กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
28 กรกฏาคม 2550

นักล่าแต้ม...กับหัวใจที่หล่นหายระหว่างทาง





นั่งคุยกับตัวเอง : นักล่าแต้ม...กับหัวใจที่หล่นหายระหว่างทาง
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
28 กรกฏาคม 2550



ปัญหาหนึ่งที่เราๆท่านๆได้ยินและรับรู้มาตลอด
คือ เรื่องทางเพศของวัยรุ่นที่ดูท่าทางนับวัน
จะรุนแรงหนักหน่วงและลดทอนอายุลงมาเรื่อยๆ
สิ่งที่เรามักหยิบมาโจมตีอยู่บ่อยครั้งก็คือ สื่อสิ่งพิมพ์ลามก
วีดีโอซีดีลามก ภาพวาบหวิว
การแสดงท่าทางยั่วยุทางเพศของนักร้อง
รวมไปถึงการแต่งเนื้อแต่งตัวของดารานักแสดงที่นับวันยิ่งเปิดเผยโนมเนื้อ
และสวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นลงไปเรื่อยๆ

ถามว่าปัญหามันเริ่มต้นขึ้นจากตรงนั้นจริงๆล่ะหรือ ?


......................................


“นักล่าแต้ม” คือ คำยกย่องที่ลูกผู้หญิงดีดีไม่อยากรับไว้ติดตัว
เพราะมันหมายถึง “วิถีทาง” ที่เด็กสาวจำนวนหนึ่ง
เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทำทุกวิถีทาง
เพียงเพื่อแก่งแย่งแข่งขันว่าใครจะร่วมหลับนอนกับผู้ชายได้มากกว่ากัน
กติกามีง่ายๆแค่ ออกนอกบ้านแล้วก็พาผู้ชายทั้งที่แปลกหน้าและไม่แปลกหน้าไปหลับนอนมีเพศสัมพันธุ์ให้ได้
ห้ามซ้ำหน้า ห้ามซ้ำคน กติกาหลวมๆมีไว้แค่นั้น
ในกลุ่มจะเชื่อใจกันว่าไม่มีการหลอกลวงข้อมูล
เป็นการเอาชนะคะคานเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนในกลุ่ม
หรือเป็นแค่การเติมเต็มหัวใจแหว่งวิ่นในวันที่โลกหม่นหมอง
และไม่มีใครคอยให้โอบกอดอุ่นๆอย่างแท้จริงกับชีวิต

บางทีคำถามนี้...ก็ไม่ต้องการคำตอบ


.................................



บางทีผู้ชายแท้ๆอย่างคุณอย่างผม
อาจต้องตั้งคำถามหนักๆให้กับตัวเอง
ว่าทุกวันนี้เราดูแลเพศแม่ของเราด้วยความรู้สึกแบบไหน
เรามองคุณค่าของความรักกันในมิติใด
หรือเพียงแค่คลำดูแล้วไม่มีหางก็ซอยขยับบั้นเอว
เพื่อเสพสมกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา
เรามองเพศแม่ด้วยสายตาอย่างไร
วันดีคืนดีถึงได้มีแต่ข่าวลากผู้หญิงไปรุมโทรม ทำร้ายและข่มขืน
ถ้าเรามองผู้หญิงว่าเป็นเพียงเครื่องมือรองรับความใคร่ทางเพศ
ที่จะทำอย่างไรแบบไหนก็ได้

ผมคิดว่าในนิยามแบบนี้
ผู้ชายก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ในหัวไม่ได้มีสมอง
แต่มีดุ้นอะไรสักดุ้นที่ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องร่วมเพศและสืบพันธุ์ทั้งวันทั้งคืน
บางทีที่ว่ามนุษย์มีจิตใจที่สูงส่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
อาจเป็นคำยกย่องที่เกินเลยเกินไป


..................................



