กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
22 กรกฏาคม 2550

เมื่อทุนนิยมจะครองโลก….




นั่งคุยกับตัวเอง : เมื่อทุนนิยมจะครองโลก….
เขียนโดย : สิงโตหมอบ
22 กรกฏาคม 2550



“ระบบการค้าการลงทุนแบบทุนนิยม” ถามว่าน่ากลัวไหม ?
เราต้องตอบคำถามนี้ด้วยการตั้งคำถามอีกว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีดีสุดและไม่มีเลวสุดใช่ไหม ?”
ดังนั้นระบบทางเศรษฐกิจทุกรูปแบบที่เคยมี
ล้วนอยู่ที่จังหวะของการนนำทฤษฏีนั้นๆมาใช้
หมายความว่าเราจะยึดทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งไม่ได้


………………………..



ในดีมีเลว ในเลวมีดี.....

จุดอ่อนของทุนนิยมคือ ทุนมากรังแกทุนน้อย
เพราะคนเราย่อมมีกำลังไม่เท่ากัน
แต่พอใช้คำว่าทุนนิยมและเปิดเขตการค้าเสรี
ผู้ที่มีทุนมากกว่าย่อมชนะอยู่ตลอด
เนื่องจากทุนที่เหนือกว่า ย่อมเป็นคนร่างกติกา
และฉกฉวยความได้เปรียบจากคนที่ทุนน้อยกว่า
เปรียบเหมือนนักมวยรุ่นใหญ่ กับนักมวยรุ่นเล็ก
ต่อยกันในเวทีไหน นักมวยตัวเล็กย่อมแพ้และเสียเปรียบตลอด

จุดอ่อนอีกประการหนึ่งของทุนนิยม
คือ เมื่อเงินไหลไปกองรวมอยู่ที่ศูนย์กลางอำนาจ
จะมีเพียงกลุ่มทุนหรือกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนที่ได้รับผลกำไรอันมากมายมหาศาลนี้
แล้วคนเพียงไม่กี่หยิบมือที่ถือครองจำนวนเงินมหาศาล ถือครองอำนาจต่อรองมหาศาล
จะกินวันหนึ่งได้สักกี่มื้อ
การใช้จ่ายเงิน....ถ้าไม่เป็นไปเพื่อการลงทุน
เพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีจำนวนมาก อาจต้องเอาไปลงทุนในรูปแบบมูลนิธิเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
เงินจำนวนมหึมา....ถามว่าเขาจะนำมันไปใช้อะไรได้อีก
ดังนั้นเมื่อเงินไม่มีการเคลื่อนไหว มันย่อมไม่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนถ่ายเทของเงิน
เมื่อเงินหยุดเคลื่อนไหว กองกระจุกอยู่ในมือคนรวยเพียงไม่กี่หยิบมือ
เศรษฐกิจโดยรวมย่อมชะงักงัน

แต่สิ่งที่เราปฏิเสธความจริงไม่ได้ก็คือ
ธรรมชาติของคน คือ “ยิ่งได้มาก ยิ่งโลภมาก”
“ยิ่งได้เปรียบมาก ยิ่งกำหนดกติกาได้ ทำยังไงให้ตนได้เปรียบที่สุด”


เงินในระบบทุนนิยมจึงไม่ต่างอะไรจากน้ำ
มันต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาในลักษณะของการลงทุนและการขยายกิจการ
หยุดเมื่อไหร่...แปลว่าน้ำเน่า
หยุดการเคลื่อนไหวเมื่อไหร่....แปลว่าทุกอย่างพังครืนลงมาทันที



แต่ทุนนิยมมีข้อดี คือ มันกระตุ้นการใช้จ่าย
ทำให้เกิดการแข่งขันในการผลิต
การค้าเสรีไม่มีในโลก
การกุมความได้เปรียบด้วยการกุมอำนาจทางการเงิน
การทหาร พลังงาน และการสื่อสาร จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก

ใช้ทุนเท่าเดิมแต่ทำกำไรให้มากขึ้น
ผลิตสินค้ายังไงให้ได้จำนวนมากขึ้น
ในขณะที่ทำการควบคุมต้นทุนให้เท่าเดิมหรือต่ำลง
ใช้แรงงานเท่าเดิม แต่อาศัยความชำนาญที่มีมากขึ้นจากการทำงานที่เดิมและการทำซ้ำๆ
โดยมิต้องเปลี่ยนจาก “แรงงาน” เพื่อไปเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ”

…………………………………….



หันมามอง “ระบบเศรษฐกิจพอเพียง” ที่เรากำลังคาดหวังว่าอาจช่วยชุบชูสังคมของเราได้

ข้อดีของระบบเศรษฐกิจพอเพียง คือ ทำให้คนรู้จักประหยัด
รู้จักเอื้ออาทรคนอื่น รู้จักทำงานให้น้อยลง พักผ่อนให้มากขึ้น
ไม่เน้นการแข่งขันมาก แต่เน้นการแบ่งปัน

ปัญหาก็คือ เราต้องยอมรับความจริงที่ว่า
เราได้พาตัวเองเข้าไปสู่ระบบทุนนิยมเต็มตัวบนเวทีการค้าระดับโลก
เราทำมาค้าขายกับต่างชาติ แม้แต่เงินที่ใช้แลกเปลี่ยนก็ยังเป็นสกุลต่างชาติทั้งสิ้น

คำถามที่น่าฉุกคิดก็คือ คุณจะวางตัวอย่างไร
หากอยู่ในหมู่บ้านที่ทุกหลังคาเรือนต่างมุ่งแสวงหาและกอบโกยผลกำไรจากการค้าขาย
จากการทำนาธรรมดาซึ่งใช้แรงคนแรงควายมาชั่วนาตาปี
เปลี่ยนเป็นการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีอันทันสมัย
การจัดการที่รัดกุม และการแก้ปัญหาธรรมชาติด้วยวิธีการต่างๆ

ในขณะที่คนข้างบ้านพากันสร้างบ้านใหม่ ขับรถคันใหญ่
มีวิถีชีวิตที่โก้หรู

อำนาจการซื้อ การต่อรอง การซื้อขายไปอยู่ในมือของคนที่มีเงินมากกว่า

ในขณะที่เราซึ่งบอกตัวเองว่าพอเพียงๆ ได้แต่ยืนตาปริบๆ
และไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลยด้วยจำนวนผลผลิตที่น้อยลง
ด้วยคุณภาพที่ด้อยลง
เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ผลิตด้วยระบบทุนนิยม
ที่จำกัดต้นทุน บริหารจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบ


เราเชื่อว่าการเดินให้ช้าลง อาจเป็นทางออกของสังคมได้ในระยะยาว
คำถามก็คือ คุณเดินช้าลง ในขณะที่โลกหมุนเหวี่ยงตัวเองอย่างรวดเร็วชนิดแค่กระพริบตาครั้งเดียว
ประเทศของเราก็อาจโดนทอดทิ้งให้อยู่เบื้องหลังชนิดไม่เห็นฝุ่น


อย่างไรก็ตาม “ระบบเศรษฐกิจพอเพียง”
ถ้าใช้ผิดที่ผิดเวลาก็อาจทำร้ายตัวเองอย่างคาดไม่ถึง
เพราะเงินมันต้องไหลเวียน แลกเปลี่ยนซื้อขายกันตลอดเวลา
อยู่ๆไปหยุดการเคลื่อนที่ของมันทันทีทันใด
นั่นย่อมหมายถึงหายนะจะเกิดขึ้นตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

.....................................


คำตอบสำหรับเรื่องนี้ ก็คือ
ไม่มีระบบใดดีที่สุด และคงอยู่ได้ตลอดไป
ปัญหาก็คือ การเลือกที่จะรับหรือปฎิเสธบางสิ่ง
ด้วยความรู้ ความเข้าใจ วิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศหรือชุมชน
จึงเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีผลกระทบต่อการพัฒนาของประเทศเป็นอย่างยิ่ง

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

อยู่ที่วิธีคิดของผู้นำว่าเลือกระบบใช้ถูกกับเวลาหรือเปล่า
ไม่ใช่ว่าใสสะอาด ต้องสว่าง ต้องสะอาด
ถ้าคู่ต่อสู้สะอาด แต่อีกคนใช้วิธีสกปรก
แล้วมันจะสู้กันได้ยังไง
อีกคนใส่นวม อีกคนใช้ไม้หน้าสาม
คนใช้มีด ไปต่อสู้กับคนใช้ปืนกล
ไม่ต้องถามว่าใครคนใดจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้...


