<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
21 กุมภาพันธ์ 2555

:: เธอสอนลูกของเธออย่างไร ? ::





:: เธอสอนลูกของเธออย่างไร ? ::
















ในช่วงของการเสวนากับสองนักเขียนชื่อดัง
คุณลาว คำหอม และคุณจิระนันท์ พิตรปรีชานั้น
เหล่าผู้ปกครองของโรงเรียนต้นกล้านั่งล้อมวงฟังกันอย่างตั้งใจ

ผมเองได้จดบางประโยคที่ประทับใจจากการเสวนาครั้งนี้มาด้วย
ขอนำมาแบ่งปันเพื่อนๆทุกคน

พร้อมเสริมความคิดเห็นของผมเข้าไปด้วยนะครับ










ประโยคนี้เป็นคำถามที่คุณลาว คำหอมได้ถูกเพื่อนรักชาวยุโรปถาม
เมื่อครั้งที่ลูกของคุณลาว คำหอมเรียนอยู่ที่สวีเดน...

ประเด็นที่น่าสนใจคือ เราเคยถามตัวเองบ้างหรือไม่
ในฐานะของคนที่เป็นพ่อแม่
ว่าเราเลี้ยงลูกของเราอย่างไร ?

มันเป็นคำถามที่ท้าทายตัวเราไม่น้อย
ว่าทุกวันนี้เราเลี้ยงลูกด้วยความรัก ความห่วงใย
ความใส่ใจ ความทะนุถนอม ฯลฯ

แล้วอะไรคือความคาดหวังที่เราตั้งธงไว้กับลูก
อะไรที่เราได้พันธนาการลูกเอาไว้ด้วยนามของความรัก
เรารักลูก .... พ่อแม่ทุกคนรักลูก
แต่ในขณะเดียวกัน
เราอาจกำลังสร้างความกดดันและทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว



ผมเชื่อว่าพ่อแม่เกือบทุกคนไม่ได้มีวัยเด็กที่สมบูรณ์แบบ
เอาเข้าจริง...ก็ไม่มีใครที่เกิดมาสมบูรณ์แบบ
เราผ่านการเรียนที่ไม่ได้มีคุณภาพนัก เจอครูแย่ๆก็เยอะ
เจอระบบการสอบแข่งขันที่กดดัน การสอนในชั้นเรียนที่น่าเบื่อ

แต่สุดท้ายเมื่อต้องเลือก...

ทำไมเรายังเลือกวิธีการสอนลูกแบบเก่า
ที่หนักไปทางทำลายมากกว่าสร้างสรรค์

ทำไมเรายังเลือกโรงเรียนที่สอนเด็กด้วยความเข้มงวด กดดัน

ทำไมเรายังจัดตารางชีวิตของลูกให้อัดแน่นและเต็มเอี๊ยด
ไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายที่เราต้องการจับใส่ลงไปในสมองน้อยๆของลูก
จนเด็กยุคนี้แทบจะไม่รู้แล้วว่าความสนุกสนานคืออะไร
การเรียนรู้ขณะเล่นคืออะไร ....













ใช่ครับ....วัยเด็กมันผ่านไปเร็วมาก
เราเลี้ยงลูก ดูแลลูก
แต่เราทันได้สังเกตเห็น “การเติบโตเล็กๆ” ของลูกหรือเปล่า
เราหลงลืมวินาทีที่ดอกไม้ที่งดงามเหล่านี้
กำลังผลิดอกออกผลหรือเปล่า


ชีวิตที่เร่งรีบ เร่งร้อนและเต็มไปด้วยการแข่งขัน
คำตอบของชีวิตที่ยึดมั่นในเรื่องของการหาเงิน
และการประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว

มันทำให้เราเดินถอยห่างไปจากลูกหรือเปล่า



เรารักลูกของเราหรือเปล่า ?


คำถามนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความรวยความจนเลยนะครับ
แต่เป็นเรื่องของการแบ่งเวลา

นี่คืองาน นี่คือครอบครัว นี่คือความรัก


ในฐานะของคนเป็นพ่อเป็นแม่
เรากำลังพลาด “วินาทีที่สำคัญ” ของลูกหรือไม่ ?

เรามัวยุ่งกับการใช้ชีวิต
จนลืมไปว่าดอกไม้ดอกหนึ่งกำลังเบ่งบาน
และเติบโตหรือเปล่า ?

เราได้อยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือ
คอยดูแล และให้กำลังใจดอกไม้ต้นน้อยๆที่กำลังจะเติบโต
อย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง ?


ถามตัวคุณเองดูนะครับ















น่าสงสัยนะครับ
ว่าทำไมเราจึงมีทัศนคติที่ว่า

การเรียนรู้ที่ดีต้องเข้มงวด จริงจัง
ครูที่ดีต้องดุ ต้องสั่ง และสอน
เด็กต้องกลัวและเชื่อฟัง ครูคนนั้นถึงจะได้ชื่อว่าเป็นครูที่ดี
เด็กจะเก่งทำไมต้องแบกการบ้านกลับมาทำเยอะๆ
เราวัดผลเด็กเก่งหรือไม่เก่งจากคะแนนสอบ
เราวัดเด็กดีหรือเกเรจากการให้ดาว




ผมสังเกตเพื่อนหลายคน
ที่วัยเด็กเคยถูกพ่อแม่บังคับให้เรียนและทำ
ในสิ่งที่พ่อแม่อยากให้ทำ
โดยที่ตัวเองในตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่าชอบในสิ่งนั้นจริงๆหรือเปล่า

ไม่ว่าจะเป็นการให้เรียนพิเศษ เรียนร้องเพลง เรียนกีตาร์
เรียนเปียโน เรียนเต้นรำ ฯลฯ


เมื่อมองย้อนกลับมาในวันนี้


เพื่อนผมที่ “เรียน” ในสิ่งต่างๆที่พูดมา
ไม่มีใครทำในสิ่งต่างๆเหล่านั้นอีกเลย....
หลายคนพูดด้วยซ้ำว่า “เกลียด” สิ่งต่างๆเหล่านั้น
ไม่ให้ความสนใจอีกเลย
เพราะในวัยเด็กถูกบังคับให้ต้อง “เรียน”
เรียนเพราะถูกบังคับ ไม่ได้รู้สึกว่าอยากเรียน อยากเล่น
อยากทำในสิ่งต่างๆเหล่านั้นด้วยตัวเอง




ในสิ่งเดียวกัน ผมเอง “เล่น” กีตาร์
และเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่รู้โน้ตแม้แต่ตัวเดียว
แต่ทุกวันนี้เกือบยี่สิบปีมาแล้วที่ผมไม่เคยห่างจากกีตาร์
ผมยังจับกีตาร์มาเล่นและร้องเพลงอย่างมีความสุข
โดยไม่เคยเบื่อหน่ายเลย....





เราไม่ค่อยเชื่อนะครับว่า
เด็กสามารถเรียนรู้ได้ดีที่สุดขณะ “เล่น”



แต่ผมเชื่อเสมอว่า แม้แต่การอ่านการ์ตูนขายหัวเราะ
ก็มอบการเรียนรู้ที่ดี
และอาจทำให้นักเรียนสอบได้คะแนนเต็มจากวิชาฟิสิกซ์ก็เป็นได้
ถ้าเด็กสนุกในการรับรู้ และมีความสุขขณะเรียนรู้

โดยที่เด็กจะเรียนรู้ได้ด้วยตัวเขาเอง
โดยมีครูและผู้ปกครองเป็นคนที่คอยสนับสนุน
ไม่ใช่แทรกแซงและยัดเยียดชุดความรู้
โดยที่เขาไม่เต็มใจ















ความรู้ที่ดีในความรู้สึกของผม
คือความรู้ที่ “ซึม” เข้าไปในตัวเด็กทีละนิดทีละน้อย
ไม่ใช่การ “สาด” ความรู้ที่เป็นมวลน้ำขนาดใหญ่
เข้าไปในสมองเด็ก


ซึมทีละหยด แต่ยาวนาน
ยั่วให้เด็กคิดด้วยคำถาม
กระตุ้นให้เขาหาคำตอบด้วยตัวเอง

เรียนรู้ช้าๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่งเพื่อไปแข่งกับใคร
ไม่ต้องเก่งเพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจและอวดใครๆได้ว่า
ลูกฉันเก่ง ลูกฉันยอดเยี่ยมที่สุด




ผมเคยผ่านชีวิตการเป็นเด็กเก่ง
และแบกความคาดหวังนั้นไว้ตลอดหลายปีที่ศึกษาเรียนรู้


มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย


ความรู้ควรจะผ่านกระบวนการการเติบโตอย่างช้าๆ
ด้วยความเต็มใจ ด้วยความสนใจจากตัวเด็กเอง

เขาควรรู้เองว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะผลิดอกออกผล
เราเพียงแต่คอยดูแลสิ่งแวดล้อม
คอยสนับสนุน คอยดูแมลงศัตรูพืชบ้าง

แล้วปล่อยให้เขาเติบโตด้วย “ราก” ของเขาเอง














ผมรักการอ่าน
ผมอ่านหนังสือไม่ใช่เพราะผมอยากฉลาด
หรืออยากรู้อะไรมากกว่าคนอื่น

แต่ผมอ่าน...เพราะผมอยากเรียนรู้
มีอะไรในโลกนี้อีกมากมายที่ผมอยากรู้และยังไม่รู้
แล้วผมจะรู้ได้อย่างไร
ผมไม่มีทางเดินทางไปทั่วโลกเพื่อหาคำตอบนั้น
ผมไม่มีทางได้พบครูหรือคนที่ถ่ายทอดความรู้ให้ผมได้ทุกคน

แต่หนังสือทำได้

ขอเพียงเรากลั่นกรองเนื้อหาให้ดี
หนังสือก็เหมือนครูนับแสนคนที่รอให้เราเดินทางไปพบ
ทำความรู้จักและแสวงหาความรู้


ทุกวันนี้...
ถ้าจะมีสิ่งใดที่ผมยอมเสียเงินโดยไม่เสียดาย
สิ่งนั้นก็คือ หนังสือครับ
















*** ขอขอบคุณเป็นพิเศษ



วิทยากรทั้งสองท่านที่แบ่งปันแง่คิดในการเลี้ยงลูก
และบอกเล่าประสบการณ์ในการส่งเสริมการอ่านให้กับเด็กๆ
เสียดายมากครับ วันรุ่งขึ้นมีการเสวนาย่อย
กับคุณลาว คำหอมอีกครั้งแต่ผมไม่สามารถเข้าร่วมฟังได้
เนื่องจากติดงานครับ


ขอบคุณโรงเรียนต้นกล้าและคุณครูทุกท่าน
ที่จัดกิจกรรมดีดีแบบนี้ขึ้นมาครับ
















 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2555
106 comments
Last Update : 27 มกราคม 2556 7:26:47 น.
Counter : 6222 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า

งานนี้ต้องขอบคุณคุณก๋า
ที่นำความคิดเห็นและรายละเอียดในหัวข้อเสวนามาแบ่งปันกันนะคะ
...

 

โดย: A IP: 113.53.62.232 21 กุมภาพันธ์ 2555 6:16:36 น.  