ผมชอบดูภาพนู๊ด (NUDE) ดูอีกกี่ครั้งผมก็เชื่อมั่นว่านั่นคือ ศิลปะ
ถามว่าดูเสร็จแล้วอยากออกไปลากผู้หญิงแปลกหน้ามาข่มขืนบ้างไหม ?
ระดับศีลธรรมในตัวยังไม่ต้องทำงาน ผมก็รู้คำตอบว่า “ไม่”
เราไม่มีวันออกไปทำร้ายคนซึ่งมีเพศเดียวกับแม่ของเรา
ด้วยเหตุผลของการโดนกระตุ้นด้วย “สื่อ”

ถ้าทุกครั้งที่มีการข่มขืนแล้วไปถามคนที่ลงมือกระทำ
แน่นอน...คำตอบสำเร็จรูปมีไม่กี่ข้อเท่านั้น
ผมเมา....เดินไปเห็นเด็กคนนี้ เลยเกิดอารมณ์ทางเพศ
ผมดูวีซีดีมีฉากร่วมเพศ เห็นแล้วเกิดอารมณ์ เลยฉุดผู้หญิงคนนี้มาข่มขืน
เห็นเค้าแต่งตัวโป๊ ก็เลยเกิดอารมณ์ทางเพศ
ฯลฯ

อย่างไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผมไม่อาจยืนยันได้ว่า
“สื่อลามก” เหล่านี้มีส่วนมากน้อยเพียงใดกับการกระตุ้นในเกิดอาชญากรรมทางเพศ
ผมแค่คิดว่า...แน่ใจแล้วหรือว่าหากวันหนึ่ง
คุณเอาสื่อลามกเหล่านี้ออกไปจากสังคมไทยได้ทุกตารางนิ้ว
แล้วเราจะไม่เกิดโศกนาฏกรรมทางเพศกับผู้หญิงในบ้านนี้เมืองนี้


ผมคิดไปถึงสองสามร้อยปีก่อนที่บ้านเมืองยังไม่มี “สื่อลามก” เหล่านี้
แต่ที่เรารับรู้ คือ การข่มขืนก็เกิดขึ้นตั้งแต่ในยุคนั้น
การประทุษร้ายทางเพศยิ่งเกิดขึ้นในสภาวะของการทำสงคราม
แก่งแย่งอำนาจ และผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุรองรับอารมณ์เท่านั้น
ในยุคที่ผู้ชายครองความเป็นใหญ่ในสังคม


ถ้าคุณคิดแค่ว่า “ก็ผู้หญิงเกิดมาเพื่อรองรับอารมณ์ทางเพศ”
ผมว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ “สื่อ” อีกแล้ว
หากแต่ “ปัญหาทางเพศ” ที่หมักหมมอยู่ในหัวใจอันสกปรกต่างหาก
ที่ไม่ว่ากี่ร้อยกี่พันปีผ่านไป…
ผู้ชายก็ยังใช้สัญชาติญาณทางเพศอันดิบเถื่อน
ปลอบประโลมชีวิตอันผุพังของตัวเองโดยไม่เปลี่ยนแปลง


.................................



ผมนั่งคุยกับน้องนุ่งคนหนึ่ง
ที่เคยถูกเรียกขานว่า “ผู้หญิงของคณะฯ”
ค่าที่ผู้ชายคนไหนก็เอาเธอไปนอนด้วยได้
เพื่อนหลายคนของผมมองเธอด้วยสายตาเหมือนวีรบุรุษสงคราม
หลังพาเธอไปนอนก่ายกกแล้วก็แยกทางในเช้าอีกวัน
คล้ายว่าการหลับนอนนั้นมีค่าไม่ต่างอะไรกับการกินก๋วยเตี๋ยวแห้งสักห่อ
เหมือนการแปรงฟัน เหมือนการซักกางเกงใน
เหมือนการขับถ่าย ขี้เสร็จ กดน้ำลงชักโครก
แล้วดำเนินชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“บางทีหนูก็เสียใจนะ หนูก็อยากได้ความรักเหมือนคนอื่นๆ”
เธอพูดไป ร้องไห้ไป

ผมคิดว่าแค่วิธีการคิดแบบผลักปัญหาออกไปให้พ้นตัว
เราจะได้รับคำตอบสำเร็จรูปแบบ
“ผู้หญิงมันง่ายเองนี่หว่า ให้กู...กูก็เอา”


ถึงเวลาหรือยังที่ผู้ชายจะกลับเอาสมองมาคิดบ้างว่า
หากเป็นการร่วมรักที่ไม่มีความรักอยู่ในนั้น
หากเป็นเพียงการเสพสมที่ไม่มีค่าอะไรให้จดจำ
“ถึงให้...กูก็ไม่เอา”

ผมนั่งมองดูเธอในฐานะของน้องนุ่งและผู้หญิงที่มีเพศเดียวกับแม่ของเราอย่างเห็นใจ
บางทีเธอไม่ได้ต้องการผู้ชายเพื่อมาเติมเต็ม “เซ็กส์” ที่ขาดหาย
เธออาจแค่ต้องการ “ความอบอุ่นในหัวใจ” มาเติมลงบนชีวิตที่แล้งร้อนจากความรักที่แห้งผากเหลือเกิน


.....................................



