|
|
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ Endometriosis
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ Endometriosis
เป็นโรคที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูก ไปเจริญอยู่ที่อื่นนอกโพรงมดลูก เช่น รังไข่ ท่อรังไข่ เอ็นยึดมดลูก เยื่อบุช่องท้องในอุ้งเชิงกราน หรืออาจแทรกเข้าในกล้ามเนื้อมดลูกในลำไส้ หริที่ปอดซึ่งพบน้อยมาก เยื่อบุมดลูกที่เจริญผิดที่เหล่านี้จะมีการตอบสนองต่อการขึ้นลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน กับ โปรเจสเตอร์โรน เหมือนกับเยื่อบุโพรงมดลูกในมดลูก ซึ่งในแต่ละรอบเดือนเยื่อบุโพรงมดลูก จะหลุดลอกออกจากโพรงมดลูกเป็นประจำเดือน แต่เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญอยู่ผิดที่เมื่อหลุดลอกออกก็จะคงอยู่ในบริเวณนั้น ทำให้มีการคั่งค้างในเลือด เกิดการอักเสบและเกิดเป็นพังผืดตามมา รวมทั้งอาจเกิดเป็นชอคโกแลตซีสต์ที่รังไข่
สาเหตุ ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคนี้เกิดจากสาเหตุอะไร สมมุติฐานที่เชื่อกันมานาน คือเกิดจากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกพร้อมเลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับผ่านทางท่อรังไข่เข้าไปในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน ทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อีกสมมุติฐานหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ ร่วมกับมีภาวะบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย พบว่า อุบัติการณ์ของโรคจะพบสูงขึ้นถ้ามีประวัติในครอบครัวเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
อาการแสดง 1. ปวดประจำเดือน 2. ปวดท้องน้อยเรื้อรัง 3. มีความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ 4. ประจำเดือนมามากและนานผิดปกติ 5. ปวดขณะถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะระหว่างมีประจำเดือน 6. คลำได้ก้อนในช่องท้อง 7. ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดในกรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในลำไส้ 8. มีบุตรยาก
การวินิจฉัย 1. จากประวัติ และการตรวจภายในโดยสูติ-นรีแพทย์ 2. ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวด์) 3. MRI 4. ส่องกล้องลาปาโรสโคป 5. พบโรคนี้ขณะผ่าตัดช่องท้องด้วยสาเหตุอื่น 6. ตัดชิ้นเนื้อตรวจทางพยาธิ
การรักษา 1. ส่องกล้องลาปาโรสโคป เพื่อให้ได้การวินิจฉัยโรคที่แน่นอนและให้การรักษาโดยใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าจี้ทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่ สามารถตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิได้ โรคนี้อาจทำให้เกิดชอคโกแลตซีสต์ ซึ่งสามารถทำการรักษาโดยการตัดเลาะเอาชอคโกแลตซีสต์ออกโดยการผ่าตัดผ่านกล้องลาปาโรสโคป 2. การรักษาด้วยยา ยาที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ กลุ่ม GnRhA ( Gonadotrophin Releasing Hormone Agonist ) และกลุ่มฮอร์โมนอื่น 3. การผ่าตัดเอามดลูก และ รังไข่ออก ในรายที่อาการรุนแรงมากและไม่ต้องการมีบุตรอีก
ส่วนใหญ่โรคนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตก็จริง แต่อาการของโรคที่ปวดทรมานและเกิดขึ้นเป็นประจำจะมีผลเสียต่อสุขภาพกาย จิตใจ คุณภาพชีวิต และการงานได้
Create Date : 29 เมษายน 2555 |
Last Update : 29 เมษายน 2555 8:12:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1367 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
|