<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
6 มิถุนายน 2554

:: โรงเรียนของหมิงหมิง ::




 

:: โรงเรียนของหมิงหมิง ::


















ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางคำตำหนิติเตียน
เขาจะกลายเป็นคนที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความรุนแรง
เขาก็จะกลายเป็นคนที่ก้าวร้าว

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความเย้ยหยัน
เขาก็จะกลายเป็นคนขี้อาย

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความรู้สึกที่ทำให้ต้องละอาย
เขาก็จะกลายเป็นคนที่รู้สึกผิดอยู่เสมอ

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความยากลำบาก
เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความอดทน

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางการให้กำลังใจ
เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความชื่นชม
เขาก็จะกลายเป็นคนที่เห็นคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความเสมอภาค
เขาก็จะกลายเป็นคนที่รักความยุติธรรม

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความมั่นคงปลอดภัยของชีวิต
เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความศรัทธา
ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเองและผู้อื่น

ถ้าเด็กเจริญเติบโตขึ้นอย่างเป็นอิสระ
เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง

ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางการยอมรับและความเป็นมิตร
เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความรักในหัวใจให้แก่ทุกๆคน





: เจย์ มาร์


หนังสือ : ความรักสุดขอบฟ้า
เขียนและเรียบเรียง : เกียรติวรรณ อมาตยกุล






















หมิงหมิงเริ่มไปเรียนที่โรงเรียนต้นกล้าตั้งแต่ต้นเดือนเมษา
คอร์สแรกเป็นคอร์สซัมเมอร์ให้เรียนเกี่ยวกับยานพาหนะ
คอร์สสองชื่อ are you ready เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอมจริง

ทั้งสองคอร์สใช้เวลาคอร์สละ 10 วัน
สองคอร์ส 20 วัน
หมิงหมิงร้องไห้ไปซะ 19 วัน 555
อีกวันที่ไม่ร้องนั่นคือป่วยอยู่บ้าน
























ลูกรู้ไหมว่าการศึกษาคืออะไร ?
ทำไมพ่อถึงเลือกโรงเรียนต้นกล้าให้ลูก ?


ครั้งแรกที่ไปดูโรงเรียน
พ่อชอบสนามหญ้าของโรงเรียน
พ่อชอบบรรยากาศของโรงเรียน

พ่อคิดว่า “บรรยากาศในการเรียนรู้”
สำคัญกว่า “การเรียนรู้” เสียอีก



“การศึกษา” ในความหมายของพ่อ
จึงไม่ต่างอะไรกับการที่คนเราตกหลุมรักใครสักคน


ไม่มีใครหรอกที่เจอหน้ากันแล้วก็บอกว่า “ฉันรักเธอ” ในทันทีที่พบกัน
การศึกษาก็เช่นกัน
ไม่มีโรงเรียนไหนเลยที่มาถึงห้องเรียน
แล้วผู้สอนกับผู้เรียนก็เริ่มต้นเรียนกันได้


ต้องมีระยะเวลาในการปรับตัว
เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างครูกับนักเรียน
ต้องมีเวลาให้เด็กได้ปรับตัวกับโรงเรียนและสิ่งแวดล้อม


พ่อคิดว่ามันมีกระบวนการเรียนรู้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา
สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อม


ความพร้อมทั้งด้านบรรยากาศ สถานที่
ครู ผู้ปกครองและนักเรียน
ทั้งหมดต้องทำหน้าที่และทำงานของตนเองไปพร้อมๆกัน


เมื่อทุกสิ่งพร้อม...ผู้เรียนพร้อม
เด็กจะเรียนรู้ด้วยความสุข
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พ่อปรารถนาจะให้เกิดขึ้นกับหมิงหมิง
























ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสองภาษา สามภาษา
โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียน English Program
หรือจะเป็นโรงเรียนรัฐ โรงเรียนวัด
พ่อคิดว่าทุกแห่งต้องใช้แนวคิดนี้ในการสอน
นั่นคือ ให้ความรู้เมื่อเด็กมีความรักที่จะเรียนรู้



การศึกษาจึงไม่ใช่การยัดเยียดชุดความคิด ความเชื่อให้เด็ก
โดยไม่ดูความพร้อมในการเรียนรู้

เด็กเก่งในความหมายของพ่อ
จึงไม่ใช่เด็กที่ต้องเร่งในการอ่านเขียน
ไม่ใช่เด็กที่รีบเร่งในการหัดคัด หัดอ่านเขียน ก.ไก่ ข.ไข่
หรือท่องเอบีซีดี นับตัวเลขได้เร็วๆ























พ่ออยากเห็นลูกมีความสุข
เมื่อลูกมีความสุข ลูกจะอยากเรียนรู้
เมื่อลูกอยากเรียนรู้ นั่นคือลูกจะเรียนรู้อย่างมีความสุข



“ความสุขในการเรียนรู้” เป็นสิ่งสำคัญมาก
มีคนนับล้านที่เรียนด้วยความไม่รู้
ไม่รู้ว่าตัวเองเรียนรู้ไปทำไม
สุดท้ายได้แต่อ่าน ท่องจำ สอบแล้วก็ลืม
โดยความรู้เหล่านั้นกลายเป็นความรู้ที่ตายซาก
และนำไปต่อยอดพัฒนาชีวิตและความคิดของตนเองไม่ได้เลย


พ่ออยากจะบอกว่าโรงเรียนต้นกล้าเป็นโรงเรียนในฝันของพ่อด้วยซ้ำ
สมัยพ่อไม่มีโรงเรียนแบบนี้ ไม่มีครูใจดีแบบนี้
ไม่มีแนวคิดแบบนี้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน























หมิงหมิงร้องอยู่ 19 วันเต็มๆ



10 วันแรกของคอร์สแรกครูขอให้ไปรับตอน 11 โมงหรือเที่ยงวัน
เพื่อจะได้ให้ลูกค่อยๆปรับตัว เพราะช่วงนี้ลูกร้องเยอะมาก
และไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดใดเลยในห้อง



10 วันต่อมาร้องน้อยลงเรื่อยๆ
เข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ


สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ หมิงหมิงเริ่มทานข้าวได้มากขึ้น
ทานนมได้มากขึ้น และพูดคุยกับครูในเรื่องที่หมิงหมิงสนใจ

(และขอชมเชยว่าคุณครูพัดชาของลูกใส่ใจและน่ารักมาก
คุณครูถามพ่อกับแม่ว่าลูกสนใจอะไร ชอบอะไรเป็นพิเศษ
เพื่อจะได้มีข้อมูลเอาไว้คุยกับหมิงหมิง)


ลูกร้องไห้...
แต่พ่อไม่ได้สงสารเลย ไม่ได้ชะโงกดูด้วยความห่วง
พ่อไว้ใจครู พ่อไว้ใจโรงเรียน
เชื่อมั่นว่าครูที่นี่น่ารัก ใจดีและเข้าใจดีว่า
นี่เป็นช่วงเวลาในการปรับตัว
นี่เป็นช่วงเวลาเหมือนที่หนุ่มสาวกำลังลอบมองตากันด้วยความสนใจ
นี่คือช่วงเวลาที่ลูกกำลังเดินเข้าไปเพื่อพูดคุยกับคนที่ลูกสนใจ
นี่คือการเริ่มต้นความผูกพันทั้งกับครู บรรยากาศแวดล้อม
และเพื่อนร่วมชั้น
เป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่จะปรับตัว ทำความคุ้นเคยกับผู้คนและสิ่งต่างๆรอบตัว
ก่อนจะถึงช่วงเวลาแห่งการบอกรัก....





















หมิงหมิงเปิดเทอมวันที่ 18 พฤษภาคม 2554
นี่คือวันแรกของการเป็นนักเรียนเต็มตัวในชั้น K-1/1
คุณครูพัดชา ครูประจำชั้นของลูกคงหนักใจไม่น้อย
ที่วันแรกหมิงหมิงก็ร้องไห้ไปครึ่งวัน

















แต่พอวันรุ่งขึ้นและวันต่อๆมา
พ่อดีใจที่คุณครูเล่าให้ฟังว่าหมิงหมิงมีความสุขมากขึ้น
เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในชั้นเรียนด้วยสนใจและความสนุก

เวลาพ่อไปรับลูกกับแม่ตอนบ่ายสาม
ลูกยิ้มมีความสุขและวิ่งเล่นต่อในสนามเด็กเล่นของโรงเรียน
อย่างมีความสุขโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย.....

ดูเหมือนหมิงหมิงจะตกหลุมรักโรงเรียนแล้ว




 




Create Date : 06 มิถุนายน 2554
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2563 7:43:33 น. 127 comments
Counter : 6311 Pageviews.  

 
อรุณสวัสดิ์เจ้า อ้ายก๋า น้องหมิงหมิง มาดาม..
วันนี้อ่านข้อความของอ้ายก๋า ที่เขียนถึงโฮงเฮียน
และเขียนถึงน้องหมิงหมิง..
เขียนได้ดีขนาดเลยเจ้า..
..
ชอบประโยคนี้จัง..

ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสองภาษา สามภาษา
โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียน English Program
หรือจะเป็นโรงเรียนรัฐ โรงเรียนวัด
พ่อคิดว่าทุกแห่งต้องใช้แนวคิดนี้ในการสอน
นั่นคือ ให้ความรู้เมื่อเด็กมีความรักที่จะเรียนรู้

...
วันนี้ขอกดโหวต หื้อแฮงๆ เลยเจ้า..
emo


โดย: Mein Schatz วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:5:29:57 น.  

 


โดย: KeRiDa วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:5:45:48 น.  

 
หวัดดียามเช้าค่ะน้องก๋า
หลานหมิงหมิงเก่งมาก ที่ปรับตัวได้ อีกสักพักก็จะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
เก่งมากๆเลย ดีมากๆที่ทานข้าวได้มากขึ้นด้วย สุดยอดเลย แต่อย่าเป็นแบบพี่ไออุ่นนะก๊าบบบบ... พี่ไออุ่นเป็นเด็กรุ่นซ่อนหม้อข้าวค่ะ 55555 เค้าจะตื่นเต้นว่า ที่ รร มีอะไรทานน๊าา...วันนี้ ขอยกมือเติมแล้วเติมอีก เหอๆ จนบางทีต้องบอกว่า พอแล้วค่่ลูก บางวันทำของโปรด ต้องซ่อนหม้อข้าวกันบ้างก็มีค่ะ 55555
ขอให้น้องหมิงหมิงเป็นเด็กดี เรียนเก่งๆ ป้าตามคอยรอฟังเรื่องราวน้องหมิงหมิงอยู่นะก๊าบบ


โดย: Iaun_Tor วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:04:41 น.  

 



ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความมั่นคงปลอดภัยของชีวิต
เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความศรัทธา
ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเองและผู้อื่น

.
.
.

อะไรก็ตาม ที่เริ่มต้นด้วยความศรัทธา ..
การเดินทางจะเต็มไปด้วยความมั่นคงในจิตนะคะ


วันนี้หมิงหมิงรองไห้
วันหน้าหมิงหมิงจะเป็นนักร้อง
พ่อก๋าไม่รู้อะไรซะแร๊วววว วว ว
หมิงหมิงแค่จะลองซ้อมเสียง






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:12:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋ามาดาม และ หมิง หมิง

โรงเรียนดูอินเตอร์ดีจังเลยค่ะ
น่าสนุกนะค่ะ

ไว้แวะมาอ่านใหม่ รีบจัดการเด็ก ๆ ไปโรงเรียนก่อนค่ะ


โดย: Gunpung วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:12:55 น.  

 

มอร์นิ่งจ๊ะน้องก๋า
อ่านและชมภาพน้องหมิงที่โรงเรียนต้นกล้าแล้ว
พี่อุ้มนึกถึงเพลงของพี่เต๋อ เรวัตทันที
ที่เนื้อเพลงท่อนนี้
"เด็กจะดีเพียงใดนั้น รู้ๆ กันอยู่ที่ใคร"
น้องหมิงน่ารักและสดใสมากๆ จ้า



โดย: อุ้มสี วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:15:22 น.  

