นักล่าแต้ม...กับหัวใจที่หล่นหายระหว่างทาง
นั่งคุยกับตัวเอง : นักล่าแต้ม...กับหัวใจที่หล่นหายระหว่างทาง เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 28 กรกฏาคม 2550
ปัญหาหนึ่งที่เราๆท่านๆได้ยินและรับรู้มาตลอด คือ เรื่องทางเพศของวัยรุ่นที่ดูท่าทางนับวัน จะรุนแรงหนักหน่วงและลดทอนอายุลงมาเรื่อยๆ สิ่งที่เรามักหยิบมาโจมตีอยู่บ่อยครั้งก็คือ สื่อสิ่งพิมพ์ลามก วีดีโอซีดีลามก ภาพวาบหวิว การแสดงท่าทางยั่วยุทางเพศของนักร้อง รวมไปถึงการแต่งเนื้อแต่งตัวของดารานักแสดงที่นับวันยิ่งเปิดเผยโนมเนื้อ และสวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นลงไปเรื่อยๆ
ถามว่าปัญหามันเริ่มต้นขึ้นจากตรงนั้นจริงๆล่ะหรือ ?
......................................
“นักล่าแต้ม” คือ คำยกย่องที่ลูกผู้หญิงดีดีไม่อยากรับไว้ติดตัว เพราะมันหมายถึง “วิถีทาง” ที่เด็กสาวจำนวนหนึ่ง เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทำทุกวิถีทาง เพียงเพื่อแก่งแย่งแข่งขันว่าใครจะร่วมหลับนอนกับผู้ชายได้มากกว่ากัน กติกามีง่ายๆแค่ ออกนอกบ้านแล้วก็พาผู้ชายทั้งที่แปลกหน้าและไม่แปลกหน้าไปหลับนอนมีเพศสัมพันธุ์ให้ได้ ห้ามซ้ำหน้า ห้ามซ้ำคน กติกาหลวมๆมีไว้แค่นั้น ในกลุ่มจะเชื่อใจกันว่าไม่มีการหลอกลวงข้อมูล เป็นการเอาชนะคะคานเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนในกลุ่ม หรือเป็นแค่การเติมเต็มหัวใจแหว่งวิ่นในวันที่โลกหม่นหมอง และไม่มีใครคอยให้โอบกอดอุ่นๆอย่างแท้จริงกับชีวิต
บางทีคำถามนี้...ก็ไม่ต้องการคำตอบ
.................................
บางทีผู้ชายแท้ๆอย่างคุณอย่างผม อาจต้องตั้งคำถามหนักๆให้กับตัวเอง ว่าทุกวันนี้เราดูแลเพศแม่ของเราด้วยความรู้สึกแบบไหน เรามองคุณค่าของความรักกันในมิติใด หรือเพียงแค่คลำดูแล้วไม่มีหางก็ซอยขยับบั้นเอว เพื่อเสพสมกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา เรามองเพศแม่ด้วยสายตาอย่างไร วันดีคืนดีถึงได้มีแต่ข่าวลากผู้หญิงไปรุมโทรม ทำร้ายและข่มขืน ถ้าเรามองผู้หญิงว่าเป็นเพียงเครื่องมือรองรับความใคร่ทางเพศ ที่จะทำอย่างไรแบบไหนก็ได้
ผมคิดว่าในนิยามแบบนี้ ผู้ชายก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ในหัวไม่ได้มีสมอง แต่มีดุ้นอะไรสักดุ้นที่ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องร่วมเพศและสืบพันธุ์ทั้งวันทั้งคืน บางทีที่ว่ามนุษย์มีจิตใจที่สูงส่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน อาจเป็นคำยกย่องที่เกินเลยเกินไป
..................................
ผมชอบดูภาพนู๊ด (NUDE) ดูอีกกี่ครั้งผมก็เชื่อมั่นว่านั่นคือ ศิลปะ ถามว่าดูเสร็จแล้วอยากออกไปลากผู้หญิงแปลกหน้ามาข่มขืนบ้างไหม ? ระดับศีลธรรมในตัวยังไม่ต้องทำงาน ผมก็รู้คำตอบว่า “ไม่” เราไม่มีวันออกไปทำร้ายคนซึ่งมีเพศเดียวกับแม่ของเรา ด้วยเหตุผลของการโดนกระตุ้นด้วย “สื่อ”
ถ้าทุกครั้งที่มีการข่มขืนแล้วไปถามคนที่ลงมือกระทำ แน่นอน...คำตอบสำเร็จรูปมีไม่กี่ข้อเท่านั้น ผมเมา....เดินไปเห็นเด็กคนนี้ เลยเกิดอารมณ์ทางเพศ ผมดูวีซีดีมีฉากร่วมเพศ เห็นแล้วเกิดอารมณ์ เลยฉุดผู้หญิงคนนี้มาข่มขืน เห็นเค้าแต่งตัวโป๊ ก็เลยเกิดอารมณ์ทางเพศ ฯลฯ
อย่างไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผมไม่อาจยืนยันได้ว่า “สื่อลามก” เหล่านี้มีส่วนมากน้อยเพียงใดกับการกระตุ้นในเกิดอาชญากรรมทางเพศ ผมแค่คิดว่า...แน่ใจแล้วหรือว่าหากวันหนึ่ง คุณเอาสื่อลามกเหล่านี้ออกไปจากสังคมไทยได้ทุกตารางนิ้ว แล้วเราจะไม่เกิดโศกนาฏกรรมทางเพศกับผู้หญิงในบ้านนี้เมืองนี้
ผมคิดไปถึงสองสามร้อยปีก่อนที่บ้านเมืองยังไม่มี “สื่อลามก” เหล่านี้ แต่ที่เรารับรู้ คือ การข่มขืนก็เกิดขึ้นตั้งแต่ในยุคนั้น การประทุษร้ายทางเพศยิ่งเกิดขึ้นในสภาวะของการทำสงคราม แก่งแย่งอำนาจ และผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุรองรับอารมณ์เท่านั้น ในยุคที่ผู้ชายครองความเป็นใหญ่ในสังคม
ถ้าคุณคิดแค่ว่า “ก็ผู้หญิงเกิดมาเพื่อรองรับอารมณ์ทางเพศ” ผมว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ “สื่อ” อีกแล้ว หากแต่ “ปัญหาทางเพศ” ที่หมักหมมอยู่ในหัวใจอันสกปรกต่างหาก ที่ไม่ว่ากี่ร้อยกี่พันปีผ่านไป… ผู้ชายก็ยังใช้สัญชาติญาณทางเพศอันดิบเถื่อน ปลอบประโลมชีวิตอันผุพังของตัวเองโดยไม่เปลี่ยนแปลง
.................................