นี่คือ การต่อสู้เชิงการค้าในระบบทุนนิยม

เงินมีค่าเพียงเศษกระดาษ หากมันนำไปแลกเปลี่ยนสินค้าซื้อขายไม่ได้
ปัญหาก็คือ ประเทศเล็กๆ ยากมากที่จะเอาชนะประเทศมหาอำนาจได้
ในขณะที่คุณบอกว่ากระดูกสันหลังของชาติคือเกษตรกร
แต่เงินลงทุนทั้งหมดในระบบกลับไปค่อนอยู่กับคนเพียงไม่กี่หยิบมือไม่กี่ตระกูลในประเทศ

คุณทำนาทั้งปี เอารายได้จากการขายข้าวทั้งประเทศไปซื้อเครื่องบินรบของสหรัฐอเมริกาได้กี่เครื่อง
เอาสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลกี่ล้านชิ้น
จึงจะไปแลกซื้อเทคโนโลยีดาวเทียมสักเครื่องหนึ่งของอารยประเทศ

ตัวเลขหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ
อเมริกาเป็นประเทศผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลก
รวมถึงอาวุธสงคราม
เครื่องบินทั้งหมดในโลกนี้รวมกัน อาจมากกว่าจำนวนเครื่องบินที่อเมริกามีอยู่ไม่กี่เครื่อง
การขายสินค้าทางการเกษตรของประเทศยากจนทั้งประเทศรวมกัน อาจซื้อเครื่องบินได้แค่ 4 ลำจากอเมริกา
ใครเป็นคนกำหนดราคาเครื่องบินให้แพงมหาศาลขนาดนั้นได้
อเมริกาไม่ได้ขายสินค้า หากแต่ขายนวัตกรรม
ขายสิ่งที่ประเทศด้อยกว่าไม่มีทางผลิตได้
ขายสิ่งที่มีแต่ “ผู้ค้นคิด” เท่านั้นที่จะกำหนดราคาได้


ทุนนิยม จึงเป็นการสร้างด้วย ขายด้วย และยิ่งไปกว่านั้นหากกำหนดกติกาและราคาขายได้
ก็ยิ่งชิงความได้เปรียบทั้งหมดไว้ในครอบครอง

นั่นอาจหมายรวมไปถึงการวางแผนการตลาดล่วงหน้า
เพื่อรอเป็นผู้ชี้นำชี้นำตลาด
ไม่ใช่รอว่ากระแสในตลาดจะมุ่งไปในทิศทางใด
หากแต่เป็นผู้สร้าง “ตลาดการค้า”
กำหนดความต้องการใน “สินค้า" ที่ตนเองผลิตขึ้น
บังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ประเทศคู่ค้า
ต้องซื้อ “สินค้า” ในราคาที่ตนเองเป็นคนกำหนดขึ้น


................................



มองย้อนกลับมายังระบบพอเพียง
อีกกี่ปีเราจึงจะมีนักวิขาการที่วิจัยพันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกในนาพื้นที่เท่าเดิม แต่ได้ผลผลิตมากกว่าเป็น สิบๆเท่า

มีนักวิชาการคนไหนเคยคิดบ้างว่าแค่ทลายคันนา
เกษตรกรอาจได้พื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มขึ้นอีกมากมายขนาดไหน
ประเทศเรามีนักประดิษฐ์เก่งๆที่คอยออกแบบและทำให้เครื่องจักรทางการเกษตรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่
มีใครช่วยคิด ช่วยบอกเกษตรกรของเราบ้างหรือเปล่า
หรือเพียงอยากให้เขาเผชิญชะตากรรมโดยลำพัง
รอเพียงฟ้าฝนท่านเมตตา
ปีไหนแล้งน้ำก็ร้องไห้
ปีไหนน้ำท่วมก็ร่ำไห้...
แล้วก็รอเพียงความช่วยเหลือจากภาครัฐ
ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรต้องกลายเป็นคนง่อยเปลี้ยเสียขา
มีลักษณะของคนอ่อนแอที่ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้เลย
แถมยังต้องเป็นหนี้เป็นสิ้นไปตลอดปีตลอดชาติ

อย่ารักเขาแต่ปาก
อย่าปล่อยให้กระดูกสันหลังของชาติต้องเผชิญชะตากรรมโดยลำพัง

วันหนึ่ง...หากแก่นแกนของประเทศล้มครืน
คุณนึกหรือบรรดาเศรษฐีนายทุนทั้งหลาย
ว่าคุณจะอยู่ในสังคมนี้ได้
ด้วยเพียงกองเงินเท่าภูเขาเลากา
ด้วยเศษกระดาษไร้ค่าที่ใส่ปากเคี้ยวกลืนไม่ได้ของพวกคุณ



……………………………..


โลกของการใช้ชีวิต คือ อยู่...เพื่อดำรงชีวิต
จะ “ทุนนิยม” หรือ “เศรษฐกิจพอเพียง”
ผมว่าป้าแช่มเจ้าของแผงกล้วยแขก
คงตอบคำถามนี้ได้ดี

ป้าแช่มบอกผมว่า

“ระบบไหนกูไม่สน ขอกูมีข้าวแดกให้ท้องอิ่มก็พอ”











 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2550
53 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2550 7:11:03 น.
Counter : 1791 Pageviews.

 

วันนี้วันหยุดครับ
จะออกไปเที่ยวนอกบ้าน
กลับมาอีกครั้งตอนเย็นๆครับ

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาทักทายกันนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 22 กรกฎาคม 2550 7:12:03 น.  

 

สวัสดีวันหยุดค่ะ

ทุนนิยมจะครองโลกก็เรื่องของโลก
อย่าให้มาครองใจเราก็พอ

 

โดย: rebel IP: 125.24.69.132 22 กรกฎาคม 2550 8:02:32 น.  

 




เช้านี้มาส่งความสุขยามเช้าก่อนค่ะ
มีเวลาอ่านได้
แต่เวลาไม่พอคิดตาม
งั้นค่อยอ่านดีกว่าน๊า



วันนี้จะไปร่อนอยู่แถวรังสิตค่ะ
ถ้าไม่ดึกเกินจะแว๊บบบมาอ่านน๊า
แต่ไม่ทราบจะทันหรือเปล่า
หน้าบล็อกเปลี่ยนเร็วนี่นา
ตามกลับไปอ่านงง
ดี.ว่าหัวข้อเรื่องคล้ายๆกัน

(แต่ของดี.เองหนักกว่า
หัวข้อชื่อเดียวกัน แล้วใส่เลขแทน)







 

โดย: d__d (มัชชาร ) 22 กรกฎาคม 2550 8:12:29 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณครูก๋า emo

ชะแว๊บมาก่อนค่ะ เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกเหมือนกันค่ะ emo

บล๊อกยาว เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านนะคะ emo

ขอให้มีความสุขกับการดูงานศิลปะนะคะ emoemo

มีความสุขมาก ๆ ค่ะคุณครูก๋าและคุณภรรยาคนสวย emo

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 22 กรกฎาคม 2550 8:21:25 น.  

 

อยู่ในโลก ให้เหมือนลิ้นงูที่อยู่ในปากงู

อยู่ในโลกทุนนิยม ไม่ให้ทุนนิยม มันกัดเอา

 

โดย: กายแก้ว 22 กรกฎาคม 2550 8:46:00 น.  

 

อะแฮ่มๆๆๆๆๆๆๆ

ขออนุญาต กระทุ้งซักสามทีค่ะ .. เหอะๆๆๆ

อ่านเรื่องที่พี่ก๋าเขียนแล้วขนลุกเลย อ่านจบ ..
คิดถึงความเป็นจริงเรื่องสองระบบ ทุนนิยม กับ เศรษฐกิจพอเพียง ... แล้วก็เห็นด้วยกับวิธีการสู้กันทางเศรษฐกิจ คนนึงใช้มีด อีกคนใช้นวม .. ก็สู่กันไม่ไหว

อุ๋มเลยมองย้อนมาที่ระบบการเมือง ..
ยังงี๊ละมั๊งคะ .. ตาต่อตาฟันต่อฟัน ..
ใช้ประเทศไทยเป็นสนามรบ ..

มาแซวพี่ก๋าและภรรยาที่น่ารักที่สุดในโลกต่อดีกว่า 55555

กินอาหารเผ็ดร้อน แล้ว พี่ก๋ามีขำต่อ ..
เลยทำให้เราจินจนาการเตลิดไปอีก

อะคริ อะคริ อะคริ ...