มันง่ายมากที่เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาในสังคม
แล้วเราเอาแต่ “โทษอะไรสักอย่าง”
แทนที่จะ “โทษตัวเอง” และหันมามองอย่างถ่องแท้เสียที
ว่าไอ้สิ่งที่เลวที่ชั่วชาติ
แท้จริงแล้วมันฝังอยู่ในความคิด อยู่ในวิธีคิดของเราหรือเปล่า
บางทีเราอาจเลวมาตั้งแต่บรรพบุรุษหรือต้นตระกูลของเรา
ต้องโทษเขาที่ฝังดีเอ็นเอชั่วๆแบบนี้ใส่มาในสายเลือดของเรา


และหน้าที่ของเราย่อมไม่ใช่การหดหู่ยอมรับชะตากรรมเลวๆแบบนั้น
หากแต่ถึงเวลาเสียที ที่คนที่เรียกตัวเองว่า “ลูกผู้ชาย”
ควรจะถอดวาง “ดุ้นนั้น” ของเราไว้ในที่ทางของมัน
และ เริ่มต้นใช้มันสมองและสองมือไปในทางที่มันสร้างสรรค์กับโลกนี้บ้างเสียที






 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2550
22 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 7:24:46 น.
Counter : 2102 Pageviews.

 

เฮ้อ อ่านแล้วน่าเห็นใจเนอะ

ที่จริงผู้หญิงก็ต้องการความรัก ความอบอุ่นให้กับหัวใจ

ซึ้งมากเลยค่ะ

ขอบคุณ สำหรับบทความดีดี ทำให้เปลี่ยนแง่คิดเลยค่ะ

เพราะเราก็เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวแบบนั้นจริง ๆ

ทำให้คุณค่าของเพศหญิงอยู่ต่ำลงไป

แต่อ่านแล้ว ก็คิดได้ค่ะ ว่าเค้า ก็อาจมีเหตุผลของเค้า...........

 

โดย: ~ เจ๊ล่ะเบื่อ!!!! ~ 28 กรกฎาคม 2550 7:45:51 น.  

 

ผมกำลังนั่งนึกว่าคุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผม...ตอนนี้มีคนเข้ามที่นี่เกิน
คุณอยากรู้อะไรกันบ้างนะ
ผมได้บอกคุณในสิ่งที่คุณรู้บ้างรึเปล่า
ถ้ายัง...คุณอยากรู้อะไรครับ

......................................
คิดอยู่ว่า คน ๆ นี้ มีอะไรที่คล้าย ๆ กัน
เราชอบอ่านหนังสือธรรมะ ข้อคิด คำคม ที่คอยเตือนสติ
เราชอบความสงบ ไม่ชอบความสับสนวุ่นวาย
ไม่ชอบเที่ยวเธค ชอบเข้าวัดทำบุญ
บางที เราก็เบื่อโลก เบื่อ คน เหลือเกินนะ
เพราะคนเดี๋ยวนี้มีแต่แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น
วัดค่าของคนที่ฐานะ การศึกษา ไม่ใช่ความดี
..........................................

 

โดย: ~ เจ๊ล่ะเบื่อ!!!! ~ 28 กรกฎาคม 2550 7:51:46 น.  

 

ต้องเริ่มแก้จากค่านิยมของผู้ชายที่มีต่อเพศหญิง

ว่าเพศหญิงไม่ใช่ที่รองรับความใคร่

ผู้หญิงเองก็ต้องเลิกคิดว่าการที่มีอะไรกับเขาแล้วจะทำให้เขารักเราอยู่กับเราตลอดไป

หนัง ละคร ก็ต้องเลิกเสนอสิ่งที่เวอร์ ประเภท ตบตีกันแย่งผุ้ชาย

โดยรวมต้องช่วยกันทุกฝ่ายละค่ะ

ลัทธิเอาอย่างกันก็มีมาก แข่งกันนับแต้ม เอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งของฟุ้งเฟ้อ

หรือแม้แต่เพื่อแลกกับการได้เที่ยว ดืม และกิน ให้ได้ชื่อว่าไม่ตกเทรนด์

โอ่ยยยย เราเริ่มแก่แล้วค่ะคุณก๋า

ฝากทักทายมาดามด้วยนะคะ

 

โดย: เพียงแค่เหงา 28 กรกฎาคม 2550 7:51:49 น.  

