<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
15 พฤศจิกายน 2554

:: โรงเรียนทางเลือก...ความสุขของใคร ? ::




:: โรงเรียนทางเลือก...ความสุขของใคร ? ::





*** เฉพาะภาพหมิงหมิงที่ รร.ต้นกล้า
บันทึกภาพโดยคุณครู

























คำถามที่ผมต้องตอบบ่อยมากในช่วงนี้
เมื่อเจอเพื่อนๆหรือคนรู้จักก็คือ

“หมิงหมิงเรียนที่ไหน ?
โรงเรียนอะไร ?
สอนดีไหม ?
ค่าเทอมเท่าไหร่ ?”

ฯลฯ



เมื่อผมตอบว่า

“หมิงหมิงเรียนที่ต้นกล้า เป็นโรงเรียนทางเลือก”


คำถามที่ตามมาทันทีก็คือ


“โรงเรียนทางเลือกเป็นอย่างไร ?”

















พ่อแม่แต่ละคนคงมี “ทางเลือก” ในใจอยู่แล้ว
ก่อนคิดที่จะส่งลูกตัวเองไปเรียนที่โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง
เป็น “ความคาดหวัง” ของพ่อแม่ซึ่งหวังว่าโรงเรียนจะช่วยขัดเกลา
อบรมสั่งสอนลูกของตัวเองให้ดีที่สุด
เท่าที่พ่อแม่คนหนึ่งจะคาดหวังได้



















ครั้งแรกที่ผมเลือกโรงเรียนต้นกล้าเป็นโรงเรียนของหมิงหมิงนั้น
ผมประทับใจอะไรที่นี่…..


ผมคิดว่าผมชอบตึกเรียน อาคาร และสนามหญ้ากว้างๆ
นั่นเป็นภาพแรกที่ผมเห็นด้วยสายตา


ทำไมถึงชอบ....


ผมชอบเพราะผมคิดว่า “สิ่งแวดล้อม” เป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับเด็ก


ผมเชื่อว่าเด็กเรียนรู้จากนอกห้องเรียนมากกว่าในห้องเรียน
เด็กเรียนรู้จากคนรอบตัวมากกว่าเรียนรู้จากตำราและการเรียนแบบเข้มงวด


















ผมไม่คาดหวังว่าลูกผมจะต้องเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 ของชั้น
หรือเขียนอ่าน ก.ไก่ ข.ไข่ เอบีซี นับหนึ่งสองสาม
บวกลบคูณหารได้เร็วๆ.....


ผมอยากให้ลูกมี “ความสุข”


“ความสุขระหว่างการเรียนรู้”



ผมอยากเห็นหมิงหมิง “สนุก” ที่จะได้เรียนรู้





















“เมื่อเด็กได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน
เด็กจะมีความสุขในการเรียนรู้”






ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ของมนุษย์

















น่าแปลกนะครับ....
เราโตมากับระบบการเรียนการสอนที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย
พ่อแม่หลายคนเมื่อครั้งเป็นเด็ก
เป็นเด็กที่ไม่มีความสุขในการเรียน เรียนไม่เก่ง ไม่ขยัน
ถูกบังคับให้เรียน ต้องท่องตำรา
ต้องนั่งทำการบ้านด้วยความเครียดและกดดัน

แต่พอมีลูกเรากลับยัดเยียด “ความหวัง” และ “ความฝัน” ใส่ตัวลูก
อะไรที่เราไม่เคยชอบและไม่เคยรักที่จะทำ
เรากลับมอบสิ่งนั้นให้ลูกของตนเอง
พร้อมแนบท้ายไปด้วยคำพูดที่ว่า


“ก็พ่อกับแม่รักลูก ถึงให้ลูกทำแบบนี้”



“ลูกต้องขยันและตั้งใจเรียนให้มากๆ พ่อแม่ถึงจะรัก”


“ลูกต้องเรียนให้เก่งที่สุดในห้องนะลูก โตมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน”


“ลูกต้องเชื่อฟังพ่อแม่นะ อะไรที่พ่อแม่เลือกให้ สิ่งนั้นดีที่สุด”


ฯลฯ



















เรากำลังใช้คำว่า “รัก” ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า ?



เราชอบพูดว่า “เด็กตัวแค่นี้ มันจะไปรู้อะไร ?”
เราเลยคิดและตัดสินใจแทนลูกไปเสียทุกสิ่ง
ว่าลูกควรชอบหรือไม่ชอบอะไร


เราเคยฟังเสียงของลูกบ้างไหม ?
เราเคยมองแววตาของเขาหรือเปล่า ?
เราเคยปล่อยให้เขาเติบโต
และมีชีวิตชีวาแบบที่เด็กคนหนึ่งพึงจะเป็นหรือไม่ ?




















ทุกวันนี้เราพยายามทำเพื่อลูก
แต่ใช้ “ความสุข” ของตัวเองเป็นที่ตั้งหรือเปล่า


เราเลี้ยงลูกเพื่อความสุขของตัวเราเอง
หรือเราอยากเห็นลูกมีความสุขอย่างที่เขาอยากเป็นจริงๆ....

















ผมคิดว่าการเรียนรู้ที่แท้จริงของเด็กตัวน้อยๆ
เกิดจาก



1. สิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเด็ก

2. ครูและการจัดการเรียนการสอน

รวมทั้งสิ่งที่สำคัญมากนั่นคือ....

3. การหล่อหลอมทัศนคติในการใช้ชีวิตจากคนเป็นพ่อเป็นแม่นี่เอง





อย่าผลักความรับผิดชอบทั้งหมดทั้งมวลไปให้ครูและโรงเรียน


พ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดีที่สุดของลูก



ลูกจะโตขึ้นมาเป็นแบบไหน
พ่อแม่นั่นแหละ...ที่ต้องรับผิดชอบด้วย
เราจะปฏิเสธความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้ไม่ได้เลย















โรงเรียนทางเลือกทำให้ผมต้องคอยตอบคำถามอยู่เสมอ
ว่าเป็นอย่างไร ? จัดการเรียนการสอนแบบไหน ?
ทำไมถึงไม่มีการสอบวัดผล ?
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กเก่งหรือไม่เก่ง ?

ทุกครั้งที่อธิบายและตอบคำถามไป
ผมคิดว่าหลายคนคงยังเกิดคำถามค้างคาใจมากมาย....



“ทำไมหมิงหมิงยังไม่หัดเขียนชื่อตัวเองเลย”

“จบจากที่นี่แล้วจะสอบต่อโรงเรียนในระบบได้เหรอ ?”

“อ้าว—ไหนว่ามีครูฝรั่ง ทำไมยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย”

ฯลฯ
















เวลาไปรับลูกกลับจากโรงเรียน
ผมไม่ค่อยถามลูกว่าวันนี้เรียนอะไรมาบ้าง ?
ผมจะถามหมิงหมิงว่า


“วันนี้ไปเรียนสนุกไหมครับลูก ?”


หมิงหมิงจะตอบว่า “สนุกมาก” เสมอ....


สิ่งนี้ผมคิดว่าโรงเรียนได้ตอบโจทย์ของผมแล้ว....



















