|
|
มาบำบัดจิตใจและร่างกายด้วยน้ำกันเถอะ
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและ กายภาพบำบัด รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้บริการประเมินและฟื้นฟูสมรรถภาพให้กับผู้ป่วยทางระบบกระดูก กล้ามเนื้อ และข้อ นักกีฬาที่บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ผู้ที่มีปัญหาเวียนศีรษะ เครียด รวมทั้งผู้ที่มีภาวะร่างกายเสื่อมสมรรถภาพจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย เรื้อรัง ด้วยกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดต่างๆ อย่างครบวงจรโดยทีมแพทย์ที่ผ่านการอบรม สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟูพร้อมทีมนักกายภาพ และทีมนักกิจกรรมบำบัดวิชาชีพที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับสู่สภาพปกติหรือใกล้เคียงสภาพปกติมากที่สุด รวมทั้งป้องกันการกลับเป็นซ้ำเพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมการกระตุ้นพัฒนาการสำหรับเด็กออทิสติก ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางด้านการพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัด เล็ก การตัดรองเท้าและบริการกายอุปกรณ์เทียมโดยผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูฯ ที่ดีที่สุดของประเทศไทย พร้อมเปิดบริการธาราบำบัดซึ่งเป็นบริการใหม่ที่ช่วยฟื้นฟูให้ผู้ที่มีอาการ ปวดเข่ามีอาการดีขึ้น รวมถึงการขยายพื้นที่ให้บริการให้รองรับการบริการได้มากขึ้น อาทิ ห้อง Treatment จาก 6 ห้องเป็น 10 ห้อง เตียงสำหรับออกกำลังกายจาก 5 เตียงเป็น 12 เตียง และบรรยากาศการให้บริการที่ผ่อนคลายคล้าย Spa
ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เป็นศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูในระดับนานาชาติที่สามารถดุแลผู้ป่วยภายหลังจาก เกิดภาวะโรคต่าง ๆ ไม่ว่าภาวะหลอดเลือดในสมอง ภาวะหัวใจ ภาวะโรคทางกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมทั้งการสั่งกายอุปกรณ์เสริมเช่น รองเท้า เหล็กดาม หรือ กายอุปกรณ์เทียม ได้แก่ แขนและขาเทียม เป็นต้น
นอกจากด้านสถานที่ที่ให้บรรยากาศในขณะการรักษาที่เหมาะสม แยกเป็นห้องส่วนตัว และพื้นที่กว้างขวางสำหรับการฝึกออกกำลังกาย ทางศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ยังมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการฝึกให้ท่านบรรลุเป้าหมายในการฝึกครบถ้วน และยังเป็นศูนย์แห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีสระแยกชาย หญิง และสระของเด็ก ซึ่งสามารถลงฝึกเป็นรายบุคลหรือ เป็นรายกลุ่มได้ ซึ่งพร้อมจะเปิดให้บริการได้ในกลางเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ ในอนาคต (ปลายปีนี้) ทางศูนย์ยังจะติดตั้งอุปกรณ์หุ่นยนต์ ควบคุมการเคลื่อนไหวของมือและของขาต่อไปตามลำดับ
ประเด็นที่สำคัญอีกประการนอกจากเรื่องของอุปกรณ์และเทคดนโลยี่แล้เว การรักษาด้านการฟื้นฟูซึ่งประกอบด้วย การประเมินทางการแพทย์ การรักษาทางกายภาพบำบัด การรักษาทางกิจกรรมบำบัดนั้น การรักษาโดยใช้เทคนิคที่เหมาะสมและปฏิบัติโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญก็มีความ สำคัญ เท่า ๆ กันในการที่จะให้ผู้ป่วยบรรลุเป้าหมายในการรักษาได้
การให้คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในกระบวนการรักษา โดยทั่วไปนักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัด จะให้คำแนะนำในการดูแล การฝึกที่บ้าน โดยเราได้มีการเตรียมเอกสารต่าง ๆ สำหรับการฝึกฝนที่บ้านไว้ให้ และ อาจจะนัดมาฝึกที่ศูนย์ตามภาวะของโรคที่เหมาะสมต่อไป สำหรับการให้บริการในการไปฝึกผู้ป่วยที่บ้านนั้น ทางศูนย์ก็จะพิจารณาดำเนินการประสานให้เป็นรายๆ ไป
QUOTE for exercise in pregnancy
“ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่า การออกกำลังกายสำหรับคนท้องนั้น ปลอดภัย และจะช่วยให้ป้องกันภาวะตึงปวดระหว่างครรภ์ และ ทำให้คลอดง่ายขึ้น ดังนั้นหากท่านไม่ใช่เป็นผู้ที่เคยเกิดปัญหาในระหว่างการตั้งครรภ์ ควรพิจารณาการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ เป็นกิจกรรมที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ควรออกกำลังกายในท่าก้มมากไป ไม่หนักไป การออกกำลังกายในน้ำก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีในระหว่างตั้งครรภ์”
การออกกำลังกายในน้ำ สำหรับสตรีตั้งครรภ์
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย • สุขภาพจิตดี • การไหลเวียนเลือดส่วนต่างๆ ดีขึ้น • ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดต่างๆ • มีสติในการรับรู้ต่ออารมณ์ • ช่วยลดอาการปวดหลัง การเป็นตะคริว • สดชื่นเบิกบาน เนื่องจากการออกกำลังกายจะมีการหลั่งสาร endorphin สารendorphin ผ่านไปยังลูกน้อยทำให้สดชื่นมีความสุขตั้งแต่อยู่ในครรภ์ • ช่วยเผาผลาญอาหารส่วนเกิน ระบบการย่อยอาหารดี การขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก • ร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการคลอดและมักจะคลอดง่าย • การสูบฉีดเลือดได้เต็มทั่วร่างกาย ลูกน้อยก็จะเจริญได้เต็มที่ • เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพ ทักษะการรับรู้และการเคลื่อนไหวได้ เพื่อช่วยในขณะคลอด • การถ่ายเทออกซิเจนดีขึ้น ลูกในครรภ์ได้รับออกซิเจนมากขึ้น
การเตรียมตัวในการออกกำลังกาย • เสื้อผ้ายืดหยุ่นดี ขนาดพอดีตัว ไม่หลวมมากเพราะจะทำให้เกิดแรงหนืดจากน้ำ • สระน้ำต้องมีอุณหภูมิของน้ำอุ่นพอสมควร • สระ สะอาด พื้นรอบสระไม่ลื่น อากาศถ่ายเทได้สะดวก • ควรออกกำลังกายหลังรับประทาน 2-3 ชั่วโมง • การฝึกแต่ละท่าควรทำตามขีดความสามารถของตนเอง • ใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 40 นาที ต่อ ครั้ง • ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
วิธีการการออกกำลังกายควรเป็นรูปแบบของการออกกำลังแบบแอโรบิคใน น้ำ เช่น 1. การเดินหรือการวิ่งเหยาะๆในน้ำ ความลึกของน้ำอาจจะระดับเอวหรือระดับหน้าอก 2. การเต้น Aerobic ในน้ำ (Water aerobics) สามารถทำให้หัวใจแข็งแรง 3. การสร้างกำลังของกล้ามเนื้อ (Water toning/strengthening training) โดยการเคลื่อนไหวร่างกายต้านกระแสน้ำหรือใช้อุปกรณ์เพิ่มเพื่อสร้างกล้าม เนื้อและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น 4. การฝึกการเคลื่อนไหวของข้อ (Flexibility training) เพื่อให้ข้อได้เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ 5. การว่ายน้ำ เป็นต้น
ในการฝึกออกกำลังกายในน้ำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ เวลาจำกัดไม่เกิน 40 นาที และมีการพักระหว่างการฝึก อาจใช้เวลารวมแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมงมิฉะนั้นร่างกายจะเพลียจากการแช่ในน้ำอุ่นเป็นเวลานาน หรือหากเป็นสระน้ำปกติทั่วไปก็นานทำให้ร่างกายซีดหนาวสั่นได้ ควรระวังเมื่อขึ้นจากสระน้ำ ร่างกายต้องอบอุ่นเสมอโปรแกรมการฝึกควรกำหนดไว้และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลของการกระทำ ในกรณีที่ทำการฝึกใหม่ๆ ควรมีสามี หรือพี่เลี้ยงที่คอยดูแลมาร่วมสังเกตการณ์หรือลงปฏิบัติด้วยกัน เป็นผู้ช่วยได้ตามความสามารถระดับหนึ่ง นักกายภาพบำบัดจะแนะนำ ให้สามารถฝึกฝนเอง ความตั้งใจและสมาธิของ แต่ละท่าน รวมทั้งการตรวจประเมินสภาวะของผู้ที่อาจมีปัญหา ระหว่างการออกกำลังกายและประสบการณ์ของนักกายภาพบำบัดจะช่วยการวางแผนการฝึก ได้อย่างเหมาะสมและดีที่สุดในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์ สนใจสอบถามรายละเอียด ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและ กายภาพบำบัด โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ชั้น 2 อาคาร 1 Tel. 0 2711 8181
Source: //www.samitivejhospitals.com/allhealth_article_detail.aspx?id=246
Create Date : 19 มีนาคม 2553 |
Last Update : 19 มีนาคม 2553 12:35:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2365 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|