 
สวัสดีวันจันทร์ค่ะคุณก๋า

น้องหมิงหมิงตกหลุมรักโรงเรียน
แม้ช่วงแรกคิ้วจะผูกโบว์ซะทุกวัน
รอดูรอยยิ้มในวันที่ความรักโรงเรียนเบ่งบานนะคะ
แล้วเรา..เราต้องตกหลุมรักที่ทำงานแล้วละซิ

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวแนวคิดเกี่ยวกับการศึกษา
และวันเวลา 19 วันของน้องนะคะ


โดย: A IP: 101.109.150.55 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:15:42 น.  

 
ครูหมิง หมิงหล่อจ๊ะemo


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:20:18 น.  

 
อยู่ในช่วงปรับตัว
และต่อไปหมิงหมิงจะมีแต่ความสุข
คุณครูพัดชาและเพื่อนๆ จะทำให้การเรียนของหมิงหมิง
มีความสุข

และในที่สุด หมิงหมิงจะไม่กลัวการไปโรงเรียน
และหมิงหมิงจะไม่ร้องไห้

เนอะๆๆ หมิงหมิงคนเก่ง


โดย: fonrin วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:31:09 น.  

 

ดีใจด้วยค่ะ น้องหมิง หมิง

รักโรงเรียนและคุณครูทีใจดีแล้วค่ะ


โดย: newyorknurse (newyorknurse ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:33:45 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณกะว่าก๋า น้องหมิงหมิงน่ารักตอนนี้กำลังปรับตัวและเริ่มที่จะเรียนรู้และมีเพื่อนแล้วอีกหน่อยก็คงจะติดโรงเรียนนะคะ ดูภาพร้องไห้แล้วน่าสงสารจัง อิอิ
สุขสดชื่นยามเช้าค่ะ ลำปางเพิ่งตกเมื่อคืนนี้ค่ะ เช้านี้ยังไม่หยุดเลย อากาศเย็นสบายค่ะ

รูปสวย น่ารัก glitter emoticon //www.yenta4.com


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:34:26 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ..

เห็นน้องก๋า เลี้ยงดู ดูแลเอาใจใส่หมิงหมิงแล้ว.. ให้คิดถึงตัวเองว่า ถ้ามีลูก จะทำได้อย่างนี้มั้ยน๊า...

เหอ ๆ .. สมควร ไม่มีต่อไป... เลี้ยงใคร ใครก็เสีย.. ตามใจเกินเหตุ.. ใจดีเกินไป... ขี้ใจอ่อน เห็นหน้าแหย ๆ .. ทำหน้าอ้อน ๆ ก็ใจอ่อนยวบยาบ ยอมตามใจทุกที..

เช้านี้ฝนตกตั้งแต่เช้า..เมื่อคืนนอนสบายไปเลย.. สุขสันต์วันจันทร์ค่ะ...







โดย: poongie วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:53:04 น.  

 
ภาพแรกนี่ คิดหนักเลยนะ
ร้องอยู่ตั้ง 19 วัน อิอิ

ใช่ค่ะ บรรยากาศการเรียนรู้สำคัญกว่าการเรียนรู้ ชอบจังคำนี้


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:55:49 น.  

 
แวะมาสวัสดีพี่ก๋าตอนเช้า

โรงเรียนหมิง หมิง น่าเรียนนะเนี่ย
ไม่รู้ยังร้องไห้อยู่หรือเปล่าครับ

****

เอารูปภูมาฝากด้วยค่ะ


โดย: ostojska วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:6:58:52 น.  

 
ได้ทันดูสัมภาษณ์ด้วยค่ะ

หมิง หมิง หน้าเหมือนคุณพ่อ เด๊ะๆ เลย


โดย: พรายชมพู วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:01:15 น.  

 
เปิ้นห้า
แต่หมิงหมิงเหลือสี่

น้าเปิ้นจะเป็นสาวขึ้น
หมิงหมิงก็จะเป็นบ่าวขึ้น เอิ๊กๆๆๆ



โดย: fonrin วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:06:53 น.  

 
หมิงหมิง เก่งเนาะ ร้องไห้ แค่ 19 วัน
พี่ขวัญนะ แง้ๆๆ ทุ้กวัน หงะ
จำได้ว่า แอบหนีรถโรงเรียนด้วย แต่...
เด็กดื้อ ก้อยิ่มแพ้ไม้เรียว อิอิ
คุณครูกับแม่จับได้ อิอิ
ตอนนี้เลย มาทำงานแต่เช้าทุกวัน
สม
อิอิ


โดย: kwan_3023 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:13:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ...
แวะมาดูหลานไปโรงเรียน
โรงเรียนหมิงหมิงน่าเรียนมาก....



โดย: Calla Lily วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:17:10 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ A



เรื่องราวของหมิงหมิงกับโรงเรียน
คงจะมีให้อ่านเป็นระยะๆครับ

ช่วงนี้ผมกลับมาสนใจแนวทางการสอนการเรียน
การศึกษามากขึ้นครับ หลังจากทิ้งไปหลายปีตั้งแต่เรียนจบมาครับ 555















โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:19:14 น.  

 


สวัสดีตอนเช้าค่ะน้องก๋า

ดีใจจังได้ชมภาพที่อยากจะเห็น
ได้ดูสีหน้าและพฤติกรรมที่กระตือรือล้นของหลาน
กับกิจกรรมที่ทาง รร .จัดขึ้น
พี่ Happy ไปด้วยกับบรรยากาศโรงเรียนนะคะ



โดย: jamaica วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:19:31 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับคุณก๋า....น้องหมิง หมิง ฮือๆ


โดย: panwat วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:32:04 น.  

 
สวัสดีเช้าวันจันทร์ครับพี่ก๋า



โดย: raknakubkondee วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:37:21 น.  

 
"ลูกร้องไห้...
แต่พ่อไม่ได้สงสารเลย ไม่ได้ชะโงกดูด้วยความห่วง
พ่อไว้ใจครู พ่อไว้ใจโรงเรียน"

เป็นอะไรที่เยี่ยมมากค่ะคุณก๋า เชื่อว่าหมิง หมิง ต้องมีความสุขที่นี่แน่นอนค่ะ

ใช่มั้ยครับหมิง หมิง น้าเอาใจช่วยนะครับ

อรุณสวัสดิ์ครอบครัวน่ารักครอบครัวนี้ด้วยค่ะ


โดย: บ้านสีขาว วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:38:24 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า..

โหวตครับโหวต..
หมิงๆเริ่มสนุกับการไปโรงเรียนแล้ว..
ติดตามหมิงๆ @ School ต่อไป ชอบๆครับ
พี่เขียนเยอะๆนะ..เอาทุกอาทิตย์เลย..^^

วันนี้เอด้ายังไม่ได้ไปโรงเรียนครับ..พรุ่งนี้น่าจะไปครับ อิอิ
มีความสุขกับการทำงานสัปดาห์ใหม่นะครับ



โดย: Little Knight วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:43:19 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า
ไม่ได้มาทักทายเสียนานมาก
บล็อคก็ไม่ได้อัพเลย แวะมาอ่านอะไรดีๆที่บล็อคคุณก๋า
สะดุดแนวความคิดในเรื่องการศึกษาลูก
คือแนวคิดเดียวกันค่ะ
ลูกพี่เรียนอยู่อมาตยกุล ร.ร.ของ ดร.เกียรติวรรณ อมาตยกุล
คนเขียนหนังสือที่คุณก๋า อ้างอิงไว้ข้างบนน่ะค่ะ
เป็นโรงเรียนแนวนีโอฮิวแมนนิสต์
ที่มุ่งเน้นให้เด็กเก่ง ดี มีความสุข โดยไม่เร่งเรียนเพียงอย่างเดียว
เด็กทุกคนที่นี่อยากมาร.ร.และมาร.ร.อย่างมีความสุข
ถ้าน้องหมิงอยู่กรุงเทพฯพี่คงชวนมาเรียนที่นี่ด้วยกันแล้ว


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:46:12 น.  

 
ชอบบทความเปิดบล็อกจาก 'ความรักสุดขอบฟ้า' ค่ะ เป็นอะไรที่ช่วยย้อนให้ดูตัวเองอยู่เหมือนกัน และคิดว่าเป็นบทความทึี่สะท้อนความจริงอยู่เชียวนะคะ

พี่เห็นหลานๆพี่ แต่ละคนต้องเรียนกันหนักมาก เรียนทุกวันไม่เว้นวันเสาร์อาทิตย์ ฟังดูแล้วเหนื่อยแทนเด็ก สมองเล็กๆคงจะล้ากันเต็มที พอพี่แย้งไป ญาติพี่น้องก็บ่นว่า ถ้าไม่ทำยังงั้นมันก็แข่งขันในสังคมไทยไม่ได้ เพราะระบบการศึกษามันบังคับให้เด็กต้องเรียนพิเศษตลอดเวลา .. เฮ้อ .. ยิ่งฟังยิ่งเศร้าค่ะ การที่เด็กน่าจะเริ่มพัฒนาทางกายและใจด้วย ก็เลยมีแต่ สมองที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ที่เค้ายัดกันเข้าไป แต่ไม่รู้หรอกว่าเด็กรับได้แค่ไหน .. เพื่ออนาคตที่จะเทียมได้กะลูกคนอื่นๆ โรงเรียนวัดเนี่ยถูกตัดออกจากระบบไปเลย 'โอ๊ย ขืนเข้าโรงเรียนวัดข้างคลองอ่ะเหรอ .. คงก้าวไปได้ไม่ไกลหรอก จะไปสู้อะไรเค้าได้' .. 'เรามันยังไม่รวยพอที่จะมีเก็บไว้ให้ลูกกินจนตาย ไม่งั้นก็ไม่ต้องกังวล ที่ทำๆอยู่เนี่ยก็เพื่ออนาคตลูกทั้งนั้นแหล่ะ' นั่นคือคำบ่นที่ฟังอยู่บ่อยๆแต่ก็ยังไม่ชิน .. ระบบที่ต้องการการเปลื่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่และเร่งด่วน แต่ว่า .. ใครเล่าจะทำได้


โดย: BeachBum IP: 122.104.121.77 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:48:53 น.  

 
เห็นบล๊อกวันนี้แล้วนึกถึงตัวเองตอนไปรร.ครั้งแรก
รร.อนุบาลที่ชาลีเรียน ชื่อ สวนบัว ค่ะ ^^

สวัสดีเช้าวันเริ่มต้นสัปดาห์นะคะ
ให้สดใสๆ ตลอดวันเลยค่ะ


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:7:52:11 น.  

 
หมิง หมิง ไปโรงเรียนแล้ว

อรุณสวัสดิ์นะคะคุณก๋า

จะบอกว่า เจ้าตรัง ตรัง หลานชาย (จริง ๆ ต้องเรียกว่าเหลน 555) ก็เริ่มไปโรงเรียนเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ น่าแปลกที่ ไม่ยักกะร้องไห้แฮะ แถมเวลาแม่เค้าไปรับ ก็ไม่อยากกลับ เค้ามีความสุขกับการไปโรงเรียนทุกวัน (แต่แหม่มไม่มีความสุขเพราะไม่ได้เล่นกับหลานทุกวันก่อนไปทำงานเหมือนเดิม กระซิก ๆ)

เห็นด้วยกับ เจย์ มา นะคะ อยากจะปริ้นข้อความพวกนี้ไปแปะไว้ที่หัวกระไดบ้านของทุกบ้านที่มีลูกหลานไว้ในบ้านจังเลย



โดย: i'm not superman วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:02:36 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณก๋า ยามเช้าครับ
อ่านไปจนจบแล้วก็ยิ้มได้เลยครับ ที่เห็นหมิงหมิง เริ่มชอบ เริ่มสนใจ เริ่มตกหลุมรักการไปโรงเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ
ต้นกล้าเล็กๆ คงได้การบ่มเพาะให้เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นะครับ


โดย: ถปรร วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:03:26 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง
อ่านแล้วซึ้งครับ ความรักของคนที่เป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์อย่างคุณก๋า
เด็กวันนี้ เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า
ยุคสมัยนี้เปลี่ยนไปมากเลยครับ
โรงเรียนเอกชนแต่ละโรงเรียนพัฒนาแข่งขันอะไรมากมาย
เพื่อเด็กโดยเฉพาะ
ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ ซื่งเป็นของรัฐหน้าตาจะเป็นอย่างไร
แต่ถ้าอนุบาลจังหวัดที่ผมอยู่ เด็กอัดแน่นห้องเป็นปลากระป๋องครับ
ความแตกต่างระหว่างโรงเรียนของรัฐ กับ เอกชน คนละขั้วเลยครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:08:54 น.  