“สนุกที่จะเรียนรู้ แล้วเด็กจะรักในการเรียนรู้”


















ผมเชื่อว่าเด็กจะเรียนรู้เมื่อพร้อม
ไม่ใช่เรียนรู้เมื่อถูกยัดเยียดและบังคับ

ผมเชื่อว่าหน้าที่ของครูและพ่อแม่
คือการ “เตรียมความพร้อม” เพื่อกระตุ้นให้เด็ก
เกิดความอยากรู้ อยากเห็น อยากแสวงหาคำตอบด้วยตัวของเขาเอง
โดยมีเราเป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “ผู้ชี้นำ” หรือ “ผู้สอนสั่ง”
















ผมจึงคิดว่าการให้ “ความรัก” สำคัญกว่าการให้ “ความรู้”
การให้ “ความศรัทธา” จำเป็นกว่าการให้ “คาดหวัง”
















ผมไม่รู้หรอกครับว่าลูกผมจะโตขึ้นมาเป็นอะไร
แต่ผมรู้ว่าเขาจะโตขึ้นมาอย่างคนที่มีความสุขในชีวิตแน่นอน














*** 5 ภาพนี้ถ่ายมาจากสวนรถไฟครับ













Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 1 มกราคม 2555 7:54:16 น. 106 comments
Counter : 12638 Pageviews.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะอ้ายก๋า
อ่านแล้วประทับใจ และกลับมาย้อนคิดถึงตัวเอง
ความสุขของลูกสำคัญที่สุดจิงๆค่ะ





โดย: MrGiggle IP: 121.219.79.119 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:32:33 น.  

 
อรุณสวัสดิ์เจ้า อ้ายก๋า น้องหมิงหมิง มาดาม..
ขอปรบมือดังๆ หื้อแนวคิดของอ้ายก๋าเจ้า..
..
ไม่คาดหวังว่าลูกผมจะต้องเรียนเก่ง สอบได้ที่ 1 ของชั้น
หรือเขียนอ่าน ก.ไก่ ข.ไข่ เอบีซี นับหนึ่งสองสาม
บวกลบคูณหารได้เร็วๆ.....


ผมอยากให้ลูกมี “ความสุข”


“ความสุขระหว่างการเรียนรู้”



ผมอยากเห็นหมิงหมิง “สนุก” ที่จะได้เรียนรู้



....
โฮงเฮียนอนุบาล ตางนี้ก็บ่าเน้น วิชาก๋าน หื้อละอ่อนเจ้า
ฝึกหื้อละอ่อน ไปเฮียนฮู้ก๋านเข้าสังคม ก๋านอยู่ฮ่วมกั๋นเต้าอั้น
...
น้องเวียงพิงค์ จะเอาเข้าสู่ระบบ โฮงเฮียน ตอนห้า ถึง หก ขวบ โป้นเจ้า
ต๋อนนี้โฮงเฮียน ของเวียงพิงค์ คือบ้าน ป้อแม่ สิ่งแวดล้อม
ตอนนี้หื้อ เขาเติมเต็ม พัฒนาก๋าน ทุกด้านก่อนเจ้า
เชื่อแน่ๆ ว่าถ้าพัฒนาก๋าน ทุกด้านของเขาเติมเต็มแล้ว ความฮู้ทางด้านวิชาก๋าน ต้องไปได้อย่างรวดเร็วแน่นอนเจ้า..

emo


โดย: Mein Schatz วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:48:50 น.  

 
“วันนี้ไปเรียนสนุกไหมครับลูก ?”


หมิงหมิงจะตอบว่า “สนุกมาก” เสมอ....
.
.
.
นึกถึงช่วงแรกๆที่หมิงๆต้องไปโรงเรียนเลยค่ะ
ร้องไห้ทุกวัน งอแงทุกวัน ต่อรองทุกวัน
ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ...อิอิ
สงสสัยทุกวันนี้ขอไปโรงเรียนทุกวันรึปป่าวคะ?
ดูท่าทางจะสนุกและมีความสุขกับการเรียนรู้ในโลกที่กว้างขึ้นนะคะเนี่ย



อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ก๋า
แฮปปี้ตลอดวันทำงานนะคะ


โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:26:19 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

ขอบคุณที่แบ่งปัน
มุมมองและแนวคิด
ระบบการศึกษา
ที่เราในฐานะพ่อแม่
มองเห็นและจัดการได้เองนะคะ

จะมีอีกกี่มากมาย
ที่ต้องทนไปตามระบบการศึกษา
ที่มีอยู่อย่างที่เป็นค่ะ

คุณก๋าลงเลือกตั้งด้วยสิค่ะ ^_^


โดย: A IP: 101.109.155.242 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:31:18 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องก๋า..

อยากไปโรงเรียนบ้างจัง เบื่อทำงานแล้ว..


โดย: poongie วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:43:38 น.  

 


สวัสดีครับพี่ A


การศึกษาที่แท้จริง
ไม่มีผิดถูกเลยครับ
เพราะระบบไหน
ก็นำเด็กเดินทางไปสู่กระบวนการเรียนรู้ทั้งสิ้น

เด็กบางคนชอบเรียนรู้
จะใส่วิชาการลงไปเยอะแค่ไหน
เขาก็รับได้

เพียงแต่ผมก็นึกถึง "ความสุข" มากเป็นพิเศษ
คือ ผมอาจจะผ่านการศึกษาที่เรียนแล้วไม่มีความสุข
ผมเลยให้ความสำคัญในเรื่องของบ
ความสุขระหว่างการเรียนรู้มากเป็นพิเศษน่ะครับ


เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพิ่งนั่งคุยกับแม่น้องคนนึง
เค้าเล่าว่า
ลูกของน้องสาวเพิ่งไปพบหมอเป็นรอบที่สอง
น้องอายุ 8 ขวบมีอาการถ่ายไม่ออก
ท้องผูก...หมอคุยไปคุยมา
ถามไปถามมาได้ความว่าเด็กเครียดมาก
เพราะแม่บังคับให้เรียนและทำการบ้านตลอดเวลา

เด็กเรียนโรงเรียนนานาชาติค่าเทอมแพงมาก
เรียนเสร็จต้องเรียนพิเศษต่อ
ทุกครั้งที่ใกล้สอบเด็กจะยิ่งเครียดเพิ่มขึ้น
เพราะแม่ตั้งความหวังไว้สูงว่าต้องสอบให้ได้ท็อปทรีของชั้น....


แม่น้องที่ผมคุยด้วยบอกว่า
น้องสาวเค้าเหมือนคนที่อยากเอาลูก
มาเป็นเครื่องชดเชยความล้มเหลวในวัยเด็กของตัวเอง
เพราะสมัยเด็กภาษาต่างประเทสไม่ดี เรียนไม่เก่ง

พอมีลูกเลยทุ่มเทเงินทองและเวลา
รวมถึงความคาดหวังใส่ไว้ที่ลูกเต็มๆ....


ผมไม่อยากให้หมิงหมิงเป็นแบบนี้ครับ....

ผมชอบรอยยิ้มของลูก
ชอบแววตาร่าเริงซุกซน
กล้าคิด กล้าพูด กล้าถาม
กล้าที่จะปฏิเสธว่าอยากทำหรือไม่อยากทำอะไรด้วยเหตุผล


ตอนนี้หมิงหมิงสามขวบกว่า
ผมยังไม่เคยสอนแกเขียนชื่อตัวเองเลยครับ 555

















โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:53:56 น.  

 
เรียนอย่างมีความสุข
สนุกที่ได้เรียนรู้

เปิ้นว่า เด็กๆ คงชอบแบบนี้นะคะพี่ก๋า
หมิงหมิงดูมีความสุขเวลาได้ทำกิจกรรมมากๆเลย


โดย: fonrin วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:01:12 น.  

 
ตอนนี้เราก็ลงทะเบียนเรียนใน "มหาวิทยาลัยชีวิต" กันอยู่นะครับพี่ปุ้งกี๋ --- นี่ล่ะค่ะ... อยากถอนวิชานี้.. เหนื่อยเหลือเกิน

ไปลงวิชาใหม่ได้มั้ยคะ...

ท่องเที่ยวศาสตร์ ..


