<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 มกราคม 2556
 
 

ใช้ชีวิตดั่งใจ..ในวัย 40



1. หวิว หวิว  ทำยังไง ใจมันสั่น
เมื่อมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่น เจ็บหน้าอก  เหนื่อยง่าย การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จะมีประโยชน์เพื่อช่วยในการ วินิจฉัย และรักษาแต่ถ้าไม่มีอาการใดๆผิดปกติ เมื่ออายุมากกว่า 45 ปีในผู้ชาย หรือ 55 ปีในผู้หญิง และมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน  เช่น ไขมันในเส้นเลือดสูง สูบบุหรี่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในครอบครัว ก็สมควรได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจร่วม ด้วย 

2. เรื่องมัน .. ฉันต้องแคร์ 
ระดับไขมัน แอลดีแอลโคเลสเตอรอลมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด หากไขมันแอลดีแอลโคเลสเตอรอล ใน เลือดสูงผิดปกติ อัตราเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นมาก ควรหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง     เช่น กะทิ ไขมันจากสัตว์ หนังสัตว์ เนื้อสัตว์ที่มีมันติด มากๆ  เพราะกรดไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น  รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงเป็นประจำทุกวันเช่น ข้าวกล้อง ขนมปัง โฮลวีท ถั่วเมล็ดแห้ง ลูกเดือย ถั่วแดง ข้าวโอ๊ต

3. หวานน้อย ไม่เป็นไร หวานมากไปไม่ดีแน่
ปริมาณน้ำตาล 1 ช้อนชา เท่ากับ 5 กรัม  หรือ 5 ซีซี   เราควรกินน้ำตาลจากอาหารทุกอย่างรวมกันไม่เกิน 6 ช้อนชา ต่อวัน การบริโภคน้ำตาลปริมาณสูงเป็นประจำจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น  และอ้วนในที่สุด เนื่องจากน้ำตาลเป็นพลังงานส่วนเกินที่เก็บสะสมในร่าง กายในรูปของไขมัน   ภาวะอ้วนเป็นการเริ่มต้นของปัญหาโรคที่ตามมา ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง เป็น ต้น

4. เคล็ดไม่ลับ สำหรับคนขี้ลืม
หากอาการหลงลืมเกิดขึ้นไม่ค่อยบ่อยนัก ก็คงจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ถ้าพบว่า จากคนที่เคยมีความจำดี กลับกลาย เป็นคนที่สมองอ่อนล้า เฉื่อยชา ความจำถดถอย พฤติกรรม และอารมณ์แปรปรวนบ่อยครั้งขึ้น  ก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก และนั่นก็อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อการ เป็นภาวะสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย    การบริหารสมองอยู่เสมอจะทำให้เซลล์สมองได้รับการกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น  ซึ่งก็จะส่งผล ให้ความสามารถในการจำดีขึ้นตามไปด้วย ส่วนวิธีบริหารสมองนั้น สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น การเล่นซูโดกุ หมากฮอส ต่อจิ๊กซอว์ หรือ เล่นครอสเวิร์ด ในเวลา ว่าง

5. แสบร้อนหน้าอก เพราะกรดไหลย้อน
ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้หูรูดหลวม หรือคลายตัวง่าย  เช่น อาหารทอดหรือไขมันมาก ชา กาแฟ ช็อกโกแลต หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มินต์ อาหารเผ็ด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเป็นกรดหรือ ระคายเคือง เช่น ผลไม้ ประเภทส้ม หรือมะนาว มะเขือเทศ หอม หอมหัวใหญ่ น้ำอัดลม เครื่องเทศ พริกไทย  และที่สำคัญอย่านอนทันที  !! หลังรับ ประทานอาหาร ควรให้มีระยะห่างก่อนนอนประมาณ 3 ชั่วโมง การรับประทานมื้อเย็นควรเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้น 