 
เห็นด้วยค่ะคุณก๋า ถ้าระบบการศึกษาไทยนำแนวคิดของอาจารย์ไปใช้
ประเทศไทยจะมีเยาวชนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เก่งแต่เรื่องวิชาการแต่เหมือนหุ่นนยนต์
แต่จะมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
รู้จักรักคนอื่นและเผื่อแผ่ความรักให้คนรอบข้าง
สังคมไทยจะน่ารักกว่านี้มหาศาลเลยค่ะ

ร.ร.ของอ.เกียรติวรรณจะเน้นให้คิดบวกค่ะ
มีการนั่งสมาธิทำโยคะก่อนเข้าเรียน
สอนให้รู้จักรักตัวเองและรักผู้อื่นด้วย
ตอนอนุบาลคุณครูเช็คชื่อโดยใช้วิธีเรียกชื่อ
แล้วให้เด็กวิ่งไปหาครูแล้วครูจะกอด ถ่ายทอดความรักโดยการกอด
อื่นๆอีกมากมายที่สอนในการใช้ชีวิตในความเป็นจริง
โดยที่คิดค่าเรียนไม่แพงเลยถ้าเทียบกับร.ร.เอกชนทั่วไป


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:13:17 น.  

 
ชื่อโรงเรียนน่ารักจังค่ะ
แฝงด้วยความหมายดีๆ อีกต่างหาก
เด็กจะก้าวหน้าก็ต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคงจริงๆ นะคะ
ขอให้หมิงหมิงน่ารัก เรียนเก่งๆ ตลอดไปน๊า


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:27:57 น.  

 


bis 1




โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:30:15 น.  

 
สนุกกับการเรียน เด็กก็จะมีความสุขค่ะ

แรกๆ เห็นหมิงหมิงทำหน้าเครียดเชียว

พอหลังๆ เริ่มยิ้มออกแล้ว


โดย: kapeak วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:33:18 น.  

 
รายการธรรมะ ทำไมชอบไปอยู่ในช่วงที่คนส่วนใหญ่นอนหลับกันนะ


สวัสดียามเช้าครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:37:24 น.  

 
เพิ่งจะมีเวลาอ่านบทความนี้ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณก๋านะค่ะ
"พ่ออยากเห็นลูกมีความสุข
เมื่อลูกมีความสุข ลูกจะอยากเรียนรู้
เมื่อลูกอยากเรียนรู้ นั่นคือลูกจะเรียนรู้อย่างมีความสุข"

ถ้าเด็กมีความสุข เด็กก็จะมีความพร้อมในการเรียนรู้
ไม่ต้องไปยัดเยียดให้เขาเลย พ่อแม่บางคนอยากให้ลูกเป็นงั้นเป็นงี้ โดยไม่ใส่ใจความรู้สึกของลูก นั่นเป็นการทำร้ายจิตใจของลูกอย่างแรงเลยค่ะ น่าภูมิใจแทนหลานหมิง หมิงที่มีคุณพ่อ คุณแม่ที่เข้าใจลูก ทำให้หมิง หมิง
เป็นเด็กที่น่ารัก สดใสร่าเริงตามวัยของเธอ


โดย: KeRiDa วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:44:22 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะศิษย์พี่

ดีใจที่หมิงน้อยมีความสุขกับโรงเรียน ครูและเพื่อน ๆ ค่ะ

ปล.อยากให้มีโรงเรียนแบบนี้ในบ้านเราเยอะ ๆ

ไม่รู้เหมือนกันว่ารัฐบาลคิดยังไง

ถ้าจัดการศึกษาแบบนี้ ไม่รู้กลัวอะไร กลัวจะเสียเงินมากขึ้นรึป่าวก็ไม่รู้ หุๆๆ


โดย: minporee วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:51:23 น.  

 
เป็นรร.ที่อยู่ใกล้บ้านสุดแล้วในตอนนั้น
เช้าๆ แม่จะเดินหิ้วกระเป๋า แล้วก็มีลูกๆ ทั้งวิ่ง ทั้งเิดินตาม
สามคนเจี๊ยวจ๊าว ไม่สนใจแม่ที่หิ้วกระเป๋าหนักๆ เลย 555+
วันไหนถ้าสายหน่อย จะได้นั่งรถตุ๊ก ตุ๊ก พร้อมกินข้าวกันบนรถไปด้วย
ส่วนตอนเย็นแม่จะมารอรับเดินกลับบ้านด้วยกันค่ะ
ขากลับนี่จะชอบมากๆ แม่จะซื้อน้ำเก็กฮวยได้กินกันคนละแก้ว
ได้กินลูกชิ้นปิ้งหน้ารร. แล้วแม่ก็ซื้อขาหมูใส่ไข่
กลับไปกินกับข้่าวเป็นมื้อเย็นประจำเลยค่ะ


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:52:22 น.  

 
ชมภาพแล้วต้องอมยิ้มเลยค่ะคุณก๋า
คุณแม่กับน้องหมิงหมิง น่ารักมากมาย


โดย: I_sabai วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:8:54:28 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ พี่ก๋า

สบายดีนะครับบบบ



โดย: Sleeping_prince วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:9:01:03 น.  

 
สวัสดีครับพี่ BeachBum



ผมเริ่มคุยกับมาดามเรื่องการเรียนพิเศษ
จะให้เรียนเท่าที่จำเป็น
และเน้นแค่เรื่องภาษาที่สองครับ

ส่วนตัวผมเองตั้งแต่เด็กจนเรียนจบมหาวิทยาลัย
ผมไม่เคยเรียนพิเศษเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แต่ใช้วินัยในการอ่านหนังสือด้วยตัวเอง
กับการตั้งใจเรียนในห้อง

ปัญหาคือ ครูผู้สอนได้สอนนักเรียนอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง


นี่ยังไม่พูดถึงการเมืองนะครับ
ที่เข้าไปทำให้กระทรวงศึกษาธิการนั้น
เป็นขุมทรัพย์ด้านงบประัมาณ
มกากว่าขุมทรัพย์ทางปัญญา

ในการประชุมผู้ปกครองครั้งแรก
มีประโยคนึงที่ถูกใจผมมาก
นั่นคือ

"ถ้าเราจะพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย
เราต้องยุบกระทรวงศึกษาธิการ"

เพราะที่ผ่านมานักการเมืองใช้กระทรวงศึกษาธิการสร้างปัญหาจริงๆครับ


รูปแบบทางการศึกษา รูปแบบการสอบ การเอนทรานซ์
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่มีความต่อเนื่อง

ระบบการคัดเลือกครูและบุคคลากรทางการศึกษาก็ยังไม่ดี

สถานที่ฝึกหัดครูและผลิตครูก็ยังไม่ไ่ด้มาตราฐาน

แล้วแบบนี้เราจะพัฒนาการศึกษาได้อย่างไรครับ

ทุกวันนี้เราจึงผลิตนักศึกษาออกมา
โดยที่ตัวนักศึกษาเองยังไม่รุ้ด้วยซ้ำ
ว่าเรียนไปทำไม ? เรียนแล้วได้อะไร ?
นอกจากคิดเอาเองว่าเรียนเพื่อให้ได้ปริญญา
เรียนเพื่อสอบ เรียนเพื่อคาดหวังว่าจะได้ทำงานที่สบายๆและได้เงินเดือนเยอะๆ

โลกวันนี้หมุนเร็วแบบเข็มนาที
แต่เรายังเคลื่อนพลกันแบบเข็มนาฬิกา
ระบบกรศึกษาที่ละล้าละลังแบบประเทศเรา
จะทำให้เราต้องถามตัวเองว่า
แล้วเราจะยืนอยู่ตรงไหนครับพี่ ?









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:9:04:52 น.  

 
เห็นด้วยกับคห.คุณก๋า 100%ค่ะ
โดยเฉพาะตรง
"ถ้าเราจะพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย
เราต้องยุบกระทรวงศึกษาธิการ"
เสียดายกดlike ไม่ได้ อิอิ


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:9:49:21 น.  

 
ตกหลุมรักหมิง หมิง

"ต้นกล้าเมล็ดพันธ์ดีต้นน้อยนี้ ต้องโตขึ้นอย่างงดงามแน่นอนจ๊ะ"


โดย: loveupanda วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:9:50:05 น.  

 
น้องหมิงหมิงเข้าโรงเรียนแล้ว
หลายวันก่อนเห็นคุณก๋าแว๊บๆในทีวีนะคะ


โดย: is_ninja วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:02:50 น.  

 
..สวัสดีค่ะคุณก๋า

พิงกี้ยังไม่แต่งงาน มีลูก
อ่านข้อความของคุณก๋าแล้วซาบซึ้งจังเลย
รู้สึกประทับใจในตัวคุณพ่อคุณแม่ ที่มีต่อลูกชาย น่ารักมากคะ

555อ่านแล้วอยากมีลูกบ้าง แต่คงไม่ทันและ
พิงกี้จะจำสิ่งที่ได้อ่านไปวันนี้ และจะนำไปบอกต่อคนอื่นที่เค้ามีลูกให้เค้าลองคิดแบบนี้บ้าง


คุณก๋าเป็นคนใช้ชีวิตแบบเข้าใจชีวิต

ชอบ แล้วก็โหวตไปงานเขียน









โดย: pinkypunch วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:04:49 น.  

 
ชอบชื่อโรงเรียนมากเลย

ชอบที่ครูถามพ่อแม่เรื่องความสนใจของเด็กด้วย ครูทั่วๆไปน่าจะมีลักษณะแบบนี้เนอะ
แต่เสียดายที่โรงเรียนและครูแบบนี้มีน้อยไปหน่อย


ตอนลูกพี่ยังเล็ก พี่ก็เคยคิดว่า เรื่องเรียนพิเศษของลูก จะไม่เน้นวิชาการ
ถ้าจะเรียน อยากให้เป็นภาษาอังกฤษศิลปะหรือดนตรี

แต่เอาเข้าจริง ก็ทานกระแสไม่ไหว ลูกพี่ขอเรียนพิเศษทั้งเปิดเทอมและปิดเทอม เพราะเพื่อนๆเค้าเรียนกัน


โดย: พจมารร้าย วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:11:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ..พี่ก๋า

วันนี้หมิงหมิงร้องไห้หรือเปล่าคะ

ถ้าต่อไปมีเพื่อนเยอะ คงไม่ร้องแล้วมั้ง

หนึ่งอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ ป.1-ป.6 ค่ะ
จำไม่ได้ว่าร้องไห้หรือเปล่า
รู้แต่ว่า ถ้าช่วงที่จะต้องมาอยู่โรงเรียนทีไร
ไม่ค่อยอยากมาเลย


โดย: chenyuye วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:14:11 น.  

 

น่ารักจังค่ะ ได้ทำกิจกรรมร่วมกันด้วย
...
ยิ่งภาพที่หมิงๆ กอด มาดามนี่ น่ารักจังเหมือนเค้ากลัวและไม่อยากห่างจากอ้อมอกที่อบอุ่นนะคะ
...
แต่ชีวิตภายนอกคือการเรียนรู็นะคับ หมิงหมิง
พี่เอากำลังใจช่วย อีกไม่กี่วันก็จะโตขึ้นอีก 1 ปีแล้วนะคับ
...
มีความสุขมากมากนะคะ
พี่ก๋า มาดามและหมิงๆ คุง


โดย: Nissan_n วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:18:52 น.  