อู่ย ใจหายแว๊บเลย กดผิด คิดว่าคอมเมนท์หายค่ะ ...

มีความสุขมากๆ นะคะ วันนี้ ..

 

โดย: spywine4me 22 กรกฎาคม 2550 9:17:50 น.  

 

ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเยียนเสียนาน
เพราะพ่อไม่สบาย

ตอนนี้พ่ออาการดีขึ้นมาก ๆ แล้ว
และจิตใจลูกก็ดีขึ้นมาก ๆ เช่นกันค่ะ

เลยถือโอกาส
แวะมาสวัสดีตอนสาย ๆ วันอาทิตย์นะคะ

สุขสันต์วันหยุดค่ะ

 

โดย: โสดในซอย 22 กรกฎาคม 2550 9:22:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ.. แวะมาอ่านระบบทุนนิยมค่ะ..

แต่เห็นด้วยกับระบบเศรษฐกิจพอเพียง

เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐ มาเร่งใช้ระบบนี้ตอนที่เกือบจะสายไป ทั้งๆที่แนวคิดแบบนี้มีมานานแล้ว.. แต่เพิ่งจะมามาเร่งทำเร่งสร้างในตอนนี้

เน้นให้แพร่กระจายไปตามหมู่บ้านโดยที่ชาวบ้านก็ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการที่แท้จริง
ไม่เข้าใจในแนวคิดนี้อย่างแท้จริง
รู้แต่เพียงว่ารัฐบาลมีเงินทุนลงไปให้ใช้ในหมู่บ้านเท่านนั้น

ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริงว่า เงินที่ลงไปให้ใช้ทำอะไร..

ตอนนี้มีงบ 2 ตัวที่ลงไปตามหมู่บ้านคือ
1.งบอยู่ดีมีสุข
2.งบโครงการพัฒนาหมู่บ้านตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ( คตพ.)

งบตัวแรกเน้นรวมกลุ่มเน้นอบรมส่งเสริมอาชีพ ซื้อวัสดุส่งเสริมอาชีพให้จริงแต่ วิธีการ ได้ลองมาติดตามดูกันหรือไม่..

งบตัวที่สองมีให้เฉพาะหมู่บ้านที่มีแผนชุมชนเข้มแข็ง ( เรียกว่าแผนชุมชนระดับ A ) ซึ่งแปลงมาจาก SML เดิม แต่ให้กระจายลงไปในหมู่บ้านที่มีแผนชุมชนเข้มแข็ง ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของกรมพัฒนาชุมชนให้เป็นแผนระดับ A พอมาถึงวิธีการแต่ละหมู่บ้านก็ไปจัดทำโครงการเสนอ เช่นรวมกลุ่มเพาะเห็ดฟาง
เลี้ยงเป็ดไข่ ฯลฯ แต่พอมาถึงวิธีปฏิบัติคือ..แจกครับแจก... แจกกลับไปบ้านใครบ้านมัน.. ต่างคนต่างเลี้ยงดูกันเอง มีผลผลิตเหลือเกินพอก็จำหน่าย.. ก็ยังพอจะโอเคอยู่ แต่ที่สำคัญ การตลาดนี่ละสิ ใครจะเป็นคนหา.. ต่างคนต่างเกี่ยงกัน ระหว่างทกรรมการกับท้องถิ่น.. ทางที่ดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบตลาดน่าจะมาช่วยวางแผนให้นะ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเลย หมู่บ้านได้แต่พึ่งตนเอง
ท้องถิ่นก็ใหม่เกินกว่าที่จะสร้างเครดิตในระบบได้ และก็งานสารพัดด้านโยนลงมาอยู่ท้องถิ่นหมดทุกอย่าง โดยหน่วยงานเจ้าของเรื่องทำเพียงมาเมียงๆมองๆ ลองภูมิดูว่าท้องถิ่นจะทำได้ไหม..

แต่ขอโทษคร๊าบบ มีอะไรบ้างที่ท้องถิ่นทำไม่ได้..ไม่มีอะไรเกินความสามารถไปได้หรอกคร๊าบบ... แต่ห่วงอย่างนึง ตรงงบที่กระจายลงหมู่บ้านโดยตรง ดี แต่มักเป็นดังนี้ค่ะ.. **..บ่วงแร้วสมาคม..** [บทกวี] ณ กมล

 

โดย: ณ กมล 22 กรกฎาคม 2550 9:41:55 น.  

 

เอ เมื่อวานเป็นศิลปินอยู่ดีๆ
ไหงวันนี้เป็นนักวิเคราะห์ระบบฯไปได้
..........
ที่สุด ก็เห็นด้วยกับป้าแช่มน่ะ
..แหละปากท้องของคนอย่างป้าแช่ม
ก็เป็นตัวบ่งชี้ดีที่สุด
ว่าระบบไหนดี ไม่ดี

ว่าแต่ เมื่อวานมีพวกทุนนิยม
พาภรรยาพาไปเข้าแถวรอทานอาหารญี่ปุ่นด้วย
เค้าจะรู้ไหมน่ะ ว่าพอเพียงเป็นอย่างไง อิอิ

 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 22 กรกฎาคม 2550 10:02:54 น.  

 

ต่ออีกนิดนะคะ... ในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นแบบนี้จริงๆ ค่ะ..

** บ่วงแร้วสมาคม **

***กับดักใดอันตรายกว่าใดสิ้น
อาจพังภินท์ หากหลงติด ถึงสิ้นสูญ
อาจกลายค่าความเป็นคน สิ้นเทิดทูล
หากหมกมุ่น หลงเล่ห์ลวง "บ่วงสังคม"

***กับดักร้ายภายในใจนั่นแหละหนอ
หลงเยินยอในลาภยศ เกียรติ - สั่งสม
ไม่เว้นวายแม้ ตาสี - สา ค่านิยม
จึงดิ้นรน ไขว่หาทุกข์ให้ตัวเอง

***โน่นบ้านโน้นเขาดูดีมีรถขับ
บ้านเรานับกระสอบข้าว ดูโหรงเหรง
กู้กองทุนฯ..กรรมการ - คนกันเอง
จึงมิเคร่ง ผ่อนตรวจตราการใช้เงิน

***ปล่อยตาสีกู้ทุนไปดาวน์รถขับ
เก็บขายผัก ถั่ว ปูปลา มานนานเนิ่น
จะได้ดูมีหน้าตา เขาหยอกเอิน
มัวหลงเพลิน แท้-หนี้สิน กองท่วมตัว

***ถึงสิ้นปีไม่มีส่งให้หมู่บ้าน
เหล่ากรรมการหาทางพ้นปวดหัว
จัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ ใช้พันพัว
เพียงไม่มั่วลงบัญชี ไม่ขาดเกิน

***ลูกบ้านดีมีเงินจ่ายไม่ติดค้าง
ขอบคุณทางกรรมการไม่ห่างเหิน
ยามเงินขาด หานายทุนให้กู้เพลิดเพลิน
มัวหลงเดินหลงทางใจ-ไกลห่างรอย

***จึงเลื่อนลอยแลไกลห่างทาง"พ่อ"ก้าว
รุ่นปู่ย่าตายายเราจึงเหงาหงอย
เฝ้ามองดูลูกหลานเรา 'จน'ซ้ำรอย
เข้าชะรอยอีหรอบเดิมแต่ก่อนมา..?

***เป็น..บ่วงแร้วสมาคม..หลงลมปาก
มีสินมากหลากหลายทรัพย์ประดับหน้า
แท้ที่จริงเป็นสินลวงบ่วงมายา
สร้างภาพพาน่านับถือ..ยื้อเพียงลม.!

คงเฉกเช่นดังพลุ นะชื่อเสียง
สว่างวาบก็เพียงชั่วครู่สม
คราลมหวนทวนซ้ำ - มลายจม
กลายติดหล่ม เขาเหยีบซ้ำ..ต่ำติดดิน..
*******************************

555 อ่านแล้วอย่าเครียดนะคะ..

ขำ ขำ ค่ะ ขำ ขำ..

 

โดย: ณ กมล 22 กรกฎาคม 2550 10:04:59 น.  