 

อ่านแล้วได้ประโยชน์มากมาย
จาก 2 นักเขียนคนเก่ง
และจากการสอดแทรกของพ่อก๋า

 

โดย: เริงฤดีนะ 21 กุมภาพันธ์ 2555 6:32:05 น.  

 

นับเป็นสิ่งดีงามมากเลยก๋า การแบ่งปันครั้งนี้

คนที่ไม่มีร่องรอยแห่งการก้าวเดินเพื่อลูกก็ได้มี

คนที่คิดว่าตนเองมีสิ่งดีให้กับลูกก็ต้องทบทวนว่าถูกต้องเพียงใด

การทบทวน..คือสิ่งเดียว

ที่จะตรวจสอบว่าความคิด การปฏิบัติจากความคิดนั้น แท้จริงมันถูกต้องหรือไม่

หรือเป็นเพียงความต้องการของพ่อและแม่ฝ่ายเดียวเท่านั้น

 

โดย: tiensongsang 21 กุมภาพันธ์ 2555 6:33:00 น.  

 

อรุณสวัสดิ์จ๊ะหมิง หมิง emo

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 21 กุมภาพันธ์ 2555 6:50:20 น.  

 





สวัสดีครับพี่ A



ทุกวันนี้ผมถามตัวเองตลอดนะครับ
ว่าเราเลี้ยงลูกแบบไหน
เราคาดหวังอะไร

คำว่า "เรา" นี่หมายถึง
ผมพูดคุยกับมาดามด้วยน่ะครับ




สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ


"ผมอยากเป็นพ่อที่ลูกภูมิใจ"


ไม่ใช่ให้ภูมิใจว่าพ่อเก่ง
พ่อรวย หรือมีชื่อเสียง

แต่อยากให้เขาภูมิใจและจดจำว่า

พ่อกับแม่ให้เวลาเต็มที่กับเขา
ให้ความรัก ความอบอุ่นอย่างเต็มที่
เท่าที่พ่อแม่คนหนึ่งจะให้ได้



เมื่อโตไป...
เขาต้องมีชีวิตเป็นของเขาเอง
ไม่ใช่มาคอยเดินตามรอยเท้าของพ่อแม่

ผมสนใจศิลปะ หนังสือ ดนตรี
แต่ผมไม่เคยเร่งรัดให้เขาต้องชอบในสิ่งที่ผมชอบเลย

ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่า
ทำอย่างไรลูกถึงจะสนใจและชอบในสิ่งที่ผมชอบ

เขาต้องไปมีเส้นทางของเขาเอง
เพียงแต่ตอนนี้ขอพ่อแม่ประคองไปก่อน

เพราะถ้าเดินอย่างถูกทิศ ถูกทางแล้ว

เขาจะเดินต่อไปทางไหนเมื่อตอนโต
นั่นย่อมเป็นเรื่องของเขาเอง

















 

โดย: กะว่าก๋า 21 กุมภาพันธ์ 2555 6:57:24 น.  

 

ขอบคุณสำหรับแง่คิดคะ

มิน่าละ เวลาอ่านนิยาย
ถึงตจำได้อ่านหนังสือเรียนถึงตำยากนัก
แฮะแฮะ
..
โจทก์นี้ยากเหลือเกินแฮะ

 

โดย: แม่อาเดียว IP: 110.49.224.197 21 กุมภาพันธ์ 2555 6:59:50 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ

บอกได้คำเดียว .. พสุธากำปะนาท

โปรดติดตามข่าวของประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าจะโดนผลกระทบโดยทั่วกัน

รู้แล้วว่าคลื่นมาจากไหน .. เมาคลื่นที่ตัวเองทำขึ้น ... โส-นะ-หน้า 555

 

โดย: Poongie IP: 115.67.32.11 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:01:58 น.  

 


สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋า

บางจังหวะ เราก็หลงลืมสิ่งเล็กแต่ยิ่งใหญ่ในชีวิตไป
เสียดายและเสียใจ คือสิ่งได้รับกลับมา

...

 

โดย: ปลายจันทร์ IP: 101.108.137.56 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:12:12 น.  

 

ถ้าพี่มีลูก

เสรีชนแบบพี่ก็น่าจะเลี้ยงลูกแบบเสรีชน

ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีพอมีเข้าจริงๆ

ผีเข้มงวดของพ่อแม่สมัยนี้อาจเข้าสิงก็ได้

 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.9.213.122 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:13:24 น.  

 

ถ้าย้อนเวลาได้
ขวัญคงกลับไปตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้
อย่างที่พ่อกับแม่ตั้งใจที่จะให้เราตั้งใจเรียน
แต่ถึงตอนนี้ย้อนเวลาไม่ได้
ก้อขอเป็นลูกที่ดีของพ่อกับแม่ค่ะพี่ก๋า

 

โดย: kwan_3023 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:14:11 น.  

 

วิทยากรทั้งสองท่านให้ข้อคิดดีมากๆๆๆ แถมแอบอิจฉาที่คุณก๋าได้ไปนั่งฟังด้วยตัวเองอีก

เราคิดนะคะว่าเด็กจะเรียนรู้ได้เพราะความสนุก และสนใจนี่ล่ะ อืม แต่บางเรื่องอาจจะไม่ค่อยสนุกนะถ้ามันยากเกินไป (ทำไงได้) แต่อย่างน้อยหากสนุกที่จะรู้ มันก็คงทำให้ยากน้อยลงได้บ้างล่ะ ตอนเรียนมัธยม เพื่อนสนิทคนหนึ่งชอบถามเราว่า ไม่เห็นเรากดดันเลย เรียนสบายๆทำไมเกรดดีทุกครั้ง (ต้องแย้คำว่า เฉพาะวิชาที่ชอบ) ก็มันสนุกนี่นา แล้วพอสนุกมันก็ซึมซับไปเอง อยากอ่าน อยากรู้ไปเอง ไม่กดดัน แต่ชอบที่จะรู้ ข้อนี้เลยพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองเหมือนกันค่ะว่าสนุกแล้วจะเรียนดี........แต่สำหรับวิชาที่ไม่สนุก ก็แค่ผ่านจริงๆนะ

ปล.ชอบประโยคที่ว่า ไม่สามารถเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรู้ แต่หนังสือทำได้ ชอบจังค่ะ

 

โดย: KOok_k 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:19:37 น.  

 

ความคาดหวังของพ่อแม่ที่แสดงออกมาใรรูปที่
ย้ำเตือนลูกอย่างสม่ำเสมอว่านั่นคือความรัก
แท้จริงคือความกดดัน ทำลายสุขภาพจิตของลูก
และฝังใจเค้าไปอย่างไม่รู้ตัวครับ คุณก๋า เค้าก็
จะไปถ่ายทอดสิ่งที่เค้าได้รับให้ลูกเค้าโดยจิต
ใต้สำนึกนั่นเอง

คุณก๋าโชคดีที่จ้องเน็ตนานแล้วไม่สบาย นั่น
เป็นเพราะธรรมชาติเข้าข้างคุณก๋า พี่นี่เท่าไหร่
เท่ากันเลย แต่มั่นใจว่าไม่ได้ติดเน็ต เพราะเวลา
ไปอยู่บ้านป่า รู้ว่าเน็ตมันช้าก็รำคาญที่ทำงานยาก
แต่ไม่ขวนขวายเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่งาน ถ้าติดคง
ลากไฮสปีดเข้าไปเองแล้ว อีกแค่สองกิโลเอง
แล้วถ้าไปต่างประเทศก็ไม่เอาเลย ถึงสนามบิน
ต้องวิ่งเข้าใส่คอมฟรีนี่ ไม่เคยทำ

ปัญหาของพี่ก็คือเปิดช่องทางให้คนสื่อเข้าถึงตัว
ทางเน็ตได้ง่ายเกินไป เราทำงานอยู่ คนก็ทักเข้า
ไปคุย มันก็คือ ใช้เน็ตอย่างไม่มีลิมิตมากกว่า
ถ้าแค่ทำงานและบันเทิงบ้างก็ไถงขนาดนี้ ต้อง
แก้ไขแบบเด็ดขาดแล้ว ไม่งั้น แย่แน่ เมื่อคืน
เริ่มนอนแต่หัวค่ำ วันนี้ตื่นเช้ามาก แค่เริ่มก็รู้สึก
ดีแล้ว ถ้าจะรอดเนอะ อิอิ

 

โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:46:21 น.  

 

น้องก๋า..ก็ว่าไป..

ออกจะหล่อ .. หุ่นดี ทิ้งห่างคุณน้องชายหลายขุม...

 

โดย: poongie 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:51:19 น.  

 

เลี้ยงลูกตามใจตัวเอง อิอิอิ

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:01:40 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณก๋า ยามเช้าที่อากาศเย็นๆ สบายๆ ครับ

เธอสอนลูกของเธออย่างไร ?
คำถามนี้เลยดูไกลตัวสำหรับตัวเองไปหน่อย
แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ทำหลายๆ อย่างเพื่อแบ่งปัน เติมเต็มในสิ่งที่คิดว่าควรเติมเต็มให้กับใครๆ อีกหลายๆ คนครับ

 

โดย: ถปรร 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:02:17 น.  

 


แหล่มเลยล่ะน้องก๋า
พี่อุ้มเลยมาโหวตให้ในสาขาครอบครัวและเด็ก

อ่านแล้วนึกถึงเจ้าน้องอุ้ม
วันนี้อุ้ม 1 และเจ้าน้องอุ้ม (คืออุ้ม 2)
(เพราะห้องเรียน 4/3 มี 2 อุ้ม)
แข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษ
ก็บอกน้องอุ้มว่าทำเต็มที่เท่าไหนก็เท่าไหน
ไม่ต้องเครียด
ตอบได้ก็โอเคตอบไม่ได้ก็ไม่เห็นแปลก
ทำให้เต็มที่แค่นั้นก็พอ

เรื่องการอ่านหนังสือกับทำการบ้านนี่
ไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้าน้องอุ้มเลย
เจ้าน้องอุ้มจะรักการอ่าน
เคยนั่งสังเกตตอนเลิกเรียน
ในขณะที่เพื่อนๆ จับกลุ่มคุยกัน
เจ้าน้องอุ้มก็จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
และทำการบ้านโดยที่ไม่ต้องบอก
แล้วก็มาบ่นว่า
ครูให้หนูนั่งหลังห้องเพื่อนๆ คุยกัน
อาทิตย์นี้โชคดีหน่อย
ที่หัวหน้าห้องเป็นโรคอีสุกอีใสไม่มา
หนูเลยได้มานั่งข้างหน้าชอบใจมาก

 

โดย: อุ้มสี 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:08:16 น.  

 



ดีจัง ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ ส่วนมากเด็กเมืองไทยตอนนี้
ไม่มีเวลาเป็นเด็กเลย เรียนหนักมาก ติวตลอด

สำหรับบ้านคนสูงว้ย อยากให้เมืองไทยมีจัง ตอนนี้
มีคนไทยเคยอยู่อเมริกา สร้างที่เชียงคาน แถวเชียงใหม่
" ไร่ทินกร " เจ้าของติดต่อกับพี่ให้ประชาสัมพ้นธ์
คิดว่าจะเปิดปลายเดือนนี้ จะส่งรูปมาให้พี่ ถ้าพีได้
จะมาแบ่งปันกันดูค่ะ

newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:16:13 น.  