 
สวัสดีครับน้องก๋า เพิ่งเห็นภาพน้องหมิงๆนั่งเล่นนะครับ ^^ สงสัยหมดแรง ลูกผมถ้าไม่หมดแรงไม่มีหยุดเลยครับ

ใช่แล้วครับ ชื่อจริงชื่อออนซีเดียม น้องก๋าเก่งมากๆครับ

มีภาพสวยๆมาฝากด้วย มีความสุขมากๆนะครับ ^^





โดย: วนารักษ์ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:40:18 น.  

 
นึกถึงวันแรกที่ไปโรงเรียน ยังจำได้ถึงทุกวันนี้
ตอนเช้าที่แม่ไปส่งร.ร. บอกแม่ว่า "แม่อย่ากลับบ้านนะ"
แม่ก็ยืนมองอยู่ที่หน้าห้อง เวลาผ่านไปนิดหน่อย
ยัยลูกคนนี้เริ่มมีเพื่อน ก็เลยเดินมาบอกแม่ว่า
"แม่กลับบ้านเหอะ หนุอยู่ได้"5555 แก่แดดมาก


โดย: ณ มน วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:49:05 น.  

 
หล่อทุกวันเลยหมิง


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:10:52:18 น.  

 


หม่ำอะไรแล้วยังคะ
ก่อนไปหม่ำ
ไปดูพี่ชายของสาวๆก่อนค่ะ อิอิ






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:04:30 น.  

 
ไม่ได้แวะมาไม่ทัีนไร
หมิงหมิงไปโรงเรียนแล้วอ่า

5555
เดี่ยวก็สนุกกับสังคมใหม่แล้วเนอะ
โตขึ้นเยอะเลยค่ะ

แวะมาเยี่ยมนะคะ


โดย: taley sea far IP: 125.25.54.200 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:06:31 น.  

 
นานๆจะได้เม้นบล๊อคที ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ เจอกันใหม่ หนังสือพิมพ์


โดย: bbandp วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:10:51 น.  

 
สวัสดียามขวายเจ้าน้องกะก๋า ...

หมิงหมิงเข้าโรงเรียนแล้ว ... แอบเห็นมีความสุข แบบมีน้ำต๋าอยู่น่อยๆ น่าจะเป๋นเพราะว่ายังติดบ้าน ติดปะป๊าก๋า กับคุณแม่มาดามอยู่ เป๋นธรรมดาของล่ะอ่อนน่อย ... อ้ายตาตั้มร้องไห้เกือบเดือน 555

เมินๆแวะมาแอ่วหาเน้อเจ้า ...

ขอหื้อมีความสุขทั้งวันจ้า ...


โดย: SonSmile วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:30:55 น.  

 
ใกล้เที่ยงแล้ว หาอะไรทานรึยังค้า

จากนี้ไปหมิง หมิง จะมีความสุขกับการไปโรงเรียน


โดย: แดนนี่ บอย วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:35:11 น.  

 
หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า

โรงเรียนต้นกล้า เป็นโรงเรียนดัง โรงแรียนดี โรงเรียนมีชื่อในเจียงใหม่เลยเจ้า

เพื่อนน้องรินอยู่เจียงใหม่ก็เอาลูกเข้า รร. นั้นเหมือนกัน

มั่นใจไว้ใจครูได้ดีเลยเจ้า

ตอนแรก เด็กก็เป็นอย่างนี้ร้องไห้ เรื่องปกติ

ในการออกสังคมใหม่ สู่โลกกว้าง

คนเป็นพ่อเป้นแม่ก็คอยดูอยู่ห่างๆ

หมิง หมิง จะเดิบโตด้วยความมั่นใจในตัวเองเจ้า อิอิ


น้องรินยังบ่อได้ทำบล้อกใหม่เลย

อ้ายหยีปล่อยภาพ อลังการมาแทรกกันแล้ว 555

ระดับเทพปล่อยบล้อกออกมาแล้ว น้องริน แป๊กทันทีเลย

บ่อมีเวลาทำบล้อกเลยเจ้า อาทิตย์นี้งานเข้าแหมแล้ว

ทั้งๆที่ภาพเหลือหลายขนาด

คงเอาไว้อัพเรื่องอื่นไปเลยดีกว่าเจ้า



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:39:14 น.  

 
ร้องไห้แบบหมิงหมิง...

แถวบ้านพี่เรียก โอดกาเหว่า

ก้อบ้านหมิงหมิงอบอุ่นอบอวลไปด้วยความรัก
เด็กติดบ้านมักจะเป็นแบบนี้ ^^

ตอนพี่อยู่ป.1โรงเรียนจำนงค์วิทยา ดินแดง

พ่อพี่เวลาที่ไม่ได้ไปรถ ( พ่อพี่ทำงานรถไฟเวลาไปขับรถทำขบวน จะเรียกว่า ไปรถ )

ก้อจะมาแอบดูพี่เรียน แล้วตอนเย็นเวลาที่กลับบ้านพ่อก้อจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

หมิงหมิง Falling in Love with School


โดย: ป้าแหม๋วแหม๋วของหมิงหมิง (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:40:36 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋ากะน้องหมิงหมิง วันนี้คุณก๋านำเสนอเรื่องโรงเรียนของหมิงหมิงได้ประทับใจจัง อ่านแล้วเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ที่เอาใจใส่ต่อการเรียนของลูกการสอนของครูและโรงเรียน ที่คนเป็นพ่อแม่จะเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมให้กับลูกกับก้าวแรกที่ให้ลูกได้เรียนรู้นอกเหนือจากพ่อแม่ น่ารักและอบอุ่นจัง ของเล็กครั้งแรกกับลูกชายเข้าอนุบาลก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้เข้าที่ไหน พอขับรถผ่านโรงเรียนก็จะชวนลูกคุยและถามลูกว่าโรงเรียนนี้สวยไหม ห้องเรียนเป็นรูปเรือสมุทรลำใหญ่ไหม หนูอยากไปเรียนที่นี่ไหม และอีกมากมายให้ลูกคุ้นเคยทั้งคนโตคนเล็ก วันแรกที่ลูกไปเรียนซัมเมอร์แม่ไปส่งวันเดียว หลังจากนั้นใช้บริการรถตู้เป็นลุงใจดีมารับขึ้นรถลงรถถึงประตูหน้าบ้าน ลูกทั้งสองคนไม่เคยร้องไห้เลย และชอบไปโรงเรียนทั้งคู่ ทุกวันนี้ก็โชคดีที่ลูกๆชอบโรงเรียน และอยากไปโรงเรียนทุกวันค่ะ
สุดท้ายหมิงหมิงก็จะคุ้นเคยและสนุกกับเพื่อนใหม่ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียน และชั้นเรียนจัดขึ้นที่สำคัญครูประจำชั้นใจดี และรักเด็กแบบครูพัดชา หมิงหมิงต้องเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นร้องไปโรงเรียนทุกวันแน่นอนค่ะคุณก๋า


โดย: หญิงแก่น วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:46:59 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

ค่อยแข็งแรงขึ้นบ้างแล้วครับ แต่นั่งจะหลับอยู่เรื่อยเพราะฤทธิ์ของยาหลายขนานที่อัดเข้าไป

บ่ายๆว่าจะอัพบล็อกใหม่ครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:50:26 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า

ธรรมในใจมันช่องไหนอะคะ แหะๆ เผื่อจะได้ดูน่ะค่ะ ช่วงนี้เราตื่นเช้ามาทำวัตรเช้าอยู่ อาจจะได้ดูน่ะค่ะ


โรงเรียนหมิงหมิงน่าเรียนมาก น่าไปเป็นครูมากๆ ด้วยค่ะ อิจฉาหมิงหมิงมิใช่น้อย

ของเรา เราไม่ร้องไห้ค่ะ แค่น้ำตาซึมๆ แหะๆ


ส่วนบล็อกปีนี้ เราก็ไม่เข้าประกวดเหมือนเดิมหละค่ะคุณก๋า หุๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:56:04 น.  

 
ชื่อ รร.อนุบาลกุ๊กไก่ก็น่ารักดีนะคะ


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:11:59:47 น.  

 
สวัสดีครับ
บรรยากาศโรงเรียนน่าเีรียนครับ
เห็นครูสวยด้วย น่ากลับไปเรียนอนุบาลใหม่


โดย: จิรโรจน์ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:12:43:05 น.  

 


เอาส้มควายมาฝากคุณก๋า 1 ลูกครับ บ่ายโมงนี้ออนแอร์แน่นอน


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:12:52:34 น.  

 
อืม....น่าสนใจเหมือนกันนะคะ ทำไมเด็กไปโรงเรียนต้องร้องไห้ด้วย

หลานๆหนู ร้องไห้ทุกคนเลย

แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วค่ะ

( แบบว่า 3 คน คนแรก ม.1แล้ว คนสองก็ ป.4 คนที่สามนี่ อ.2 ค่ะ)

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดนะคะ


โดย: ดอกแก้ว (tanH2O ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:12:56:51 น.  

 
หันหมิงหมิงน้อยไปโรงเรียนแล้ว
พลอยฮู้สึกตื้นตั๋นไปกับคนเป๋นป้อเป๋นแม่เจ้า
ความตี้หันหมิงหมิงมาตั้งแต่แรกเกิด...

หันหมิงหมิงใหญ่มาขนาดนี้ ฮู้ฮักโรงเรียนได้แล้ว ...

ฮู้สึกอิ่มใจ๋เจ้า

เสียดายวันตี่สี่บ่ได้อยู่ แต่วันเสาร์หน้าจะบ่พลาดเข้า


โดย: แม่ไก่ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:12:57:29 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่ก๋า
ไอเดียดี ๆ ที่กำลังน่าสนใจจริง ๆ ค่ะ
ซองใส่....

แวะมาอ่านค่ะ

ดูแล้วโรงเรียนนี้เขาใส่ใจเด็ก ๆ ๆมากนะค่ะ
ชอบค่ะโรงเรียนสองภาษา เพราะ คิดว่าจำเป็นจริง ๆ ๆ ค่ะ
แต่ค่าเทอมก็คงจะมากกว่าทั่วไปนะค่ะ
แค่คุ้มค่าค่ะ

ใกล้บ้านไม่มีแบบนี้เลย ถ้ามีก็น่าส่งไปเรียนจัง

ดีจัง...ที่หมิง หมิง รักโรงเรียนแล้ว ^^


โดย: Gunpung วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:13:03:19 น.  

 
ตกลงฮ้องกู้วัน
ลิงสองตั๋วตี้บ้านไปโรงเรียนวันแรกบ่าฮ้องสักคน

emoemo


โดย: BongKet วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:13:12:05 น.  

 
สวัสดีหลังอาหารเที่ยงค่ะคุณก๋า
โรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมดี...มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ การที่น้องหมิงๆร้องให้พี่ว่าเป็นเรื่องปกติของเด็ก 90% ที่ไปโรงเรียน แถมเป็นเรื่องปกติของเด็กที่เป็นลูกคนแรกที่ไปโรงเรียน 100%ที่จะร้องไห้ ( รองชวนมาดามคนงามของคุณก๋ามีคนที่สองซิคะแล้วจะเห็นความแตกต่าง...รับประกันจากประสบการณ์)


โดย: nong_taky วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:13:17:41 น.  

 
เหอะ ตกลงพ่อกะลูกคุยกันอยู่เหรอ !!!


