ระบบนำร่องในการค้นหามะเร็งปอดโดยใช้อัลตราซาวนด์
ศูนย์ระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ได้นำเครื่อง Endobronchial Ultrasonography with Guide Sheath (EBUS-GS) ซึ่งจากการทำวิจัยในโรงพยาบาล สมิติเวช พบว่า ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ ช่วยให้ตรวจพบมะเร็งปอดในระยะแรกได้ผลสูงถึง 87.5% (ตีพิมพ์ใน EUROPEAN LUNG CANCER CONFERENCE)
เครื่องดังกล่าวเป็นระบบนำร่องในการค้นหามะเร็งปอด โดยใช้อัลตราซาวนด์ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการส่องกล้องตรวจปอดและหลอดลม ริเริ่มพัฒนาขึ้นมาจากกล้องส่องตรวจปอดและหลอดลม มีความทันสมัยและสามารถวิเคราะห์โรคมะเร็งปอดในระยะแรกได้รวดเร็ว ปลอดภัยและแม่นยำที่สุดในปัจจุบัน
ก่อนการส่องกล้อง ผู้ป่วยจะได้รับยาชาบริเวณเยื่อจมูก คอ และหลอดลม หรืออาจให้ยาเพื่อให้หลับและผ่อนคลาย หลังจากนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือตรวจระบบอัลตราซาวนด์ขนาดเล็ก (Ultrasonic Miniature Probes; Miniprobe) ใส่เข้าไปในช่องของเครื่องมือของกล้องส่องตรวจปอดและหลอดลม ร่วมกับเครื่องประมวลภาพระบบคลื่นเสียงความถี่สูง ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้แพทย์สามารถใช้เครื่องมือเข้าไปในบริเวณแขนงหลอดลมในส่วนที่ลึกและเล็ก ช่วยแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยหาความผิดปกติ ซึ่งกล้องส่องตรวจปอดและหลอดลมธรรมดาไม่สามารถเข้าไปถึงได้ และเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจได้ทันที ซึ่งทำให้การส่องกล้องสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น การเกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการทำหัตถการดังกล่าว เช่น มีเลือดออกในหลอดลม, มีลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด พบได้น้อย เนื่องจาก
แพทย์ผู้ส่องกล้องมีความเชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องโดยเฉพาะ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อุปกรณ์ที่ใช้ทันสมัยด้วยขนาดที่เล็กและหุ้มด้วยปลอกหุ้ม ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อหลอดลม
ใช้เวลาน้อยเพียง 10-20 นาที
ทำหัตถการในห้องผ่าตัดซึ่งปลอดเชื้อและมีอุปกรณ์ที่ครบครัน
ทีมที่ช่วยแพทย์ในห้องผ่าตัดได้รับการอบรมโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ
หลังส่องกล้องผู้ป่วยจะได้รับการสังเกตอาการในห้องพักฟื้น 2 ชั่วโมง หากไม่พบภาวะแทรกซ้อนใด ๆ แพทย์จะตรวจเยี่ยมอาการอีกครั้งก่อนอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ ดังนั้นผู้ป่วยสามารถกลับบ้านภายในวันเดียวกัน
การเตรียมตัวเพื่อการทำ Endobronchial Ultrasonography with Guide Sheath
ต้องงดอาหารและน้ำดื่มก่อนการตรวจ 24 ชั่วโมง
บางกรณีอาจจะต้องมีการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยการนอนหลับและผ่อนคลาย
กรณีผู้ป่วยนอกควรมีผู้ติดตาม เพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างเดินทาง
ผู้ป่วยต้องแจ้งยาที่แพ้และยาที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบ บางกรณีจำเป็นต้องหยุดยาบางอย่างก่อนทำการตรวจ
การปฏิบัติตัวหลังการทำ Endobronchial Ultrasonography with Guide Sheath
ภายหลังทำการส่องกล้องตรวจจะยังคงมีอาการชาที่บริเวณคอ เนื่องจากฤทธิ์ของยาชา ควรรอให้คอหายชาประมาณ 1-2 ช.ม. แล้วจึงเริ่มจิบน้ำ ถ้าไม่สำลักให้รับประทานตามปกติ
ถ้ามียาที่รับประทานอยู่แล้ว ให้รับประทานยาได้ตามปกติ
อาจมีไข้หลังส่องกล้อง 12-24 ช.ม. ซึ่งมักจะหายไปเอง
อาจมีอาการเจ็บคอ เสียงแหบหลังส่องกล้องนาน 1-2 วัน
ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ ให้มาพบแพทย์ทันที
- ไอเป็นเลือดสดจำนวนมาก
- มีอาการแน่นหายใจไม่ออก หรือเหนื่อยมากขึ้น
- มีไข้สูงนานเกิน 24-48 ช.ม.
ลักษณะภาพที่ได้จากหัวตรวจอัลตราซาวด์
ลักษณะของหัวตรวจเมือใส่เข้าไปในช่องใส่เครื่องมือของกล้องส่องตรวจ
ลักษณะของการใช้ biopsy forceps ร่วมกับชุดอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยในแขนงหลอดลมปอด
Guide sheath kit
ลักษณะของภาพ ultrasound จากหัวตรวจ
(1) ภาพบนจอแสดงภาพเมื่อหัวตรวจไม่มีการทำงาน (ปลายหัวตรวจไม่หมุน หรือหมุนแต่ไม่ทำงาน)
(2) ลักษณะภาพบนจอแสดงภาพเมื่อ มีก้อนมะเร็งอยู่ภายใต้แขนงหลอดลมขนาดเล็ก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ศูนย์ระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
อาคาร 1 ชั้น 1 โทรศัพท์ 0-2711-8884-6
Create Date : 10 มีนาคม 2555 |
Last Update : 10 มีนาคม 2555 13:22:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2266 Pageviews. |
|
|