 


อย่างที่พี่ก๋าว่า ..

"พ่อแม่เกือบทุกคนไม่ได้มีวัยเด็กที่สมบูรณ์แบบ"

ด้วยเหตุนี้ ..
พ่อแม่เลี้ยงลูก ด้วยการหลีกเลี่ยงความบอบช้ำในวัยเด็กของตัวเองเยอะนะคะ


ดี.ฟังจากพี่ๆหลายคน .. ฟังจากกลุ่มน้องๆหลายคน ..
เลยได้รู้บางปัญหาว่า ..
ทำไมพ่อแม่ตามใจเด็กนัก ทำไมพ่อแม่บีบคั้นเด็กนัก

พ่อแม่บางคน .. ไม่เคยได้เที่ยว .. เก็บกด
พอถึงลูก .. ไม่อยากให้ลูก .. เก็บกด .. เลยปล่อย

พ่ีอแม่บางคน .. เรียนหนังสือแย่ เพราะเกเร
ก็รู้ว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะอะไร
ก็เลยมาบังคับเอากับลูก

และ .. ตัวเด็กเอง ก็ใช้ความบกพร่องของพ่อแม่ในอดีต
มาเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง
โดยภาพรวม .. เหนื่อยไปตามๆกัน


นี่ถ้าดี.อยู่ตรงนั้น ดี.จดยิกๆเลยนะคะนั่น
ความรู้ตรึม ชอบฟังอะไรแบบนี้
แต่จากบล็อกนี้ .. ได้รู้จากที่พี่ก๋าฟัง และพี่ก๋าเล่าด้วย
ความรู้ตรึมกว่า ..อ่านตรงนี้ดีกว่า





 

โดย: d__d (มัชชาร ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:18:30 น.  

 

รู้สึกดีนะครับที่สมัยนี้พ่อแม่ให้ความสำคัญกับศาสตร์แห่งการเลี้ยงลูกมากขึ้น จะโตมาเป็นแบบไหน อนาคตจะเต็มไปด้วยคนแบบไหนก็ขึ้นกับขั้นตอนที่สำคัญนี้ละน้อ ^^
ที่อบรมบ่มนิสัยอีกแห่งที่สำคัญคือโรงเรียน ศูนย์ดูแลเด็กเล็กหรือสถาบันส่งเสริมพัฒนาการสมัยนี้พัฒนาขึ้นเยอะ แต่การศึกษาภาคบังคับแย่ลง ผมอยากให้ครูมีอำนาจควบคุมนักเรียนได้เหมือนเมื่อก่อน แต่อยู่ในกรอบที่ชอบธรรม และครูควรเป็นคนที่ผ่านการคัดสรรมาเพื่อสอนเด็กๆ ไม่ใช่คนที่เอ็นท์คณะอื่นไม่ติด แต่ระบบผลตอบแทนมันไม่ดึงดูดคนเก่งเท่าไหร่ กระบวนการสร้างคนมันเลยมีอุปสรรคเยอะ

 

โดย: ชีริว 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:21:44 น.  

 



เดี๋ยวดี.รวบรวมลิงค์น้องแกงมาให้ค่ะ^^

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:22:10 น.  

 

ชอบเอนทรีนี้ของคุณก๋ามาก อยากจดเก็บไว้หมดเลยค่ะ

เราเชื่อเรื่องที่ว่าเด็กจะเรียนรู้ เมื่อเขากำลังสนุก

เราเป็นอีกคนที่โตมาด้วยระบบเก่า ระบบเร่งเรียน เร่งโต ระบบกดดัน ระบบเคร่งครัดในการดำเนินชีวิต โชคดีที่พอโตขึ้น เราออกแบบเส้นทางชีวิตตัวเองได้ระดับหนึ่ง และคิดว่าถ้ามีลูกหลาน เราจะมีวิธีดูแลเขาในแบบที่ไม่บีบคั้น

อย่างรร. ที่น้องหมิงเรียนนั้น ถูกจริตเรามากค่ะ

ขอบคุณมากๆที่แบ่งปันเรื่องดีๆ ให้แง่คิด

หัวใจคุณก๋าที่บลอกโตมาก... มีแต่คนรักนะคะ

 

โดย: Love At First Click 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:31:14 น.  

 

กิจกรรมดีดี...

ข้อคิดดีดี

ขอบคุณ...น้องก๋า

ที่เอามาแบ่งปันกัน


 

โดย: Calla Lily 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:32:24 น.  

 


Orkut Myspace Good Morning Scraps Graphics and Comments



อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารค่ะ คุณก๋าและหลานหมิงหมิง แวะเข้ามาทักทาย มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ

 

โดย: KeRiDa 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:40:12 น.  

 

สวัสดียามเช้า ๆ ครับ
ช่วงเวลาเด็กผ่านไปไวจริง ๆ พอ ๆ กับชีวิตวัยรุ่่น

 

โดย: อัสติสะ 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:50:41 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

 

โดย: kobnon 21 กุมภาพันธ์ 2555 8:57:10 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า + หมิงหมิง
หมิงหมิงมีพ่อ แม่ ที่เลี้ยงเค้าแบบเข้าใจแบบนี้
โตขึ้นเค้าต้องเป็นเด็กดีมีคุณภาพแน่ๆเลยค่ะ

 

โดย: ภูผา กะ วาริน 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:10:26 น.  

 

พูดถึงเฟสแล้วต้องกลับมาหัวร่อ

ตอนเค้าเริ่มเห่อ พี่ก็เปิดมั่ง ในชื่อ nulaw.m
เค้าก็ส่งเพื่อนบล็อกเข้ามาให้แอด เห็นจำนวน
แล้วแทบตกเก้าอี้ อดทนอยู่สี่ห้าเดือนก็พังพาบ
อยู่มาอีกพักใหญ่ เกิดอารมณ์ว่าลองเปิดในชื่อจริง
โหยยยย ทำไมรู้จักคนมากมายขนาดนั้นว้า อดทน
อีกเกือบครึ่งปีก็ปิดไปอีก แล้วไม่นานก็ปิ๊งไอเดียว่า
เปิดในชื่อที่เมคเอาละกัน โหย แต่ลืมไป ดันใช้
email ที่เคยส่งของให้ใครคนหนึ่ง ก็เลยได้เพื่อน
ของใครคนนั้นแห่เข้ามาเต็มไปหมดอีก 55 เลย
ได้เป็น ชายสามเฟส น่าจะต้องหยุด กลัวคนไม่คบ
เหมือนชายสามเมีย เอ๊ย ชายสามโบสถ์ อิอิ

 

โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:11:37 น.  

 

กิจกรรมนี้ดีสุดยอดจริง ๆ ด้วยค่ะพี่ก๋า น่าอิจฉาน้องหมิงหมิงจังเลย ที่คุณพ่อเลือกโรงแรียนและวิถีในการปลูกฝังเขาแบบชัดเจนไม่ตามกระแสแบบนี้ แล้ววิทยากรทั้งสองท่านนี่ก็ถือว่าเป็นต้นแบบทางความคิดดี ๆ เชื่อว่าผู้ปกครองทุกท่านที่เข้าร่วมคงได้แง่คิดดี ๆ กลับไปอีกเยอะเลยนะคะ

 

โดย: คมไผ่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:12:38 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะพี่ก๋า
วัยเด็กผ่านไปแล้วไม่ย้อนคืนจริงๆค่ะ

พระจันทร์เชื่อว่าพ่อแม่ที่ได้อ่านบล็อกนี้ หรือไปงานในวันนั้น
จะต้องรู้แล้วแน่นอนค่ะว่า เธอสอนลูกของเธออย่างไร

 

โดย: เจ้าแห่งน้ำคือพระจันทร์ 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:26:36 น.  

 

คุณก๋า ...

เราว่าเราโชคดีในส่วนหนึ่งที่แบบว่า .. เราไม่มีลูก
อาจจะถูกมองจากคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ด้วยความ งง และสงสัย
และอาจจะเถียงว่า ทำไมถึงคิดว่าโชคดี แต่งงาน มีครอบครัว
มันก็ต้องมี "ลูก" สิ


ใช่ เราไม่เถียงหรอกค่ะ เพราะเชื่อว่าในมุมมองของทุกคน แน่นอนว่า
มันมีทั้งดีและไม่ดีที่มีลูกและไม่มีลูก ... เราเองเมื่อก่อนก็เคยคาดหวัง
ว่าอยากมี แต่ว่าไปๆ มาๆ ก็ตอบโจทย์ได้ว่า ไม่มีดีกว่า ...
(ดีกว่าอะไร ไม่ต้องบอกเพราะว่าไม่รู้จริงๆ ค่ะ) 555+


ในความคิดเห็นของคนอื่นเราไม่รู้ แต่ว่าในมุมของเราๆ รู้ดีเลยค่ะว่า
การไม่มีลูกของเรา มันดีในแง่ที่ว่า เราไปเนิบๆ กับชีวิตได้ เรารับผิดชอบ
ตัวเราและคนข้างๆ เท่านั้นพอ เราไม่มีลูกให้เราต้องห่วง เพราะบอกตรงๆ ว่า
ถ้าเรามี เราคงเครียดมากมาย เพราะเราเป็นพวก ห่วงมาก วิตกจริตคิดมาก เรียกว่าสุดๆ ค่ะ ห่วงในแง่ที่อยากให้เค้าได้ดี
แต่ว่าวิธีการเราอาจจะรัดกุมเกิน คือ เราเองคงจะทุกข์ใจด้วยเรื่องห่วงเขา
นี่ขนาดว่าไม่มีลูกนะค่ะ .. แค่เห็นหลาน "ข้าวหอม" บางทีเรายังเครียดแทนเลย
แต่ก็ต้องมาท่องเอาไว้ว่า .. เรื่องของเขา พ่อแม่เขา ตายายเขา
เราไม่ต้องห่วงอะไรมากนอกจากว่าเราคอยมองห่างๆ ..
อะไรยื่นมือช่วยได้ช่วยแต่ว่าก็ต้องห่างๆ เข้าไว้ .. เพราะเราไม่อยากยุ่ง
อะไรที่ไม่ใช่ธุระของเรามาก ... นี่ล่ะค่ะ เราเลยคิดว่า ถ้าหากวาเรามี
ของเราเองจริงๆ คงได้เครียดนักกับการเลี้ยงดู เอาใจใส่ ที่แน่นอนว่า
เต็ม 100 แน่นอนแต่ว่า อะไรจะวัดได้ล่ะว่า เราให้เค้าแล้วเค้าจะรับ
เอาไปเต็มๆ

แต่ก็อย่างว่านะเน๊าะ ว่า เราเต็มที่แล้ว แต่เขาจะรับเท่าไหร่ก็คงต้องว่ากันไป
แต่เราก็เชื่อเสมอว่า เด็กได้รับความรักจากพ่อและแม่ ด้วยเหตุ และด้วยผล
ครอบครัวเป็นฐานอย่างนี้ เราว่าสุดท้ายเด็กเค้าได้คิดเป็น สอนได้รับรู้
เชื่อแน่ว่าเค้าไม่น่าห่วงเลยค่ะ

 

โดย: JewNid 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:28:36 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า กิ่งมาอ่านดูแล้วโรงเรียนต้นกล้าเค้ามีวิธีการที่ไม่เหมือนใครกิ่งว่า น่าสนใจดีนะคะน้องหมิงหมิงคงเป็นเด็กโชคดีที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคุณครูดีดีแบบนี้

วันข้างหน้าน้องต้องเติบโตขึ้นมาด้วยความมั่นใจใจตนเองและกล้าที่จะแสดงออก น้องจะไม่พลาดโอกาสดีดีเมือนเด็กๆหลายๆคนที่ไม่กล้าแสดงออกจึงต้องพลาดโอกาสดีดีไปอย่างน่าเสียดายค่ะ

สุขสดชื่นวันนี้ค่ะ




More Flowers Wishes Comments


 

โดย: กิ่งฟ้า 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:30:30 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ .. เมื่อก่อนอุ๊อ่านเยอะนะ
แต่ทุกวันนี้ .. แค่หยิบหนังสือก็หลับแล้ว

สมาธิ สติ หายไปไหนไม่รู้ ..