หา อ๋อๆ คุยกะเราด้วย

โห อ่านจบแล้วต้องบอกว่าวันนี้สวดยอดมาก ดีจัง ชอบท่อนนี้มาก



ความสุขในการเรียนรู้” เป็นสิ่งสำคัญมาก
มี คนนับล้านที่เรียนด้วยความไม่รู้
ไม่รู้ว่าตัวเองเรียนรู้ไปทำไม
สุดท้าย ได้แต่อ่าน ท่องจำ สอบแล้วก็ลืม
โดยความรู้เหล่านั้นกลายเป็นความรู้ ที่ตายซาก
และนำไปต่อยอดพัฒนาชีวิตและความคิดของตนเองไม่ได้เลย



หุหุ ว่าแต่ลูกเรามันโตในบรรยากาศไหนหว่า 555



โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:13:41:35 น.  

 
เป็นบล๊อกที่น่าประทับใจที่สุด
อยากให้หมิงหมิงได้อ่านบล๊อกนี้เมื่อโตขึ้น
เพียงอักษรที่ร้อยเรียงกันไม่มากนัก
ก็สามารถสื่อความรัก ความห่วงใยจากพ่อถึงลูกได้
ครอบคลุมทุกอย่าง

เคยถามพ่อเหมือนกัน
พ่อเล่าว่าตอนพาพี่สาวไปเข้าอนุบาลครั้งแรก
พี่สาวร้องไห้น่าสงสารเป็นที่สุด
พ่อก็รู้สึกหวั่นไหว
แต่ก็ตัดใจกลับไป
ไปได้ครึ่งทางก็เลี้ยวรถกลับ
มาแอบดูพี่สาวอยู่จนกลางวัน
พอดีขึ้นพ่อจึงกลับไปทำงาน

ชอบบล๊อกนี้จังครับ....


โดย: peeradol33189 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:01:27 น.  

 
ชอบคำตอบคุณก๋าที่ตอบคุณพี่ BeachBum จัง "ถ้าเราจะพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย เราต้องยุบกระทรวงศึกษาธิการ" 555


โดย: หญิงแก่น วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:07:12 น.  

 
มียำแซ่บมาฝากจ๊ะ



โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:14:20 น.  

 
เย้ๆๆ น้องหมิงไปโรงเรียนแล้ว ดูท่าทางจะชอบซะด้วยนะนั่น เห็นแล้วนึกถึงตอนลูกชายยังเล็กๆแบบนี้ละ

ชอบไปโรงเรียนมากๆ โตเข้าวัยรุ่นหน่อย ชอบเล่นคอมฯพิวเตอร์ ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ แม่ไปทำงาน ลูกสิงสถิตอยู่ร้านเกมส์ ทั้งวันทั้งคืน

ในที่สุด ตัดสินใจ ซื้อคอมฯให้ ติดอินเตอร์เน็ตให้ซะเลย ไหนๆก็ชอบเล่นเกมส์แล้ว ก็จะได้นั่งเล่นอยู่บ้าน (อยู่ติดบ้านด้วย)

แต่พอมีจริงๆ คุณก๋ารู้มะว่า ลูกชายก็ไม่ค่อยเล่นหรอก คงเบื่ออ่ะค่ะ ในที่สุดทุกวันนี้ โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เขาได้ทำงานเกี่ยวกับคอมฯได้ดีทีเดียว(เขียนโปรแกรม)

แห่ะๆ พูดมาซะยาว คือ นึกถึงสมัยโน้นนนนนนนนน อ่ะค่ะ

มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: มะฮอกกานีใบใหญ่ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:18:47 น.  

 
เอามาฝากคุณก๋าค่ะ

"ความจริง"กลั่นจากน้ำตาเด็กผู้เคราะห์ร้ายหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา"ล้มเหลว"ไม่ผ่านสภาเทคนิคการแพทย์ มหาลัยปัดความรับผิดชอบ นิสิตและผู้ ...




โดย: หญิงแก่น วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:27:27 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า
บรรยากาศโรงเรียน ของ หมิง หมิง ดูอบอุ่น และน่าเรียนจังค่ะ ดูแล้วหมิง หมิง มีความสุข กับโรงเรียนนะคะ
ปล.องุ่นเปรี้ยวข้างบนน่ะ เอามาฝากมาดามค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:28:47 น.  

 
งือใช่ สามเดือนผมก็พาไปจอมเทียนแระ
พอห้าเดือนฟันขึ้นสองซี่ก็พาลุยใต้ลงไปกรุงชิงเล่นธารน้ำกรุงชิงฝ่าสายหมอกปีนยอดเขาเหล็ก
6เดือนก็นั่งเรือหางลุยไปดูโบสถ์พ้นน้ำที่สังขละ
สิบเดือนพิชิตมอหินขาวสมัยนั้นยังไม่มีพี่เบิร์ดไปโปรโมต นอนเต็นตั้งแต่ยังพูดไม่เป็น ประเภทหลับแล้วอุ่้มขึ้นรถตื่นมาเจอพอกำลังขมักเขม้นจับแสงเช้าลงกล้อง 555 จริงด้วยแฮะ

แต่เด๋วนี้เริ่มขี้เกียจเที่ยวแระ จะไปไหนทีต้องเป็นรีสอร์ทเพราะจะเอาทีวีจะดูการ์ตูน จะเล่นเกมส์ กำกำ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:14:59:55 น.  

 
เห็นด้วยนะครับ ดอกดาหลา สวยตั้งแต่ดอกเล็กๆจนดอกโตบานเต็มที่แล้วเริ่มโรยเลยครับงามอยู่ได้หลายวันมากๆ ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:02:29 น.  

 
เขียนได้ถูกใจมากเลยคุณก๋า ข้อมูลความคิดส่วนตัว
และค้นคว้าดี 55 พูดแบบครูเลยแฮะ อยากให้พ่อแม่
ที่มีลูกเล็กๆทุกคนทำการบ้านแบบนี้ครับ

ไค้ย้อยที่บ้านนั้นเพาะเมล็ด มีรากแก้ว สูงใหญ่เกือบ
สิบเมตรแล้วครับ พี่ไม่คิดว่าต้นเพาะเมล็ดจะอยู่ใน
กระถางได้นะครับ รากมโหฬารจริงๆ



โดย: nulaw.m วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:08:49 น.  

 

เป็นบันทึกถึงลูก...ที่ ถ้าวันนึงข้างหน้าหมิง หมิง พออ่านหนัง
สือเป็นแล้ว เริ่มเรียนรู้อะไรมากขึ้นแล้ว คงรัก "พ่อ" มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม....





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:09:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ วันนี้เหมือนได้ร่วมเดินทางไปโรงเรียนพร้อมกับหมิงหมิงเลยค่ะ แล้ววันนี้เป็นไงบ้างค่ะ คงไม่ร้องแล้วซิ


โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:26:06 น.  

 


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:26:25 น.  

 
พี่อ่านแล้วก็ซึ้งใจแทนน้องหมิงหมิง ถ้าเขาโตเป็นผู้ใหญ่จะรู้ว่าพ่อกับแม่รักเขาขนาดไหน และรู้จักเลือกร.ร.ที่ดีให้กับลูกด้วย การเรียนการสอนต้องมีบรรยากาศที่สนุก อบอุ่น ครูเข้าใจเด็ก เด็กก็จะชอบไปโรงเรียน ลูกพี่ไม่เคยเรียนพิเศษอะไรเลยค่ะ ตอนอยู่ประถมไม่เคยมีการบ้านสักวัน

แต่พอขึ้นมัธยมกลายเป็นว่าครูให้เรียนหนัก กิจกรรมพิเศษก็เยอะ อาจารย์ให้การบ้านมาก จนพี่กับพ่อของลูกต้องไปพบอาจารย์ที่ปรึกษา โรงเรียนบังคับให้เรียนโน่นนี่ จนลูกพี่เครียดมากๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้น ได้มีเวลาวาดรูปที่เขาชอบ

การศึกษาทั้งในเมืองไทยและที่ต่างประเทศ พี่ว่ามันก็ระบบคล้ายๆกัน คือเขาจะแพลนไว้เลยว่าคนจบสายนี้ต้องไปต่อมหาวิทยาลัยนั้นนะ และจบออกมาต้องไปทำงานตรงโน้น เหมือนกับว่าชีวิตเราทั้งชีวิต มีคนคอยกำกับตลอดว่าเราจะเดินไปเส้นทางไหน กว่าจะหมดภาระหน้าที่ก็แก่กันพอดี รอเงินบำเหน็ดบำนาญ เสียเวลาไปค่อนชีวิต 555

ทำไมเราไม่เลือกทางเดินให้ตัวเอง ทำในสิ่งที่เรารักและจะมีความสุขมากกว่าเป็นคนในระบบมาตรฐาน standard พี่อยากให้เด็กทุกคนเป็นอะไรที่มีความแตกต่าง หลากหลาย มีความเป็นตัวของตัวเอง ลูกพี่จึงไม่จำเป็นต้องเรียนให้จบปริญญา เขาอยากทำอะไรพี่ก็จะตามใจทั้งนั้น การเรียนสูงๆไม่ได้ชี้วัดว่าคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอไป และค่านิยมของคนไทยคือ ลูกต้องเรียนสูงๆได้รับปริญญาพ่อแม่จึงจะมีหน้ามีตา มีงานทำที่เงินเดือนสูงๆ

พ่อแม่ไม่รู้หรอกว่าที่ลูกเรียนนั้นก็เพื่อพ่อกับแม่แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง พี่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของด็อกเตอร์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งท่านพูดเกี่ยวกับความรักของพ่อแม่ว่า :

If you want to liberate someone, love them not be in love with them,that dangerous.

If you're in love with your children, you're in their lives all the time. Leave them alone!

Let them grow and make some mistakes.
Tell them, You can come home. My arms are here and my mouth is too.
Tell them, I 'm going to leave you alone.

นี่แหละคือความรักที่แท้จริง คือการปล่อยให้พวกเขาได้เป็นอิสระ อาจจะใช้กับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยไม่ใช่ใช้กับเด็กอายุ 3-7ขวบ
เมื่อวานนี้ไปเที่ยวงานแทททูคอนเวนชั่นที่กรุงอัมสเตอร์ดัมกันมา ลูกสาวพี่ตื่นตาตื่นใจมากและสนใจซักถามช่างสักจากทั่วโลก ทำให้เขามั่นใจว่าตัวเขาเองนั้นก็ชอบเส้นทางนี้
โดยที่พี่กับพ่อเขาไม่ต้องชักแม่นํ้าทั้ง127สายมาอ้าง555

เดี๋ยวคุยกันต่อหลังไมค์ค่ะ พี่แวะมาชมรูปหมิงหมิงไปโรงเรียนก่อน


โดย: ชัญญา nl IP: 88.159.117.134 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:38:12 น.  

 
ฮ่า ฮ่า หมิง หมิง จ่อยสนิทเลยเจ้า เอ็นดูล้ำ


โดย: cvJ; วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:42:09 น.  

 
หวัดดียามบ่ายครับน้องก๋า...

หมิงๆไป ร.ร.ร้องไห้ทุกวัน . . . เป็นปกติครับ
ลูกผมทั้ง 3 คน เหมือนกันหมด
ศัพท์วิชาการเรียกว่า Separation anxiety
เครียดและกังวลจากบ้านและพ่อแม่ที่ไม่เคยห่างกัน
กลัวจะไม่ปลอดภัยไม่มีคนคอยปกป้อง
ก๊อคงเป็นไม่นานซักเท่าไหร่ก็หาย...
ครูที่ชำนาญจะแก้ไขและให้ความมั่นใจเด็กได้ไวครับ

ดีใจด้วยที่หมิงๆตกหลุมรัก ร.ร.ซะแล้ว 5555+

เจย์ มาร์ เขียนได้ดีจังเนาะ


โดย: Dingtech วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:48:40 น.  