 

เฮ้อ...เมื่อกี้เม้นท์แร้วพอคลิกก้อหายไปเรย...(ซึม) ต้องออกไปข้างนอกก่อนเด๋วมาใหม่แระกันนะคะ (ปกติก๊อปปี้ไว้กันหายตลอด แต่วันนี้ไม่ก๊อป...และ...T_T )

ลงชื่อไว้ก่อง

 

โดย: floral_flory 22 กรกฎาคม 2550 10:17:37 น.  

 

555 คนส่วนมากในประเทศก็คิดเหมือนป้าแช่มน่ะค่ะ

ฝากความคิดถึงมาดามคนสวยด้วยนะคะ

สักวันคงได้คุยกันบ้างemoemo

 

โดย: เพียงแค่เหงา 22 กรกฎาคม 2550 10:26:36 น.  

 

สนับสนุนป้าแช่มค่ะ

“ระบบไหนกูไม่สน ขอกูมีข้าวแดกให้ท้องอิ่มก็พอ”
555

สะใจๆ

 

โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 124.157.229.137 22 กรกฎาคม 2550 10:30:26 น.  

 

ระยะนี้พี่ก๋ามีเรื่องให้ดอรี่ได้เม้นท์ยาว ๆ เพียบเลยค่ะ ดีที่ตอนนี้อยู่บ้านนอก ตอบได้โดนไม่ต้องพะวงว่าต้องกลับไปทำงาน หุหุ

ดอรี่ทำงานกับฝรั่งเยอะค่ะ มีอยู่ครั้งนึงฝรั่งชาวสิงคโปร์ที่สนิทกัน (เค้ามาทำงานเมืองไทยอยู่พักนึง) มีปัญหาเรื่องลูกน้อง เพราะเค้าเป็นคนทำงานหนัก แต่ลูกน้อง (คนไทย) ทำงานแบบเรื่อย ๆ ออกไปทางงานไม่ค่อยเดินเท่าไหร่ เค้าก็กังวลในเรื่องประสิทธิภาพของทีม ดอรี่แนะนำเค้าว่า ให้เค้าไปนั่งคุยกับลูกน้อง แจ้งให้ลูกน้องทราบว่า "ความคาดหวัง" หรือ expectation ของทีมที่มีต่อตัวลูกน้องคนนั้นเป็นยังไง เค้าก็บอกว่า จริง ๆ ลูกน้องเค้าก็ทราบดี แต่ว่าก็ยังทำงานไม่ได้ตามที่เค้าคาดหวัง เค้าคิดว่าระบบความคิดแนว "เศรษฐกิจพอเพียง" ทำให้คนไทยทำงานน้อยลง ความพยายามสู่สิ่งที่ดีกว่าน้อยลง เพราะแนวคิดน่าจะเป็นแบบทำแค่พอดี ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ต้องพยายามมากจนเกินไป ดอรี่ได้ฟังแล้วก็คิดว่า เค้าไม่เข้าใจแนวความคิดนี้ ซึ่งอาจเป็นได้ว่า ลูกน้องเค้าก็เข้าใจผิด ทำให้เค้าเข้าใจผิด หรือไม่ก็ไม่มีใครมาบอกเค้า แต่เค้าเห็นจากการโฆษณาต่าง ๆ รอบตัวเรื่องนี้แล้วคิดไปเองว่าคนไทยเป็นแบบนี้รึเปล่า ดอรี่เป็นคนไทยเหมือนกัน แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเข้าใจแนวคิดนี้จนสามารถวิเคราะห์ได้ แต่ก็บอกเค้าไปว่า ดอรี่ว่าไม่เกี่ยวกับแนวคิดหรอก สำหรับดอรี่ เศรษฐกิจพอเพียง คือการที่เราใช้จ่าย อยู่กินอย่างพอเพียง ไม่เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานแต่อย่างใด เราสามารถทำงานอย่างฉลาด โดยไม่หนัก (work smart not work hard) พยายามคิดถึงสิ่งที่ดีกว่าได้ ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ การอยู่อย่างพอดี ไม่ใช่การอยู่อย่างสบาย ๆ โดยไม่สนใจโลก ไม่สนใจว่าคนอื่นเค้าก้าวไปอย่างไร ฉันจะทำแบบนี้เพราะทำกันมานานแล้ว อย่างนี้ประเทศเราก็จะไม่เจริญ พอระบบบริหารงานแบบฝรั่งเข้ามาก็ต่อต้าน และไปคิดว่าเพราะเค้าเข้ามาเราก็เลยแย่ลง ทำไมเราไม่พัฒนาตัวเองให้สู้เค้าได้มั่งล่ะ ถ้าจะรอให้เค้าแย่ลง เราถึงจะตามเค้าทัน เราก็ไม่ไปไหน ถ้าเค้าเก่ง เราต้องเก่งกว่า โดยเฉพาะตอนที่เราเป็นเจ้าของประเทศ เค้าคิดได้ เราก็ต้องคิดได้ดีกว่า ดอรี่ว่าการเข้าปะทะเป็นการป้องกันตัวที่ดีที่สุด อย่านั่งรอให้ใครช่วย อย่านั่งรอรัฐบาล เพราะกว่าจะถึงวันนั้น เราอาจจะไม่ได้อยู่ให้ช่วยแล้ว (ดูอย่างโรงงานผลิตเสื้อที่ต้องปิดตัวเป็นตัวอย่าง ตอนแรกรัฐบาล หรือกลุ่มอะไรซักอย่างบอกจะช่วย สุดท้าย เค้าก็ช่วยไม่ได้ ต้องปิดตัวอยู่ดี)

ดอรี่อาจจะแปลกสักหน่อยตรงที่ว่า ทำไมเราทุกคนบนโลกนี้ไม่คิดว่าเราอยู่ในประเทศ "โลก" ถ้าคิดแบบนี้การกีดกันระหว่างประเทศก็จะน้อยลง การคิดว่าต่างชาติเป็นคนอื่นก็จะน้อยลง การแบ่งพรรคแบ่งพวกก็จะน้อยลง อย่างนี้จะน่าอยู่กว่าไหม แต่ก็นั่นแหละเนอะ กว่าจะถึงวันนั้น เราจะอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้

เครียดเยอะแล้ว ไปดีกว่า หุหุ
emoemoemoemoemoemoemoemoemo

 

โดย: Dory (conejodulce ) 22 กรกฎาคม 2550 10:54:14 น.  

 

อ้อ ลืมขอบคุณมาดามค่ะที่อุตส่าห์ไปเยี่ยม วันนี้ก็ลากพี่ก๋าไปเที่ยวให้สนุกนะคะ หุหุ

 

โดย: Dory (conejodulce ) 22 กรกฎาคม 2550 10:55:25 น.  

 

เศรษฐกิจพอเพียง.. แต่แรกเราก็รู้สึกเคลือบแคลงในใจอยู่แล้วนะ.. ไม่ใช่ว่าไม่ดี .. เพียงแต่ถ้าตีความไม่ดี หรือใช้ผิดที่ผิดทางก็จะเกิดผลเสียทีเดียวหล่ะค่ะ .. อย่างที่คุณเจ้าของบล็อคบอกน่านหล่ะค่ะ..
อะนะ..ไหนๆก็ไหนๆ..อย่างที่ป้าแช่มบอก...
ขอให้ทุกคนในประเทศไทยท้องอิ่ม..และมีรอยยิ้มทุกวันก็ละกันนะคะ

 

โดย: เอื้อมดาว 22 กรกฎาคม 2550 11:24:28 น.  

 

เป็นบทความแรกของกะก๋า ที่แม่น้องรันไม่อ่าน

อ่านไปสองบรรทักพอรู้ตัวว่ากำลังอ่านอะไร

มานเวียนหัวคลื่นไส้ทันที

ไม่ชอบสัจจะธรรมข้อที่ว่า "จะอยู่ก็ต้องกิน"

"จินตานาการ ความรัก และความงดงาม ของจิตใจ" จะลดลงตามความต้องการของปากท้องเสมอ

นั้นคือความจริง ที่แสน "เซ็ง"

 

โดย: แม่น้องรัน (runch ) 22 กรกฎาคม 2550 11:49:15 น.  

 

ธรรมมะสวัสดีครับ...
.........................................

อ่านแล้วรู้สึกมึน....
.
แต่....ชั่งเห๊อะ...เพราะ
.
ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
.
ยกเว้น..." การเปลี่ยนแปลง "...
........................................................................
( วันนี้ ขอนุญาติปีนหน้าต่างเข้าบ้านนะครับผม...เนื่องจากเข้าหน้าบ้านมะได้ ประตูถูกล๊อก )

 

โดย: Tonfearn. IP: 125.27.139.160 22 กรกฎาคม 2550 12:27:08 น.  