โดย: poongie วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:05:03 น.  

 


อ่าน .. อิ่มเลยค่ะ


ทำงานอย่างมีความสุขนะคะพี่ก๋า






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:07:53 น.  

 
พี่ก๋า
หมิงหมิง ยิ่งโต ยิ่งน่ารักนะคะ


โดย: kwan_3023 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:08:22 น.  

 
โรงเรียน..สนุก
ไปโรงเรียนแล้วมีความสุข

รู้สึกได้แบบนี้น่าอิจฉาหมิงหมิงจริง ๆ ค่ะพี่ ^^


โดย: ฟี่ค่ะ IP: 210.246.90.10 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:23:51 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ก๋า


โดย: raknakubkondee วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:32:09 น.  

 


โรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี
เด็กๆ จะชอบโรงเรียนนะค่ะพี่ก๋า
โรงเรียนที่มีองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่จะทำให้เด็ดมีความสุข
ย่อมเป็นทางเลือกของพ่อแม่ทุกคน


โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:34:11 น.  

 
สุข และสนุกที่ได้เรียนรู้
ทำให้เด็กมีความสนใจอยากเรียนมากค่ะ

ตอนเด็กชาลีถูกดุเวลาเรียนคณิตศาสตร์บ่อยๆ
เลยทำให้รู้สึกว่าเกลียดวิชานี้มากๆ
จนโตก็ยังเรียนได้ไม่มี เพราะใจไม่สนุก
และไม่มีความสุขที่จะเรียนน่ะค่ะ

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าเช่นกันนะคะ


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:36:14 น.  

 

ไม่มีโอกาสมีลูกเป็นของตัวเอง 5 5 5
มีแต่หลานน้อยที่ซนมากมาย

น้องว่า สมัยนี้ผู้ปกครองเป็นผู้กระโดด
ลงไปบนสนามแข่งขันด้านการศึกษามากกว่า
ที่จะถามเด็กๆว่าอยากทำ อยากเป็นมั้ย

โชคดีที่หลานๆของน้องพ่อแม่เค้าไม่สั่งให้ลูกทำ
ไม่ชี้นำให้ลูกเป็น แต่ให้เด็กอยากทำเพราะ
เค้ามีความสุขและรักที่จะทำ

หมิงหมิงยิ่งโตยิ่งน่ารักนะคะพี่กะก๋า


ปล.ทริปเชียงใหม่เชียงรายไม่เป็นความลับค่ะ
แต่ยังไม่ลงตัวเลย


โดย: TheKPP วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:47:42 น.  

 
หมิง หมิง โชคดี ที่พ่อกับแม่ พยายามมองหาในสิ่งที่เป็นความสุข มากกว่าสิ่งที่พ่อ กับแม่คิดว่าดี


โดย: sawkitty วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:48:55 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ

เห็นหมิงหมิงไปเรียนแล้วมีความสุข

ก็ดีใจกับพ่อแม่แล้วค่ะ

เพราะเขาจะมีความรู้สึกที่งดงามกับคำว่า"โรงเรียน"

แน่นอน..สิ่งอื่นเดี๋ยวก็ตามมาเองแหละ




โดย: Calla Lily วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:53:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าคุณก๋าและหมิงหมิงสุดหล่อ

เอาอาหาร อร่อยๆมาฝากค่ะ



emoemo


โดย: iamorange วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:05:50 น.  

 
ถูกต้องที่สุดค่ะสำหรับประโยคนี้ "ผมไม่รู้หรอกครับว่าลูกผมจะโตขึ้นมาเป็นอะไร แต่ผมรู้ว่าเขาจะโตขึ้นมาอย่างคนที่มีความสุขในชีวิตแน่นอน" เห็นด้วยค่ะพี่ก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน เวลาที่คนรอบตัวเรามีปัญหานานาชนิดเข้ามา..พี่จะมีคำถาม ถามพวกเค้าว่า ...สิ่งที่ทำอยู่นี้ทำแล้วยังมีความสุขดีหรือไม่..ต้องตอบคำถามมาก่อน...ถ้าเค้าตอบว่า "มีความสุขเป็นความสุขของเค้า" พี่ก็จะบอกเค้าเสมอว่า แล้วความสุขที่คิดว่ามีนั้นทำให้ตนเองมีความสุขจริงหรือ ถ้าสุขจริงก็จะถามต่อว่า..แล้วความสุขที่ตัวเองสุขอยู่นั้นคนอื่นเค้าทุกข์เพราะเรามีความสุขหรือไม่..ถ้าไม่ ก็ยอมรับในความสุขของเค้าเราก็จะไม่ขัดและยินดีร่วมมือเพื่อให้เค้ามีความสุข แต่ถ้ามีข้อโค้แย้งว่าตนเองมีความสุขแต่คนอื่นเค้าทุกข์เพราะสุขของเรา ก็จะพูดให้เค้าได้คิดและตัดสินใจเองว่าจะทำอย่างไรต่อไป..เพราะชีวิตเป็นของเค้าเราแค่มีหน้าที่ชักนำ แต่เค้าจะทำตามหรือไม่ ก็ไม่ได้คาดหวังเพราะเราไม่สามารถไปบังคับใครให้ทำอย่างที่ใจเราต้องการได้เพราะตัวเราเองก็ยังบังคับตัวเองในบางเรื่องไม่ได้จริงป่ะคะ..

น้องหมิง หมิง หล่อวันหล่อคืนนะคะ เป็นเด็กโชคดีที่มีคุณพ่อคุณแม่แบบคุณกะว่าก๋าและมาดามค่ะ อยากให้ครอบครัวเด็กไทยเรามีคุณพ่อคุณแม่ใส่ใจและตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกและให้สิ่งดีๆ ที่สุดและเข้าเข้าใจลูกแบบนี้ทั้งประเทศค่ะ (หวังเกินไปป่ะคะเนี่ย....555555...) มีความสุขทั้งวันนะคะ..



โดย: deeplove วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:06:31 น.  

 
เห็นด้วยทุกข้อคะ

บางครั้งความใส่ใจก็สำคัญเหมือนกันนะ
เห็นครูที่นี่ใส่ใจนักเรียนขนาดนี้แล้วดีใจแทนอะ
..

ไม่ได้แวะมาเยี่ยมหลายวัน เลยคะ



โดย: แม่อาเดียว IP: 110.49.251.134 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:23:50 น.  

 
วันนี้พี่ก๋าเขียนได้โดนใจมากค่ะ ชอบๆ ขออนุญาตก๊อปไปให้เพื่อนๆ อ่านด้วยค่ะ


โดย: Summer Flower วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:24:31 น.  

 
ผมเชื่อว่า หมิง ๆ โตขึ้นต้องเป็นเด็กดีอย่างแน่นอน ครับ

ปล สวัสดียามเช้า


โดย: อัสติสะ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:24:53 น.  

 
ดูแล้วรู้สึกมีความสุขจังครับที่ได้เห็นพัฒนาการของเยาวชนตัวน้อย ๆ จริง ๆ แล้วต้องขอบคุณน้องก๋าและที่โรงเรียนนะครับที่เพาะบ่มเมล็ดพันธุ์ดี ๆ ไว้ให้กับประเทศของเรา

ตอนนี้ก็ลุ้นหลานอยู่ครับ 6 เดือนแล้วคงจะต้องดูแลเค้าไปอีกนานเหมือนกัน

ช่วงนี้พี่จะกลับนครพนมอีกครั้งครับเพราะอยู่คอนโดนานไปก็เบื่อ


โดย: peeradol33189 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:24:55 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้อก๋า อ่านที่น้องก๋าเขียนแล้วคิดว่าพ่อแม่คงคิดไม่ต่างกัน เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกๆของตัวเอง แม้จะต้องเพิ่มภาระ ในค่าใช้จ่าย เพิ่มเวลาใสการเดินทาง แต่เพื่อลูกรักทำได้ทุกอย่างว่าไหมครับที่สำคัญต้องมั่นใจในความปลอดภัยของโรงเรียนที่จะให้ลูกเราจะเข้าเรียนว่ามั๊ยครับ


โดย: phaclam วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:25:48 น.  