 
เป็นเรื่องดีครับที่ตกหลุมรักโรงเรียนแล้ว ผมจำเรื่องสมัยอนุบาลไม่ค่อยได้เลย จำได้ก็แต่แม่ไปส่ง แต่ไม่เคยร้องไห้เลยครับ พ่อผมกังวลเรื่องนี้มาก แต่ท่านต้องแปลกใจเมื่อผมไม่ร้องเลย (อันนี้พวกท่านเล่าให้ฟัง)

ได้อ่านที่พี่ก๋าเขียนก็พอจะทราบแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน และการศึกษาในมุมมองพี่ก๋าได้บ้าง ถึงผมจะชอบแนวคิดบางอย่างที่พี่ก๋าเขียน แต่ขอขัดตรงที่ว่า ประเทศเรามันไม่อำนวยในหลายๆ เรื่อง และยากที่จะแก้ปัญหาหลายๆ อย่างในระบบการศึกษาไทย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:15:49:34 น.  

 
ลำปางฝนตกทั้งวันเลยค่ะคุณก๋า วันนี้เน็ตที่ทำงานไม่ดีเลยกิ่งเข้าหลายครั้งแล้วเข้าไม่ได้ค่ะ เพิ่งเข้าได้ตอนบ่ายสามโมงนี่เอง แต่ช้ามากเลยค่ะ เฮ้อ..กิ่งละเซ็งจัง อิอิ
สุขสดชื่นนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:16:09:41 น.  

 
ดีจร้าน้องก๋า วันนี้อยากคุยด้วยมากมาย แต่ว่างานยุ่งเหลือเกิน เปิดหน้าบ้านน้องก๋ามาทั้งวัน พึ่งจะได้คอมเม้นท์

พรุ่งนี้ละกันจะเข้ามาเม้าท์ด้วยเน้อ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:16:23:41 น.  

 
ดูต้างม่วนดีเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:16:28:58 น.  

 
ท่าทางหมิงๆ จะไปได้สวยแล้ว


โดย: REX-REX วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:16:37:18 น.  

 
สวัสดีคะพี่กะก๋า
จำได้ว่าหนูก้อร้องไห้ หนูว่าน้องหมิงหมิงโชคดีนะที่น้องมีคุณพ่อแบบพี่กะก๋า วันอาทิตย์ไปไหว้พระมาคะแล้วจะเอารูปมาฝากคะ


โดย: saaikaew (Green_Marble ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:16:42:28 น.  

 
เด็กสมัยนี้มีโอกาสมาก มีโรงเรียนหลายแบบให้พ่อแม่ได้เลือก
ไม่เน้นการอ่าน เขียนและท่องจำ
เ็ป็นโชคดีของเด็กค่ะ
อยู่ที่พ่อมแม่ ว่าจะคิดยังไงเพื่อเป็นแนวทางให้กับลูก
คุณกะก๋าและมาดามเลือกสิ่งที่ดีและถูกต้องให้ลูกแล้วค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:16:54:13 น.  

 
โรงเรียนหมิงหมิงน่าเรียนจังค่ะ พอหมิงหมิงอ่านหนังสือได้ให้เค้ามาอ่าน blog นี้นะคะรับรองเค้ารักคุณพ่อมากขึ้นอีกหลายเท่าเลยค่ะ


โดย: blueberryblossom วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:17:18:41 น.  

 
เสาร์นี้เหรอคะ

โอเคค่ะ ถ้าไม่พลาด จะรอดูนะคะคุณก๋า ตื่นเร็วกว่าปกติแค่ 15 นาทีเองหละค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:17:52:05 น.  

 
โตใหญ่แล้วหมิงหมิง ถ้าวันหนึ่งมีลูกหนูคงหนักใจไม่น้อย อยากเลี้ยงให้เขาเข้าใจโลก เลี้ยงท่ามกลางความดี ให้เป็นคนดี โรงเรียนหมิงหมิงมีคุงคูฝาหรั่งตวยแฮะ อิอิอิ

อาจ๋านหวันตี้ปี้ก๋าอู้ถึงนี่หมายถึงอาจ๋านหวันบ้านดำนางแลคนเจียงฮายแม่นก่อเจ้า 555

หนูว่าหน้าร้อนนี้จะลางาน 1 วันไปเดินที่ louvre ไปวันเสาร์อาทิตย์ไม่ไหวปี้ก๋า ถ้าไปไม่อังคารก็พฤหัสเป็นดี เพราะคนเยอะล้ำไป ที่มูเซ่ออร์เซย์มันเน้นงานคนละอย่าง ไผชอบผ่ออะหยั๋งก็ว่ากันไปแล้วแต่ แต่ว่าจริง ๆ นะ หั๋นฮูปแต้ ๆ แล้วเป็นดีเหมือนโดนสะกดจิต เขาวาดผ่านมาร้อยกว่าปี หนูยื่นหน้าเข้าไปแบบห่างภาพวาดไม่เกิน 5 เซ็นได้ 555


โดย: prunelle IP: 89.202.194.97 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:17:53:12 น.  

 
ปุ๊ไม่ได้แพ้แค่วันจันทร์คะ แพ้ทุกๆวันที่ต้องตื่นเช้าคะพี่


โดย: blog pu วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:18:33:47 น.  

 
หมิงหมิงโชคดีค่ะที่มีพ่อแม่ที่เข้าใจและสมัยใหม่ รวมถึงไม่ตกเป็นทาสของระบบการศึกษาในปัจจุบันที่เน้นให้เด็กเรียน เรียน และเรียน โดยไม่รู้ว่ามีความสุขในการเรียนรู้หรือเปล่า


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:18:48:13 น.  

 
คำกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเด็ก
เป็นข้อคิดที่น่านำไปใช้ที่สุด มีคำกล่าวว่า
เด็กเหมือนผ้าขาว อยู่ที่คนเลี้ยงว่าอยากให้เด็กเป็นสีอะไร
ก็ป้ายสีนั้นลงไป เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบไหน
ก็อยู่ที่การเลี้ยงดูจริงๆเลย ประสบมากับตัวเอง
ตอนเราเป็นเด็ก เราไม่รู้หรอก เพราะเรายังคิดไม่เป็น
กว่าเราจะคิดเป็นคิดได้ ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว และสิ่งเหล่านั้น
มันกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเรา และยากจะปรับเปลี่ยนตัวเองเหมือนกันนะคะ



โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:19:08:09 น.  

 
สวัสดีครับพี่ชัญญา


ผมคิดว่าบ้านเรากำลังมีปัญหามากในเรื่องการจัดการศึกษา

อย่างแรกต้องเริ่มที่พ่อแม่นี่ล่ะครับ
ว่าเราคาดหวังอะไรจากลูก

จะบอกว่าไม่คาดหวังเลยคงไม่ใช่
แต่การคาดหวังแบบตั้งเงื่อนไข
บางครั้งกลับกลายเป็นการทำร้ายเด็กโดยทางอ้อม

เหมือนที่เราชอบบอกว่า

เด็กจะไปรู้อะไร
ถ้าผู้ใหญ่ไม่ตัดสินใจให้


คำพููดความคิดความเชื่อแบบนี้
สร้างหมอที่ไม่อยกาเป็นหมอ
สร้างครูที่ไม่ได้อยากเป็นครู
สร้างคนที่ไม่ตรงกับสาขาและความต้องการของผู้เรียนมากมายมหาศาล

สุดท้ายกลายเป็นว่า
การศึกษาสร้างแต่คนที่จบการศึกษา
แต่ไม่ได้สร้างคนที่รักในการเรียนรู้เลย

เหมือนที่พี่เล่าว่าน้องสามารถซึมซับ
และค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ
เมื่อรักก็จะสนใจค้นหาความรู้โดยไม่ต้องบังคับกวดขัน


นี่อาจเป็นสิ่งแรกๆที่ผมคิดเกี่ยกวับการศึกษาของลูกครับ
คือ อยากให้เขามีความสุขขณะเรียน
เรียนอย่างมีความสุข

ส่วนเขาอยากจะเป็นอะไร หรือถนัดอะไรต่อไปในอนาคต

ผมค่อยเตรียมให้เขาเป็นระยะในฐานะผู้สนับสนุนน่ะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:19:22:43 น.  

 
พ่อเเม่บ้างคนยอมเสียเงินมากมายเพื่อสิ่งดีๆให้ลูก
ทั้งๆที่บ้างทีเราอาจไม่ต้องเสียมากขนาดนั้น
เเต่ผลออกมาไม่ต่างกัน
ถ้าเปิดใจมองสิ่งรอบตัวให้กระจ่างจริงๆค่ะ


โดย: pranfun วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:19:40:19 น.  

 
หัวอกคนเป็นพ่อแม่จริงๆนะค่ะเนี้ยะ กับการหาการศึกษาที่ดีให้ลูก



โดย: บางส้มเปรี้ยว วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:19:49:48 น.  

 


อ่านแล้วอยากกลับไปเป็นเด็ก ^^"


โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:20:22:20 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่ก๋า มาดาม และหมิงหมิงสุดหล่อ

ชอบทุกประโยคที่พี่เขียนเลยค่ะวันนี้ เห็นโรงเรียนหมิงหมิงแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีกจัง อยากไปโรงเรียนแบบนี้บ้างอ่ะค่ะ


โดย: PePe_kotori วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:20:32:08 น.  

 
ใช่แล้วค่ะ เปิ้นหยุดอายุไว้ที่สิบแปดนานแร้ววววววววว

แอบไปเห็นที่บ้านดีดี
พี่ก๋าอยากกัดกล้ามแขนพี่ชายเล่น


เอิ๊กๆๆๆๆๆ พี่มาดามคะ????

เอ่อ....

คือว่าคือ

อยากกัดแขนพี่ชายเล่น????

เอ่อ....


เอ่อ....


ฮ่ะๆๆๆ


โดย: fonrin วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:20:32:33 น.  

 
5555555 ภาพแรกๆน้องหมิงหมิง รม บ่ จอย มากเลยค่ะ



สวัสดียามค่ำคืน..คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ ^^


โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:20:51:49 น.  

 

เห้นรูปแรกที่คุณแม่หมิง หมิง ใช่ป่าวไม่รุ้ค่ะที่ใส่เสื้อลาย

เห้นตาหมิง หมิง ประมาณกลัวมากๆค่ะ

น้องเหมือนกลัวในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย

แต่พอรูปหลัง สายตาเริ่มดีขึ้น เหมือนไว้ใจมากขึ้นอ่ะค่ะ


ป.ณ พี่สงสัยมากๆ ทุกช่วงที่หมิง หมิงอยุ่โรงเรียนน้อง

ก๋าถ่ายรูปยังไงค่ะ น้องไม่ร้องตามหรอค่ะ





โดย: nok_noyly วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:00:02 น.  

 
หมิงหมิง เริ่มหลงรักโรงเรียนแล้วเหรอครับ


อิอิ

ปอลอ

โรงเรียนน่าสนใจจังครับพี่




โดย: กลิ่นดอย วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:34:02 น.  

 

ค่อยๆไปทีละขั้น
เดี๋ยวหมิงหมิงก้อจะร้องบอกพ่อกะก๋ากะคุณแม่มาดามว่า
หมิงหมิงรักโรงเรียน หมิงหมิงรักโรงเรียน

ปล.ดูจากภาพแล้วบรรยากาศน่าเรียนจังเลยค่ะพี่กะก๋า


โดย: TheKPP วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:37:12 น.  