 

กฎหมายน่าจะช่วยผู้หญิงที่ถูกข่มขืน รุมโทรมได้มากกว่าจับตัวคนผิดได้แล้วก็ขังสักพัก ต่อมาก็ปล่อย กรณีทำซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยผู้ชายคนเดิม ก็ยังเกิดให้เห็นบ่อย ๆ

มันใช้อะไรตราบาปให้ผู้หญิง ก็จับมันตัดทิ้งเสีย

 

โดย: endeavour 28 กรกฎาคม 2550 8:02:12 น.  

 


พี่ว่าเราไปเพิ่มโทษข่มขืน
เป็นประหารชีวิตแบบไม่เหลือตอ
เลยดีปะ

เพราะโทษมันคงเบา
ความกริ่งเกรงมันเลยน้อย

พ่อยังข่มขืนลูกในไส้
ครูยังล่วงเกินนักเรียน
เด็กอายุไม่กี่ขวบที่ไม่น่าจะมีความรู้สึกทางเพศยังข่มขืนเพื่อนเด็กวัยเดียวกัน

ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
เขามองเรื่องทางเพศเป็นอะไร
ที่สำคัญ....
มันดูกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแระ
เรื่องการมีเซ็กส์ของเด็กๆ สมัยใหม่

การถูกข่มขืน
กับการสมยอมมีเซ็กส์
ไม่รู้ประการไหนมีมากกว่ากัน
ดูเหมือนประการหลัง ซะมากกว่า

เฮ้อ...
ดีนะหมดวัยหมดอารมณ์จะนึกถึงเรื่องพรรณนี้แระ

อิอิ

 

โดย: sunny-low 28 กรกฎาคม 2550 8:14:52 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณครูก๋า

วันนี้น้องลิงเจ๊งค่ะ เอามาไม่ได้

อ่านแล้วก็..พูดไม่ออก เห็นด้วยกับที่คุณครูก๋าเขียนมาค่ะ

เล่าอีกเรื่องให้ฟังดีกว่าค่ะ มีคุณแม่คนหนึ่งมาตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับลูกสาว ที่ขอไปอยู่บ้านแฟน แต่อยู่คนละห้อง ไปอยู่เพราะสะดวกใกล้ที่ทำงาน แม่แฟนซื้อของเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วก็เหตุผลอื่นที่..(เราว่าฟังไม่ขึ้นค่ะ )

แม่ก็เคยถามลูกสาวว่าทำไมไม่แต่งงานให้ถูกต้องกันก่อน ลูกสาวบอกว่ายังไม่พร้อม แหม๊เอากับเค้าสิ

ไม่น่าเชื่อว่าคนเป็นแม่ไม่ได้ค้ดค้านในทันที เพราะถ้าเป็นเรา แค่ลูกสาวมีความคิดแบบนั้นก็คงต้องคุยกันแล้ว หรืออีกอย่างคือ การเลี้ยงดูก็มีส่วน ถ้าเราเลี้ยงลูกอาจจะไม่ทำให้เค้ามีความคิดนี้ก็ได้

แล้วแม่เค้าก็มาเพิ่มรายละเอียดว่า ลูกสาวบอกว่าเพื่อน ๆ เค้าก็อยู่กับแฟนเป็นคู่ ๆ ป้าดดดดด ( ทำท่าเอามือตบพื้น ) คุณแม่เห็นด้วยเหรอเนี่ย อ่ะโห ๆ สังคมสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้วหรือไร ทำไมต้องทำตามสิ่งที่ไม่ดี แม่ยัง ( เกือบ ) เห็นด้วยเลย แต่สุดท้ายคุณแม่คนนั้นก็ปฏิเสธลูกไปค่ะ

คนเป็นแม่ก็เป็นหลักสำคัญเหมือนกันนะคะ ที่จะชี้นำแนะนำลูก ๆ ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรทำ เพราะสังคมแบบนี้แหละค่ถึงได้บอกว่าเลี้ยงลูก โดยเฉพาะลูกสาวสมัยนี้ ลำบากใจค่ะ