ผมนั่งคุยกับน้องนุ่งคนหนึ่ง ที่เคยถูกเรียกขานว่า “ผู้หญิงของคณะฯ” ค่าที่ผู้ชายคนไหนก็เอาเธอไปนอนด้วยได้ เพื่อนหลายคนของผมมองเธอด้วยสายตาเหมือนวีรบุรุษสงคราม หลังพาเธอไปนอนก่ายกกแล้วก็แยกทางในเช้าอีกวัน คล้ายว่าการหลับนอนนั้นมีค่าไม่ต่างอะไรกับการกินก๋วยเตี๋ยวแห้งสักห่อ เหมือนการแปรงฟัน เหมือนการซักกางเกงใน เหมือนการขับถ่าย ขี้เสร็จ กดน้ำลงชักโครก แล้วดำเนินชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“บางทีหนูก็เสียใจนะ หนูก็อยากได้ความรักเหมือนคนอื่นๆ” เธอพูดไป ร้องไห้ไป
ผมคิดว่าแค่วิธีการคิดแบบผลักปัญหาออกไปให้พ้นตัว เราจะได้รับคำตอบสำเร็จรูปแบบ “ผู้หญิงมันง่ายเองนี่หว่า ให้กู...กูก็เอา”
ถึงเวลาหรือยังที่ผู้ชายจะกลับเอาสมองมาคิดบ้างว่า หากเป็นการร่วมรักที่ไม่มีความรักอยู่ในนั้น หากเป็นเพียงการเสพสมที่ไม่มีค่าอะไรให้จดจำ “ถึงให้...กูก็ไม่เอา”
ผมนั่งมองดูเธอในฐานะของน้องนุ่งและผู้หญิงที่มีเพศเดียวกับแม่ของเราอย่างเห็นใจ บางทีเธอไม่ได้ต้องการผู้ชายเพื่อมาเติมเต็ม “เซ็กส์” ที่ขาดหาย เธออาจแค่ต้องการ “ความอบอุ่นในหัวใจ” มาเติมลงบนชีวิตที่แล้งร้อนจากความรักที่แห้งผากเหลือเกิน
.....................................
มันง่ายมากที่เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาในสังคม แล้วเราเอาแต่ “โทษอะไรสักอย่าง” แทนที่จะ “โทษตัวเอง” และหันมามองอย่างถ่องแท้เสียที ว่าไอ้สิ่งที่เลวที่ชั่วชาติ แท้จริงแล้วมันฝังอยู่ในความคิด อยู่ในวิธีคิดของเราหรือเปล่า บางทีเราอาจเลวมาตั้งแต่บรรพบุรุษหรือต้นตระกูลของเรา ต้องโทษเขาที่ฝังดีเอ็นเอชั่วๆแบบนี้ใส่มาในสายเลือดของเรา
และหน้าที่ของเราย่อมไม่ใช่การหดหู่ยอมรับชะตากรรมเลวๆแบบนั้น หากแต่ถึงเวลาเสียที ที่คนที่เรียกตัวเองว่า “ลูกผู้ชาย” ควรจะถอดวาง “ดุ้นนั้น” ของเราไว้ในที่ทางของมัน และ เริ่มต้นใช้มันสมองและสองมือไปในทางที่มันสร้างสรรค์กับโลกนี้บ้างเสียที
Create Date : 28 กรกฎาคม 2550 |
|
22 comments |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 7:24:46 น. |
Counter : 2102 Pageviews. |
|
|
ที่จริงผู้หญิงก็ต้องการความรัก ความอบอุ่นให้กับหัวใจ
ซึ้งมากเลยค่ะ
ขอบคุณ สำหรับบทความดีดี ทำให้เปลี่ยนแง่คิดเลยค่ะ
เพราะเราก็เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวแบบนั้นจริง ๆ
ทำให้คุณค่าของเพศหญิงอยู่ต่ำลงไป
แต่อ่านแล้ว ก็คิดได้ค่ะ ว่าเค้า ก็อาจมีเหตุผลของเค้า...........