 
ทุกอย่าง .. ถ้าหากว่าถูกบังคับให้ทำมากกว่า
การเต็มใจทำ นั่นย่อมหมายถึงว่า ใจเค้าถูกตีกรอบ
ให้เป็นไปอย่างนั้น และความคิดสร้างสรรค์
มันก็จะเกิดได้ช้าหรือว่ายากมากค่ะ

พ่อแม่ ... เราเชื่อเสมอว่ายังไงก็อยากให้สิ่งดีๆ
กับลูกเสมอค่ะ แต่ว่าบางครั้งก็ต้องดูธรรมชาติของลูก
ตัวเองด้วย และเราเชือว่าด้วยพื้นฐานที่ดี พ่อแม่เอง
ก็คงต้องจัดการอะไรให้กับลูกตามความ "เหมาะสม"
แน่นอนค่ะ


เราขนาดว่าไม่มีลูก มีแต่หลานคือ ข้าวหอม
คนเดียว เรากับแม่ยังคิดแทนพ่อแม่ข้าวหอมเลยค่ะ
ประมาณว่าอยากให้แต่สิ่งดีๆ แต่ว่าเราก็มาฉุกคิดว่า
เราคงไม่ไปบังคับหรือว่าพูดอะไรหรอกเพราะว่า
น้องเค้ายังไงก็ต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวของทาง
น้องสะใภ้ยามน้ำลดลงแล้วที่นครปฐม เราก็คงต้อง
ทำใจกันว่า ก็คงแล้วแต่ทางโน้นและพ่อแม่เค้าล่ะค่ะ
เพราะว่า ... เค้าดูกันมาแต่แรกแต่ก็เชื่อวายังไงเค้าก็คง
จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับเด็กค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:36:13 น.  

 


สว้สดีค่ะ คุณน้องก๋า

newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:36:19 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

ผมรู้ หมิงหมิงจะโตมาเป็นวาฬ



อ่านเรื่องนี้คิดถึงเรื่องการเลือกคู่แต่งงานของชาวฮินดูในอินเดียครับ ทราบมาว่าที่อินเดียพ่อแม่จะเป็นฝ่ายเลือกคู่ให้ลูกชายลูกหญิง(เหมือนคลุมถุงชน)เพราะต้องดูเรื่องวรรณะ ฐานะ หน้าตา บุคลิก
บางคู่ไม่มีโอกาสเห็นหน้ากันเลย แต่ก็ยินดีแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เลือกให้
ผู้หญิงเป็นฝ่ายจ่ายค่าสินสอดให้ฝ่ายชาย
แต่บางคนอาจโชคร้าย ได้สามีที่ทำร้ายตัวเอง บางคนถึงขนาดถูกฆ่าตกรรมโดยการเผาไฟในครัวทั้งเป็น(ทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ) เพียงเพราะครอบครัวฝ่ายผู้หญิงหาเงินค่าสินสอดไม่ได้ตามต้องการของครอบครัวฝ่ายชาย

เพราะวัฒนธรรมที่คิดว่า สิ่งที่พ่อแม่เลือกให้ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด


ตอนนี้เมืองไทยมีโรงเรียนทางเลือกเพิ่มเยอะขึ้น
สมัยก่อนเด็กเรียนโรงเรียนทางเลือกไม่เป็นที่ยอมรับในหลายๆมหาวิทยาลัย เพราะการสอบวัดผลไม่ตรงกับหลักที่รัฐบาลกำหนด

ดอยโชคดีครับ ที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ชี้นำหรือสั่งให้ทำตาม แถมพ่อแม่หนีลูกไปเที่ยวกันตั้งแต่ผมอยู่มอต้นเสียอีก 5555

แล้วให้ผมเลือกทางเดือนชีวิตเอง
ชีวิตมันเลยอิสระมากๆ และชอบที่ออกไปโลกกว้างๆใบนี้
เรียนรู้ในสิ่งที่เราสนใจ
มีความสุขมากเลยครับ กับการที่ได้เลือกทางของตัวเอง


มีญาติผมบอกหลานให้มาถามผมว่า ทำยังไงถึงจะเรียนเก่ง สมองไม่ดี จำอะไรก็ไม่ได้

ผมบอกว่า อยากเก่งหรือไม่เก่ง อยากทำได้หรือทำไม่ได้
อยากให้ชีวิตเป็นแบบใหน ให้หลานเลือกเอง


ให้เด็กๆเรียนรู้ด้วยตัวเอง ให้ตัดสินใจเอง เลือกเองตั้งแต่เด็กก็ดีนะครับ เพราะชีวิตของเขา เขาก็ต้องเลือกได้เองเนอะ




โดย: กลิ่นดอย วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:38:55 น.  

 
ดีใจจังค่ะได้มาอ่านความรู้สึกและความคิดของคุณพ่อคนหนึ่ง

พี่แคทยังคงมีความคิดแบบโบราณค่ะว่าแม่คือคนที่ต้องดูแลอบรมลูกๆๆ
พอได้เห็นผู้ชายสมัยนี้ยอมรับค่ะทึ่ง..เพราะเท่าที่เห็น
ผุ้ชายจะดูแลลูกๆๆซะมากกว่า
แถมดูแลได้ดีกว่าผุ้หญิงซะอีก
เพราะผุ้หญิงเราเดี๋ยวนี้..working women..กันซะมาก
น่าทึ่ง..จริงจริงผู้ชายสมัยนี้



พี่แคทก็ไม่เคยคาดหวังในความที่จะต้องเป็นอะไรในตัวลูกค่ะ
ขอให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์ก็พอละ
และรู้จักสัมมาคารวะกับผุ้ใหญ่
เป็นเรื่องที่พี่แคทฟิกมากเลยค่ะ

เพราะการเคารพผู้ใหญ่ถือว่าเป็นเรื่องดี
ผู้ใหญ่จะถูกผิด..ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาวิพากษ์วิจารณ์
เพราะถึงอย่างไรท่านก็เป็นผู้อาวุโสกว่า
ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง..เราเป็นเด็ก
วิเคราะห์ได้แต่เก็บไว้ในใจ..
ไม่ชอบหน้าแต่เจอะเจอก็ต้องยกมือไหว้..
สำคัญมากค่ะ..สำหรับพี่แคท..
เพราะจะมองถึงพื้นฐานพ่อแม่อบรมเลยละ

พอเราได้เห็นเด็กบางคน..ที่ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ละ
ยอมรับหดหู่ใจค่ะ..ดูน่าสงสารไปเลย


ลูกพี่แคทยอมรับทำได้ดีมากค่ะ
ถึงผู้ใหญ่บ้างคนดูไม่น่านับถือ
ก็ยังแค่ความคิดเขาแบบเด็กๆละน๊า
นี้คือสิ่งที่พี่แคทภูมิใจในตัวเขา
น่ารักที่สูดดดดดดดดดดด

แต่ละบ้านแต่ละครอบครัวจะมีการสอนต่างกัน
ใช่ค่ะเพราะเรามีสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
เพราะฉนั้นการสอนอาจคนละแบบคนละความคิด

พี่แคทไม่เคยในโรงเรียนส่วนมากมีสไตล์การสอนเน้นแบบนี้ค่ะ
ยอมรับว่าดีมากนะ
ภาพเด็กๆๆก็น่ารักมากเลย
ดูมีชีวิตชีวา เดียงสาจัง

ชักอยากจะมีเด็กเล็กๆๆน่ารักละสิ
55555555555


หมิงหมิงเป็นเด็กฉลาดค่ะแถมมีพื้นฐานความรักความอบอุ่นเอาใจใส่
เด็กคนนี้มีคุณภาพแน่นอน
ถ้าพี่แคทยังอยู่ในโลกนี้
ขอคาดหวังที่จะได้เห็นหนุ่มนักธุรกิจรูปหล่อที่โด่งดังในอนาคตนะค่ะ



มีความสุขมากมากนะค่ะ




โดย: catt.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:57:02 น.  

