<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 สิงหาคม 2555
 
 
วิธีการต่าง ๆ ในการคุมกำเนิด

ความหมายของการคุมกำเนิด ก็คือการป้องกันไม่ให้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่มีการคุมกำเนิด ก็จะมีโอกาสที่คุณอาจจะมีการตั้งครรภ์ แม้กระทั่งเด็กที่ยังไม่เริ่มมีประจำเดือนหรือคนที่เริ่มเข้าใกล้สู่วัยหมดประจำเดือน ในแต่ละปี มีหญิงที่ตั้งครรภ์โดยที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าถึง 85 %

แน่นอนว่าทางที่มั่นใจได้มากที่สุดว่าจะไม่ตั้งครรภ์ ก็คือการไม่มีเพศสัมพันธ์ แต่สำหรับผู้ที่มีชีวิตคู่และมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังไม่ต้องการที่จะมีบุตร ก็จะต้องวางแผนในการคุมกำเนิด

ทางเลือกในการคุมกำเนิด มีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การใช้วิธีทางธรรมชาติ ไปจนถึงการใช้ยาคุมกำเนิด หรือการทำหมัน

เพื่อที่จะช่วยเลือกวิธีที่จะใช้คุมกำเนิดที่เหมาะกับคุณ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น lifestyle โรคประจำตัว ความชอบส่วนตัว บางคนอาจจะไม่ชอบที่ต้องทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน บางคนไม่ชอบที่จะต้องมีการใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดใส่ไว้ในร่างกาย บางคนต้องการที่จะคุมกำเนิดอย่างถาวร

แต่ละวิธีในการคุมกำเนิดมาการทำงานที่แตกต่างกันเช่น

  • ป้องกันไม่ให้ sperm ไปถึง ไข่ของฝ่ายหญิง
  • ทำลายเชื้อ sperm หรือทำให้ไม่สามารถทำงานได้
  • ป้องกันไม่ให้มีการตกไข่ในแต่ละเดือน
  • เปลี่ยนแปลงผิวของมดลูกเพื่อไม่ให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวเข้าไปได้
  • เปลี่ยนแปลงมูกให้หนาขึ้นทำให้ sperm ไม่สามารถว่ายผ่านไปได้

ทางเลือกในการคุมกำเนิด

แต่ละวิธีของการคุมกำเนิดจะมีข้อดี ข้อเสียอยู่ในตัวเอง คุณจะต้องค่อย ๆ เลือกดูว่าวิธีใดที่เหมาะกับคุณบ้าง 

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

  • การหลั่งภายนอก Coitus interruptus

วิธีนี้เป็นวิธีฝ่ายชายต้องเอาอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะมีการหลั่ง เป็นวิธีที่คุมกำเนิดด้วยการป้องกันไม่ให้ sperm ไปสัมผัสกับไข่ของฝ่ายหญิง

ประสิทธิภาพ พบว่าวิธีนี้มีอัตราการล้มเหลวในการคุมกำเนิดประมาณ 4%-19% ซึ่งถือว่าไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดการตั้งครรภ์โดยที่ไม่ได้วางแผนค่อนข้างสูง

ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ต้องมีอุปกรณ์ ไม่ต้องได้รับสารเคมีหรืฮอร์โมน

แต่ข้อเสียคือ เสี่ยงที่จะตั้งครรภ์สูง และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

  • การใช้วิธีธรรมชาติ Natural Family Planning

เป็นวิธีการที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอและมาตรงเวลา

  • การดูอาการและอุณหภูมิของร่างกาย วิธีนี้จะดูลักษณะมูกที่ตรวจพบคือเมื่อตรวจพบว่ามีมูกวันแรก คือวันที่ให้เริ่มงดการมีเพศสัมพันธ์ และตรวจดูอุณหภูมิของร่างกายในตอนเช้า โดยในช่วงครึ่งแรกของรอบเดือน อุณหภูมิของร่างกายจะค่อนข้างต่ำ และสูงขึ้นในช่วงหลังซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นประมาณ0.2-0.5 องศาหลังจากที่มีการตกไข่ได้ 1-2 วัน เมื่อผ่านไป 3 วันหลังจากอุณหภูมิขึ้น ก็จะสามารถเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้
  • การตรวจดูมูก ผู้หญิงสามารถตรวจดูได้ โดยถ้ามูกมีปริมาณมาก จากฮอร์โมนเอสโตรเจน จนกระทั่งกลางรอบเดือน ซึ่งจะเริ่มแห้งลง จากฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน เมื่อนับจากวันที่มีมูกมากที่สุดไปสี่วัน จะเป็นวันที่สามารถเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยดูอุณหภูมิร่างกายประกอบก็จะช่วยเพิ่มความแม่นยำขึ้นได้