 

เจนนี่แวะมาทักทาย และขอบคุณที่แวะไปทักทายและเที่ยวกองถ่ายพระนเรศวรกับเจนนี่น่ะคะ วันนี้เจนนี่จะพาไปเที่ยวสวนสัตว์ต่อค่ะ อย่าลืมแวะไปเที่ยวกับเจนนี่อีกน่ะคะ มีรูปให้ชมเยอะแยะเลยค่ะ ( มามะ ไปเที่ยวด้วยกัน )

 

โดย: สาวอิตาลี 22 กรกฎาคม 2550 12:53:44 น.  

 

อ่านแล้ว มึนๆ ปลงๆ ค่ะ...


จริงๆ ไม่ว่าระบบไหน มันก็มีข้อดีของตัวเองทั้งนั้น แต่สำคัญอยู่ตรงที่ ประเทศเรา ยังไม่สามารถเอามาใช้ได้ดีเลยสักอย่าง มันครึ่งๆ กลางๆ ยังไงไม่รู้ค่ะ ถึงทางโทรทัศน์จะมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มันทุกวัน....

แต่เอาเข้า เราๆ ท่านๆ ก็อาจตอบเหมือนป้าแช่มก็ได้...

 

โดย: กวางตุ้งหวาน 22 กรกฎาคม 2550 12:53:51 น.  

 

ทุนนิยม - อืม เหมือน Lotus

แม่ค้าปลีก ตามตลาด เงียบเหงา คนแห่เข้าห้างกันหมด

เหอ เหอ กานต์ก็คนหนึ่งละ

เข้าห้างมันเย็นอ่ะ, แถมบริการดี๊ดี,

ไม่ได้สนับสนุนนะ

จริงๆ รู้ว่าเป็นของต่างชาติก็ไม่สบายใจ

พยายามจะเดินห้างของคนไทย ห้างเล็กๆ ประจำจังหวัด

อืม .. แต่ของบางอย่างก็ไม่มี มีไม่ครบ

การจะสู้ห้างใหญ่ มันลำบากเหมือนกัน

ต้องช่วยกัน ทั้งคนซื้อ และ คนขาย

--------------------------------------

เหอ เหอ กานต์เพิ่งเห็นว่าคุณกะว่าก๋า อยู่เชียงใหม่

พอดีว่า กานต์จะไปเที่ยวเชียงใหม่ วันที่ 25 สิงหา

คุณกะว่าก๋า มีที่ไหนแนะนำเป็นพิเศษรึเปล่าค่ะ

แบบว่าห้ามพลาด ถ้ามาเชียงใหม่

เหอ เหอ

โดยเฉพาะของกิน เหอ เหอ

กานต์ไปกับแม่สองคนค่ะ

ว่าจะพักแถววัวลาย เพราะว่าอยากเดินถนนคนเดินที่นั่นด้วยค่ะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: karnlaka IP: 202.91.19.192 22 กรกฎาคม 2550 13:00:00 น.  

 

มีเวลาน้อย แต่แวะมาเยี่ยมนะคะ

มีความสุขสนุกสนานวันหยุดเด้อค้าเด้อ

 

โดย: the kookkom 22 กรกฎาคม 2550 13:04:04 น.  

 

สวัสดีค่ะ
..
ขอบคุณนะคะชอบคุณคิ้ม
แต่ไม่ทันดูสัมภาษณ์ค่ะ
..
..
ทุกอย่างล้วนเป็นเพียงสิ่งสมมุติ
หากแต่การตั้งมั่นก็ไม่ง่ายเลย
..
..
เรียนรู้ทำความเข้าใจกันต่อไปค่ะ

 

โดย: azamiya 22 กรกฎาคม 2550 13:12:37 น.  

 

ไปเที่ยวอีกและ! ยึดบล็อกซะดีมั๊ย?
อิอิ ล้อเล่นค่ะ วันหยุดแบบนี้ได้เที่ยวพักผ่อนบ้างก็ดีนะ
ไปหวีดหวานกันสองคนกับภรรยาล่ะซี้ ขอให้มีความสุขนะคะ
.................
นั่งคุยกับตัวเองวันนี้ คุยเรื่องเครียดไม่ใช่เล่นนะคะ
ระบบทุนนิยม แต่ก่อนใครๆก็เห็นว่าดีที่สุด
มันมักจะมาพร้อมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
และได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
มันเคยทำให้ระบอบสังคมนิยมของรัสเซียล่มสลายมาแล้วด้วย
แม้แต่จีนเองซึ่งปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมอย่างเข้มแข็งมาตลอด
ยังต้านกระแสของมันไม่อยู่ ต้องหันมาปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจของตัวเองเป็น ทุนนิยมในที่สุด
เพราะไม่อย่างนั้นประเทศก็คงต้องแตกสลายเหมือนรัสเซี

แต่เชื่อพี่เถอะค่ะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรยั่งยืนหรอก เมื่อถึงจุดหนึ่ง
ที่ระบบทุนนิยมมันรุ่งเรืองเกินไปจนทำให้สังคมล่มสลาย
ระบบนี้มันก็จะล่มสลายตามไปด้วย คนกลุ่มเดียวที่กุมเงิน
กุมอำนาจ
เขาเหล่านั้นมีสภาพเหมือนอยู่บนยอดปิรามิด
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ที่อดอยากยากจน ด้อยโอกาส
และรวมถึงชนชั้นกลาง มีปริมาณมากกว่า
เปรียบเสมือนฐานและส่วนกลางของปิรามิด
ยอดปิรามิตตั้งตระหง่านอยู่ได้ก็เพราะมีฐานที่มั่นคง
แต่เมื่อวันหนึ่งที่ฐานมันพังลงมา ปิรามิดนั้นจะตั้งอยู่ได้อย่างไร
ทุกวันนี้ปิรามิดมันก็เริ่มสั่นคลอนแล้วหละ ใครๆก็รู้
จะเห็นได้จากปัญหาการก่อการร้ายของประเทศมุสลิม
ซึ่งส่วนใหญ่ประชากรจะเป็นคนยากจนและด้อยโอกาส
พวกเขาถูกเอารัดเอาเปรียบ กดขี่จากระบอบทุนนิยม
ปัญหาส่วนใหญ่พี่ก็คิดว่ามันมาจากสาเหตุที่เขาตามระบบนี้ไม่ทัน
เนื่องจากคุณภาพของประชากร ไม่มีศักยภาพพอที่จะแข่งขันกับประเทศอุตสาหกรรม
แต่ในเมื่อสู้กันด้วยระบบ ด้วยกติกาไมได้ เพราะมันเป็นมวยคนละรุ่น
ก็ต้องเอาทุกทางที่จะชนะหรือแค่พอประคองตัวเองให้รอด
ถึงขนาดที่ว่า ต้องกัดหูคู่ต่อสู้ ก็ต้องทำ
เหมือนกับที่ซัดดัม และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆกำลังทำอยู่
เพราะเขาถูกเอารัดเอาเปรียบจากระบบทุนนิยม
จริงอยู่นะคะว่าการตอบโต้แบบนี้มันไม่แฟร์ พี่เองก็ไม่เห็นด้วย
แต่เมื่อเขามีเงินมีอำนาจน้อยกว่า ด้อยกว่าในทุกๆด้าน
เขาก็จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและเผ่าพันธ์
พื้นฐานของมนัษย์ทุกคนรักชีวิตตัวเองทั้งนั้นค่ะ ทฤษฎีของมันฟรอยด์กล่าวไว้ชัดเจน
ว่ามนุษย์ต้องการความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต
เมื่อใดที่รู้สึกว่าถูกคุกคามเราก็ต้องหาทางโต้ตอบ
ไม่ว่ามันจะผิดกติกาหรือไม่ก็ตาม กฏ กติกาใครเป็นคนตั้งขึ้นล่ะคะ
ก็มนุษย์เองนั่นแหละ ในเมื่อตั้งขึ้นมาเองทำไมจะแหกมันไม่ได้ล่ะ
........................