 
คุณก๋าเขียนได้ดี ตรงใจเลยค่ะ ชอบ

เรากำลังใช้คำว่า “รัก” ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า? ... คำถามนี้น่าคิด
ดี พี่ก็ถามตัวเองบ่อย ๆ เหมือนกัน ... รักมาก ก็กลายเป็น "พ่อแม่รังแกฉัน" ได้อย่างที่เขาว่าเนาะ

ถ้าพี่มีโอกาสเลือกโรงเรียนให้ลูก พี่ก็คงนึกถึงบรรยากาศ รอบ ๆ ของโรงเรียนก่อนอื่นเหมือนกัน เพราะสภาพแวดล้อมที่ดี ก็มีส่วนพัฒนาเด็ก ...


โดย: Tristy วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:24:33 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋าครับ
ผมคิดอย่างนี้แหละครับ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา จึงไม่มีความทุกข์
กับเรื่องการเรียนรู้ของลูกเลย

แบบที่คุณก๋าว่า "เมื่อเด็กได้เรียนรู้อย่างสนุก
เด็กก็จะมีความสุขที่จะเรียนรู้ต่อไป"
ไม่ต้องไปบังคับอะไร ถ้าเริ่มต้นด้วยวิธิสมัครใจ
......
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


ลมหนาวมาแล้ว
สมุทรสาครยัง
ร้อนๆ...หนาวๆ
รอว่าจะจัดการกับนังน้ำยังไง



โดย: panwat วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:33:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า...

พูดได้ประโยคเดี่ยวว่า

" ชื่นใจแทนมาดาม และหลานหมิงจริงๆ ค่ะ "







โดย: Mameepee วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:33:31 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า น้องหมิงหมิงน่ารักมากเลยรู้สึกจะอ้วนขึ้นแล้วนะคะ ดูภาพเล่นกีตาร์โห..สุดยอดนะเนี่ย อิอิ อีกหน่อยตั้งวงแน่กิ่งว่าคุณก๋าเตรียมแต่งเพลงไว้ให้ลูกได้เลย 555

สิ่งแวดล้อม ความรัก ความเอาใจใส่สำคัญที่สุดค่ะ คุณก๋าอย่าเพิ่งไปเร่งสมองลูกเลยนะคะ คุณก๋าทำถูกแล้วกิ่งว่า บางคนรีบเร่งให้ลูกได้เรียนรู้ จับอะไรเยอะแยยัดใส่สมองลูกน่าสงสารมากเลยค่ะเด็กล้าเกินกว่าจะรับได้ก็กลายเป็นไม่เก่งไป เตรียมแบบนี้แหละค่ะ ดีแล้วเมื่อพร้อมแล้วเค้าจะเรียนเองค่ะคุณก๋า

ชอบดูภาพน้องหมิงหมิงคุณก๋าเอามาลงอีกได้มั๊ยกิ่งอยากดูเยอะน่ารักดีค่ะ

มีความสุขวันอังคารค่ะ


Tuesday glitter graphics
Glitter Graphics


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:43:18 น.  

 
เห็นด้วยค่ะ ถ้าเป็น fb. จะกดlike ให้ร้อยครั้ง โรงเรียนก็มีส่วนค่ะที่จะหล่อหลอมเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี น้องหมิง หมิงโชคดีค่ะ ที่ได้เรียนอย่างมีความสุข พื้นฐาน หมิง หมิง แน่น ช่วยวัยรุ่นจะไม่เหนื่อยมากค่ะ

การเลี้ยงลูกแบบเอาตัวเข้าแลก เหนื่อย แต่เราจะเห็นพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย แต่ยิ่งรู้มากก็ยิ่งเหนื่อยมากค่ะ ต้องเตรียมทำการบ้านตั้งหลัก(ตั้งสติรับมือค่ะ) โดยไม่ให้มีปัญหาค่ะ

ของตาลเหลืองนายต้นเริ่มวัยรุ่น16 จัดเป็นวัยที่ชอบการเสี่ยง ชอบเรื่องท้าทาย ก็มีเรื่องราวที่พ่อแม่ต้องรับมือทุกขณะค่ะ

เริ่มเช้าวันใไม่อย่าสดใสค่ะ
Photobucket


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:44:31 น.  

 
ตายล่ะ รีบพิมพ์ค่ะ แก้ไข *เริ่มเช้าวันใหม่อย่างสดใสค่ะ*


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:49:06 น.  

 
อยากให้แถวบ้านมีโรงเรียนแบบนี้บ้าง
แต่ก็อาจจะไม่มีปัญญาส่งหลานๆเข้าเรียน เหอๆ

...มีโรงเรียนเอกชนแถวบ้าน
รับสอนพิเศษหลังเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์
สรุปเด็กๆต้องเรียนกันตั้งแต่อนุบาล
ใครไม่เรียนก็กลัวว่าลูกเรียนไม่ทัน สุดท้ายก็ต้องเรียนกันหมด
แต่นาห์ไม่สนับสนุนหลานๆเลยเรื่องนี้
ถ้าใครมาพูดก็จะบอกว่าจะรีบไปไหน เด็กตัวแค่นี้จะยัดเยียดอะไรให้มากมาย
คิดถึงสมัยเราเรียนป.1เทอมแรกก็อ่านออกเขียนได้แล้ว
ไม่เห็นต้องเรียนพิเศษให้เปลืองเงิน
ปล่อยให้เป็นไปตามพัฒนาการของเด็กดีกว่า
เราแค่สอนให้เค้ารู้จักอะไรดี - ชั่ว อะไรควรไม่ควรทำ
ยังไงนาห์ก็ยังเชื่อว่าเด็กจะดีจะเก่งก็มาจากตัวเองและสามัญสำนึกในตัวของเด็กเองเป็นหลัก
แต่คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบนี้ก็แล้วแต่เขา



โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:00:56 น.  

 
พอพี่ก๋าบอกขวัญเลยไปหยิบดูใช่จริงๆค่ะ
เป็นของฝากจากเพื่อนรักซื้อให้เป็นของปลอบใจ
ยามน้ำท่วม เค้าบอกว่าไม่มีตังค์เลยซื้อแบบนี้
พอกับสภาพตังค์ในกระเป๋า
แต่ขวัญชอบนะคะ

คนเป็นพ่อแม่ไม่ว่าเรื่องอะไรของลูก
ก็คือรายละเอียดสำคัญเหมือนกันนะคะ
ขวัญว่านะหมิงหมิงโชคดีที่เกิดเป็นลูกพี่ก๋ากะมาดาม
เหมือนขวัญเล้ยยยยย


โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:08:37 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
แค่หนุ่มน้อยมีความสุขกับทุกๆวันที่ได้ไปโรงเรียน
แค่นี้คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็มีความสุขแล้วใช่มั้ยคะ
เชื่อว่าหนุ่มน้อยโตขึ้นต้องมีเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดแน่ๆเลยค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:15:45 น.  