6. ถ่ายสบาย หายท้องผูก เลี่ยงมะเร็งร้าย
โรคระบบทางเดินอาหารที่น่ากลัว และทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องผูกสลับกับท้องเสียเป็นระยะๆ และเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือด น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เบื่ออาหาร หรือคลำพบก้อนบริเวณท้อง ซึ่งถ้าใครมีอาการแบบนี้ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน  การดูแลไม่ให้ท้องผูกสามารถทำได้ด้วยการ ออกกำลังกายเป็นประจำให้ลำไส้ได้เคลื่อนไหว รับประทาน อาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำมากๆ และฝึกขับถ่ายให้เป็นนิสัย  

7. พิชิตโรคฮิต  office syndrome
ควรจัดสถานที่ทำงานให้ถูกต้องกับโครงสร้างร่างกายและลักษณะงาน  จัดให้ความสูงและระยะห่างต่างๆเช่น สายตา อยู่ระดับขอบบนของจอคอมพิวเตอร์  และข้อศอก ไหล่ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ยก หรือกด  การวางข้อมือบนเม้าส์ในท่าตรง  ความสูงของเก้าอี้ เหมาะสม ศีรษะและคอตั้งตรง วางเท้าแบนราบกับพื้น ขณะใช้คอมพิวเตอร์ควรหยุดพักสายตาด้วยการหลับตา กระพริบตาบ่อยๆ  หมั่นลุกขึ้นยืน ขยับแขนขา หลัง คอ ไหล่ และข้อบ่อยๆ หรือออกกำลังกายแบบยืดเหยียด 10 นาที ถ้าทำได้เป็นประจำ อาการปวดเมื่อยต่างๆ จะค่อยลดน้อยลง 

8. ออกกำลังกาย ให้ได้ คาร์ดิโอ
การออกกำลังกายให้ถึงจุด คาร์ดิโอ (cardio)  คือระดับที่จะพัฒนาสมรรถภาพของหัวใจ และปอดโดยการออกกำลัง กายจนทำให้ระดับการเต้นของหัวใจอยู่ที่ประมาณ 70%-85% ของระดับการเต้นหัวใจสูงสุด ซึ่งวัดอย่างง่ายคือท่านมีความเหนื่อยพอประมาณจนถึงเหนื่อยมาก ทำให้ เราสามารถเผาผลาญไขมันและแคลลอรี่ได้ดีขึ้น  การออกกำลังกายที่เลือก ก็จะต้องมีความเข้มข้นพอให้ถึงเป้าหมายข้างต้น  ถ้าหากยังสามารถวิ่งไป แล้วคุยกับเพื่อนได้สบายๆ แสดงว่ายังออกกำลังกายไม่มากพอ ดังนั้นอาจเพิ่มความเข้มข้นจนกระทั่ง ร้องเพลง ก็ไม่เป็นเพลงแล้ว แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเพื่อให้หัวใจ เต้นถึงเป้าหมายระยะเวลาอย่างน้อย 10 – 15 นาที 

9. ตรวจสุขภาพประจำปี กันดีกว่า
ทำไมต้องไปตรวจสุขภาพทุกๆปี ทั้งๆที่ร่างกายก็ยังแข็งแรงดี การตรวจสุขภาพก็เหมือนกับการประเมินสภาพร่างกายของเรา ว่า ยังแข็งแรงอยู่หรือไม่ หรือมีความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคตหรือเปล่า หากคุณมองข้ามการดูแลสุขภาพและการตรวจเช็คสุขภาพ เมื่ออายุมากขึ้น  คุณ อาจจะมีความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคเรื้อรัง เช่น  ภาวะความดัน โลหิตสูง, ปวดข้อ, ปวดกระดูก ฯลฯ  ทั้งนี้  โรคที่เกิดขึ้นนั้นมักจะมีสาเหตุมาจากการ เสื่อมของอวัยวะ  และมักเกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายๆ โรค 

นอกจากนี้ระหว่างตรวจสุขภาพ คุณจะได้รับคำ แนะนำในการมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมกับวัย รวมทั้งเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และอาหารเสริมอีกด้วย

เราพร้อมดูแลคุณด้วยทีมแพทย์ชั้นนำ

ดูแลคุณด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพราคาสบายๆ คลิ๊กที่นี่

 

 




 

Create Date : 07 มกราคม 2556
0 comments
Last Update : 9 มกราคม 2556 9:38:54 น.
Counter : 1135 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

samitivej
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Follow Samitivejclub on Twitter

[Add samitivej's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com