้ทั่ว ๆ ไป อังกฤษมีความชำนาญในงานประเภทนี้มาก ในเรื่องการใช้คน อังกฤษเป็นประเทศที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือในทางจารกรรม เพราะไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในเรื่องนี้ จึงต้องฝึกคนขึ้นมาเพื่องานนี้ ผิดกับอเมริกันที่จะใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนมาก เพราะมีเงินมากพอที่จะเหวี่ยงทิ้งกับงานประเภทนี้

อเมริกันมีหน่วยสืบราชการลับอยู่ทั่วไปในประเทศต่าง ๆ ที่มีสถานทูตตั้งอยู่ ในเมืองไทยนั้นไม่มีปัญหา อเมริกันมีทั้งหน่วยในสถานทูต และหน่วยนอกสถานทูตเกลื่อนไปหมด ในรูปกิจการต่าง ๆ กัน

ผมมีรายละเอียดของสถานที่เหล่านี้ของอเมริกันอยู่ในมือหมด เพราะมันเป็นงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของผม ผมติดตามการทำงานของหน่วยอเมริกันนี้ตลอดมา โดยฝ่ายนั้นคิดว่าเราตามไม่ทัน ผมเคยปะทะกับเจ้าหน้าที่ของอเมริกันชนิดลำหักลำโค่นมาแล้ว จนมีเรื่องชนิดที่เกือบแตกหัก เมื่อผมเขียนถึงตอนนั้น คุณ ๆ จะได้อ่านกัน

มาว่ากันถึงเรื่องที่เกี่ยวกับท่านจอมพล ป. ผู้ที่ท่านอธิบดีเผ่า ฯ เทิดทูนนั่นเสียก่อน

หลังจากการวางแผนกวนน้ำให้ท่านแม่ทัพ สฤษดิ์ ฯ เกิดกินแหนงแคลงใจกับท่านอธิบดี เผ่า ฯ ครั้งนั้นแล้ว ก็ได้ผลตามที่ท่านจอมพล ป. ต้องการจริง ๆ




 

Create Date : 16 มีนาคม 2553
4 comments
Last Update : 16 มีนาคม 2553 2:04:03 น.
Counter : 1338 Pageviews.

 

ชอบจังเลย..เดี๋ยวจะหาเวลาอ่านให้หมด..

ขอบคุณ..จากใจจริง

 

โดย: ก้นกะลา 16 มีนาคม 2553 2:32:14 น.  

 

อ่านเเล้วติดใจจังเหมือนนั่งอยู่ในเหตุการณ์เเหม ท่านอัศวินผู้นี้ไม่ได้โหดเหมือนเคยอ่านนิตยสารที่เคยเเต่งมานี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ต้องขอโทษท่าน ธารน้อยด้วยครับที่เเสดงความคิดเห็นที่ไม่สมควรต่อท่าน ผมติดตามอ่านทุกวันครับ รู้สึกท่านจะเป็นคนที่ใจดีนะครับ

 

โดย: ศรชัย IP: 112.142.62.250 16 มีนาคม 2553 8:08:45 น.  

 

คุณพ่อเป็นคนน่ารักมากค่ะ หล่อ แต่เด็ดขาด
และไม่เคยโกงใคร
สมัยหนุ่ม ๆ มีสาว ๆ ติดตรึมเลย
สอนลูก ๆ เสมอว่า ให้เอาความถูกต้องมาก่อนความถูกใจเสมอ

He is my hero.

ส่วนคุณแม่ เป็นสุดยอดของความอดทน
จึงเป็นแบบอย่างให้ลูก ๆ เช่นกัน ว่า
ชีวิตคือความอดทน อดกลั้น
เพราะชีวิตของคุณแม่เจออะไร ๆ มากมาย จากการเป็นภริยาของตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งต้องมีความอดทนสูงมาก
She is also my hero.

 

โดย: ธารน้อย 17 มีนาคม 2553 4:14:51 น.  

 

คุณก้นกะลา
ขอบคุณที่มาเยือนค่ะ
และหวังว่า คงจะชอบทุกเรื่องนะคะ

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

 

โดย: ธารน้อย 17 มีนาคม 2553 4:17:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.