 
พี่นอนไม่หลับน้องก๋า 555 อย่าบอกนะว่า "แล้วมาบอกผมทำมายยยย "

พี่พยายามจะกักจะเก็บมันเอาไว้มาคุยกะน้องก๋าพรุ่งนี้ แต่กลายเป็นว่าหัวข้อมันโดน คันไม้ คันมือ คันหัว.......ใจ

ก็เลยกระโดดลงมาตะลุมบอลก่อนที่น้องก๋าจะอัพบล็อกใหม่ ขึ้นหัวข้อใหม่

พี่ได้อ่านทุกความคิดเห็น ในนี้ เพราะพี่อยากเห็นมุมมองหลาย ๆ คน ทั้งคนที่เคยรับบทเป็นลูกเอง คนที่กำลังรับบทเป็นพ่อแม่ในตอนนี้ และคนที่เคยผ่านการเป็นพ่อแม่มานานแล้ว มีหลากหลายนานาทัศนะ แต่ทุกคนคิดเห็นตรงกันหมดว่า "มันผิดที่การศึกษา"

พี่จะใช้นิ้วชี้ไปที่ การศึกษา ปรากฎว่านิ้วที่เหลืออีกสี่นิ้วกลับชี้มาที่ตัวเอง

พี่ไม่ได้บอกว่า พวกเราทุกคนผิด แต่ผลที่มันเกิดอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ มันย่อมมีสาเหตุมาจาก เหตุที่เกิดมาจากอดีต (น้องก๋ากำลังคิดว่า วันนี้ยัยนี่เป็นอะไรฟร่ะเนี่ย)

ทุกอย่างล้วนเป็นลูกโซ่ร้อยรัดกันอย่างเหนียวแน่น ถ้าจะแก้ไขอย่างหนึ่ง ก็ต้องแก้ไขอีกอย่างหนึ่ง เผลอ ๆ กลายเป็นต้องแก้ไขทั้งหมด

ทำไมพ่อแม่ ถึงอยากให้ลูกมีอนาคตดี ๆ ก็ความจนงัยค่ะ ทุกคนกลัวเจ็บ กลัวจน หลายคนที่ชอบพูดว่า พระเจ้าเงินตรา มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่ ไม่มีทั้งเงินและทองไม่ต่างจากหมาขี้เรื้อนตัวนึง

ความจนมันมาจากไหนกันนะ ก็รักสบายงัยค้า มีที่นา ถ้าจะให้ดีต้องคูโบต้า อย่ากระนั้นเลยขอวีโก้อีกซักคัน เฮ้ยบ้านเงียบจัง คาราโอเกะอีกซักหน่อย ขายข้าวได้เงินมาไม่กี่ตังค์ เอาเงินที่ไหนเหรอ เงินอนาคตก่อนละกัน (ด้านเกษตร)

(ด้านธุรกิจก็ไม่น้อยหน้า) มีธุรกิจมันเล็กไป ต้องเพิ่มยอดขาย จะได้กำไรเพิ่ม อ้าวเฮ้ยกำลังผลิตไม่พอ กู้เพิ่มดีกว่า อ้าวแล้วกันมีแต่คนผลิต จะไปขายให้ใครฟร่ะ จบกันดอกเบี้ยเงินกู้ตรูจะท่วมตัวตายแล้ว

(ด้านมนุษย์เงินเดือนบอกยอมได้งัย) อยู่สังคมเมืองน้อยหน้าใครได้ที่ไหน เธอมี ชั้นก็ต้องมี รูดปื้ด รูดปื้ด สิ้นเดือนหน้าแห้ง หัวโตเป็นหนี้บานเบิก

พี่ไม่ได้บอกว่า การมองไปข้างหน้ามันไม่ดี การพัฒนาเศรษฐกิจมันไม่ดี แต่มันโตเร็วเกินไป ใจขณะที่ทุกอย่างยังไม่พร้อม หลายคนชอบบอกว่าทำอะไรชักช้าอืดอาดเป็นเต่า คนอื่นก็แย่งไปกินหมด แล้วไอ้ที่ทำอยู่เร็ว ๆ หน่ะคนอื่นมันไม่มาแย่งไปกินเลยใช่มะ

อารัมภบทเยอะ น้องก๋า น่าจะคิดออกนะว่าพี่กำลังโยงไปโยงมาเรื่องอะไร แต่มันไม่ใช่เรื่องการเมืองแน่ ๆ 555


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:45:46 น.  

 
อ่านแล้วเลยสงสัยอยากถามหมิงหมิงว่า หนึ่งวันที่ไม่ร้องไห้นั้นเป็นเพราะอะไร


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:49:49 น.  

 
ลูกผมไม่ร้องเลยครับตอนไปโรงเรียน
รู้สึกจะโชคดี
แต่ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากผมพาไปเที่ยวที่โรงเรียนซึ่งอยู่ใกล้บ้านบ่อยๆ เลยไม่รู้สึกแปลกแยกกับโรงเรียนครับ

เมื่อวันอาทิตย์ไปห้องหนังสือเรือนธรรม ยืมหมื่นตามาสองเล่มเลยครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:53:23 น.  

 
เราเคยคุยกันมาแล้วครั้งหนึ่งเรื่อง เงิน ตัวเดียวนี่หล่ะปัจจัยใหญ่ของการมีชีวิตอยู่ ไม่ว่า คุณจะอยู่ไทย ญี่ปุ่น จีน อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย ฯลฯ

ถ้าคุณไม่มีเงิน ก็อย่าหวังว่าจะเผยอขึ้นมา

แล้วทำงัยถึงจะมีเงินหล่ะ พ่อแม่ทุกคนลงความเห็นว่า เรียนสูง ๆ นะลูกนะ จะได้มีงานดี ๆ ทำ มีเงินใช้ ไม่ลำบากเหมือนพ่อแม่

ทุกคนมองไปที่เป้าหมายตัวเดียวกัน คือ เงิน แล้วก็เล็งเห็นอุปกรณ์ที่จะช่วยพาทุกคนไปให้ถึงเป้าหมาย ก็คือ การศึกษา

บทหนักเลยตกกับเด็กรุ่นต่อ ๆ มา รุ่นแล้ว รุ่นเล่า จนยากเกินจะเยียวยา

แล้วบทสรุปที่เราเห็นกันในปัจจุบันมันเป็นอย่างที่เราคิดไว้ในอดีตจริง ๆ เหรอ เรียนสูง ๆ จะได้มีเงินเดือนดี ๆ มีงานทำ

พวกเราก็เห็นมากันหมดแล้วว่ามันเป็นอย่างไร เหมือนเรากำลังปั๊มแผ่นซีดีขาย ทุกแผ่นเหมือนกันหมด มีรอยเหมือนกัน ตกร่องเหมือนกัน เด็กที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ คิดเหมือนกันหมด ร่ำรวย ทางไหนก็ได้ ใครลำบากช่างมัน ชั้นเก่ง มีชีวิต แต่ไร้ศีลธรรม เหมือนโดนลงโปรแกรมพร้อมไวรัส ที่ไม่สามารถหาโปรแกรมมาฆ่าเชื้อได้

อย่าแปลกใจ ถ้าคนสมัยนี้จะมีความสุขน้อยลง แต่ร่ำรวยเงินทอง มีน้ำใจน้อยลง แต่ร่ำรวยความเห็นแก่ตัว

อ้อ พี่คงลืมอีกอย่าง พ่อแม่เห็นลูกเป็นเครื่องประดับราคาแพงไปซะแล้ว หลาน ๆ บ้านพี่หน่ะ นอกจากเรียนแบบอินเตอร์แล้ว ยังต้องเรียนเปียโน เต้นบัลเล่ต์ บลา บลา บลา เสาร์อาทิตย์กวดวิชาเพิ่ม ต้องได้ที่ 1 ไม่เป็นสองรองใคร โอ้ยจะบ้าตาย (ได้แต่ทำใจ ช่างมันลูกใคร ใครก็เลี้ยงกันเอาเองละกัน)

เอาเป็นว่า พี่แค่เคาะออกมาจากสมองปลาทอง ของพี่เท่านั้นหน่ะนะก๋า พี่อาจจะคิดงี่เง่าไปหน่อย มองโลกแบบบวก ๆ ดูมั่งดีกว่า ^_^


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:02:10 น.  

 
ไม่ได้รับค่ะพี่ก๋า แค่ไปให้กำลังใจคุณแม่ของแองกัสตอนคลอดค่ะ ^^


โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:11:50 น.  

 
เห็นโรงเรียนน้องหมิงหมิงแล้วด็ตกหลุมรักทันที..อยากไปเรียนแบบนี้มั่งค่ะ


โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:15:22 น.  

 
เรื่องบวกค่ะ จริงเท็จพี่ไม่รู้ (จะรู้ได้งัยอ้ะ คนไม่เคยเล่นบทบาทเป็นแม่คนนิ เคยแต่เป็นแม่หมา เลี้ยงแต่ลูกหมาเจ็ดตัว)

เขาบอกว่า เด็กที่ดื่มนมแม่ ยิ่งดื่มนมแม่ยาวนานและมากเท่าไหร่ ก็จะมีความรัก ความผูกพันธ์กับแม่มากเท่านั้น

เมื่อยังไม่ถึงเวลา เขาก็จะไม่อยากจากแม่ไปไหน โดยเฉพาะถ้าแม่ไม่อยู่ข้างกาย เขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นกังวล ต่อเมื่อเขาแน่ใจว่า ที่ ๆ เขาอยู่ปลอดภัย ความกังวลนั้นจะหายไป ความเชื่อมั่นและไว้ใจในสถานที่นั้น ๆ จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความผูกพันธ์ต่อสถานที่นั้น ๆ ด้วย

น้องก๋ารู้สึกผูกพันธ์ และรักสถาบันที่เรียนมามั่งมั๊ยหล่ะค่ะ

สิ่งที่จะทำให้เด็ก ๆ เชื่อมั่นและไว้วางใจในโรงเรียน ก็คือ บรรยากาศ อุปกรณ์สำคัญ 2 ชิ้นที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ก็คือคุณครู และสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน

หมัดเด็ดมันอยู่ที่ว่า แค่สนุก พ่อแม่อาจจะไม่ยอมส่งลูกมาเรียนก็ได้นะ เพราะค่าเรียนไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย อาวุธสำคัญประจำโรงเรียน หลักสูตร มันจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจของครู ตั้งแต่บนสุดจนถึงล่างสุด ครูทุกคนต้องยอมรับและเต็มใจที่จะทำ มันถึงจะสัมฤทธิ์ผล

ตอนลูกเรียนอนุบาล พ่อแม่ทุกคนคงคิดแบบน้องก๋า แต่พอเข้ามัธยมต้น มันจะเริ่มหนักขึ้น จะงวดสุด ๆ ก็ตอนมัธยมปลาย สติแตกทั้งพ่อแม่ลูกตอนเอ็นสะท้านนนโลกันต์

พี่ว่าหมิงน้อยร้องไห้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป พี่ว่าตอนนี้หมิงน้อยมีความสุขกับการไปโรงเรียนก็เป็นเรื่องดีอีกเช่นกัน และพี่ว่าน้องก๋าเขียนบันทึกไว้ ก็เป็นโชคดีของหมิงน้อยอีกเช่นกัน โตขึ้นหมิงน้อยก็จะมีของที่ระลึกจากพ่อก๋าเพิ่มอีกชิ้นหนึ่ง


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:17:45 น.  

 
เรื่องบวกค่ะ จริงเท็จพี่ไม่รู้ (จะรู้ได้งัยอ้ะ คนไม่เคยเล่นบทบาทเป็นแม่คนนิ เคยแต่เป็นแม่หมา เลี้ยงแต่ลูกหมาเจ็ดตัว)

เขาบอกว่า เด็กที่ดื่มนมแม่ ยิ่งดื่มนมแม่ยาวนานและมากเท่าไหร่ ก็จะมีความรัก ความผูกพันธ์กับแม่มากเท่านั้น

เมื่อยังไม่ถึงเวลา เขาก็จะไม่อยากจากแม่ไปไหน โดยเฉพาะถ้าแม่ไม่อยู่ข้างกาย เขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นกังวล ต่อเมื่อเขาแน่ใจว่า ที่ ๆ เขาอยู่ปลอดภัย ความกังวลนั้นจะหายไป ความเชื่อมั่นและไว้ใจในสถานที่นั้น ๆ จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความผูกพันธ์ต่อสถานที่นั้น ๆ ด้วย

น้องก๋ารู้สึกผูกพันธ์ และรักสถาบันที่เรียนมามั่งมั๊ยหล่ะค่ะ

สิ่งที่จะทำให้เด็ก ๆ เชื่อมั่นและไว้วางใจในโรงเรียน ก็คือ บรรยากาศ อุปกรณ์สำคัญ 2 ชิ้นที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ก็คือคุณครู และสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน

หมัดเด็ดมันอยู่ที่ว่า แค่สนุก พ่อแม่อาจจะไม่ยอมส่งลูกมาเรียนก็ได้นะ เพราะค่าเรียนไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย อาวุธสำคัญประจำโรงเรียน หลักสูตร มันจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจของครู ตั้งแต่บนสุดจนถึงล่างสุด ครูทุกคนต้องยอมรับและเต็มใจที่จะทำ มันถึงจะสัมฤทธิ์ผล

ตอนลูกเรียนอนุบาล พ่อแม่ทุกคนคงคิดแบบน้องก๋า แต่พอเข้ามัธยมต้น มันจะเริ่มหนักขึ้น จะงวดสุด ๆ ก็ตอนมัธยมปลาย สติแตกทั้งพ่อแม่ลูกตอนเอ็นสะท้านนนโลกันต์

พี่ว่าหมิงน้อยร้องไห้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป พี่ว่าตอนนี้หมิงน้อยมีความสุขกับการไปโรงเรียนก็เป็นเรื่องดีอีกเช่นกัน และพี่ว่าน้องก๋าเขียนบันทึกไว้ ก็เป็นโชคดีของหมิงน้อยอีกเช่นกัน โตขึ้นหมิงน้อยก็จะมีของที่ระลึกจากพ่อก๋าเพิ่มอีกชิ้นหนึ่ง


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:17:45 น.  