เริ่มฝึกใหม่ ต้องตั้งหลักซะที อิอิ

 

โดย: Life & Learn 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:31:32 น.  

 

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 2 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


==========================

อ่านแล้วก็ต้องคิดตวยแต้ๆเลย "เธอเลี้ยงลูกของเธออย่างไร"

บางทีปี้ย้อนถามตั๋วเองว่า ปี้เลี้ยงลูกดีพอรึยังเนี่ย ต้องแบบไหน ต้องจะได
บางทีก็เครียด แค่อยากหื้อมันเป๋นคนดี ปี้ต้องการแค่นั้นเอง
ละอ่อนยิ่งใหญ่ คนเป๋นป้อเป๋นแม่ ยิ่งเครียด

มีลูกคนนึง .. เลี้ยงมันหยังมายากแต้...



ยิ่งได้พบปะ อู้กะป้อแม่ เพื่อนๆเพิร์ธ นี่หนา .. ยิ่งฟังเขาอู้ว่าเขาเลี้ยงลูกแบบไหน

กลับมาคิดแหม..เครียดแหม.. สุดท้าย บ่ออยากคิดหยังละ ..

แค่เพิร์ธเป๋นละอ่อน ที่สดใส ร่าเริง สุขภาพแข็งแรง ปอละ..


เวลาเพิร์ธมันไปแอ่วไหน มันจะตระเตรียม กระดาษ ดินสอ สี ของมันไปพร้อม
มันชอบวาดนั่นนี่ ไปละไปเรื่อย ก็ดีหนา มันอยู่เป๋นที่ดี ..ฮ่าๆๆ

บ่ออั้น ขี้ข้านปากกับมัน เจ้า ..


หมิงหมิง ต้องเป๋นละอ่อนที่เรียนรู้สมวัยแน่ๆ เพราะมีป้อมีความคิดดีๆ แบบนี้ ..ชื่นชมครับผม..


 

โดย: Nongpurch 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:33:59 น.  

 

เคยคิดเหมือนกันค่ะ ว่า พ่อ แม่ เลี้ยงเรามายังไง..เราถึงเป็นคนแบบนี้ (ดีนะคะ ไม่ใช่ว่า ไม่ดี) ยังนึกขอบคุณ และสำนึกในพระคุณของท่านเสมอ..

 

โดย: simplyusana 21 กุมภาพันธ์ 2555 9:56:13 น.  

 


หมิงๆโชคดีมากมากเลยล่ะค่ะ พี่ก๋า
...

 

โดย: Nissan_n 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:04:03 น.  

 

เห็นด้วยอย่างมากกกกกกที่สุดค่ะ
อย่าว่าแต่เด็กๆเลย เราเองก็ทำอะไรที่อยากทำก็เพราะความสนุกเหมือนกัน ...

เยี่ยมมมมม

 

โดย: PrettyNatty 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:06:58 น.  

 

สายสวัสดิ์ภุมวารค่ะคุณก๋าที่รักคะ


เรียกไว้ตั้งแต่เห็นภาพหะมิงหะมิงแล้ว
แต่คาถาวันนี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์
เลยท่องบทใหม่ว่า

"อิมัสมิงชายฝั่ง อิมังบ้านก๋า การเรียนนำมา
สั่งสอนบุตรา ให้เป็นคนดีมิมีคิดโกง" โป๊ะเช๊ะ
มาได้แล้วคร้าบ
ขอบคุณรูปหลานค่ะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:15:25 น.  

 



สวัสดีค่ะน้องก๋า
แวะทักทายกันก่อนนะคะ
เย็น ๆแว้ปเข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อน่าสนใจมาก ๆค่ะ

 

โดย: jamaica 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:24:38 น.  

 

การคาดหวัง เป็นสิ่งที่น่ากลัว
การคาดหวัง อาจนำมาซึ่งสิ่งที่ สมหวัง และ ผิดหวัง เสียใจ
รวมทั้งเป็นพลังให้ทำอะไร ให้สำเร็จ

 

โดย: พาขวัญ IP: 110.77.218.110 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:31:51 น.  

 

สวัสดียามสายๆค่ะ คุณก๋าและหมิงหมิงสุดหล่อ

แวะมาชม เธอสอนลูกของเธออย่างไร ? emo

ขอให้มีความสุขนะคะemo

 

โดย: iamorange 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:32:05 น.  

 

สวัสดีเจ๊าอ้ายก๋า

เฮาคนบ่มีลูก
แต่รู้ตัวดีค่ะว่า เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ
ตัวเองรู้วิธีทำตัวเองให้มีความสุขให้ได้ก่อน
แม้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเราเองยังทำใจไม่เป็น
ก็จะให้ไปดูแลชีวิตคนทั้งคนเป็นได้ยังไง

 

โดย: จอมใจมีดบิน IP: 118.175.19.66 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:41:57 น.  

 

วัยเด็กผ่านไปเร็วจริงๆค่ะพี่ก๋า
ตอนเด็กอยากโตไวๆ
แต่ตอนนี้อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
แต่ก็ทำไม่ได้


โดย: fonrin 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:40:14 น.


 

โดย: กะว่าก๋า 21 กุมภาพันธ์ 2555 10:51:32 น.  

 

มีความสุขกับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามานะครับพี่แม่หมู...

************

กำลังเดินสายเยี่ยมเพื่อน ๆค่ะ
แต่อดไม้ได้ที่จะวิ่งตามมา
พี่ก็รู้สึกนะคะว่ากำลังมีความสุขกับสิ่งที่วุ่น ๆอยู่รอบๆตัว
คิดจะอัปลงบล้อกแต่ก็เปลี่ยนใจค่ะ....

พรุ่งนี้บ่าย ๆประกาศผลสอบลูกค่ะ
ใจเต้นตลอดเวลา....พันกว่าคน รับ 60 ค่ะ
อะไรจะเกิดก็ต้องยอมรับให้ได้นะคะน้องก๋า

 

โดย: jamaica 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:02:06 น.  

 

ทักทายใกล้เที่ยงครับน้องก๋า วันนี้ไม่ยุ่งมากมีเวลาเก็บข้อคิดจากบ้านน้องก๋าเต็มที่ ขอบคุณคร๊าบสำหรัลเรื่องเล่าและเรื่องราวดีดี ^____^

 

โดย: phaclam 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:27:19 น.  

 

ทุกวันนี้...
ถ้าจะมีสิ่งใดที่ผมยอมเสียเงินโดยไม่เสียดาย
สิ่งนั้นก็คือ หนังสือครับ



ถูกต้องค่ะ....ทุกวันนี้นายต้นก็ยังคงอ่านหนังสืออยู่

ล่าสุด อ่านของ หนุ่มเมืองจันทร์(แต่ก็ยังอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่)

พี่เองก็พยายามบอกหลาน ๆ ในตอนไม่มีลูก ว่า

การเรียนรู้ ไม่ได้มีแต่ในห้องสี่เหลี่ยม

เมื่อไม่กี่วันก็คุยเรื่องเพื่อน เค้าบอกว่า เพื่อน ไม่มีการเลือกคบใคร หรือไม่คบใคร ต้องเป็นเพื่อนกับทุกคน


แต่............ให้แยกแยะ ผิด-ถูก ของเพื่อน

ปล. คุยกันแล้ว แม่ใช้คำพูดผิด บอกให้เลือกคบ เลยเจอนายต้น เลคเชอร์ให้ฟัง เหอ เหอ



ผู้ใหญ่โดนเด็ก สอนบ้างก็ได้

 

โดย: ตาลเหลือง 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:29:15 น.  

 

อยากให้ทั้งพ่อแม่ และครูได้อ่านข้อความดี ๆ ในวันนี้จังเลยค่ะ

เรียนรู้อย่างสนุกสนานและมีความสุข

บางครั้งเหมือนค่านิยม

รัฐบาลต้องการตัวชี้วัดด้านตัวเลขมากกว่าเพื่อผันบางอย่าง

ปล.แล้วจะค่อยทยอยเอาภาพลงให้ชมค่ะศิษย์พี่ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเยอะเลยค่ะ และส่วนมากก็เบลอซะส่วนใหญ่เพราะเป็นภาพในมุมที่ต้องใช้ขาตั้งกล้องซะเยอะ (แต่ไม่ได้เอาไปด้วยเลย) มีมุมแสงสวย ๆ ของตึกสูงน่าถ่ายเยอะมาก แต่ไม่มีโอกาสได้แวะลงถ่ายภาพเลย อยากไปอีกค่ะ แต่ถ้าไปอีกคงแบกเป้ไปเอง

 

โดย: minporee 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:35:02 น.  

 

ขอบคุณทีแบ่งปันค่ะ

 

โดย: แม่น้องกะบูน 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:36:57 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกครับ ผมยังไม่เคยมีลูกมาก่อนเลยครับ (เท่าที่ผมทราบนะ) แต่ผมก็อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นแนวคิดที่ดีมาก ๆ เลยครับ

ผมคิดว่าเรื่องวิธีการเลี้ยงลูกที่ดีเแบบนี้ น่าจะเอาไปให้พวกนักเตะทีมชาติไทยได้ศึกษากันนะครับ น่าจะเป็นประโยชน์กับทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นอย่างมากเลยครับ ถ้านักเตะทีมชาติไทยเลี้ยงลูกได้ดีทุกคนแล้วผมคิดว่าทีมชาติไทยอาจจะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกในอนาคตก็เป็นได้ครับ

(เกี่ยวกันอ่ะป่าวหว่า?)

ไปล่ะ ...

ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

อิอิ



ปล. ดูข่าวบอกว่าที่เชียงใหม่มีหมอกและควันเยอะมาก เวลาออกจากบ้านระวังสุขภาพการหายใจด้วยนะครับ อย่าลืมใส่หน้าก๊ากกั้นแก๊สพิษก่อนออกจากบ้านล่ะ



อิอิ (อีกรอบ)

emoemoemo

 

โดย: อาคุงกล่อง 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:45:33 น.  

 

ขอบคุณ คุณก๋า ที่นำเรื่องดีๆ มาแบ่งปัน

แม้เราจะไม่ใช่พ่อแม่ที่ดีที่สุด

แต่ก็รักลูกมากที่สุดค่ะ



 

โดย: Mameepee 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:50:53 น.  

