เรื่องของเสื้อพื้นเมือง
นั่งคุยกับตัวเอง : เรื่องของเสื้อพื้นเมือง เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 6 กรกฎาคม 2550
มีความทุกข์อันจริงแท้อยู่ 3 ข้อที่ผมคิดว่าทุกคนคงเคยผ่านพบ
- ทุกข์เพราะเป็นอย่างที่คนอื่นคาดหวังไม่ได้ - ทุกข์เพราะเป็นอย่างที่ตัวเองคาดหวังไม่ได้ - ทุกข์เพราะคนอื่นเป็นอย่างที่ตัวเองคาดหวังไม่ได้
......................................
หลายปีก่อนตอนยังมีตำแหน่งในสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว บางครั้งได้เป็นตัวแทนของสมาคมเข้าประชุมกับหน่วยงานของภาครัฐ
ครั้งหนึ่งเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานของจังหวัด เพื่อจัดงานสงกรานต์ประจำปีของจังหวัด ผมไปในฐานะตัวแทนของสมาคม ในห้องประชุมนั้น ผมอายุน้อยสุด นอกนั้นเป็นผู้ว่าราชการ เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นตัวแทนจากร้านค้า หน่วยงานเอกชน และองค์กรด้านวัฒนธรรม
การประชุมเป็นไปอย่างจืดชืดอืดเอื่อย เหมือนอีกหลายๆการประชุมในบ้านนี้เมืองนี้ ที่ประชุมเพื่อให้ได้ประชุม.... ไม่ได้เป็นไปเพื่อแลกเปลี่ยนหรือนำเสนอความคิดอะไรใหม่ๆออกมา ผู้น้อยไม่กล้าออกความคิดเห็นเพราะกลัวข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ไม่มีความคิดเห็น คนอื่นก็ไม่อยากพูดอะไรเพิ่มเติม พูดกันไป พูดกันมากับเรื่องซ้ำๆเดิมๆ
จนมาถึงวาระหนึ่งซึ่งมีคนเสนอให้ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ขอให้ทางจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใส่เสื้อพื้นเมือง เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศสงกรานต์ล้านนา
บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มคึกคักขึ้นมา นักวิชาการเสนอให้ใส่ชุดพื้นเมืองแบบดั้งเดิม (ซึ่งไม่มีใครในห้องประชุมรู้สักคนว่าแบบมันเป็นอย่างไร) แต่มีบางคนเสนอให้ใส่ชุดหม้อฮ่อม แล้วไม่นานเสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แค่ถกเถียงกันเรื่องจะใส่ “หม้อฮ่อม” หรือ “ชุดผ้าเมือง” เถียงกันเกือบครึ่งชั่วโมง โดยไม่มีข้อสรุปใดใด.....
ด้วยความรำคาญ… ผมยกมือและขอเสนอความคิดเห็น “ขอโทษนะครับ ผมคิดว่าเราคุยกันเรื่องนี้มานานมากแล้ว ในที่ประชุมนี้ก็มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนั่งอยู่ ผมคิดว่าน่าจะให้อาจารย์ท่านสรุปว่าชุดล้านนาที่แท้นั้นเป็นแบบไหน อยากให้ประชาชนใส่แบบไหน รบกวนท่านช่วยเขียนเป็นรูป ทำเป็นเอกสารแล้วมอบให้ทางจังหวัดเป็นผู้จัดทำเอกสารนี้ เพื่อแจกจ่ายไปยังหน่วยงานและประชาชนให้ได้ทราบ ...แบบนี้ผมคิดว่ามันจะได้จบเสียที ไม่ต้องมาทะเลาะกันกับแค่เรื่องจะแต่งแบบไหน ยังไง?”
ห้องทั้งห้องเงียบกริบ.... ผู้ว่าฯเปิดไมค์ แล้วขอร้องให้ผมนั่งลง ก่อนสรุปข้อยุติด้วยคำพูดที่ผมพูดไป.... จากนั้นไม่นานก็สั่งปิดประชุม
..................................
“ทุกข์เพราะเป็นอย่างที่ตัวเองคาดหวังไม่ได้”
ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งหรือฉลาดไปเสียทุกเรื่องทุกอย่าง แต่บางครั้งการไม่ทำอะไรเลย ไม่ต่างอะไรกับการเพิกเฉย รู้..แต่ไม่พูด ทำได้...แต่ไม่ทำ ผมเสียเวลาตลอดครึ่งเช้าของวัน เพื่อไปนั่งฟังอะไรก็ไม่รู้
แน่นอน...ในสายตาของผู้ใหญ่ ผมอาจดูเป็นเด็กก้าวร้าว แต่ผมแปลกใจว่าผู้ใหญ่ที่นั่งกันเต็มห้อง ไม่มีใครอยากคิด อยากพูดอะไรบ้างเลยหรือ นอกจากนั่งทำตาปริบๆ มองดูคนไม่กี่คนพูดไปพูดมา หาข้อถกเถียงกันไม่จบ เรื่องง่ายๆ ทำให้มันยุ่งยาก คำถามที่มีคำตอบ ดันไปทำให้มันเป็นคำถามแบบ “ไก่กับไข่อะไรมันเกิดก่อนกัน ?”
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่สมาคมฯส่งผมเป็นตัวแทนประชุม ไม่รู้ผมควรดีใจหรือเสียใจดี หลังการประชุมจบลง ทุกอย่างเหมือนเดิม เหมือนกับที่เราบริหารบ้านเมือง เหมือนกับที่เราบริหารประเทศ ทุกอย่างเงียบหายไปตามสายลม ไอ้ที่ทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายกะอีแค่เรื่อง สงกรานต์ควรใส่ชุดพื้นเมืองแบบไหน
ถึงวันนี้....ผมก็ยังไม่เคยรู้อยู่ดี ว่า “เสื้อพื้นเมือง” ที่เขาอยากให้เราใส่นั้น มันเป็นแบบไหน อย่างไร
............................
แล้วอย่างนี้…. คุณมาเรียกร้องให้ผมเคารพและเชื่อฟังคุณได้อย่างไร หือ....ท่านผู้นำ ?
Create Date : 06 กรกฎาคม 2550 |
|
32 comments |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 7:19:04 น. |
Counter : 1271 Pageviews. |
|
|
นะ......ดี.ก็ว่า
(ดี.แว๊บมาส่งความสุขยามเช้าก่อนทำงานค่ะ)