แต่ก็นะ เมื่อสมัยตอนที่เรียนปี 1 ก็มีเพื่อน ๆ ที่เค้าอยู่เป็นคู่ ๆ กับแฟนเหมือนกัน เราก็ไม่เห็นอยากจะทำตามเลย ( จุ๊ ๆ ได้โปรดอย่าคิดว่า ก็เพราะยังไม่มีใครแล 5555555 ) ตอนนั้นก็รู้ โห !! เค้าช่างกล้าเนอะ แบบว่าเราเป็นเด็กบ้านนอกค่ะ แล้วไปต่อในเมืองกรุง อ่ะโห้ ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

จบข่าวดีกว่าค่ะ

มีความสุขมาก ๆ นะคะคุณครูก๋าและคุณภรรยาคนสวย

( คนซ้ายคุณครูก๋าค่ะ คนแก้มแดงคุณภรรยาคนสวยค่ะ อีโมจุ๊บ ๆ เจ๊งค่ะ )

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 28 กรกฎาคม 2550 8:18:43 น.  

 

โอว...เพิ่งเคยได้ยิน..."นักล่าแต้ม" อ่านแล้ว...อืม...ในสังคมไทย วัฒนธรรมอันดีงาม มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย

ไม่รู้จะต้องโทษใคร น่าจะขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคนมากกว่า แต่สังคม สถาบันครอบครัว ฯลฯ อาจชักจูงหรือนำพาไปก็ได้เนอะ

 

โดย: uter 28 กรกฎาคม 2550 8:53:23 น.  

 

มีน้องคนนึงเล่าให้ฟังว่า

พุชายบางคน..เอาไปคุยโม้ว่า
ยัยคนนี้เสร็จตูแล้ว...

แต่..ในขณะที่อิกฟากนึง

ฝ่ายน้องพุหญิงเค้าก็ไปเปรยๆ
กะเพื่อน ญ ของเธอเหมือนกันว่า
เฮ้อ..ครบ20 คนซักที



 

โดย: ซซ 28 กรกฎาคม 2550 9:02:29 น.  

 

ความเป็นห่วง ที่กังวลใจอยู่กับลูกสาว ยิ่งเพิ่ิมทวีคูณ

ใครบอกรักไม่มีเงื่อนไข ไม่คาดหวัง ไม่จริงหรอก

ยิ่งรักลูก ยิ่งกังวล และหวังให้เค้าไม่พบทางเดินที่ร้ายๆน่ะ

 

โดย: คนเลวที่แสนดี 28 กรกฎาคม 2550 9:34:46 น.  

 

[อ้างถึง...

ถึงเวลาหรือยังที่ผู้ชายจะกลับเอาสมองมาคิดบ้างว่า
หากเป็นการร่วมรักที่ไม่มีความรักอยู่ในนั้น
หากเป็นเพียงการเสพสมที่ไม่มีค่าอะไรให้จดจำ
“ถึงให้...กูก็ไม่เอา”]

อู้ยส์ ยากยิ่งกว่าการดับไฟใต้
ยากพอๆกับให้ผู้ชายเลิกเป็นเกย์เลยค่ะ

 

โดย: walk in dream (walkin ) 28 กรกฎาคม 2550 9:54:11 น.  

 

บ่อยครั้งที่มองความเท่าเทียมของชายและหญิงเป็นเหมือนเรื่องที่ ถ้า ญ ไม่ระมัดระวังเอง ดูเหมือนสังคมก็จะประนามหยามเหยียด ในขณะ ช ทำก็ไม่เห็นจะเป็นไร เหมือนคำกล่าวของชายที่คุณเอ่ยถึงว่า "เขาให้เอง" อยากให้ชายหลายๆๆคน คิดได้อย่างคุณ เขาเพียงแต่จะต้องเป็นคนไม่ปากว่าตาขยิบเป็นหนังน้ำเน่าทีวีช่องต่างๆ ว่ารักแม่ตน แต่เหยียบย่ำหญิงอื่น หญิงด้วยกันในวัยแม่บางคนก็ยังไม่เคยคิดว่าความเท่าเทียมเป็นอย่างไร กลายเป็นลูกโซ่ที่เคยถูกกระทำ จึงต้องกะทำต่อ เฮ้อ บ่นไปก็เท่านั้นอ่ะค่ะ อยากให้น้องๆ "เก็บแต้ม" เลิกเถอะนะคะ เป็นห่วง จากพี่สาวคนนึง

 

โดย: Nok (nokjeffus ) 28 กรกฎาคม 2550 10:17:51 น.  