ประสิทธิภาพ แต่บางการวิจัยเช่น FDA ในปี 2002 พบว่า มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น 20 % และสมาคมแพทย์สูตินรีเวชรายงานตัวเลขไว้ที่ 25% สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร ยังสามารถใช้วิธีนี้ในการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย โดยเลือกวันที่ตกไข่ได้แม่นยำขึ้น

การใช้อุปกรณ์ Barrier Devices

  • ถุงยางอนามัย

เป็นวิธีในการคุมกำเนิดวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยม นอกจากนั้นยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ เช่น AIDS หรือหนองใน ห้ามใช้ร่วมกับ Vaseline หรือ jelly หรือ lotion หรือน้ำมันอื่น ๆ เพราะจะลดประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยลง   

ประสิทธิภาพ อาจมีการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3 % หากใช้เป็นประจำและใช้อย่างถูกวิธี แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจจะเสี่ยงตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น 14% เนื่องจากบางคู่ ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง และอาจจะเกิดจากการฉีกขาดหรือรั่วของถุงยาง 

นอกจากอุปกรณ์ Barrier สำหรับผู้ชายแล้ว ยังมีสำหรับผู้หญิงด้วยแต่ในเมืองไทยไม่เป็นที่นิยมใช้

  • การใส่ห่วงคุมกำเนิด Intrauterine devices (IUDs)

เป็นการใส่อุปกรณ์รูปตัว T เข้าไปในมดลูก เป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัย และสามารถใช้งานได้นาน 5-10 ปี บางชนิดจะมีการฮอร์โมนอยู่ด้วย

ในอเมริกา มีการใช้ IUD ในการคุมกำเนิด ประมาณ 2 % อุปกรณ์นี้มี ชนิด คือ ชนิด copper และ ชนิดฮอร์โมน  ชนิด copper จะทำให้ sperm เสียความสามารถในการปฏิสนธิ ส่วนชนิดฮอร์โมน จะทำให้มีเยื่อเมือกที่หนาขึ้นจะ sperm ไม่สามารถผ่านไปได้

ประสิทธิภาพค่อนข้างดี คือข้อมูลจากสมาคมสูตินรีแพทย์สหรัฐพบว่ามีการตั้งครรภ์โดยวิธี IUD ชนิด copper นี้ 8 ใน 1000 คน และชนิด ฮอร์โมน พบเพียง 3 ใน 1000 คน ซึ่งอาจจะเกิดการเลือนหลุด หรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม

วิธีนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาฮอร์โมนในการคุมกำเนิด เนื่องจากเหตุผลทางสุขภาพเช่นเป็นความดันโลหิตสูง หรือมีโรคอื่น ๆ ทีเป็นข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด

การใช้ฮอร์โมนและ barrier ใช้มีประสิทธิภาพ จะต้องใช้ให้ถูกวิธี อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดอุบัติเหตุข้อผิดพลาดได้เสมอ ดังนั้น ควรที่จะเตรียม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเอาไว้ด้วยเพื่อเป็นแผลสำรอง


การคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน
เป็นการใช้ยาฮอร์โมน เพื่อปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ไม่มีการตกไข่  มีทั้งชนิดยาเม็ด ยาฉีด ยาฝังใต้ผิวหนัง แต่ละวิธีและแต่ละชนิด จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

  • ยาเม็ดคุมกำเนิด

มีใช้มาตั้งแต่ ปี 1962 หรือเกือบ 50 ปี เป็นทางเลือกในการคุมกำเนิดในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 30 ปี เป็นอันดับหนึ่ง หรือประมาณ 17 % ของการคุมกำเนิดทั้งหมด

ในปัจจุบันยาเม็ดคุมกำเนิด มีการพัฒนาสัดส่วนของฮอร์โมนเพื่อลดผลข้างเคียง และเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น

ถ้าหากว่าลืมรับประทานยาไป 1-2 เม็ด ควรรีบทานยาลงไปทันทีหนึ่งเม็ดทันทีที่นึกขึ้นได้ หลังจากนั้นให้ทาน 1 เม็ดวันละสองครั้ง จนกระทั่งทดแทนจำนวนยาที่ลืมไปได้พอดี และทานต่อเนื่องตามปกติ อย่างไรก็ตาม ถ้าลืมรับประทานติดต่อกันสองวัน ควรจะต้องมีการป้องกันด้วยวิธีอื่นด้วย จนกว่ายาแผงนั้นจะหมดไป