ซึ่งพี่คิดว่านี่เป็นสัญญาณอันตรายมากของระบบทุนนิยม
และของโลกเพราะมันกำลังจะส่อให้เห็นว่าคนหมู่มากในสังคม
คนที่อยู่ในส่วนฐานของปิรามิด กำลังแบกส่วนยอดที่หนักเกินไปแล้ว
แล้วสักวันเขาจะลุกขึ้นมาปฏิวัติระบบ แล้วทุกอย่างก็ต้องล่มสลายลง
นี่คือที่พี่อยากจะบอกว่าทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรที่เป็นจีรังยั่งยืน
มันมาได้ มันก็ไปได้ มันรุ่งเรืองได้มันก็เสื่อมถอยได้
ทุนนิยมก็หนีไม่พ้นกฏนั้น แต่เมื่อถึงเวลานั้นพี่ว่าคนที่อยู่ในส่วนฐานของปิรามิด
จะเป็นคนที่ตั้งหลักได้ก่อนใคร เพราะเขาเคยชินกับความยากลำบาก
เขากอดคอกับมันมาอย่างสหายผู้สนิทชิดเชื้อ เป็นเพื่อนกินเพื่อนตายกับมันมา
คำถามคือ ผู้ที่อยู่ตรงส่วนยอดของปิรามิด
เมื่อต้องมาตกระกำลำบาก เขาจะใช้ชีวิตอย่างไร???

 

โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) 22 กรกฎาคม 2550 13:14:30 น.  

 

อีกนิดนะคะ พี่ว่าที่ในหลวงท่านทรงมีพระราชดำริ
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมา พี่ว่าพระองค์ท่านคงทรงเห็นอนาคตแล้วหละ
ว่าต่อไประบบทุนนิยมจะล่มสลาย ในหลวงของเรา
ท่านทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกลมาก ท่านเคยทรงตรัสไว้เมื่อหลายปีมาแล้วว่า
"ต่อไปสังคมโลกจะวุ่นวายไปด้วยปัญหาการก่อการร้าย
ระบบเศรฐกิจจะพังทลายเพราะปัญหาดังกล่าว เนื่องจาก
นักลงทุนหวาดกลัว ไม่กล้าลงทุน เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย
ภัยก่อการร้ายจะขยายไปทั่วโลก ทุกหย่อมหญ้า
จะมีแต่ปัญหาการลอบวางระเบิด" ฟังดูคุ้นๆมั๊ยคะ มันอยู่ใกล้ๆเรานี่เอง
เพราะฉะนั้นท่านจึงทรงมีพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
พระองค์คงจะทรงเล็งเห็นว่า ถ้าเศรษฐกิจเกิดล่มสลายขึ้นมา
ประชาชนของประองค์จะสามารถปรับตัวได้ก่อนใครอื่น
และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยไม่เดือดร้อน

 

โดย: ฝากเธอ 22 กรกฎาคม 2550 13:34:24 น.  

 

ยาวมากๆ....เออขอเเค่ดำรงชีวิตอยู่แบบไม่ทุรนทุราย
เกินไปก็พอค่ะ

 

โดย: กาแฟดำไม่เผ็ด 22 กรกฎาคม 2550 15:05:21 น.  

 

Will be back to read it tomorrow na ka.

Just got back home kha.

I'm so tired jung kha.

Wanna go to bed now kha.emo

Be right back tomorrow na ka.

 

โดย: CSULB@FineArt 22 กรกฎาคม 2550 15:55:04 น.  

 

หวัดดีตอน 4 โมงเย็น เพิ่งจะกินข้าวเช้าค่ะ เหอๆ

อ่านแล้วตีนกาขึ้นเลย ..

เอางี้..

ตอบเหมือนป้าแช่มแล้วกันค่ะ ...

 

โดย: ซซ 22 กรกฎาคม 2550 16:19:33 น.  

 

อ่านแล้วตีนกาขึ้น ต้องไปกินยาแก้ปวดหัวเลยค่ะ อิ อิ

เขียนเก่ง น่าสนใจจริงๆ เขียนได้ทุกแบบเลยคุณกะว่าก๋าเนี่ย

เห็นด้วยกับป้าแช่มค่ะ ระบบไหนก็ได้ที่จะทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างมีสุข ทางที่ดีผสมทั้งสองระบบเข้าด้วยกันก็จะดีนะคะ

 

โดย: the Vicky 22 กรกฎาคม 2550 16:27:23 น.  

 

กลับมาแล้วค่ะ emo

รู้สึกว่าคนรวยจะยิ่งรวยขึ้นแล้วคนจนก็ยิ่งจนลงค่ะ มันก็เกิดจาดความได้เปรียบจากอะไรหลาย ๆ อย่าง

คุณครูก๋าเขียนได้แบบลึกซึ้งค่ะ ลึกกว่าความคิดเราเยอะค่ะ
แล้วคำตอบของป้าแช่มก็ถูกใจมากค่ะ emo

ชีวิตตอนนี้ก็พอใจแล้วค่ะ มีความสุขดี ที่เหลือก็ค่อย ๆ ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมบ้างเพื่อความอยู่รอดค่ะ emo

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 22 กรกฎาคม 2550 16:47:09 น.  

 

ออกไปเที่ยวหรือค่ะคุณก๋าขอให้มีความสุขน่ะค่ะ

คุณก๋า ฮือๆ จะไม่ได้มาอ่านบ่อยๆแล้ว เพราะต้องย้าย
ถิ่นที่อยู่ ฮือๆ แล้วกิลจะมาตามอ่านบ่อยๆน่ะค่ะ

 

โดย: li_goro 22 กรกฎาคม 2550 17:02:00 น.  

 

แวะมาทเกทายคะ มาอ่านเอาความรู้ไปด้วยคะ

 

โดย: mintny_n 22 กรกฎาคม 2550 17:24:49 น.  

 



ออกมาแล้วค๊า .. มาบ้านพี่ก๋าและภรรยาคนสวยไงคะ


แม๋ๆ แม๋ แม๋ .. ขอกระทุ้งอีกซักหลายๆ ทีได้ปะคะเนี่ย 555 ก็พี่ก๋ามีภรรยาที่แสนน่ารักอยู่เคียงข้าง พี่ก๋าจะมาอินกะเพลงได้ไงละค๊า .. แม๋ๆๆ

วันนี้ไปเที่ยวมา พี่ภรรยาสนุกไม๊คะ ..

มีความสุขมากๆ นะคะ ..
ปล. เพลงเพราะ แต่ไม่เท่าเสียงพี่ก๋าเนอะ 555555+++++
ห้าพลัสไปเลย ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณค่ะ ..

 

โดย: spywine4me 22 กรกฎาคม 2550 17:40:56 น.  

 

ความคิดของป้าแช่ม
ตรงใจที่สุดค่า 555

 

โดย: เอ๊กกี่ 22 กรกฎาคม 2550 18:05:50 น.  

 

ว่าจะตามมาขำต่อ
เจอสาระซะนี่กระไร

ขออนุญาตแปะไว้ก่อน ไว้จะตามมาอ่านใหม่นะคะ

 

โดย: มันจะดีเหรอคะ 22 กรกฎาคม 2550 18:25:02 น.  

 

มะวานเข้าบล็อกคุณก๋าไม่ได้ค่ะ

ขอบคุณที่เกี่ยวก้อยคุณ ผบทบ ไปบ้านเรา ... จะแวะมาบอกว่าลองให้คุณ ผบทบ ทำคุ้กกี้สูตรในบล็อกดูสิคะ อาหย่อยมากเลยน้า แล้วจะว่าม่ายบอก

อืม วันนี้เป็นเรื่องจะว่าหนักก็ไม่เชิง เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักต้องทำความเข้าใจและต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องจึงจะนำสังคมอยู่รอดได้ บางทีสิ่งที่คุณก๋าพูดอาจจะถูก ถ้าโลกหมุนเร็ว เราตามไม่ทัน บางทีโลกจะฉุดกระชากลากถูเรา ท้ายสุดเราจะเจ็บ

ทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องที่เราค้างคาใจมานาน
1 คนมีรถ ขับรถตัวเอง

2 รณรงค์ให้ใช้รถสาธารณะ ด้วยเหตุผล หนึ่งสองสาม

3 ใช้รถสาธารณะ (ไม่มีเงิน ซื้อรถ หรือ อาจจะมี แต่ร่วมมือรณรงค์ )... เสี่ยง ... บางทีอาจถึงชีวิต เพราะพลัดตกรถ ... โดนอาชญากรรม และอีกเยอะแยะ อีกอย่างคือ การเดินทางไม่สะดวก เพราะพาหนะสาธารณะไม่เอื้ออำนวย หรือ คุณภาพของผู้ให้บริการ (ไม่รู้ใช้วิธีคัดคนอย่างไร) ต่ำ ประมาท และอีกมากมาย

