:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณกิ๊ก ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณกิ๊ก ::
หากชีวิตเป็นของเรา แล้วคุณก๋าคิดยังไงกับชีวิตที่ให้กับคนอื่น เช่น ครอบครัวล่ะคะ
บางทีชีวิตที่เป็นของเรา เรารู้สึกว่ามันแบ่งให้คนอื่นด้วย คุณก๋าคิดยังไงคะกับเรื่องนี้
คำถามโดย : KOok_k วันที่ : 22 ธันวาคม 2554 เวลา : 4:23:16 น.
คุณปกรณ์ พงศ์วราภาเป็นเจ้าของนิตยสารจีเอ็ม และนิตยสารในเครือจีเอ็มกรุ๊ป เคยพูดประโยคหนึ่งเอาไว้และผมชอบมากๆ ท่านเขียนไว้ว่า
“ชีวิตเป็นของเรา และเป็นของคนที่เรารักด้วย”
ตอนที่ผมยังโสดและโดดเดี่ยว ประโยคนี้ผมอ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก รู้แต่ว่าเป็นประโยคที่คมคายดีจัง
แต่พอมีภรรยา มีลูก ความหมายของประโยคนี้กลับยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น
วินาทีที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นพ่อคน “ความรับผิดชอบ” มันผุดขึ้นมาในความคิด “ความห่วงใย” “ความคาดหวัง” “ความวิตกกังวล” ฯลฯ
อารมณ์ความรู้สึกมันประเดประดังเข้ามาเต็มไปหมดเลยครับ
ถ้าความรักเปลี่ยนเราได้ คงเปลี่ยนเราจนถึงราก ไม่ใช่แค่ใบ แค่ดอกสวยๆ หรือกิ่งก้านสาขา
ผมเชื่อว่า “ความรัก” เปลี่ยนคนๆหนึ่งได้จริงๆ เว้นเสียแต่ว่า...ใครคนนั้นไม่เคยมองเห็นคุณค่าของความรัก เขาถึงจะทอดทิ้งสิ่งนี้ไปได้ โดยไม่รู้สึกเสียใจหรือเสียดายใดใด
หลายคนมักคิดว่าความรัก คือ การรักตัวเอง รักคนที่เรารัก และรักคนที่รักเรา
แต่ผมคิดว่าเราขยายขอบเขตความรักออกไปได้ไกลกว่านั้น เรายังรักสัตว์ รักต้นไม้ รักป่าเขา หรือแม้แต่รักมนุษยชาติ รักคนที่เกลียดชังเรา รักคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราก็ยังได้
นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย ผมมองว่าเป็นสิ่งที่เราทำได้ เพียงแต่เราไม่ทำ ที่เราไม่ทำเพราะบางครั้งเรามองความรักเป็นเงื่อนไขและการแลกเปลี่ยน
เช่น ถ้าฉันจะรักเธอ เธอต้องรักฉันอย่างที่ฉันเป็น พ่อจะรักลูก ถ้าลูกเรียนเก่งสอบได้ที่หนึ่ง ภรรยาจะรักสามีถ้าเขารวยและซื้อของแพงๆให้เธอใช้
ฯลฯ
แน่นอน --- เรารักใคร ย่อมอยากได้ความรักตอบ แต่ในขณะที่เราเรียกร้อง “ความรัก” จากคนอื่นในรูปแบบที่เราต้องการ เราเคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ ว่าเราได้เป็น “คนรัก” ในแบบที่คนอื่นคาดหวังบ้างหรือเปล่า
จากชีวิตโสด เป็นชีวิตคู่ ผมไม่เคยรู้สึกว่าต้อง “แบ่ง” ชีวิตตัวเองให้ภรรยาเลยครับ แต่ผมรู้สึกว่าความรักมันคือการ “แบ่งปัน” และต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดของเราออกไป ให้กับคนที่เรารัก
ผมทำสิ่งต่างๆมากมายที่ไม่เคยทำ พูดคำพูดมากมายที่ไม่เคยคิดจะพูด ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากเมื่อมองย้อนกลับไป นั่นไม่ใช่การฝืนใจหรือแกล้งเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้คนรักพึงพอใจ แต่เราเปลี่ยนตัวเอง เพราะเรารู้ว่านั่นจะทำให้คนรักของเรามีความสุข
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการ “สูญเสียตัวตน” แต่เป็น “ตัวตนที่เกิดขึ้นใหม่” อย่างที่เราเต็มใจต่างหาก
วันที่เป็นพ่อคน ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวินาที ได้อุ้มลูก ได้ร้องเพลงกล่อมลูก ได้เล่านิทานให้ลูกฟัง ได้เห็นเขาเติบโตทุกวินาที ฯลฯ
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก
ผมไม่ได้สูญเสียหรือต้องแบ่งอะไรออกไปจากตัวเองเลย กลับเป็นสิ่งนี้ที่เข้ามาเติมเต็มความรู้สึก และทำให้ผมได้รู้ซึ้งถึงความรักของพ่อแม่ตัวเอง แม้รูปแบบการแสดงออกจะแตกต่างกัน แต่ความรักของพ่อกับแม่ที่ดี ก็จะเดินทางไปบรรจบลงตรงความรัก ความห่วงใยและความใส่ใจ
ผมเคยไม่เข้าใจความรักของพ่อในบางเวลาเมื่อตอนที่ตัวเองยังโสด แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่าความเป็นพ่อแม่คนคืออะไร
ใครที่ทอดทิ้งลูก ไม่ใส่ใจลูก เขาจะไม่มีวันสัมผัสความรู้สึกแบบนี้ ที่สุดแล้วเขาจะทอดทิ้งตัวเองอย่างแน่นอนในบั้นปลาย
“ชีวิตเป็นของเรา และเป็นของคนที่เรารักด้วย”
แม้ในความเป็นจริงของชีวิต เราจะเกิดขึ้นมาและตายจากไปโดยลำพัง
แต่ระหว่างการเกิดและการตายนั้น แวดล้อมไปด้วยความรักมากมายมหาศาล
คำถามคือ
เราเคยได้มองเห็นความรักเหล่านั้นที่อยู่รอบตัวเราหรือเปล่า
เมื่อมองเห็น... เราวางท่าทีและปฏิบัติอย่างไรต่อความรักนั้น
คำถามนี้จะย้อนมาถามตัวเราเองครับ ว่าเรารักและปฏิบัติต่อตัวเราเองอย่างไร
Create Date : 31 พฤษภาคม 2555 |
|
79 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 5:17:37 น. |
Counter : 7511 Pageviews. |
|
|