 

สวัสดีคะพี่ก๋า และน้องหมิงๆ อาเมะกลับมาแล้วค่าาา
ผ่านไปแล้วกับการสอบไฟนอลล กับมาเฝ้าบล็อกกันอีกแล้วคะ

 

โดย: besmile-me 21 กุมภาพันธ์ 2555 11:57:35 น.  

 

 

โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 12:02:59 น.  

 

ลืมบอกไปเรื่องหนึ่งว่า ตอนโพสต์ภาพปลาในตลาด คิดถึงคุณก๋าเหมือนกัน เพราะรู้ว่าคุณก๋าไม่กินปลา

เราก็เขียนเรื่องปลาบ่อยเชียวเนอะ เหอเหอ

 

โดย: รักแรกคลิก IP: 204.136.218.8 21 กุมภาพันธ์ 2555 12:38:29 น.  

 

ผมว่าผมกับคุณก๋าโชคดี ที่มีลูกเพียงคนเดียว ดูแล ให้ความอบอุ่นได้ทั่วถึงตั้งแต่เล็กจนเขาเติบใหญ่ หรืออาจเป็นเพราะเราปลูกฝังสิ่งดีๆให้ลูกตั้งแต่ตัวน้อยกระมัง โตขึ้น เขายังไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้เสียใจเลย

ผ้าเหลือง..เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่า ลูกได้อะไรมากมายเลยตอนไปบวชเป็นสามเณรน้อย ซึ่งอย่างไรเสียเดือนหนึ่งนั้น คงดีกว่านั่งเล่นคอม เล่นเกมผ่านไปวันๆนะผมว่า

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 21 กุมภาพันธ์ 2555 12:41:24 น.  

 

สวัสดีครับอาเมิ่ง

ไม่ต้องซีเรียสนะครับ
ผมว่าถึงเวลาก็รู้เองครับ 555

การเลี้ยงลูก
ต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆครับ

ไม่มีคู่มือเลี้ยงลูกเล่มใด
ที่ดีไปกว่าคำว่า การเรียนรู้และประสบการณ์ครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 21 กุมภาพันธ์ 2555 13:08:10 น.  

 

ได้ข้อคิดดีๆเยอะเลย
ชอบหลายๆประโยคที่พี่ก๋าจดมา
แล้วก็เห็นจริงด้วยว่าอย่าบังคับให้เด็กรักการอ่าน
แต่ช่วยจัดสิ่งแวดล้อมให้เด็กรู้สึกชอบไปเอง
เพราะนาห์เองรักการอ่าน
แรกเริ่มอ่านหนังสือได้ ฝึกฝนเองทุกอย่าง
แล้วรู้สึกว่าอยากรู้เรื่องราวต่อของตอนต่อไปในบทเรียน มานีมานะ
มันทำให้ขยันและฝึกอ่านจนคล่อง
อ่านของบทเรียนระดับชั้นเองไม่พอ
เข้าห้องสมุดไปยืมหนังสือของระดับชั้นต่อไปมาอ่าน
รู้สึกว่ามีความสุขมากๆเหมือนมานีมานะมีชีวิตเป็นเพื่อนของเราไปเลย
แต่ไม่แค่นั้นนะคะ อ่านโดเรมอนด้วย
นิทานของป้าน้อย ซึ่งมีทั้งที่คนทางบ้านเขียนส่งไป นิทานอิสป นิทานต่างประเทศที่เค้าแปลมาแล้ว
(มีหลากหลายเรื่องเสียดายมากที่ทำหายไปหมดเลย)
แล้วก็คำสาปฟาโรห์ สนุกๆนาห์อ่านจบตั้งแต่เรียนอยู่ ป.5

 

โดย: มัยดีนาห์ 21 กุมภาพันธ์ 2555 13:42:11 น.  

 

***แต่ผมเชื่อเสมอว่า แม้แต่การอ่านการ์ตูนขายหัวเราะ
ก็มอบการเรียนรู้ที่ดี****


กลับมาอ่านอีกรอบ เพราะพี่ก็เชื่อเช่นคุณก๋า จึงเปิดร้านเช่าหนังสือ555


มีอยู่ช่วงหนึ่ง ทุกคนยุ่งไม่มีเวลามาดูแล คุยกันว่าจะปิดร้านหนังสือดีมั๊ย

แต่...ใจหายค่ะ นึกถึง เราตอนเด็ก ๆ หาหนังสืออ่านไม่ได้

เกรงว่าเขาจะเคว้งคว้างค่ะ

สุดท้ายไม่ ปิด ยังมีแรงใจกันอยู่

 

โดย: ตาลเหลือง 21 กุมภาพันธ์ 2555 13:50:29 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า
มารับข้อคิดดีๆค่ะ ขอบคุณที่นำมาแ่บ่งปันค่ะ

 

โดย: phunsud 21 กุมภาพันธ์ 2555 13:56:36 น.  

 

สวัสดีเจ้าคุณพ่อ

 

โดย: tuk-tuk@korat 21 กุมภาพันธ์ 2555 13:59:13 น.  

 

ชอบจัง ไว้ไปหาในเฟสและขอแชร์ต่อนะคะ

คุณลาว คำหอม คนขวาสุดรึเปล่าคะ (เอ..ทำไมเราชอบถามอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้นะ...ก็แค่อยากรู้ว่าคนที่พูดถึงคือใครเท่านั้นอ่ะ อย่าว่ากันนะฮ้า)

 

โดย: uter 21 กุมภาพันธ์ 2555 14:08:06 น.  

 

อย่าบังคับ อย่าัยัดเยียด แต้ๆ เจ้าอ้ายก๋า

จะอั้นจะเ็ป็นการต่อต้าน
ละอ่อน จะ ต่อต้านบ่ออยากเล่น บ่ออยากเรียนเลย


เล่น ๆ เรียน ๆ หื้อสนุก นั่นแหละ ละอ่อนต้องการ
แต้ๆ เจ้า

แต่ว่าก็ว่า นะ เวลาคนเฮามีอารมณ์โกรธ เห็นลูกทำผิด ก็เผลอที่จะดุบ่อได้

อย่างนี้ก็ย๊ะหื้อเด็กกลัวได้ สรุปที่ว่าผู้ใหญ่ต้องควบคุมตนเองหื้อได้โตยเจ้า

 

โดย: Rinsa Yoyolive 21 กุมภาพันธ์ 2555 14:11:49 น.  

 

บ่าเดียวท่าจะต้องว่า
ความรู้ทั้งหลายทั้งปวง หาใด้จากในเนต อิอิ

emo

 

โดย: BongKet 21 กุมภาพันธ์ 2555 14:25:24 น.  

 

หวัดดีครับน้องก๋า

เป็นกิจกรรมที่ดีจังครับ
น้องก๋าได้สรุปเอาคำคมๆมาบอกต่อ...ขอบคุณหลาย

ไม่ได้เจอหน้าคุณลาว คำหอม นานนนนมากกกกก
เห็นข้างนอกก็คงจำไม่ได้แล้ว...ถึงวัยจะสูงแต่ดูแข็งแรงอยู่เนอะ
หนังสือ "ฟ้าบ่กั้น" ของท่านยังประทับใจไม่ลืม

 

โดย: Dingtech 21 กุมภาพันธ์ 2555 15:10:39 น.  

 



การเลี้ยงลูกเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่พ่อแม่ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาจริงๆนะ

เพราะลูกเราไม่เคยเหมือนเดิมเลยในแต่ละช่วงวัย
พักนึงเราคิดว่าเรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลูก
แต่อีกประเดี๋ยวก็มีอะไรมาให้แปลกใจอีกแระ

ชีวิตคือการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

 

โดย: พจมารร้าย 21 กุมภาพันธ์ 2555 15:31:01 น.  

 

เข้ามารับข้อคิดดีดีครับ
เลี้ยงลูกยังไม่ดีพอ รู้สึกเลย ว่าน่าจะเลี้ยงได้ดีกว่านี้
แต่ ระบบโรงเรียนเด๋วนี้ก็ฝืนธรรมชาติ ไม่ชอบเลย วันหนึ่งๆเด็กต้องถูกสาดความรู้ตั้งกี่คาบการเรียน เท่านั้นยังไม่พอ ยังกั๊กความรู้ด้วยการเปิดสอนพิเศษเรียกเงินพิเศษไม่งั้นสู้เด็กคนอื่นไม่ได้
ทีวีที่บ้านอีก วันอาทิตย์แทนที่เด็กจะตื่นสายได้ก็ดันเอารายการการ์ตูนมาไว้ตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ เฮ้อ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 21 กุมภาพันธ์ 2555 15:32:08 น.  

 

อ่านแล้วได้คิดอะไรเยอะเหมือนกันค่ะ

ขออภัยที่เพิ่งมาเม้นท์ตอบนะคะ งานยุ่งขิงมากมายอ้ะคุณก๋า

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2555 16:04:12 น.  

 

หุย...สองท่านนี้ชื่อคุ้นตาตั้งแต่เริ่มชอบหนังสืออ่านได้
ยิ่งจีระนันท์ พิตรปรีชา ได้ยินชื่อตั้งแต่ยังเด็กมากๆ เลยด้วยซ้ำ อยากไปนั่งฟังด้วย

อ่านบทความแล้วก็คิดตามว่าตัวเองเติบโตมาแบบใด
ถ้าเปรียบเป็นต้นไม้ ก็คงเป็นต้นไม้ที่ขึ้นมาตามมีตามเกิด โชคดีหน่อยที่สภาพแวดล้อม "ที่ตามมีตามเกิด" ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ก็เลยหลุดรอดมาทางที่ดี แบบนี้ได้

แต่ถ้าต้องเติบโต "ตามมีตามเกิด" ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันนี้ ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะมีหัวใจแข็งแกร่ง รู้ผิดชอบชั่วดีได้แบบนี้หรือเปล่า

สถาบันครอบครัวในปัจจุบัน ต้องทำงานหนักกว่าสมัยก่อนมากหลายเท่าตัวจริงๆ




 

โดย: ก๋าสะลองเงิน 21 กุมภาพันธ์ 2555 16:05:43 น.  

 



เรื่องเด็ก กับพ่อแม่ ..
ดี.ว่าจริงๆเร้ย .. ที่บางทีคนป่วยคือผู้ใหญ่
แต่ไม่รู้ตัว


ดี.นึกขึ้นมาได้เรื่องนึง
เป็นเรื่องครอบครัวนึง เกี่ยวกับความรักของลูก
แ้ล้วก็ .. มุมพ่อแม่
ดี.ว่าน่ารักดี
เดี๋ยวคืนนี้ว่างๆ ดี.เขียนเล่า ถ้าทัน จะอัพให้อ่านพรุ่งนี้ค่ะ




 

โดย: d__d (มัชชาร ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 16:24:39 น.  

 

พี่ก๋าสวัสดีตอนเย็นค่ะ

วันนี้เพิ่งจะว่างมาทักทายค่ะ

พี่ก๋าสบายดีนะคะ

 

โดย: maitip@kettip 21 กุมภาพันธ์ 2555 16:34:37 น.  

 



สวัสดีตอนบ่ายค่ะ..คุณก๋า

เอาดอกไม้มาฝากและมาแปะหัวใจให้ค่ะ

 

โดย: nootikky 21 กุมภาพันธ์ 2555 17:00:05 น.  