4 บังคับให้คนต้องมีรถ ซื้อๆๆ ซื้อเข้าไปจนรถจะล้นประเทศไทย...ที่ตามมาคือหนี้สิน...มลภาวะ และอื่นๆ จนต้องวนไปข้อสองอีก

แต่มีน้อยคนนักที่จะคิดไปแก้ไขที่ต้นตอคือข้อ 3 มันอาจใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มค่าที่จะรอ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดี และสิ่งดีอื่นๆก็จะตามมา ถึงตอนนี้ ประเทศเราจะเป็นแบบใด ทุนนิยม หรือ พอเพียง จะไม่มีปัญหา ขอให้มหภาคและจุลภาคมีแนวทางที่ตรงกันก็เป็นพอ

พนันได้ว่า ปัญหาหลักๆของไทย การศึกษา ค่านิยม อีทีซี หนีไม่พ้นแนวๆ วงเวียนข้อหนึ่งถึงข้อสี่หรอกค่ะ

งงไหมเอ่ย
เขียนให้คนอ่านแล้วเข้าใจไม่ค่อยเป็นน่ะค่ะ


 

โดย: Piterek 22 กรกฎาคม 2550 18:36:28 น.  

 

กว่าจะเข้ามาได้ แง๊วๆ ..

กดที่นี่ค่ะ เพลงนี้อุ๋มทำ BG ใหม่ค่ะ

สำหรับพี่ภรรยาพี่ก๋าด้วยค่ะ .. ฮิฮิฮิ

 

โดย: spywine4me 22 กรกฎาคม 2550 18:40:27 น.  

 

มาส่งคุณครูก๋ากับคุณภรรยาคนสวยเข้านอนค่ะ emo

ฝันดีนะคะ emoemo

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 22 กรกฎาคม 2550 20:43:58 น.  

 

ดีน่ะที่ไอ้เด็กนั้นมานไม่ได้เรียนรุ่นเดียวกะแม่น้องรัน

ไม่งั้นจะฆ่ามานสกัดดาวรุ่ง หัวหมอกว่าเราอีก

เก็บกวาดบล็อกมั้งน่ะ โหลดนานจิ๊บ...

 

โดย: แม่น้องรัน (runch ) 22 กรกฎาคม 2550 20:49:05 น.  

 

"สวยจังครับ ฝีมือชั้นครูเลยครับ ผมเห็นแล้วอายฝีมือตัวเองจริงๆเลยครับ ต่อไปผมคงไม่กล้าเอาผลงานตัวเองออกมาโชว์ให้อายอีกแล้วล่ะครับ แม่น้องรันรับลูกศิษย์ไหมครับผมขอสมัครเป็นคนแรกเลยได้ไหมครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปช่วยวิจารณ์งานของผมบ้างน่ะครับ"

แค่เนี้ยย แหละ ทำเป็นไหม

 

โดย: แม่น้องรัน (runch ) 22 กรกฎาคม 2550 21:26:36 น.  

 

ถึงมืดค่ำยังคนึงถึงมิตรสหาย..
ด้วยวันนี้เป็นวันดีพระจันทร์สวย
แม้เพียวเสี้ยว..ก็สดใสไร้หม่นหมอง
ขอนะโม..และพุทโธประนบน้อม
วันขึ้น แปด ค่ำ..เดือนแปดสองหน..
ตรงวันพระ

เคล็ดลับการประสบความสำเร็จในชีวิต ก็คือ
อย่าปล่อยชีวิตให้*ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ชีวิตให้มา*
แต่อยู่ที่เราจะ*ทำอย่างไรกับสิ่งที่ได้มา*จากชีวิตต่างหาก

ขอขอบคุณหนังสือค้นหาตัวเอง..จากมิตรคุณกะว่ากำ..มอบให้อ่านค่ะ
อย่าลืมไหว้พระก่อนนอนนะค่ะ

อนุโมทนาบุญ..เช่นเคย..ที่มิเคยลืมค่ะ




 

โดย: catt.&.cattleya.. 22 กรกฎาคม 2550 21:36:13 น.  

 

แวะมาทักทายหลังจากหายไปเป็นอาทิตย์ค่า

บล็อคยาวมากเลยงวดนี้ เราม่ะค่อยถนัดเรื่องเศรษฐกิจเท่าไหร่
แต่อ่านแล้วชอบที่คุณก๋าบอกว่า

"วันหนึ่ง...หากแก่นแกนของประเทศล้มครืน
คุณนึกหรือบรรดาเศรษฐีนายทุนทั้งหลาย
ว่าคุณจะอยู่ในสังคมนี้ได้
ด้วยเพียงกองเงินเท่าภูเขาเลากา
ด้วยเศษกระดาษไร้ค่าที่ใส่ปากเคี้ยวกลืนไม่ได้ของพวกคุณ"

 

โดย: haiku 22 กรกฎาคม 2550 21:47:46 น.  

 

" ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย

มันเป็นประโยคชุดเดียวกันกับ

ฉันไม่เคยเข้าใจคนอื่นเลย "

เพราะประโยคนี้จากคุณครูก๋าค่ะ ถึงทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น ตอนนั้นมีเรื่องกับน้องสาวค่ะ น้อยใจกับคำพูดของเค้า ปกติเป็นคนขี้น้อยใจอยู่แล้วค่ะ แต่เป็นแบบน้อยใจแล้วไม่มีเหตุผล เอาแต่ความรู้สึกของตัวเองค่ะ

ปกติหยุดเต็ม ๆ แค่ตรุษจีน 2 วันค่ะ เชงเม้งหยุดแค่ครึ่งวัน ส่วนปีใหม่ปีนี้ไม่ได้หยุดเลยค่ะ ก็รู้สึกเหมือนกันค่ะว่าทำไมเราถึงได้คร่ำเคร่งขนาดนี้ ตอนแรกก็หวังจะใช้หนี้ให้หมดเร็ว ๆ แต่รู้สึกว่าเหนื่อยค่ะ ไม่ค่อยมีความสุข อาจได้ผ่อนคลายบ้างตอนเล่นเน็ตแต่ก็ไม่เท่ากับการได้เต็มที่กับครอบครัวค่ะ

ตอนนี้มีความสุขมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะบันทึกเกี่ยวกับความตายเมื่อเดือนพฤษภาคมด้วยค่ะ มันค่อย ๆ ซึมซับค่ะ ทำให้คิดว่าทำอะไรให้ดีและมีความในวันนี้ดีกว่าค่ะ

ความสัมพันธ์กับคนที่บ้านก็ดีขึ้นค่ะ เมื่อก่อนก็เฮฮาปาร์ตี้ แต่เริ่มปิดตัวเองไปพักใหญ่ ๆ เพราะรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลย

แต่หลังจากที่อ่านบล็อกคุณครูก๋าที่ว่า ครูให้นักเรียนเขียนจดหมายถึงแม่ โดยสมมติว่าจะไปอยู่กับแฟนจะเขียนว่ายังไงถึงจะให้แม่ยอมรับ แล้ววันต่อมาให้นักเรียนสมมติว่าเป็นแม่แล้วจะเขียนจดหมายไปคัดค้านและให้เหตุผลลูกว่ายังไง

นี่แหละค่ะ ถึงได้คิดถึงความรู้สึกของแม่ตั้งแต่นั้นมา โดยที่ก่อนหน้านั้นเวลาแม่พูดอะไรมาเราก็จะพูดประมาณว่าไม่แคร์ เราคิดดีแล้ว เราพอใจอย่างนี้ แต่ตอนนี้กลับมาคิดใหม่ว่าถ้าเราเป็นแม่คนแล้ว ลูกสาวเราเลือกทางนี้แล้วเราจะยอมรับได้มั๊ย คำตอบคือ ยังไม่ได้ ทุกวันนี้ก็พยายามทำให้อย่างน้อยที่สุดก็เท่าที่เราคิดว่าคนเป็นแม่คนนึงจะยอมรับได้ค่ะ ตอนนี้ก็คิดแต่ว่าจะทำยังไงให้พ่อกับแม่มีความสุขค่ะ

ขอบคุณคุณครูก๋ามากค่ะที่ทำให้เปลี่ยนความคิดแย่ ๆ นี้ได้ค่ะ


emoemo

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 22 กรกฎาคม 2550 21:51:12 น.  