 
สิ่งแวดล้อมสำคัญกับเด็กมากจริงๆค่ะ
เราเองก็ชอบโรงเรียนทางเลือกแบบนี้

ตอนเด็กๆ เราก็โตมากับสิ่งแวดล้อมการศึกษาที่เคร่งเครียดเหมือนกัน หัดนับเลข เขียนหนังสือตั้งแต่เนิสเซอรี่

ถึงตอนนี้เราจะยังโสด แต่คิดในใจว่าถ้ามีลูกมีหลาน จะสนับสนุนให้เขาเรียนแบบโรงเรียนต้นกล้านี่แหละค่ะ


โดย: รักแรกคลิก IP: 204.136.218.8 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:28:31 น.  

 
หินชจฺโจปิ เจ โหติ อุฏฐาตา ธิติมา นโร
อาจารสีลสมฺปนฺโน นิเส อคฺคีว ภาสติ

คนเรา ถึงมีชาติกำเนิดต่ำ แต่หากขยันหมั่นเพียร
มีปัญญาประกอบด้วยอาจาระและศีล ก็รุ่งเรืองได้
เหมือนอยู่ในคืนมืด ก็สว่างไสว

มีความสุขกับชีวิตที่สว่างไสว ตลอดไป...นะคะ



สวัสดีค่ะ คุณก๋า...

น้ำท่วม เลยทำให้พัสดุถึงมือช้าไปมากทีเดียว
ลืมบอกไปว่า กางเกงนั้น สามารถปรับเอวได้...นะคะ

ดีใจมาก..ค่ะ ที่พัสดุ ถุูกใจเจ้าสัวอ้าย
ฝากบอกเจ้าสัวด้วยว่า อย่าลืมเก๊กท่าถ่ายรูปมาให้ยายดูด้วยเน่อ...

เรื่องการปลูกฝังการเรียนรู้ให้กับอ้ายนั้น พี่เห็นด้วยกับคุณก๋า..ค่ะ

พ่อแม่หลาย ๆ คน เท่าที่พี่ประสบมานั้น
มักจะคาดหวังในการเรียนของลูกมากเกินไป
เคยถามพวกเขาว่า ตกลงลูกจะสอบ หรือแม่มันสอบ (วะ)

มีน้อง ๆ กัลยาณมิตร หลายคน มาปรึกษาปัญหาเรื่องลูก
ครั้นพอเราแนะนำ ด้วยเหตุและผลให้ฟัง เขากลับอึ้ง
และไม่มีใครปฏิบัติตามสักคน...อิ อิ

เพราะพี่มองว่า พ่อแม่ทั้งหลายเหล่านั้น กำลังทำร้ายลูกอยู่
เรียกได้ว่า " พ่อแม่รังแกฉัน " อะไรประมาณนั้น

ลูกต้องเรียนนั่น ลูกต้องทำโน่น
เรียนนั่น ทำโน่น จบออกมาแล้ว จะรวย...รวย
ไม่รู้ว่าความรวยนั้น มันช่วยให้ชีวิตมีความสุขอย่างแท้จริงได้หรือเปล่า

พ่อแม่บางคน แทบจะเข้าไปนั่งเรียนกับลูกเลย
ถามว่าจะรีบกลับไปไหน คำตอบคือต้องกลับไปติวให้ลูก ลูกจะสอบ
ถามว่า อ้าว แล้วไปเรียนพิเศษด้วยไม่ใช่หรือ
คำตอบคือ ใช่ แต่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวไม่ได้เกรด ๓ เอ

พอพี่มีโอกาสได้เจอบรรดาลูก ๆ ทั้งหลาย
ทุกคนต่างมาฟ้องพี่เป็นเสียงเดียวกันว่า เบื่อการเรียนมากเลย
ไม่รู้พ่อแม่จะบังคับไปถึงไหน ในแต่ละวิชาได้ เอ เดียวก็ไม่พอใจ ต้อง ๓ เอ ๔ เอ

พ่อแม่ก็บ่นว่า เวลาอยู่กับพ่อแม่ ทำไมลูกถึงหน้านิ่วคิ้วขมวดได้ทั้งวัน
ทีเวลามาอยู่กับป้าอ้อย (คุณยายอ้อย) หัวเราะ ยิ้มร่าทั้งวัน

เด็กหลาย ๆ คน บอกว่า อยู่กับคุณยายแล้วมีความสุข
ทั้ง ๆ พี่ก็พูดเรื่องการเรียน แถมด้วยการอบรมสั่งสอนพวกเขา
แต่พวกเขากลับมีความสุขที่จะได้รับการอบรมสั่งสอนจากพี่
ถามเด็กว่าทำไม เด็กตอบว่า คุณยายพูดดี ไม่เครียดเหมือนพ่อแม่

พอเวลามีปัญหากับลูก ๆ พ่อแม่เหล่านั้นก็จะโทรมาหาพี่
อยากให้พี่ช่วยไปพูดกับลูก ๆ ของเขาว่า ควรทำอย่างโน้นอย่างนี้
พี่ถามว่า เคยถามเด็กสักคำไหมว่า เด็กมีความสุขกับสิ่งที่พวกเขายัดเยียดให้หรือเปล่า
......ฯลฯ.....

สารพัดปัญหามากมาย ที่พ่อแม่มองแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง
แล้วเด็กที่ไหนจะมีความสุขกับการเรียนรู้ มีความสุขกับการมีชีวิต

บางที พี่ก็มองว่า พ่อแม่เหล่านั้น น่าสังเวช
เด็กพวกนั้น น่าสงสาร

แต่ก็..นะคะ
ลูกใคร ใครก็รัก
วิถีการดำเนินชีวิต แตกต่างกัน
ต่างมุมมอง ต่างความคิดเห็น
แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ทุกคนมีเหมือนกัน
คืออยากเห็นลูกมีความสุข
ทีนี้ก็อยู่ที่วิธีการที่จะทำให้ลูกมีความสุขแล้วล่ะ
ก็ต้องมองให้ลึกลงไปอีกว่า
ไอ้วิธีการนั้น ๆ น่ะ ผลลัพธ์ที่แท้จริงคือความสุขของใครกันแน่...





โดย: พรหมญาณี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:29:18 น.  

 
ไปเที่ยวโรงเรียนกับหมิง หมิงด้วยคนจ๊ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:36:39 น.  

 
สุขไม่สุข..ดูจากเหงื่อกันได้

ฮรี่ๆๆๆ...


โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ IP: 202.91.18.195 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:37:07 น.  

 
สวัสดียามสายๆค่ะ

เอา ขนมหวาน มาฝากค่ะ

emo


โดย: iamorange วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:37:22 น.  

 
เท่าที่ติดตามมาแพทว่าโรงเรียนต้นกล้าน่าเรียนมากเลยค่ะ
มีกิจกรรมมากมายแบบที่รุ่นเราๆไม่เคยได้สัมผัส
ที่สำคัญหมิงหมิงสนุกกับการไปโรงเรียน
ไม่ร้องไห้แล้วคร้าบ


โดย: blueberryblossom วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:41:07 น.  

 
มันเป็นหลักการง่ายๆ เมื่อสนุกก็อยากทำ (เรียนรู้) เหมือนเราเขียนบล็อกนี่แหละ ถามว่าผมเขียนเพราะอะไร ส่วนหนึ่งเพราะสนุกที่ได้ทำ ถ้ามันหมดความสนุกเมื่อไหร่กคงจะเลิกเขียนเมื่อนั้น


“อ้าว—ไหนว่ามีครูฝรั่ง ทำไมยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย”

ผมกลับรู้สึกเหมือนพูดเยาะเย้ยนะ ทั้งที่คนถามคงไม่ได้มีเจตนานั้น

เรื่องการศึกษา ผมให้ความสำคัญที่จำนวนคนในห้อง เป็นอันดับ 1 ครับ มองดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันก่อให้เกิดปัญหามากมายอย่างที่เราคาดไม่ึงเลยล่ะ ซึ่งประเทศไทย ทำไม่ได้ในเรื่องจำนวนคน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:43:19 น.  