 

เหมือนๆว่ามันจะไกลตัวเอง
แต่มองดูดีๆ
ใกล้จนอยู่ในใจเลยอ่ะ
บางครั้งใกล้ไปจนมองไม่เห็นกัน
ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้

แต่ไงๆผมก็ไม่เห็นด้วยกับการจัดการแบบที่ผู้ใหญ่กำลังทำอยู่
มันปลายเหตุชัดๆเลยนะผมว่า...เซ็งงงงงง

 

โดย: Kurt Narris 28 กรกฎาคม 2550 11:11:05 น.  

 

เมื่อเช้าเพิ่งอ่านบทความเกี่ยวกับ fetishism ในแง่ที่มันเป็นสิ่งที่กระตุ้นและปลุกเร้าความต้องการของมนุษย์ที่จะครอบครองบางสิ่งหรือสิ่งใดๆในโลกก็ตาม และมันก็ถูกหลอมลงไปในวัตถุด้วยวิธีทางการตลาด

ใจความที่ชอบในบทความก็คือ ปัจจุบันนี้เราเลือกสินค้า คู่นอน แฟน เครื่องดื่ม ฯลฯ ด้วย fetishism ในจิตไร้สำนึก ปล่อยให้มันมีอิทธิพลมากจนไม่ได้ย้อนไปพิจารณาว่า ความจริงแท้มันคืออะไร

โดยเฉพาะเรื่องเพศ เราเมามัวกับมันโดยไม่แยกแยะว่าอะไร คือ สิ่งที่จิตใจเราต้องการ รู้ตัวอีกที ก็อ้างว้างและเย็นชาซะแล้ว

 

โดย: floral_flory 28 กรกฎาคม 2550 11:46:33 น.  

 

emo

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 28 กรกฎาคม 2550 16:34:48 น.  

 

คุณครูก๋าคะ คุณคนรักพ่อหลวงกลับมาเม้นท์อีกครั้งแล้วนะคะ

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 28 กรกฎาคม 2550 16:57:32 น.  

 

เรื่องยาว เเต่อ่านจบ

จะเขียนอะไรไป ข้างบนๆเขียนหมดเเล้ว

เเต่ความรู้สึกส่วนตัว ในกรณีถูกข่มขืน
ถ้าไม่มีหลักฐานพูกมัด
เราจะล่าหาตัวชั่วชีวิต จับได้ไม่ยิง เเต่หั่นทิ้ง

พูดยังไงก็ได้ เจอจริงๆก็คงจับไม่ได้หรอกค่ะ

 

โดย: ELiiCA 28 กรกฎาคม 2550 17:15:08 น.  

 

emo ซิ่งมาได้แล้วค่ะ

อภัยให้ดีที่สุดแล้วนะคะ emo

สวีทกันอีกแล้ว emo

ชอบทานข้าวตัมเหมือนกันค่ะ ที่นี่ข้าวต้มฟรีเลยค่ะ emo

แต่กับข้าวขั้นต่ำ 70 emo

ทานเผื่อด้วยนะคะ emoemo

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 28 กรกฎาคม 2550 18:16:51 น.  

 

ไม่รู้ซิค่ะ ส่วนตัวไม่โทษสื่อ การแต่งตัว

แต่คิดว่ามันต้องเริ่มที่บ้าน ที่โรงเรียน ในการแนะนำต่างๆ

โดยเฉพาะ พ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ต้องกล้าแนะนำและเป็นที่ปรึกษาได้

คุณฝามีเคยเล่าว่า เคยไปดูหนังโป๊ะกับพ่อตอนเป็นวัยรุ่น

เพื่อนเล่าให้ฟัง ตอนมีประจำเดือนครั้งแรก อายและกลัวมากไม่กล้าบอกแม่ แต่โทรหาเพื่อนซื้อผ้าอนามัยให้

คิดว่าถ้าแก้ตั้งแต่ที่บ้าน แล้วโรงเรียนช่วยอีกแรง ปัญหานักล่าแต้ม ข่มขืน มันน่าจะลดลงได้นะค่ะ

 

โดย: samelaa (samelaa ) 28 กรกฎาคม 2550 18:31:19 น.  

