การออกกำลังกายในน้ำ สำหรับสตรีตั้งครรภ์
“ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า การออกกำลังกายสำหรับคนท้องนั้น ปลอดภัย และจะช่วยให้ป้องกันภาวะตึงปวดระหว่างครรภ์ และ ทำให้คลอดง่ายขึ้น ดังนั้นหากท่านไม่ใช่เป็นผู้ที่เคยเกิดปัญหาในระหว่างการตั้งครรภ์ ควรพิจารณาการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ เป็นกิจกรรมที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ควรออกกำลังกายในท่าก้มมากไป ไม่หนักไป การออกกำลังกายในน้ำก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีในระหว่างตั้งครรภ์”
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย • สุขภาพจิตดี • การไหลเวียนเลือดส่วนต่างๆ ดีขึ้น • ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดต่างๆ • มีสติในการรับรู้ต่ออารมณ์ • ช่วยลดอาการปวดหลัง การเป็นตะคริว • สดชื่นเบิกบาน เนื่องจากการออกกำลังกายจะมีการหลั่งสาร endorphin สารendorphin ผ่านไปยังลูกน้อยทำให้สดชื่นมีความสุขตั้งแต่อยู่ในครรภ์ • ช่วยเผาผลาญอาหารส่วนเกิน ระบบการย่อยอาหารดี การขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก • ร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการคลอดและมักจะคลอดง่าย • การสูบฉีดเลือดได้เต็มทั่วร่างกาย ลูกน้อยก็จะเจริญได้เต็มที่ • เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพ ทักษะการรับรู้และการเคลื่อนไหวได้ เพื่อช่วยในขณะคลอด • การถ่ายเทออกซิเจนดีขึ้น ลูกในครรภ์ได้รับออกซิเจนมากขึ้น
การเตรียมตัวในการออกกำลังกาย • เสื้อผ้ายืดหยุ่นดี ขนาดพอดีตัว ไม่หลวมมากเพราะจะทำให้เกิดแรงหนืดจากน้ำ • สระน้ำต้องมีอุณหภูมิของน้ำอุ่นพอสมควร • สระ สะอาด พื้นรอบสระไม่ลื่น อากาศถ่ายเทได้สะดวก • ควรออกกำลังกายหลังรับประทาน 2-3 ชั่วโมง • การฝึกแต่ละท่าควรทำตามขีดความสามารถของตนเอง • ใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 40 นาที ต่อ ครั้ง • ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
วิธีการการออกกำลังกายควรเป็นรูปแบบของการออกกำลังแบบแอโรบิคในน้ำ เช่น 1. การเดินหรือการวิ่งเหยาะๆในน้ำ ความลึกของน้ำอาจจะระดับเอวหรือระดับหน้าอก 2. การเต้น Aerobic ในน้ำ (Water aerobics) สามารถทำให้หัวใจแข็งแรง 3. การสร้างกำลังของกล้ามเนื้อ (Water toning/strengthening training) โดยการเคลื่อนไหวร่างกายต้านกระแสน้ำ หรือใช้อุปกรณ์เพิ่มเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น 4. การฝึกการเคลื่อนไหวของข้อ (Flexibility training) เพื่อให้ข้อได้เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ 5. การว่ายน้ำ เป็นต้น
ในการฝึกออกกำลังกายในน้ำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ เวลาจำกัดไม่เกิน 40 นาที และมีการพักระหว่างการฝึก อาจใช้เวลารวมแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมงมิฉะนั้นร่างกายจะเพลียจากการแช่ในน้ำอุ่นเป็นเวลานาน หรือหากเป็นสระน้ำปกติทั่วไปก็นานทำให้ร่างกายซีดหนาวสั่นได้ ควรระวังเมื่อขึ้นจากสระน้ำ ร่างกายต้องอบอุ่นเสมอ โปรแกรมการฝึกควรกำหนดไว้และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลของการกระทำ ในกรณีที่ทำการฝึกใหม่ๆ ควรมีสามี หรือพี่เลี้ยงที่คอยดูแลมาร่วมสังเกตการณ์หรือลงปฏิบัติด้วยกัน เป็นผู้ช่วยได้ตามความสามารถระดับหนึ่ง นักกายภาพบำบัดจะแนะนำ ให้สามารถฝึกฝนเอง ความตั้งใจและสมาธิของ แต่ละท่าน รวมทั้งการตรวจประเมินสภาวะของผู้ที่อาจมีปัญหา ระหว่างการออกกำลังกายและประสบการณ์ของนักกายภาพบำบัด จะช่วยการวางแผนการฝึกได้อย่างเหมาะสมและดีที่สุดในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์
ด้วยความปรารถนาดีจาก โรงพยาบาลสมิติเวช //www.samitivejhospitals.com/allhealth_article_detail.aspx?lid=1&id=69
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2553 10:49:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1775 Pageviews. |
|
|