<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 มกราคม 2554
 
 
โรคพิษสุนัขบ้า( Rabies )




           โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Rabies virus ซึ่งเป็นRNA virusสายเดี่ยว จัดอยู่ในจำพวก Rhabdovirus  เป็นได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่เป็นปัญหาในประเทศไทยมากที่สุดคือสุนัข ทั้งสุนัขจรจัดและสุนัขเลี้ยง แต่ในสัตว์อื่นก็สามารถเป็นได้เช่น แมว หนู ค้างคาว ลิง กระรอกหรือสัตว์ป่าอื่นๆ

           เชื้อพิษสุนัขบ้าจะ อยู่ในเนื้อเยื่อประสาทและในต่อมน้ำลายของสัตว์ที่เป็นโรค เมื่อคนถูกกัดหรือข่วน เชื้อจะอยู่ในแผลระยะเวลาหนึ่ง ต่อมาเชื้อจะแพร่กระจายไปตามเส้นประสาทในอัตราประมาณ 3 มม.ต่อชั่วโมง จนไปถึงสมองและไขสันหลังเชื้อไวรัสจะเพิ่มตัวในเซลล์ประสาท  ฟักตัวของโรคประมาณ3-6สัปดาห์ แต่บางรายอาจนานถึง2ปี

ลักษณะอาการของโรคแบ่งได้เป็น 3ระยะ
1. Prodomal phase หรือระยะเริ่มต้น2-3วันแรก ผู้ป่วยจะมีอาการมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร  คันและเจ็บบริเวณแผลที่ถูกกัดแม้ว่าแผลจะหายเป็นปกติแล้ว
2. Excitement phase หรือระยะกระวนกระวาย ผู้ป่วยจะมีอาการกระวนกระวาย กระสับกระส่าย หงุดหงิด นอนไม่หลับ ตื่นเต้นและตกใจง่าย ไวต่อสิ่งเร้ารอบกาย ไม่ชอบแสง ลม มีน้ำลายไหล กล้ามเนื้อคอกระตุก เกร็งขณะพยายามกลืนอาหารหรือน้ำ ทำให้เกิดอาการ "กลัวน้ำ" ต่อมาจะเริ่ม เพ้อคลั่ง สลับกับอาการสงบ และอาจชักได้ ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายใน5วัน
3. Paralytic phase หรือระยะอัมพาต ผู้ป่วยจะเป็นอัมพาตแขนขาอ่อนแรง จากการที่เซลล์ประสาทถูกทำลาย ต่อมาจะเกิดภาวะขาดอากาศหายใจ หัวใจเต้นผิดปกติ หมดสติและเสียชีวิตในที่สุด เนื่องจากส่วนที่สำคัญของสมองถูกทำลายไปหมด

สุนัขที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้า หลังจากแสดงอาการส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายใน10-14วัน การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ดีที่สุดคือ ระวังอย่าให้ถูกสุนัข, แมวหรือสัตว์อื่นกัดหรือข่วน  เพราะการติดเชื้อ ส่วนใหญ่จะมาจากน้ำลายสัตว์ที่เป็นโรคอยู่แล้ว ที่สำคัญที่สุด คือ การเสริมภูมิคุ้มกันในสุนัข ซึ่งเป็นสัตว์นำโรคหลัก สุนัขที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าไม่ สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าไม่มีเชื้อพิษสุนัขบ้าอยู่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น ความสม่ำเสมอในการฉีด(ถ้าฉีดต่อเนื่องมามากกว่า3ปีก็สามารถลดความเสี่ยงใน การมีเชื้อได้มาก) , การเลี้ยงดู(ถ้าเลี้ยงอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ไปเล่นกับสุนัขอื่นนอกบ้านเลย ก็มีความเสี่ยงน้อย) , วัคซีนที่ได้รับ(หมดอายุหรือด้อยคุณภาพหรือไม่)

การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังจากถูกสุนัขหรือสัตว์อื่นกัดคือ
1.การ ดูแลรักษาแผล  - แผลที่ถูกกัดควรได้รับการทำความสะอาดอย่างเต็มที่ โดยอาจใช้สบู่อ่อนๆฟอกแผลให้สะอาดถึงก้นแผลแล้วล้างออก ควรทำซ้ำหลายๆครั้งเป็นเวลาอย่างน้อย15นาที การล้างแผลให้สะอาดจะช่วยลดจำนวนของเชื้อไวรัสในแผลได้ หลังจากนั้นควรใช้ยาฆ่าเชื้อทาแผล และไปพบแพทย์
2.การฉีดวัคซีน หรือเซรุ่ม (Post-exposure Immunization)

อีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าคือ
การ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบป้องกันล่วงหน้า(Pre-exposure Immunization)  สามารถฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า เป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อต่อต้านโรคพิษสุนัขบ้า โดยการฉีดเพียง 3 เข็ม ภายในระยะเวลา 1 เดือน ในวันที่0, 7, 30  ซึ่งวัคซีนนี้สามารถฉีดได้ไม่จำกัดอายุ โดยเฉพาะเด็กที่มักเล่นกับสัตว์และมีโอกาสถูกสัตว์กัด มักมีบาดแผลที่รุนแรง บริเวณใบหน้า ศีรษะ หรือถูกเลียมือที่มีแผลหรือที่ปาก โดยไม่บอกให้ผู้ปกครองทราบ หรือควรฉีดป้องกันในบุคคลทั่วไปที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว เป็นต้น

ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า
1. เมื่อถูกสัตว์กัด การฉีดวัคซีนกระตุ้นเพียง 1-2 เข็ม ร่างกายก็จะได้ภูมิต้านทานที่สูงพอจะป้องกันโรคอย่างได้ผล
2. ไม่เสี่ยงต่อการแพ้เซรุ่ม หรือเจ็บปวดจากการฉีดเซรุ่มรอบ ๆ แผล

      ในประเทศไทยผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลงตามลำดับจาก 370 คนในปี พ.ศ. 2523 เป็น 30 คน ในปี พ.ศ. 2545   พบมากในภาคกลาง แต่จากปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมาแนวโน้มกลับเพิ่มขึ้นจาก 9 คน เป็น 25 คนในปี พ.ศ. 2552  และในต้นปี พ.ศ. 2553 มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีอาชีพขายสุนัขที่ตลาดนัด สวนจตุจักร จนเป็นข่าวปรากฏอย่างครึกโครม


By : Dr. Nimit Phoolvittaykit, General Surgian
      Samitivej Sriracha Hospital


ด้วยความปรารถนาดีจาก โรงพยาบาลสมิติเวช
//www.samitivejhospitals.com/healthblog/Sriracha/blogdetail.php?id=30




Create Date : 07 มกราคม 2554
Last Update : 7 มกราคม 2554 14:16:22 น. 1 comments
Counter : 934 Pageviews.

 
สวัสดีปีใหม่ครับ
ขอให้มีความสุขตลอดปีนะครับ


โดย: nuyect วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:16:18:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

samitivej
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Follow Samitivejclub on Twitter

[Add samitivej's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com