ประสิทธิภาพ
หากรับประทานได้ตรงตามแนะนำทุกครั้งมีการตั้งครรภ์ได้ 0.1 % แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีอาจมีโอกาส 5%

ข้อดีคือสามารถนำไปรักษาภาวะอื่นได้ เช่นประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือสามารถใช้เพื่อเลื่อนประจำเดือน และป้องกันโรคบางชนิดที่เกี่ยวกับฮอร์โมนได้

ข้อเสีย คือ อาจจะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เจ็บคัดตึงหน้าอก น้ำหนักขึ้น ปวดศีรษะได้ 

การตกไข่จะกลับมาเป็นปกติภายในไม่กี่เดือนภายหลังการหยุดยา

สิ่งที่ควรระวัง คืออาจะทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ มีความดันโลหิตสูง เป็นเบาหวาน หรืออ้วน 

  • ยาฝังใต้ผิวหนังImplant


เริ่มมีการใช้ตั้งแต่ปี 1990  แต่ภายหลังปี 2003 ผู้ผลิตได้เลิกทำการตลาดผลิตภัณฑ์ที่ชื่อ norplant แต่ได้มีผู้ผลิตรายใหม่ ผลิตยาลักษณะนี้ใช้ในยุโรป แต่ยังไม่มีใช้ในอเมริกา โดยการฝังเข็มใต้ผิวหนังของตัวใหม่ในยุโรป Implanon แต่ละครั้งจะมีอายุ 3 ปี

ประสิทธิภาพ จะพบว่ามีอัตราการตั้งครรภ์ 0.2 % ในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 % ในปีสุดท้าย

ข้อดีคือสามารถคุมกำเนิดได้ระยะเวลานาน

ข้อเสีย คือต้องทำการฝังเข้าใต้ผิวหนัง และต้องเอาออกเมื่อครบกำหนด ประจำเดือนอาจจะมาไม่สม่ำเสมอ อาจมีน้ำหนักขึ้น ปวดหัว มีสิวขึ้น และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  • ยาคุมกำเนิดชนิดฉีด DMPA

เป็นยาฉีดคุมกำเนิด ที่นิยมใช้อีกชนิดหนึ่งในบ้านเรา โดยสามารถฉีดทุก 3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการตกไข่ 

ประสิทธิภาพ จะพบว่ามีการตั้งครรภ์ประมาณ 0.3%

ข้อดี เนื่องจากเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน โดยที่ไม่มีเอสโตรเจนอยู่ด้วย จึงไม่มีความเสี่ยงเรื่องของการแข็งตัวของเลือดผิดปกติที่ทำให้เส้นเลือดอุดตัน ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งมดลูก และมะเร็งรังไข่

ข้อเสียคือ ประจำเดือนจะมาไม่สม่ำเสมอ หรือมากระปริบกระปรอย และอีกเรื่องคือหากต้องการมีบุตร ต้องใช้เวลาหลายเดือน กว่าที่การตกไข่จะกลับมาเป็นปกติ และอาจจะเสี่ยงกับเรื่องน้ำหนักขึ้น ซึมเศร้าและกระดูกบางได้ 

  • ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินEmergency contraception เป็นทางเลือกหนึ่งในกรณีที่ลืมรับประทานยาคุมกำเนิด หรือกรณีใช้ถุงยางอนามัยแล้วเกิดมีการแตกหรือรั่ว

การใช้ฮอร์โมนและ barrier ใช้มีประสิทธิภาพ จะต้องใช้ให้ถูกวิธี อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดอุบัติเหตุข้อผิดพลาดได้เสมอ ดังนั้น ควรที่จะเตรียม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเอาไว้ด้วยเพื่อเป็นแผนสำรอง 

สุดท้ายคือการทำหมัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง 

การให้ความรู้กับเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญเพราะตัวเลขแสดงให้เห็นว่า การที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก โดยที่ไม่มีการคุมกำเนิดยังมีต้องให้การดูแลกันต่อไป

ในตอนแรกขอคร่าว ๆ เท่านี้ ก่อน คิดว่าเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีรายละเอียดอีกมาก ที่หลาย ๆ คนอยากรู้ ทั้งวิธีใช้ วิธีเริ่มทานยา การหยุดยา ผลข้างเคียง และการเลือกยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย

จาำก www.facebook/drcarebear



Create Date : 20 สิงหาคม 2555
Last Update : 20 สิงหาคม 2555 22:14:34 น. 0 comments
Counter : 2667 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

samitivej
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Follow Samitivejclub on Twitter

[Add samitivej's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com