 

บางทีก็อดไม่ได้ที่จะเศร้า
ตอนเด็กเรียนตามใจพ่อแม่มาโดยตลอด
ทั้งๆที่ตัวเองโคตรเกลียด

แต่วันนี้โตขึ้น
พอจะมีกะตังค์
ไม่มีอีกแล้วค่ะ ที่จะเรียนตามใจคนอื่น
ตามใจฉันเป็นพอ

การเรียนรู้ทำได้ตลอดชีวิต

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 21 กุมภาพันธ์ 2555 17:10:23 น.  

 

ชื่นชมการเสวนาแบบนี้ โดยเฉพาะกับคนเก่งๆ ชอบจังเลยพี่ก๋า กิจกรรมแบบนี้ ... เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะเราต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และปรับเปลี่ยนกับสถานการณ์ด้วย

 

โดย: sawkitty 21 กุมภาพันธ์ 2555 17:29:06 น.  

 

ดีมากเลยค่ะคุณก๋า ที่หยิบเรื่องราวเสวนานี้
มาเขียน และแบ่งปันให้ได้อ่านกัน
มีประโยชน์ให้แง่คิด สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ
กำลังน่ารักๆกำลังเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆจากสิ่งรอบกาย
กดโหวตให้คุณก๋า Diarist blog

 

โดย: tui/Laksi 21 กุมภาพันธ์ 2555 17:59:40 น.  

 

ซื้อหนังสือล่ะ ไม่เสียดาย ทีมาดามจะเอากระเป๋าใหม่นะ 55555

อ่านหมดแล้วเป็นการเสวนาตี้ดีขนาดเลย ปี้ก๋าจดกำอู้มาลงน้อยเดว คิดว่าไปนั่งฟังแต้ ๆ จะต้องมีแนวทางและข้อคิดในการเลี้ยงลูกตี้ดีเยอะเลย ต๋อนนี้หนูยังบ่ากึ๊ดหรอกว่าจะเลี้ยงลูกจะได กึ๊ดเพียงแต่ว่ามีลูกหื้อได้hereก่อน สักเดือนในนี่ท่าจะเปิดอู่ใหม่ละ ต้องจ่วยกั๋นลุ้น อิอิอิ

 

โดย: prunelle la belle femme 21 กุมภาพันธ์ 2555 18:09:29 น.  

 

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ พี่แตนมาแปะหัวใจเยี่ยมไข้มาดามครับน้องก๋า อิอิ หายไวไวนะคร๊าบ

 

โดย: phaclam 21 กุมภาพันธ์ 2555 18:18:25 น.  

 

อ้าว ซะงั้น 555

แต่เวลางานยุ่ง เราก็มีลืมนัดเหมือนกันค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2555 18:41:47 น.  

 

มาทักทายเย็นย่ำแล้ววันนี้

เนื้อเรื่องวันนี้ อ่านแล้วดีมาก จนวิจาร์ณไม่ถูกเลย
เพราะชอบทุกคำ ทุกความคิดเลยค่ะ

พ่อแม่จะรักลูกอย่างเดียวไม่ได้เนอะ
เพราะรักแล้วชอบตั้งความหวังกับลูก
มากกว่าจะสนใจความรู้สึกของลูก

 

โดย: ดาวริมทะเล 21 กุมภาพันธ์ 2555 19:28:10 น.  

 

ถูกใจมากๆ อยากให้พวกพ่อแม่ที่ชอบเลี้ยงลูกเพื่อนสนองตัณหาของตัวเองมาอ่านกันเยอะๆจัง

 

โดย: น้องผิง 21 กุมภาพันธ์ 2555 19:39:56 น.  

 

เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลยค่ะ
อยากนั่งฟังด้วยจังเลยคุณก๋า ... ชอบคุณจิระนันท์ กับหนังสือซีไรท์ เล่มนั้นด้วย
ทุกวันนี้ ฟู่อ่านเหมือนจะชดเชยตอนเด็กค่ะ และอ่านเพราะสนุก ไม่อยากได้อะไรนอกจากนี้ ถ้าเผื่อจะบังเอิญได้ก็คงเป็นของแถมมาเท่านั้นค่ะ
ส่วนการเลี้ยงลูก ... ยังมีอีกหลายเรื่องที่รู้สึกว่าตัวเองบกพร่อง และยังแก้ไม่ได้ แต่ที่รู้ก็คือได้พยายามที่จะแก้ค่ะ



ฝันดีนะคะ

 

โดย: PhueJa 21 กุมภาพันธ์ 2555 19:47:27 น.  

 

คุณกะว่าก๋าคะ เจนชื่นชอบบทความอันนี้ของคุณมากและรู้สึกว่าเป็นมุมมองแนวคิดที่ถูกต้องมากๆเช่นเดียวกัน

น่าเศร้าที่พ่อแม่หลายคนในปัจจุบันยังตัดสินคุณค่าของ รร อนุบาลจากการที่เด็กต้องอ่านออกเขียนได้ ตัดสิน รร ประถมและมัธยมจากการสอบติดสถาบันชื่อดังแต่เพียงอย่างเดียว ตัดสินว่าใครเลี้ยงลูกเก่งหรือดี จากอาชีพของลูกและเงินที่ลูกหาได้หลังเรียนจบ พวกเขาชอบพูดว่าทำเพื่อลูก แต่ความจริงพวกเขาไม่ได้ทำอะไรที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่พูดเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่พวกเขาเข้าใกล้คือทำเพื่อสนองความฝันที่หายไปและชดเชยปมด้อยในวัยเด็กของพวกเขา

พอจะเป็นไปได้ไหมที่คุณกะว่าก๋าจะนำกระทู้นี่ไปลงในห้องชานเรือน ที่ซึ่งมีพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นจำนวนมากเข้ามาอ่าน เจนเชื่อว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นอย่างมาก และอาจจะช่วยให้บางคนเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ซึ่งผลดีที่จะตกกับเด็กนั้น เจนเชื่อว่าจะเป็นกุศลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

 

โดย: JanE & IK 21 กุมภาพันธ์ 2555 19:59:27 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ไม่มีลูกให้เลี้ยง อิอิ แต่เคยเป็นเด็ก

ตอนเด็กครอบครัวฉันใหญ่ มีอากง อาม่า แบบอยู่รวมกันเยอะ แล้วฉันก็ซนมาก ไม่มีระเบียบวินัย อิอิ เป็นลูกที่พ่อแม่ ไปขอกับเจ้ามา

ฉันว่า วิธีการเลี้ยงดูเด็ก แต่ละคน ไม่มีอะไรตายตัว แล้วเด็กแต่ละคน มีพื้นนิสัยติดตัวมาไม่เหมือนกัน

อย่างฉันตอนเป็นเด็กเล็กๆนี่ พ่อแม่ก็ส่งไปเรียน โรงเรียน ฝรั่ง ที่สอนให้เล่นให้คิดเอง คล้ายไรงเรียนหมิง หมิง

555 เข้าทางฉันเลยค่ะ เพราะฉันซนมาก ไม่มีระเบียบวินัย ฉันเอาแต่เล่นทั้งวัน จนคนอื่นเค้าอ่านหนังสือภาษาอังกฤษออกกันหมดห้อง ฉันยังต้วมเตี้ยมแกะ เอ บี ซี อยู่

มาเป็นผู้เป็นคนกับเค้าก็ตอนย้ายเข้าไปอยู่โรงเรียนประจำล่ะคะ

ดังนั้นใช่ว่าโรงเรียนที่ดี สำหรับเด็กคนนึง จะเหมาะ กับเด็กอีกคนหรอกนะคะ

 

โดย: คล้ายดาว 21 กุมภาพันธ์ 2555 20:10:15 น.  

 

ถ้าวันนึงมีลูก คงต้องกลับมาอ่านบล็อกนี้อีกรอบเลยค่ะ

 

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 21 กุมภาพันธ์ 2555 20:20:01 น.  

 

เป็นกิจกรรมที่น่าชื่นใจมากเลย...นึกอยากจะไปนั่งฟังด้วยเลยค่ะน้องก๋า เพราะทั้งสองท่านเป็นนักเขียนในดวงใจ...พี่เคยใช้งานเขียนของทั้งสองท่านสอนเด็กด้วย....เด็กบางคนเข้าใจและรับรู้ถึงความสวยงามของภาษา เด็กบางคนตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่เค้าวิเคราะห์วิจารณ์งานเขียนของท่านทั้งสองอ่านเพื่อตอบคำถามเพราะต้องการทำคะแนนให้ได้เยอะๆจะได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดี....

เปิดโลกทัศน์ด้วยหนังสือ...เป็นสิ่งที่พี่ชื่นชมนะก๋า
และเห็นด้วยกับความคิดที่อย่าบังคับลูกอ่านหนังสือ...
สร้างบรรยากาศให้เค้าจะดีกว่า พ่ออ่าน แม่อ่าน ลูกไม่อ่านหนังสือให้รู้ไป.... พี่พาเด็กไปห้องสมุดบ่อย....บรรณารักษ์ก็ใจดี แม่เข้ามุม ลูกเข้ามุม ยืมมากองไว้ที่บ้านอ่านบ้างดูภาพบ้าง แค่นี้ก็พอแล้ว...

หมิงหมิงเป็นเด็กที่โชคดีมาก...
โชคดีที่ก๋าให้ทางเลือกกับลูก...
ไม่เดินซ้ำรอยเดิม...

พี่ขอให้เนื้อหาในบล็อกนี้และข้อมูลในการเลี้ยงลูกแบบไม่กดดันและให้ทางเลือกกับลูกเป็นแรงบันดาลใจให้ครอบครัวอื่นๆเดินตามนะคะ

 

โดย: MamaBun 21 กุมภาพันธ์ 2555 20:42:41 น.  

 

เป็นคำกลอนความหมายดีมากเลยครับ

ขอบคุณสหคำชมเชยนะคะ พี่ก๋า
แวะมาส่งเข้านอนค่ะ ฝันดีนะคะ
...

 

โดย: Nissan_n 21 กุมภาพันธ์ 2555 20:46:51 น.  