 
เน็ตต๊องงงงงอีกแล้วครับท่าน พี่ยังเขียนไม่เสร็จมันกดคอมเม้นท์เป็นสองเด้ง น้องก๋าจะลบ ๆ มันทิ้งไปบ้างก็ได้นะ หรือถ้าอยากทำยอด (แบบเก็บแต้มทำคะแนนงัย 555 หยอกเล่นน่า) ก็เก็บมันไว้ต่อปายยยย

เฮ้อ เผ่นดีกว่า เก็บแรง เก็บสมอง ไว้พรุ่งนี้มาพ่นต่อ ^_^


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:35:08 น.  

 
หลานหมิงโชคดีที่มีพ่อและแม่อย่างคุณก๋าและมาดาม โตไปต้องเป็นคนคุณภาพของสังคมแน่นอนค่ะ

โรงเรียนนี้ดูเข้าท่าดีนะคะ การเรียนการสอนคงถูกโฉลกกับหลานหมิง เลยงอแงน้อยลง ไม่นานก็คงสนุกกับการเรียนและเพื่อน ๆ

วันเสาร์ที่ผ่านมา ตื่นมาดูรายการธรรมในใจไม่ทัน เลยดูในเวบย้อนหลัง ปกติจะดูในเวบme.th แต่ตอนนี้ดูย้อนหลังช่องสามไม่ได้แล้ว ต้องไปหาเวบอื่น
คุณก๋าพูดดีจังค่ะ ไว้ต้องตามดูอาทิตย์นี้ต่ออีก

เราโหวตหมวด Parenting ให้นะคะ


โดย: haiku วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:47:34 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะคุณก๋า...

น้องหมิง-หมิงคนเก่ง...อย่างอแงร้องไห้ก่อนไปโรงเรียนนะครับ....(หลับปุ๋ยไปแล้ว...)
เข้ามาทักทายคุณก๋าดึกอีกแล้ว เพราะเพิ่งกลับมาจาก
ไปช่วยงานบ้านคุณยายมาค่ะ (คุณตาเสียเมื่อวานนี้ค่ะ)
นอนหลับฝันดีกันทุกๆ คนนะค่ะ
บ๊าย-บาย



โดย: จุลิจอมซน วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:23:09:43 น.  

 


ทำไมถึงไม่หวือหวาล่ะครับ


โดย: veerar วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:23:18:46 น.  

 
ต้องยอมรับเลยค่ะว่าพวกคุณครูอนุบาลนี่ความอดทนสูงมาก พี่เคยไปนั่งดูตอนเด็กเปิดเทอมวันแรก(ทั้งคอร์สซัมเมอร์ และเทอมจริง) เด็กร้องแข่งกันเลย บางคนตอนแรกไม่ร้องแต่พอเห็นเพื่อนร้องก็ร้องตามด้วย แต่ไม่น่าเชื่อว่าสักพักคุณครูก็สามารถจัดการไปได้เกือบหมด แม้จะมีแบบหลงๆร้องบ้างก็ยังประคับประคองกันไปได้ค่ะ

พี่ว่าคุณครูอนุบาลนี่แหละที่สำคัญ เพราะหากเด็กได้เริ่มต้นดี อีกไม่นานเมื่อปรับตัวได้แล้วเด็กก็จะรักการไปโรงเรียนและสามารถร่วมกิจกรรมได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ

เมื่อวันก่อนพี่ดูข่าวที่ครูสอนว่ายน้ำมัวคุยกับผู้ปกครองแล้วไม่ทันระวังปล่อยเด็กจมน้ำตาย พี่ก็ดูแบบผ่านๆว่า เออ น่าสงสารนะ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอวันรุ่งขึ้นพี่ไปเอาของที่บ้านน้องสาว พอดีเจอน้องก็เลยบอกว่าลูกของน้าสามีเสียชีวิต เห็นว่าจมน้ำแต่ยังไม่รู้รายละเอียด จนเมื่อวันเสาร์พี่พาหลานๆไปทานข้าวเพราะน้องเขยไปงานศพ เลยเพิ่งรู้ว่าเป็นรายเดียวกับที่พี่ดูข่าวนั่นแหละค่ะ มาค้นข่าวในเน็ตดูอีกที ความเห็นส่วนใหญ่ก็ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ดีมากเลย แต่ทำไมปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ได้ เด็กแค่5ขวบเองนะคะ เป็นลูกชายคนเดียวด้วย น่าสงสารจังเลยค่ะ นี่ขนาดดูแล้วว่าน่าไว้ใจยังเกิดขึ้นได้เลยค่ะ ดังนั้นผู้ปกครองเองก็ต้องช่วยเพิ่มความระมัดระวังด้วยนะคะ ลูกเราถึงจะปลอดภัย


โดย: pinkyrose วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:23:29:50 น.  

 
พิถีพิพันในการเลือกโรงเรียนมากๆเลยค่ะ สมัยหนูเป็นเด็กๆ โรงเรียนไหนใกล้ก็โรงเรียนนั้นแหละค่ะ ส่งไปเรียนเลย

เดี๋ยวนี้โรงเรียนพัฒนากันไปเยอะมากเลย เห็นแล้วอยากลองไปเรียนดูบ้าง แต่คงจะแก่เกินไป ต้องรอรุ่นลูกซะแล้ว


โดย: annabet วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:0:12:54 น.  

 
วันนี้น้องหมิง เป็นไงบ้างครับ


โดย: panwat วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:0:16:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

ขอบคูณสำหรับคำอวยพรวันเกิดค่ะ ขอให้คุณก๋าและครอบครัวมีความสุขมากๆ เช่นกันค่ะ

ขอให้น้องหมิงหมิงไปเรียนอย่างมีความสุขนะคะ ดูแล้วน้องหมิงหมิงกำลังปรับตัวอยู่ คุณครูน่ารัก โรงเรียนน่าเรียน คงปรับตัวได้ไม่ยากค่ะ น่าส่งลูกไปเรียนโรงเรียนนี้จังค่ะ เสียดายอยู่ไกลไปหน่อย


โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:3:14:23 น.  

 
ฝีแปรงของจ๋านหวันนี่มันล่ำลือไกล เต้า ๆ กับฝีปากเปิ้นเลยเน้อ ด้วยความเคารพท่านอย่างสูงยิ่ง


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:4:13:58 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกิจ

พี่ก็เหนื่อยกับระบบการศึกษาของที่นี่เหมือนกันคะ
ไม่รู้จะบังคับเด็กให้เรียนไปทำไมทั้งฝรั่งเศส,เยอรมัน

ลูกพี่ก็ไม่ได้เก่งสุดๆนะ แค่ตอนสอบป.6 จะเข้าม.1 เขาดันได้คะแนนสูงจาก 550 ลูกพี่สอบได้448 คะแนน ตัวเขาเลือกเรียนแค่
ภาษาฮลแลนด์ล้วนๆ เขาไม่ชอบทำการบ้าน ไม่ชอบท่องจำอะไร แต่ตอนไปสมัครเรียนอาจารย์ใหญ่กลับเห็นว่าลูกพี่ควรเรียนระบบ 2 ภาษา คืออังกฤษ กับดัตท์
3เดือนแรกก็ปรับตัวพอสมควร แต่พอผ่านไปจนถึงปีที่2 ผลการเรียนดี เกรดอะไรก็ดีทุกอย่าง แต่เขาเครียดมาก เพราะการบ้านเยอะ อยู่ประถมไม่เคยมีการบ้านเลย พี่เห็นเลยว่าลูกพี่ไม่มีความสุขเท่าที่ควร จากที่เป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง ชอบทำให้พี่หัวเราะตลอด ชอบวาดรูป ชอบร้องเพลง แต่เขาเปลี่ยนไปมากเลย พี่ถามอะไรเขาจะไม่ตอบแถมบางครั้งดุแม่ด้วย555

พ่อเขารู้ตั้งแต่แรกเลยว่าลูกไม่ชอบเรียนแบบบังคับ เขาชอบอิสระ น้องซีรู้ว่าเขาโตขึ้นอยากทำอะไร เขาจบม.6เขาจะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน แต่จะมาเรียนเป็นช่างสัก เขาฝันอยากเดินทางท่องไปทั่วโลก ไปพบปะผู้คนและมีเงินเอาไว้ช่วยเด็กยากจน อาทิตย์หน้าเขาจะเริ่มสักกับลูกค้ารายแรก ตอนนี้ก็ลุ้นอยู่ว่า...งานจะออกมาดีไหม? แต่พ่อเขามั่นใจมากว่าลูกจะทำได้ดีกว่าตัวเขาเอง

การเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ มันไม่สนุกและเอามาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้หรอก พี่เคยพูดกับอาจารย์ที่ปรึกษาว่า
ถ้าสอนแล้วเด็กยังไม่เข้าใจ เด็กยังไม่เก่ง ก็แสดงว่าเป็นครูที่ไม่เก่งจริง ต่อไปถ้าศิษย์ของคุณจบไปเป็นครู เขาก็จะสอนเด็กไม่เป็นเหมือนกัน ถ้าสอนเป็นต้องสอนให้เด็กเก่งกว่าครู 555 หรืออย่างน้อยก้ให้เก่งเท่าครู

สายที่ลูกพี่เรียนมันต้องเรียนจบไปเป็นหมอ เป็นสถาปนิกฯลฯ เป็นอะไรที่ลูกพี่เขาไม่ถนัดหรอก เพราะเขาไม่ชอบอยู่ในระบบของใคร ไม่ชอบเป็นลูกน้องใคร ชอบทำงานแบบอิสระ เป็นเจ้านายตัวเอง แต่การเรียนมันก็ช่วยให้เรารู้ทันคนอื่น รู้ความเป็นไปของโลกบ้าง ค่าเรียนก็แพงนะ กว่าจะจบและได้งานทำ เงินไปจมก้อนใหญ่เลย555

เรียนร.ร. ทางเลือกนี่แหละดีที่สุดคุณกิจ เด็กจะมีความสุขมากกว่า ก็ควรคาดหวังว่าอย่างน้อยลูกเราก็จะค้นพบตัวตนและสิ่งที่เขาถนัดและชอบที่สุด เขาจะทำได้ดีเมื่อไม่ถูกบังคับให้เรียนค่ะ เคสหน้าค่อยคุยกันต่อเจ้า


โดย: ชัญญา nl IP: 88.159.117.134 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:15:10:02 น.  

 
ชอบความคิดเห็นของทุกๆคนค่ะ และชอบของคุณoa(rosebay) เป็นพิเศษ คุณมีแง่คิดและมุมมองที่ดีมากเลยค่ะ


โดย: ชัญญาnl IP: 88.159.117.134 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:15:28:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]