 
หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า นองรินเชื่อว่า สิ่งที่พ่อแม่เลือกหื้อลูกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วเจ้า
ด้านการปลูกฝัง

ด้านการเรียนรู้

และด้านการสอน

โรงเีรียนเป็นส่วสนหนึ่งที่ต้องเลือก น้องรินก็เลือกโรงเรียนเอกชนใกล้บ้าน เป็นโรงเรียนที่น้องรินเคยสัมผัส และเรียนมา
น้องรินเลยมั่นใจตรงนี้โตยเจ้า

เดิมที มังกรร้องไห้บ่อยอมไปโรงเีรียน
พอหลังๆ มารีบตืื่น อยากไปโรงเรียนเพราะโรงเรียนมีสิ่งเรียนรู้เพิมขึ้น

พอปิดเิทอมที่ผ่านมาสบายๆ ได้เล่นอยู่บ้านแหม
พอเปิดเทอมใหม่มา เอาแหมแล้วเจ้า ร้องไห้แแหมแล้ว 555
บ่ออยากไป

ตอนนี้ก็เหมือนเดิมแล้วเจ้า ปรัยตัวไปได้เหมือนเดิม

แต่อากาศหนาวนี่แหละทำหื้ออากาศบ่อยากไปโรงเรียนเพิ่มขึ้น


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:54:13 น.  

 
แต่พอมีลูกเรากลับยัดเยียด “ความหวัง” และ “ความฝัน” ใส่ตัวลูก
อะไรที่เราไม่เคยชอบและไม่เคยรักที่จะทำ
เรากลับมอบสิ่งนั้นให้ลูกของตนเอง
^
^
^
มันเป็นจริงบางส่วนนะ

พ่อแม่ที่เมื่อก่อนไม่ชอบเรียนหนังสือ และปัจจุบันรู้สึกเสียดายเมื่อคิดย้อนหลัง
ก็มักจะเคี่ยวเข็ญให้ลูกตั้งใจเรียน เพื่อที่ลูกจะได้มีวันหน้าที่ดีกว่าตัวเอง

แม่พี่เอง ตั้งใจเรียน อยากเรียน แต่ไม่ได้เรียนเพราะต้องออกมาช่วยอาม่าทำมาหากินและดูแลน้องอีก 9 คน
พอมีลูก ความหวังทุกอย่างก็เลยมาโปะที่ลูกหมด
ลูกทุกคนจะถูกเข้มงวดในเรื่องเีรียนมากๆ สมัยประถม ถ้าไม่ใช่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ พี่ไม่มีสิทธิ์ได้ดูรายการบันเทิงเลย จะได้ดูก็แค่รายการข่าวตอนเย็นๆ

เพื่อนคุยเกี่ยวกับหนังหรือละครเืรื่องนู้นเรื่องนี้ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ
ยังดีที่ยอมให้ดูกระบี่ไร้เทียมทานวันเสาร์ แล้วก็ยอมให้อ่านการ์ตูนเล่มละบาทอยู่บ้าง


ไม่รู้นะ สำหรับเรื่องนี้พี่ไม่รู้สึกว่าอึดอัดอะไรเรื่องเรียน เหมือนเป็นชีวิตปกติที่ต้องเรียนหนังสือ ต้องอ่านหนังสือ
ไม่ได้รู้สึกว่าต้องรับภาระจากความคาดหวังของพ่อแม่ รู้ว่าเค้าหวังดี เลยไม่คิดไรมาก
จะหงุดหงิดก็ตอนไม่ได้ดูทีวีนี่แหละ 555

กับลูกๆ จริงๆยอมรับว่าพี่เองก็อยากเอาความฝันของตัวเองไปฝากไว้ที่ลูกเหมือนกันนะ
ตอนเด็กๆอยากเรียนเปียโน แต่พ่อแม่ไม่ได้มีทุนสนับสนุนตรงนี้
พอมีลูกก็อยากให้ลูกเรียนบ้าง แต่ลูกพี่ไม่ยอม ความฝันก็ยังคงเป็นความฝันต่อไป 5555

ส่วนเรื่องเรียนพี่ก็เคี่ยวเข็ญให้อ่านเฉพาะเวลาใกล้สอบ เวลาปกติก็เน้นแค่ให้รับผิดชอบงานของตัวเอง
แต่เรื่องเรียนพิเศษ มันเป็นไปตามกระแสมั้ง
ลูกๆพี่ก็เป็นเด็กประเภทที่ขอเรียนไปหมดทุกอย่าง พ่อแม่มีหน้าที่หาเงินจ่ายแล้วก็คอยรับส่งอย่างเดียว

โรงเรียนทางเลือก พี่เองเห็นด้วยว่าดีมาก

แต่ที่ไม่ดีก็คือ โรงเรียนแบบนี้ไม่มีให้เลือกอย่างทั่วถึง
และถึงมี ก็ไม่ใช่ว่าผู้ปกครองทุกคนจะมีสิทธิ์เลือก เพราะค่าใช้จ่ายสูงกว่าโรงเรียนปกติค่อนข้างมาก


โดย: พจมารร้าย วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:18:18 น.  

 
ใส่ใจของเราในหัวใจของเด็กๆเราจะได้รับสิ่งเดียวกันกลับมา

วันนี้หมิงหมิงหน้าเหมือนนนนมาดามมาก


โดย: ป้าแหม๋วแหม๋วของหมิงหมิง (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:18:50 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า มาดาม และน้องหมิงหมิง ชอบความคิดคุณก๋าค่ะ วัยเด็กเป็นวัยที่สดใส น่ารัก สนุกสนาน ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากๆ ช่วงวัยนี้ ถ้ามีพ่อแม่ที่เข้าใจลูก เข้าใจวัยของเด็ก ปล่อยให้เป็นไปตามวัยแห่งการเรียนรู้ไม่ฝืนไม่เร่ง เค้าคงมีความสุขมาก เพราะเราเองอายุขนาดนี้ ยังอดย้อนคิดถึงวัยเด็กและคิดอยากกลับไปเป็นเด็กบ้างจัง ตรงที่ไม่ต้องแบกภาระมากมายเหมือนวัยผู้ใหญ่นี่เอง เด็กสมัยนี้จริงอยู่ลูกใครอ่านออกเขียนได้เรียนเก่ง พ่อแม่ย่อมภูมิใจ และอยากนำเสนอบอกกล่าว ลูกหิ้วกระเป๋าใบโตไปโรงเรียน มีการบ้านมีกิจกรรมเยอะแยะเกินวัย บางทีพ่อแม่อย่างเราก็ต้องลงไปช่วย จนบางครั้งอยากรู้การเรียนการสอนที่พอดีและเหมาะสมกับช่วงวัยคือประมาณไหน


โดย: หญิงแก่น วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:25:32 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องกิจ

อยากให้นักการศึกษาในเมืองไทยมีความคิดแบบนี้เยอะๆๆ

มีประเด็นหลักๆที่เห็นพ้องกัน 2 ประเด็นคือ
พ่อแม่มีบทบาทสำคัญมากในการเรียนรู้ของเด็ก ถึงแม้เด็กจะรัก ศรัทธาในตัวครูแค่ไหนก็ไม่สามารถแทนที่พ่อแม่ได้ทั้งหมด

และ เด็กมีความสุขในการเรียนรู้นอกห้องเรียนมากกว่าในห้องเรียน แต่ถ้าสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ก็สามารถจัดกิจกรรมการเรียนให้หลากหลาย เด็กก็จะมีความสุขในการเรียนได้เหมือนกัน

หมิงหมิง เป็นเด็กโชคดี มีคุณพ่อคุณแม่ที่เข้าใจความต้องการของลูก ได้เรียนในโรงเรียนที่เข้าใจความต้องการของเด็ก แต่ยังมีเด็กอีกเยอะแยะมากมายที่ต้องไขว่คว้าในสิ่งที่ไม่มีใครหยิบยื่นให้ ( โอ้โห ! ซึ้งเหมือนกันนะเนี่ย แหะแหะ ) น้องกิจคิดว่าจะทำยังไงดี




โดย: พี่หมู IP: 125.27.8.135 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:31:08 น.  

