โจทย์ง่ายๆที่ไม่มีใครอยากแก้
นั่งคุยกับตัวเอง : โจทย์ง่ายๆที่ไม่มีใครอยากแก้ เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 1 กรกฎาคม 2550
เคยพบปัญหาเวลาไปซื้ออาหารหรือซื้อของแล้วได้รับการบริการที่ไม่ดีไหมครับ ? คุณไม่พอใจ คุณโกรธ รำคาญใช่ไหมครับ ? คุณคิดว่า “เฮ้ย...กูเป็นลูกค้านะ เอาเงินมาให้เอ็งนะโว๊ย” คุณกำลังมองหาผู้จัดการหรือเจ้าของร้าน เพื่อตำหนิเด็กเสริฟคนหนึ่งซึ่งบริการคุณอย่างไม่เต็มใจ คุณอยากวีน อยากด่าให้เขารับรู้ให้ได้ว่า “ลูกค้าคือคนสำคัญ”
…………………………………
กับร้านกล้วยทอดเจ้าดัง ซึ่งขึ้นชื่อลือเลื่องมากว่าลูกสาวของเจ้าของร้านนั้น ปากและคำพูดของแก “มหาภัย” มาก ลูกค้าคนไหนทำกร่างว่ากูรวย รอไปเถอะ...สิบนาทียังไม่ได้กิน ขอโทษ...กล้วยทอดต้องรับบัตรคิว คุณเคยเห็นบ้างไหม มีแต่คนบอกว่าพี่คนนี้ไม่รับลูกค้า พูดจาไม่เพราะ ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็เป็นคนค้าขายดีมีปิยะวาจา สนทนาพาทีกับลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี
มันไม่ใช่เป็นการอยากเอาชนะคะคานเพื่อความสะใจ ผมแค่อยากลองทฤษฎีความเชื่อของตัวเอง วันนี้ผมขอเข้าไปซื้อกล้วยทอดเองบ้าง “สวัสดีครับ ผมอยากซื้อกล้วยทอด 15 บาท แล้วก็มัน 15 บาทครับ” ผมพยายามมองดูร้านของแกให้ทั่ว พี่สาวมองมาหน้าตาเรียบๆ “โอ้โห...ร้านทำใหม่สวยมากเลยนะครับ” ใช่....ผมสังเกตเห็นว่าก่อนสงกรานต์แกหยุดร้านไปหลายวันเพื่อทำร้านใหม่ เพียงแค่ประโยคเดียว แกหันมามองพร้อม “รอยยิ้ม” ที่ใครหลายคนบอกว่าไม่มีทางได้เห็นจาก “นางเสือยิ้มยาก” คนนี้ได้ “สวยแต่ร้านเหรอ แล้วคนขายล่ะ” “แหม...มันก็ต้องสวยทั้งสองอย่างสิครับ” ผมพูดไปยิ้มไป หยิบกล้วยทอดไป แกก็เล่าไปว่าทำร้านกี่วัน ซ่อมยังไง เสร็จเมื่อไหร่..... ผมจ่ายเงินไป 30 บาท และรับกล้วยกับมันทอดที่ปริมาณที่เยอะกว่าปกติมา “ขอบคุณครับ” ผมพูด “ขอบคุณค่ะ” นี่ก็เป็นประโยคที่คนซื้อไม่ค่อยได้ยินจากปากแก แล้วผมก็เดินออกมาจากร้านกล้วยทอด ไม่รู้ล่ะ...ถ้าใครซื้อกล้วยทอดต่อจากผม แล้วไม่เห็นรอยยิ้มของพี่สาวคนนี้ ผมว่าคุณพลาดอะไรดีดีในวันนี้ไปแล้วล่ะ
.....................................