 

ดีจ้ะน้องก๋า

วันนี้น่าสนใจแท้ เริ่มที่คุณ ลาว คำหอม ก่อน

ประโยค คำถามที่ว่า คุณเลี้ยงลูกอย่างไร

คำตอบคงไม่ยาก พ่อแม่ทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันนั่นหล่ะว่า เลี้ยงด้วยความรัก

แต่ไอ้เจ้าความรักที่ว่า แล้วแต่ว่าพ่อแม่จะขยายความกันอย่างไร ทางไหน

ไม่ว่าจะความรักแบบไหน ส่วนหนึ่งก็ล้วนแล้วมาจากความรักจริง ๆ นั่นหล่ะ อาจจะมีอีกส่วนหนึ่งที่มาเติมเต็ม ส่วนที่พ่อแม่ขาดหายไปในวัยเด็ก

พี่ว่าส่วนหนึ่งมาจากสังคมระดับโลกเลยหล่ะ ฟังอาจจะยิ่งใหญ่อยู่ซักหน่อย แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง

หากเราด้อยกว่าผู้อื่น ทั้งร่างกาย และสติปัญญา เราย่อมอยู่ได้ยากในโลกใบนี้ พี่พูดว่าย่อมอยู่ได้ยาก ไม่ใช่ว่าอยู่ไม่ได้ อาจจะลำบากอยู่ซักหน่อย

มีผู้ชายคนหนึ่ง เรียนจบปริญญาโท แต่งงานกับหญิงต่างชาติเรียนจบปริญญาเอก และผันตัวเองไปใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม บ้านดิน ไม่ใช้ไฟฟ้า ใช้น้ำจากลำธาร ปลูกผักกินเอง ฯลฯ เค้าอยู่ได้จริง ลูกทั้งสองคนก็อยู่ได้จริง ในอนาคตของเด็กทั้ง 2 เป็นเช่นไรไม่อาจรู้ได้ แต่มันคือเรื่องจริง(แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลอยู่ดี)

กับชายอีกคนหนึ่ง เรียนจบปริญญาโท แต่งงานกับหญิงไทยจบปริญญาเอกเช่นกัน และผันตัวเองไปใช้ชีวิตในป่า แบบดั้งเดิมเช่นกัน แต่ต้องสูญเสียลูกน้อยไปหนึ่งคน เนื่องจากเดินทางออกจากป่าไปโรงพยาบาลไม่ทัน ตอนนี้เค้าก็ยังคงเหลือลูกน้อยอีก 2 คน

ครอบครัวทั้งสอง ได้ทำตามสิ่งที่ตนพอใจ และคิดว่าดีต่อลูกของเค้า โดยไม่ได้ถามเด็ก ๆ ว่าชอบและพอใจด้วยหรือไม่ แต่พี่คิดว่าโตขึ้นเด็กคงเลือกเองนั่นหล่ะว่าจะชอบทางไหน

พี่แค่จะชี้ให้เห็นว่า ไม่มีทางใดดีที่สุด หรือทางใดแย่ที่สุด เพียงแต่ว่า เราชอบและพอใจในผลลัพธ์แห่งทางเดินทางไหนมากกว่ากันเท่านั้นเอง

ในโลกการศึกษา ใครฉลาดน้อย ก็ย่อมไปได้เท่าที่ความฉลาดตนจะอำนวย อย่างพี่เป็นต้น ได้แค่นี้ก็เรียนในประเทศไป ได้แค่นี้ก็เรียนแค่บริหารไป ถ้าฉลาดกว่านี้ก็คงเลือกเรียนเภสัช

ใครฉลาดมาก ไม่ต้องอื่นไกล นักเรียนทุน ถ้าไม่เก่งจริงก็ไม่ได้บินไปเรียนฟรีถึงอังกฤษ

ในโลกธุรกิจ ใครฉลาดน้อย เล่ห์กลน้อย คุณธรรมมากหน่อย ก็ทำธุรกิจแบบพอกินพอใช้ รวมถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติแบบเบียดบังสิ่งแวดล้อมน้อยหน่อย

ใครฉลาดมาก ก็ทำธุรกิจแบบอู้ฟู่ เบียดบังทรัพยากรธรรมชาติเยอะหน่อย แล้วค่อยใช้วิธี CSR ตอบแทนสังคมแทนคำครหาในสังคม

เดี๋ยวขออ่านท่อน 2 ก่อนนะ แล้วจะมาคอมเม้นท์ต่อ

 

โดย: oa (rosebay ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 21:23:42 น.  

 

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
-----------------------------------------
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
-----------------------------------
หมิงโตไวจังเลย คุณก๋าสบายดีนะคะ

 

โดย: poepum 21 กุมภาพันธ์ 2555 21:43:36 น.  

 

ข้อความที่ว่า "ชีวิตวัยเด็ก ผ่านแล้วผ่านเลย"

งั้นพี่ขอเพิ่มว่า "ชีวิตวัยทำงาน ก็ผ่านแล้วผ่านเลยเหมือนกันนะจ้ะ" ถ้าไม่ทำงานหาเงินตอนที่ยังพอมีแรงทำได้อยู่แล้วหล่ะก็ พออายุขึ้นเลข 4 ก็จะเริ่มเห็นอาการ ยิ่งขึ้นเลข 5 ชัดเจนสุด ๆ พอมาเลข 6 ก็ไม่ไหวซะแล้วถึงตอนนั้นจะมาขยันทำงาน ร่างกายก็คงไม่อำนวย

พี่พูด เพราะที่บ้านมีคน 4 วัย บ้านน้องก๋าก็คงมีคน 4 วัยเช่นกัน

หลานสาวตัวน้อย (วัยเด็ก) ตัวพี่เอง (วัยทำงาน) คุณพ่อคุณแม่พี่ (วัยทำงานตอนปลาย) คุณยาย(วัยชรา)

อย่างพี่ และน้องชาย ต้องเร่งทำงาน หาเงิน เพราะเงินเนี่ยตอนมีชีวิตมันสำคัญจริง ๆ ถึงแม้ว่าตอนตายก็ยังต้องใช้ทำศพ เมื่อคนวัยทำงานมีลูก ย่อมไม่มีเวลาเลี้ยงลูกได้เต็มที่

เด็ก ๆ ก็คงต้องพึ่งเวลาจากคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายแทน หรืออาจจะเป็นคนวัยทำงานที่ทำงานของตัวเอง (แบบพี่หรือน้องก๋างัย)ไม่ใช่รับจ้างทำงานให้คนอื่น

เพราะรัฐบาลคงไม่สามารถเลี้ยงคนทั้งประเทศได้ เช่นถ้ามีบ้านแล้ว ยังงัยก็ต้องจ่ายค่ำน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์เองอยู่ดี ก็ขนาดสาธารูปโภคขั้นพื้นฐานเรายังต้องจ่าย มันก็เหมือนปัจจัยภาคบังคับที่ทำให้เราต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงิน เพียงแต่ว่า บ้านไหนจะจัดระบบ วางแผน บริหารเวลาได้เก่งกว่ากันเท่านั้นเอง

ซึ่งตรงนี้ เราคงไม่สามารถกะเกณฑ์ให้ทุกบ้านเป็นเหมือนกัน เพียงเพราะเราคิดว่าถ้าทุกคนทำได้มันจะดี ซึ่งเราก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่ามันจะดีจริงอย่างที่เราคาดไว้หรือไม่

แต่พี่เชื่อว่า พ่อแม่ทุกคนต่างทำดีที่สุด และสุดความสามารถแล้ว

อ่านต่อท่อน 3 ละกันเนอะ เดี๋ยวคืนนี้ไม่จบ ^^

 

โดย: oa (rosebay ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 21:51:05 น.  

 

ในฐานะของคนเป็นพ่อเป็นแม่
เรากำลังพลาด “วินาทีที่สำคัญ” ของลูกหรือไม่ ?

เรามัวยุ่งกับการใช้ชีวิต
จนลืมไปว่าดอกไม้ดอกหนึ่งกำลังเบ่งบาน
และเติบโตหรือเปล่า ?

เราได้อยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือ
คอยดูแล และให้กำลังใจดอกไม้ต้นน้อยๆที่กำลังจะเติบโต
อย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง ?

.
.
.

ฉึก ฉึก ฉึก

อ่านบทความคุณก๋าวันนี้
ปี้ต้องทบทวนตั๋วเก่าใหม่ทั้งหมด
ขอบคุณนะเจ้า ตี้ทำหื้อมีสติ ตี้มัวเอาก้าสะตังค์ ฮือๆๆ

อยากจะ save เอาบทความนี้เก็บไว้อ่าน
หลายต่อหลายครั้ง ตี้ปี้อยากจะปิ๊กมาอ่านบทความคุณก๋าแห๋ม
เซาะหายากเหลือเกิ๊นเจ้า
วันนี้อ่านจบหนึ่งรอบ ต้องขึ้นไปดู
ว่าคุณก๋าเอาบทความนี้ไว้ในโหมดไหน
แถมแต่ละโหมด ชื่อบะได้โยงกับบทความเลย

อย่างวันนี้ กะก๋ามาตาลิโน่ 2 มันคือหยังเจ้า แหะ
ก่บางเตื้อก่เกี๊ยดอ่ะ เซาะยากเซาะเย็น
อัพตึงวันเหีย จะมาอ่านหลาย ๆ เตื้อ หายแซปนิ

วันนี้ลูกก้าบะหลายเจ้า
ส่วนตะพาบจ๋มน้ำป๋อมแป๋มไปละ อิอิ
งานมันย่อยตี๊นย่อยมือเจ้า
เลยพักไว้ก่อน เมาหัวกับงานประชุมนิ
คนหนึ่งจะเอาอย่างหนึ่ง แห๋มคนแห๋มอย่าง
คนยะก๋านปวดเฮดแต้ ๆ

มะตอนก่แวปไปเนิชเชอรี่น้องแต๊งค์มา
ปี้เลี้ยงลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวกับแฟนเขาเจ้า
เลยจ๋ำเป๋นต้องเอาไปเนิชเซอรี่
เอาไปตี้เก่าน้องเต้นท์นะเจ้า

อันที่จริง สถานที่บะค่อยโอเต้าใด
เพราะมันมีตี้ดีหลายตี้ แต่เจ้าของเปิ้นอาสา
เลี้ยงหื้อเอง เปิ้นฮับเลี้ยงทีละคน
ส่วนละอ่อนใหญ่ มีพี่เลี้ยงหลายคนเจ้า
ละอ่อนมีสี่สิบกว่าคน แต่น้องแต๊งค์เป็นเคสพิเศษ
เพราะยังเดินบะได้ เจ้าของเปิ้นฮับเลี้ยงหื้อเองเลย
ปี้เลยโอเค ไว้ใจ๋คนเลี้ยงมากกว่าเลือกสถานที่

อิดเนอะ ตึงงาน ตึงฮ้าน ตึงลูก
ซะวางบะได้ซักอย่าง แต่งานนะ อาจสะได้ละ
รอเวลา แต่ฮ้านนี่ หม้อข้าวหม้อแกงครอบครัวเลย
จะยะจะใด หื้อมันบาลานซ์กับลูกน๊อ

อ่านบทความวันนี้ ปวดใจแต้เจ้า

 

โดย: JinnyTent 21 กุมภาพันธ์ 2555 21:57:19 น.  

 



ปล.ตกลงศิษย์พี่ตอบคำถามหมิงน้อยว่ากระไรค่ะ หุๆๆ
(อาจารย์ที่มหาลัยแนะนำพวกเราว่าต้องสอนลูกด้วยความจริงไม่ใช่การโกหกหรือหลอกให้กลัวเพื่อไม่ให้ทำ...เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการสอนลูกค่ะ )...และเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่คนไทยเราพบเจอในการสอนลูก เช่น การบอกว่า ผีจะมากินตับถ้าเป็นเด็กไม่ดี เป็นต้น หุๆๆ

 

โดย: minporee 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:04:03 น.  