 

นักวิขาการที่วิจัยพันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกในนาพื้นที่เท่าเดิม แต่ได้ผลผลิตมากกว่าเป็น สิบๆเท่า

เป็นความคิดที่ดีนะครับ มาร่วมสนับสนุน

แต่ผมคงไม่มีแรงพอที่จะผลักดันได้ (แต่ถ้ามีโอกาส จะต้องทำแน่นอน) ก็ได้แต่พูดแบบป้าแช่มครับ

'ขอท้องกรูอิ่มเป็นพอ'

 

โดย: fzero 22 กรกฎาคม 2550 21:57:23 น.  

 


ชมกันะขนาดนี้ก็อายแย่สิคะ ขอบคุณมากค่ะ อิอิ น่ารักซะ
พี่ไม่ใช่เป็นคนที่รอบรู้อะไรมากมาย พอที่จะสอนใครได้หรอกค่ะ
แต่พี่เป็นคนที่มองอะไรไปตามหลัก ไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ
และมองด้วยสายตาของสามัญชนธรรมดาเท่านั้นเอง
การเสนอความเห็นของพี่มันจึงเป็นแบบพื้นๆ แต่พี่คิดว่า
มันก็คือความจริงที่ลึกๆเราทุกคนก็รับรู้อยู่ว่ามันเป็นเช่นนั้น
และเราก็หลีกหนีไม่พ้น ไม่ว่าเราจะดิ้นรน ตะเกียกตะกาย
วิ่งหนีมันสักเท่าไหร่ สักวันมันก็จะตามเราทันในที่สุด
อย่างที่หลายๆคนว่าไว้ค่ะ ความจริง ก็คือความจริง
พี่อาจจะโชคดีหน่อยเท่านั้นเอง ที่ได้สายตาในการมองโลกแบบนี้
มาจากหลวงพ่อพุทธทาส เพราะความที่เป็นคนในพื้นที่
ตั้งแต่เด็กๆพี่ได้รับอิทธิพลจากคำสอนของท่านมาตลอดค่ะ
.................
นอนหลับฝันดีและมีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: ฝากเธอ 22 กรกฎาคม 2550 22:04:52 น.  

 

คุงก๋าคะอิช้านหมายถึงว่า เรื่องมันก็เข้าใจง่ายๆ แต่เป็งเพราะอิชั้นเอง เขียนวนไปก็วนมา กลัวจะทำให้คุณสับสนอ่ะดิ๊ แต่คุณไม่ฉับฉนก็เป็นอันดีค่ะ

ให้แฟนคุณก๋ามาสอนโยคะในนี้ดีไหมเนี่ย
เปิ้ลก็อยากเล่น แต่ขี้เกียจอ่า โฮะ โฮะ

 

โดย: Piterek 22 กรกฎาคม 2550 22:16:13 น.  

 

ขอบพระคุณคุณกะว่าก๋า มากนะค่ะ

กานต์ชอบร้านเฮือนสุนทรีมากค่ะ

เคยไปสมัยฝึกงาน

ชอบมากที่คุณสุนทรีมาร้องเพลงให้ฟัง

เพลงโปรด - ล่องแม่ปิง - ชอบมากค่ะ

บรรยากาศร้านก็สวยมาก

รสชาติ อาหารจำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ

รู้แต่ว่า แค่ฟังเพลงกับดื่มด่ำบรรยากาศ ก็อิ่มแล้วค่า

 

โดย: karnlaka 22 กรกฎาคม 2550 23:22:48 น.  

 

เรื่องนี้เถียงกันเท่าไหร่ก็ไม่จบ
น่าเบื่อ

ป้าแช่มแกน่ะถูกแล้ว

 

โดย: UnEdiTED 22 กรกฎาคม 2550 23:51:44 น.  

 

I think many people got ระบบเศรษฐกิจพอเพียง in wrong way na ka.

I think ระบบเศรษฐกิจพอเพียง doesn't mean we only need to be ประหยัด ทำงานให้น้อยลง พักผ่อนให้มากขึ้น ไม่เน้นการแข่งขันมาก แต่เน้นการแบ่งปัน.

In my point of view ระบบเศรษฐกิจพอเพียง just help teaching the investors don't feel too greedy and borrow too many money from bank and invest it through the company.

ระบบเศรษฐกิจพอเพียง wants the investor make the investment depending on their abilities kha.

The company may grow slowly, but sure.

ระบบเศรษฐกิจพอเพียง doesn't mean work less...rest more...if you want to have your own space in this world, you need to compete with others kha...but you need to know how and with what tactic.

Somehow work less and rest more are our population's personality kha.

We have had been like this since long time ago.

I don't think ระบบเศรษฐกิจพอเพียง has anything to do with our people kha...if we have better understanding about it.

After staying here for awhile I know one thing that US are so smart of how to use people kha.

Not a lot of white are smart na ka...US (and many countries in this world now do the same tactic kha) know how attract smart people to come here to work for them just because they pay you better than what you get in your own country.

As you can see many smart people from all over the world come here to work.

I could see no point that US won't become success and our country is still remaining in the same place, but I learn one thing from one of my class that US has no money left in their treasure kha.

They keep raising their tax and almost have no money left for their population's pension kha.

I think some problems in ระบบทุนนิยม has already occur kha...not much but still.

+++ they spend a lot a lot of money on War...so I believe soon this country will have a lot of problems following kha, specially poverty problems...as you know poverty problem will lead to so many problems later on kha.

Oop I gone too far...come back Ann...so sorry kha P'Kit. ^^"

I am complaining too much again...ok where am I.

You need to know how to put people in the right spot and need to know others in order to improve not only small company, but I believe also our country kha.

There are many factor to help us grow kha...

I think at least if something happen...if we will get hurt, ระบบเศรษฐกิจพอเพียง will help us hurt ourselves the least kha...I think this is one of the reason why our king wants us to use this tactic kha.

So sorry na ka P'Kit for taking a lot of your space complaining again and again.

 

โดย: CSULB@FineArt 23 กรกฎาคม 2550 7:00:47 น.  

 

สวัสดีครับน้องแอน

เมื่อวานไปดินเนอร์...กันสองต่อสอง

Itcha Jung kha!!! Itcha Jung

I think everyone here are addicted to bloggang na ka...part of it because we have our own space that we can do anything with it...+++ we know a lot of nice people here a kha.

Love you Bloggang and all of my friend here.


วันนี้ไปดูงานศิลปะของศิลปินพม่ามา

ItCha again kha!!! this time Ann very very Itcha kha.

Wanna see it too.

Last week I almost can you to one museum and take pictures there kha if my friend's friend didn't mention that he didn't know anything about Art and didn't want to go to Museum...

He is so Jai Rai kha.

พี่ว่า "ความรู้สึก" บางที ควรให้น้ำหนักมากกว่า "เทคนิคหรือรูปแบบ" ด้วยซ้ำ

Totally agree with you kha P'Kit...I guess because I always use my feeling to see Artworks kha.

Never judge from Artist's styles and techniques kha unless I need to because of some of the professors kha.

I always believe the Artist should express his thought onto his works kha.

How are you today kha P'Kit and K'P'Kit's wife?

Have a very very nice day na ka.

Take care kha for both of you.

Mee Kwam Suk Mark Mark na ka.

N'Ann

 

โดย: CSULB@FineArt 23 กรกฎาคม 2550 7:15:22 น.  

 

จะเดินหน้าก็ไฟ จะถอยหลังก็ไฟ

 

โดย: นางน่อยน้อย 23 กรกฎาคม 2550 7:18:16 น.  

 

มารายงานตัวก่อน เดี๋ยวจะลืมกันไปซะก่อน

เพิ่งกลับมาจากงานภาระกิจสุดยอด...ว่าไปนั่น

หายไปตั้ง 2 อาทิตย์ คุณก๋ายังจำกันได้อยู่ป่าวก็ม่ายรู้

อาทิตย์นี้มีเวลานั่งอยู่หน้า com ซัก 15 ก็จะได้ ฤกษ์ update blog ใหม่ ยังไงจะมาตามนะคะ

 

โดย: วิตามินโซดา 23 กรกฎาคม 2550 10:06:50 น.  

 

สวัสดีค๊า กลับมาแล้ว อิอิ
ไม่ได้เข้ามานานมากๆ
ลิงน้อยตกแต่งบล๊อคใหม่แล้ว
ลองเข้าไปติชมนะค่ะ

 

โดย: freedom (ยัยลิงน้อย ) 25 กรกฎาคม 2550 10:39:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]