อีกครั้งที่กลับไปเยี่ยมญาติที่ชลบุรี เป็นธรรมเนียมไปแล้วที่เราต้องแวะทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่าแถวบ้าน ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความ “ไม่เอาลูกค้า” อีกคนหนึ่ง ญาติผู้ใหญ่ของผมถึงกับออกอาการหงุดหงิด “ไปกินของมันทำไม เราเอาเงินมาให้แท้ๆ ยังหน้าหงิกหน้างออยู่ได้” แต่ผมอยากกินมาก เพราะยังจำความอร่อยในวัยเด็กได้อยู่ เข้าไปในร้านตอนแรกแกทำท่าไม่อยากขาย “มาอีกทีเก้าโมงได้มั้ยเล่า ยังเตรียมของไม่เสร็จ” ผมพูด “โธ่...ป้าครับ ผมอุตส่าห์ตั้งใจมากินเลยนะครับ มาตั้งไกลจากเชียงใหม่ เนี่ยพ่อสั่งไว้เลย ถ้ามาชลบุรีต้องมากินก๋วยเตี๋ยวของป้าให้ได้...ห้ามพลาด” “บริการเองนะ ยกเสริฟเองนะ ไม่มีคนช่วย” แกว่าแต่หน้ายังเรียบเฉยอยู่ “ครับ” แล้วภรรยากับน้องสาวผมก็ทำน้ำดื่มเอง ยกก๋วยเตี๋ยวเสริฟกันเอง “อร่อยสุดยอด” ผมพูดขึ้นมาดังๆ เจตนาให้แกได้ยิน ไม่ได้ยกยอคนแก่แต่มันอร่อยจริงๆ ผมแอบเห็นแกยิ้ม.....
นี่เป็นอีกครั้งของการกินก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยมากที่สุดมื้อหนึ่งของผม ไม่ได้อร่อยแค่รสชาติ แต่ความทรงจำเก่าๆในวัยเด็กของผม ผสมอยู่ในก๋วยเตี๋ยวชามนี้ด้วย
ก่อนออกจากร้าน ผมยืนคุยกับแกสักครู่หนึ่ง แล้วก็เดินออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มของแก เจ้าของร้านในวัยเจ็ดสิบกว่า และกิตติศัพท์เลื่องลือในความไม่เอาลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง ผมยกมือสวัสดีและบอกว่า “ปีหน้าจะกลับมาทานอีกนะครับป้า ขอบคุณครับ” ป้ายิ้มและพูดว่า “ขอบใจจ้า”
เดินออกมาขึ้นนั่งในรถตู้ “ไม่เห็นหน้าบึ้งเลย แกก็ดีออก” ภรรยาผมว่า ผมยิ้ม....ไม่ได้พูดอะไร
นี่เป็นอีกโจทย์หนึ่งซึ่งผมคิดว่า มันไม่ได้เป็นโจทย์ที่ยากอะไรเลย โจทย์ข้อนี้มีชื่อเรียกว่า “ใจเขาใจเรา” เท่านั้นเอง.
Create Date : 01 กรกฎาคม 2550 |
|
40 comments |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2550 7:20:17 น. |
Counter : 1538 Pageviews. |
|
|
เป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริง
คนบางคน เรื่องบางเรื่อง
หากฟังแค่ข่าวลือและไม่ได้ไปสัมผัสด้วยตนเอง
ก็จะไม่มีวันรู้ว่า
ข่าวลือที่ได้ยินอาจไม่ใช่สิ่งที่เคยได้ยิน
ตัวเองได้คุยกับคนหลายคนที่ไม่มีใครเขาอยากคุยด้วย
แต่เมื่อตัวเองได้คุย
กลับได้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนคนนั้น
ที่ไม่มีใครเคยได้เห็น
เพราะมันคือการ เปิดใจเรา รับใจเขานั่นเอง
และเราก็จะได้สิ่งดีๆ กลับมา
ที่หลายๆ คนไม่มีโอกาสได้รับ
กะว่าก๋า...เพื่อนคนนั้นของพี่
เขาจากไปแล้วล่ะ
เขาไม่ต้องการกำลังใจอะไรอีกแล้ว
เขานอนหลับสบายแล้ว
ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว
คนที่อยู่ๆ แบบพวกเราสิเนาะ
ยังต้องสู้กับอะไรๆ อีกมากมาย
และที่สุด...เราก็คงจะตามเขาไป