 

ท่อน 3 และ 4 สองประโยคที่คล้าย ๆ กันแต่ไม่เหมือนซะทีเดียว แต่ทำไปพร้อม ๆ กันได้

"เด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุดตอนที่รู้สึกสนุก"

"อย่ายัดเยียด อย่าบังคับ ให้ลูกรักการอ่าน เพียงแต่สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการอ่าน" ข้อความนี้ยาวพี่ตัดเอามาเท่านี้ละกันนะ

พี่ถือว่าท่อนนี้เป็นท่อนฮุค เป็นสิ่งที่เราน่าจะทำได้ง่าย ไม่ยากเย็นอันใด

ขอเสริมท่อนสุดท้าย ที่บอกว่า "ความรู้ทั้งหลายทั้งปวงนั้นหาได้จากหนังสือ" สำหรับพี่ หนังสือมันเยอะ อ่านไม่หวาดไม่ไหว พี่ก็เลยหาจากอากู๋เป็นส่วนใหญ่ 555 (google งัยจ้ะ) และบางทีพี่ก็หาความรู้จากการคุยกะน้องก๋า และเพื่อนๆอีกด้วย ง่าย สะดวก รวดเร็วทันใจ สำหรับคนใจร้อนเนอะ ^^

ไม่ได้คุยกันนาน วันนี้ยาวเกินไปแล้วเนอะ ไปนอนเก็บแรงไว้ใช้แรงงานพรุ่งนี้ต่อดีกว่า ฝันดีจ้า

 

โดย: oa (rosebay ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:05:59 น.  

 

แหะ....โหวตก่อนค่ะ
เมื่อวานนางซินหลับมาไม่ทันตะพาบพี่ก๋า
เปลี่ยนหน้าซะระได้โหวต..ความน่ารักเย้ยยยยยยย..

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

.
.
สอนลูกเธอยังไงดี สอนแบบซึมเข้าทางรู้สึก
เพราะวัยเด็กผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก
ซึบซับๆ ในการอ่านนิดหน่อยนะค่ะพี่ก๋า...ไว้ถ้ามี
เด็กน้อยเป็นของตัวเองแระจะมาอ่านอย่างตั้งใจเรยค่ะ
.
.
พี่ก่า+น้องหมิงหมิง+ครอบครัวที่น่ารักฝันดีนะค่ะ

 

โดย: mastana 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:19:40 น.  

 

แวะมาอ่านงานตะพาบครับคุณก๋า....ผม
ไม่ได้เขียนด้วยหลายเรื่องแล้วครับ

 

โดย: panwat 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:20:26 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋า

นุ้ยว่าให้เด็กได้ทำอะไรตามวัยของเขานั้นดีที่สุดแล้วค่ะ
สังเกตดูว่าทุกวันนี้เด็กๆ ก็มีความเครียดเหมือนกัน
ทั้งที่ควรจะเป็นวัยที่ได้สนุกสนานแบบเด็กๆ

ป่านนี้หมิงหมิงคงหลับแล้ว ขอให้ฝันดีกันทั้งครอบครัวนะคะ

 

โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:22:59 น.  

 

ชอบชื่อโรงเรียนของน้องหมิงหมิงอ่ะคะ น่ารักดี




เขาคิชฌกูฏของแท้ต้นตำหรับที่อินเดียก็อยากไปเหมือนกันคะ
ที่นั่นคงไม่มีกำหนดช่วงเวลาที่เปิดให้ประชาชนขึ้นไปนมัสการใช่มั้ยคะพี่ก๋า

 

โดย: strawberry banana&cream 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:38:18 น.  

 

นับเป็นประเด็นที่น่าคิดน่าสนใจมากครับ ถ้าเรารู้สึกสนุกและอยากจะทำเราจะไม่รู้สึกเบื่อเลยครับ แม้มันจะลำบากหรือเหนื่อยอย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการเรียนการอ่านหนังสือ

ผมกล้าพูดได้เลยว่าเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน เพราะหนังสือเรียนมันไม่น่าอ่านมันไม่สนุก ถ้าหนังสือเรียนเขียนเนื้อหาให้น่าสนใจมากกว่าที่จะดีแต่ยัดวิชาการ ผมคงจะอยากอ่านหนังสือเรียนมากกว่านี้ (เยอะ)

พูดถึงเรียนในสิ่งที่สนใจ ผมกล้าพูดได้เลยว่าผมเรียนภาษาจีนไม่เก่งครับ ในห้องเมื่อเทียบกับเพื่อนในห้องความรู้ผมจัดอยู่ว่าเป็นระดับกลางๆ ไปในทางสูงหน่อยๆ เท่านั้น (ไม่ใช่ระดับท็อป) แต่ถามว่าอะไรทำให้ผมยังพยายามและไม่ยอมแพ้ในการเรียน เพราะผมรู้สึกสนุกกับมัน แม้มันจะยาก (มาก) แต่ผมไม่รู้สึกเบื่อหน่ายมันเลย ที่สำคัญทุกครั้งที่ไปเรียน ผมไม่เคยคิดถึงคำว่าไปเรียน คิดแต่คำว่าไปเล่น ไปแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความคิดของเรากับเพื่อน

เรื่องการศึกษาต้องถกกันยาว ครูจัดเป็นกุญแจสำคัญอีกชิ้น ถ้าครูไม่สามารถดึงเด็กได้ก็จบ คำถามที่น่าสนใจก็คือว่า "ทำไมครูบ้างคนเด็กอยากเรียนมาก ถึงขนาดนั่งเรียนในห้องที่เป็นโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายภาพมาก ก็ยังไปเรียน แถมราคาแพงซะด้วย" น่าสนใจนะครับ

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:44:36 น.  

 

คิดถึงน้องหมิงนะครับ

 

โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic 21 กุมภาพันธ์ 2555 22:45:45 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า มาดาม และน้องหมิงหมิง เกือบไม่ได้มาซะแล้ว อ่านแล้วชื่นชมความคิดค่ะ ที่บ้านก็สนับสนุนให้ลูกๆรักการอ่านค่ะ
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: หญิงแก่น 21 กุมภาพันธ์ 2555 23:02:24 น.  

 

เด็ก ๆคงมีความสุข ที่จะสนุกกับการเรียน




ขอฝากดอกไม้แทนใจ อาจช้าไปหน่อย ขอโทษด้วยจ๊ะ

ก็เป็นคนโสดที่ไม่ค่อยว่างเลย....อิอิ


*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*




เดือนแห่งความรัก คนโสดก็ยังโสดต่อไป เพราะครูภาษาไทย สอนแต่

สระอิ,สระอา, สระอุ, สระอู แต่ไม่ยอมสอนให้เรา .. "สละโสด"


..HappY BrightDaY..

 

โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* 21 กุมภาพันธ์ 2555 23:11:05 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า มาแปะหัวใจให้พองโตก่อนที่จะไปอ่านแง่คิดดีๆ ในการเลี้ยงดูลูก ....พี่ว่าการเลี้ยงเด็กในสมัยนี้พ่อแม่ต้องต่อสู้กับสิ่งแวดล้อม และสิ่งยั่วยุทางความคิด และอารมณ์ที่หลากหลายจริงๆ ค่ะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกท่านในการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีนะค่ะ



ตั้งแต่สมัยพี่เป็นเด็กเล็กๆ พ่อแม่ทำนาและทำมาหากินเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน ท่านไม่เคยตั้งความหวังอะไรให้กับลูกๆ เลยค่ะ ปล่อยให้ลูกๆ เรียนตามที่โรงเรียนสอน ...พี่ว่าพี่เป็นตัวเป็นตนมาได้ในทุกวันนี้ก็เพราะคุณครูทั้งหลายที่สั่งสอนและเอาใจใส่ด้วยดีตลอดมา และเพราะตัวเราเองด้วยที่เป็นเด็กที่อยากพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นๆ ...แต่ว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วเนาะ แต่ยังงัยก็ตามพี่เชื่อว่าการเรียนการสอนที่คุณครูตั้งใจทำ และให้ความใส่ใจต่อเด็ก และความใส่ใจของพ่อแม่จะทำให้เด็กมีความก้าวหน้าในการพัฒนาตนเองได้ค่ะ

 

โดย: Maew-Tua-Lek 21 กุมภาพันธ์ 2555 23:33:02 น.  

 

หลับฝันดีนะคะพี่กำ



นัยใจเริงจะแย้ม........ใจชื่นเกินจะแต้ม
ฉ่ำห้วงดวงใจ

โลมไล้ไปแผ่วพลิ้ว.....เห่กล่อมมาเป็นริ้ว
คึกครื้นในทรวง

กลิ่นรำพันลับล้ำ.........กระแสแห่งเหงาช้ำ
ล่วงคล้อยไปไหน

หอมเอยมาแต่งต้อง.....จักวาดตามคำร้อง
ชัดแจ้งเห็นงาม

คราฝันสถิตกล่อมเร้น...จิตเสกมิเคยเว้น
อยากให้ภิรมย์

หลับเถิดในค่ำนี้...........หลับสู่ตามแหล่งชี้
ด่ำคล้อยวิมาน

 

โดย: ญามี่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 23:39:10 น.  

 

ปอ ลิง กลับมาอีกที ขอถามหน่อยนะคะ

ว่าเวลาเราแปะหัวใจให้ใครไป ..เจ้าตัวคนที่ได้รับหัวใจจะรู้ไม๊คะว่าหัวจายนี้ใครให้มา?? (ถ้ารู้เช็คจากตรงไหนเ่อ่ย???--งง ไม่ได้เข้าบล็อคมานาน..แต่แปะหัวใจหนุกมากค่ะ เพิ่งเห็นเมื่อวาน วันนี้กลับมาเล่นอีก)

 

โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic 22 กุมภาพันธ์ 2555 0:07:01 น.  

 

หมิงหมิงเริ่มแก่แดดใหญ่ละ ถามอะไรแบบนั้นน่ะลูก

ปี้ก๋าก่อทำเป็นบ่าฮู้จะตอบจะได เลี้ยงฮู้เรื่องอื่นไปเลยกำเดวมันก่อลืมละ ฮ่า ๆๆ

 

โดย: prunelle la belle femme 22 กุมภาพันธ์ 2555 0:33:51 น.  

 

เห็นยิ้มใส ใส ของหมิง หมิง แล้วนึกถึงธรรมชาติ

ธรรมมะคือธรรมดา จริง จริง กลัวตกหลุมรักอ่าาา

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก 22 กุมภาพันธ์ 2555 0:52:04 น.  

 

ตอนนี้ขอลูกก่อนครับ ก่อนนั้นขอหาแม่มันก่อน 55+emoemo

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 22 กุมภาพันธ์ 2555 0:59:12 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า มาดาม และ หมิง หมิง

ได้มาอ่านข้อคิดเตือนใจในการเลี้ยงลูกแล้ว

คิดถึงลูกเลยค่ะ
ยิ่งเวลายุ่ง ๆ ไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมกับเขาจริง ๆ เลยค่ะ

ต้องจัดสรรเวลาใหม่แล้วล่ะ

 

โดย: Gunpung 22 กุมภาพันธ์ 2555 5:02:34 น.  

 

อูยว์ บล็อกนี้น้องก๋าเขียนดีแฮะ ถูกใจ
น้องหมิงหมิงโชคดีจังที่มีพ่อแบบน้องก๋านะ
พี่ก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันนะ โลกนี้ไม่มีหนังสือคงเซ็ง
แต่หนังสืออะไรก็ต้องเลือกดีๆ เหมือนกัน หนังสือไม่ดีก็แยะ

 

โดย: Dublina 22 กุมภาพันธ์ 2555 5:31:58 น.  

 

วัยเด็กผ่านไปเร็วมาก เดี๋ยวเด๊่ยวลูกเราก็จะโตแล้ว...

 

โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) 22 กุมภาพันธ์ 2555 13:46:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]