 

สังคมสมัยนี้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

ไม่อยากมีลูกเพื่อมาผจญกับโลกแบบนี้เลย (ใครอยากจะมีด้วยเนี่ย )

สงสัยว่า ภาพที่มาลง เอามาช็อต "ดุ้นนั้น" หรือเปล่า ชักเสียวๆครับ

 

โดย: fzero 29 กรกฎาคม 2550 0:45:49 น.  

 

นอกจากเราจะหายใจเร็วและถี่ขึ้น
..
..
จิตใจเราก็หยาบกระด้างขึ้น
แต่เมื่อตระหนักรู้ถึงความหยาบ
การขัดเกลาก็เริ่มขึ้นแล้วค่ะ
..
..

 

โดย: azamiya 29 กรกฎาคม 2550 0:50:10 น.  

 

เธออาจแค่ต้องการ “ความอบอุ่นในหัวใจ” มาเติมลงบนชีวิตที่แล้งร้อนจากความรักที่แห้งผากเหลือเกิน


The only thing Ann can say is...Thank you so much kha P'Kit...

Thank you so much from one of the women in this society...

 

โดย: CSULB@FineArt 31 กรกฎาคม 2550 7:07:02 น.  

 

อ่านไม่จบอ่ะค่ะ แต่เห็นหัวข้อแล้วนึกถึงหนังสือ เรื่องเล่าสาวล่าแต้มทันทีเลย ผู้หญิงคนนี้เคยถูกแฟนบอกเลิกเพราะ...แฟนเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเค้าเป็นเพียงความสนุก เป็นความสัมพันธ์ชั่วคราว ไม่ได้จริงจังอะไร ไม่นานเค้าก้อได้ไปเจอกลุ่มเพื่อนที่เป็นสาวล่าแต้ม เค้าก้อคิดว่า เออนะ ทำไมต้องให้ผู้ชายฟันผู้หญิงแล้วทิ้งได้อยู่ฝ่ายเดียว ผู้หญิงก้อทำได้ ผู้ชายก้อมีค่าเป็นแค่แต้มของเค้า ที่สำคัญเค้าเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายได้ คนไหนที่พอใจก้อเอา ไม่พอใจก้อไม่เอา รู้สึกว่าเค้าเก็บแต้มได้เป็นร้อยเลย (ไม่แน่ใจว่า 500 รึเปล่านะ แต่เยอะมากเหมือนกัน)
แต่..มีคลิปเค้าหลุดออกมา พร้อมคำพูดด้วยความเมาที่ว่า "รู้มั้ยเธอเป็นคนที่เท่าไหร่ของเรา รู้มั้ยเราเป็นสาวล่าแต้ม เธอมันก้อแค่แต้ม อย่ามาทำซ่า 555" เลยถูกพักการเรียนไป 1 เทอม(มั้ง) เวลาไปไหนในมหาลัยก้ออายคนเค้า หลังจากจบมา ก้อหางานยากมาก เพราะดันไปเจอคนที่เคยมีไรด้วยบ้าง ซึ่งบางครั้งเธอก้อจำไม่ได้หรอก (เพราะเคยมีไรกะใครมาเยอะ และมีแค่ครั้งเดียว ไม่เคยมีไรกะใครซ้ำเลย) โดนพูดจาใส่แบบไม่ให้เกียรติซะจนหน้าชา จนได้งานเป็น AE ที่นึงเธอทำยอดขายได้เยอะมาก
แต่กลับไม่ผ่านทดลองงาน เพราะบริษัทได้รับคลิปและลูกค้าร้องเรียน (ทั้งที่เธอเลิกเป็นสาวล่าแต้มมานานแล้ว)
สุดท้ายเลยมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าเอง ซึ่งก้อยังมีคนยิ้มให้เธอแล้วถามว่า "นี่ แล้วเราเป็นคนที่เท่าไหร่ของเธอเหรอ"

อันนี้อยากเล่าเฉยๆนะคะ ไม่ได้โค-สะ-นาหนังสือให้ใคร
แค่เล่าเพื่อให้รู้ส่วนหนึ่งของการเป็นสาวล่าแต้ม และผลที่ตามมาเฉยๆค่ะ

 

โดย: kraikon1 IP: 124.120.37.125 16 สิงหาคม 2552 7:53:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]