 
สวัสดีเจ้าคุณก๋า
ก๋านนักเจ้า ป้นวันนี้ไป เพลา ๆ ละ
บ่ายนี้มีมอบทุนการศึกษาละ่อ่อนทุนละ 5,000
44 ทุน 44 โรงเรียน ทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่เจ้า
ประสานตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ
ค้า้งแต่ละได้เป็นประธานในพิธีบะดาย คิคิ

ประโยคหนึ่งคุณก๋าเหมือนปี้เลย
เวลาตี้น้องเต็นท์กลับเข้าบ้าน
หลังจากเลิกเรียนตี้ปริ๊นส์ หรือที่เรียนพิเศษ
ปี้จะถามตลอดว่า เรียนเป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ยลูก
ก่อนตี้จะถามต่อว่า วันนี้การบ้านมีมั้ย อิอิ

เรื่องพัฒนาน้องเต็นท์ เต้าตี้สังเกตุ
จากตี้ครูมาสอน แล้วเอากอยสอน
ปี้ว่า ปี้ดันน้องเต็นท์ขึ้ั้นชั้นเรียนเร็วไปแต้ ๆ เจ้า
เหมือนเอาเด็ก ป.1 ไปสู้เด็ก ป.2
น้องเต็นท์เรียนรู้ของเด็ก ป.1 ได้ดีเลยทีเดียว
และทั้ง ๆ ที่แกควรจะอยู่ ป.1 มากกว่า
ปี้บะน่าเลยแต้ ๆ เฮ้อ...

ส่วนความเป็นไฮเปอร์นั้น ยังคงมีตามปกติ
แต่ต้องค่อย ๆ ปรับแกไป นอนนักขึ้น กิ๋นนักขึ้น
แต่ก่เรียกร้องความเป็นส่วนตั๋วนักขึ้นตวยเจ้า
ต่อรองแม่มันตึงวัน ถ้าเต่นเต็นท์ทำเสร็จ แม่จะให้ทำอะไรต่อ

เต็นท์ขอไปเล่น ขอเล่นเกมส์ ขอดูนารูโตะ ขอๆๆ
อะหยังก่ได้ตี้บะใจ๊โปรแกรมตี้แม่มันบรรจุไว้
บางทีก็หื้อ บางทีก็บังคับ ตามสถานการณ์เจ้า
ก่มีฉ้งเฉง ง้องแง้ง ได้ตลอด ก้อย ๆ ปรับไป อิอิ

ร้านปกติ เรื่อย ๆ เจ้า
กำลังเซาะหาฮ้านตี้ฮับทำเสื้อ จะทำเสื้อหื้อพนักงาน
เผื่อเพื่อน ๆ และลูกก้าตวยเจ้า
และ โครงก๋านของคุณตัน ตี้สี่แยกรินคำ
ผ่านก๋านคัดเลือกรอบหนึ่งละ หันอ้ายเต้ยว่า
เปิ้นจะมีกรรมการขึ้นมาคัดเลือก ร้านตี้จะืหื้อร่วม
โครงการแห๋มรอบ คราวที่ทำส่งไปตามตี้เปิ้นจวนมา

จ๋นถึงบะเด่ว ยังสองจิตสองใจ๋อยู่หนา
ว่าจะมีกำลังคนไปกอ ต๋อนนี้กะหาลงตัวเรือ่งกำลังคนตี้ฮ้าน
กับปี้เลี้ยงน้องแต๊งค์ แยกช่วงกลางวันกลางคืน
ปี้ยังสองกะเหมือนเดิม 55555
มะวันอยู่ตางนอก มะคืนยะก๋านในบ้าน

ถ้าหันปี้แอ่วหนา บะต้องขอยเน้อ หื้อรางวัลกับชีวิตผ่องเนอะ
เพราะวัน ๆ บะได้ดูหนัง ฟังเพลง กับเปิ้น หิหาหื้อลูกลูกเดียว
ถ้าได้ล็อกตี้สี่แยกรินคำแต้ คงต้องมาจัดการกำลังคนใหม่

อนาคตก่อดูน่าจะดี ดูธุรกิจของคุณตันตี้ผ่านมาตวยเจ้า
ปี้ว่าเปิ้นสู้ เปิ้นยะหยังคงบะเจ๊งง่าย ๆ
แห๋มอย่าง แถวนั้นกำลังจะทำถนนคนเดินต้นแบบ
สุดสายถนนนิมมานห์ ทำถนนมุดใต้ดิน จากสี่แยกรินคำ
ทะลุถึงสาธารณสุข บะฮู้โครงก๋านเริ่มมะใดหนา
แต่หันนายปี้เปิ้นเล่าหื้อฟัง ว่าขยายข้างละ 3 เมตร เป็น 6 เมตร
ตี้ข้าง ๆ เวรคืน จ่ายเงินไปหมดแล้ว ปี้ก่เช็คคนตี้อยู่แถวนั้น
มันก่แต้ ได้ฮับเงินเวนคืนไปแล้ว

ว่าจะลองสู้ซักตั้ง บะดี ก็ปิ๊กมาตั้งหลักตี้ฮ้านต่อ
แต่ก๋านตี้ชมรมฯ ยังบะละเตื้อหนา ใจฮักอยู่ 555



โดย: JinnyTent วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:32:20 น.  

 
พ่อก๋ายังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับ กว่าจะถึง 15 ปีเหมือนน้องดุ๊กลูกผม

ว่าแต่ส่งคำถามสดถามกูรูคนเก่งดีกว่า..ว่า แต่งงานครบรอบ 20 ปีวันนี้ (เมนท์ 34) ควรพาภรรยาไปฉลองที่ไหนดี

นัดกันไปกินปลาเผานะ แล้วจะให้พาไปร้านขายแหวนเพชร...

โอ้...อ้า..ทำไงดี 5555555555


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:32:23 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า อ่านจบก็กดโหวตให้เลยค่ะ
ถือว่าเป็นทัศนคติที่ดี มากๆของคุณพ่อคุณแม่
ที่หาโรงเรียนทางเลือก ให้ลูกๆของเรา
เป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ไว้ได้ดีสำหรับเราเห็นด้วยนะค่ะคุณก๋า


โดย: tui/Laksi วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:44:33 น.  

 
สนุกที่จะเรียนรู้ แล้วเด็กจะรักในการเรียนรู้
...
ผมจึงคิดว่าการให้ “ความรัก” สำคัญกว่าการให้ “ความรู้”
การให้ “ความศรัทธา” จำเป็นกว่าการให้ “คาดหวัง”
...
ใช่ค่ะ นู๋ก้อเชื่อว่าหมิงๆ จะโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความสุข
...
รู้ไหมค่ะ ทำให้มองย้อนไปถึงเรื่องราว ที่พี่ก๋ายังไม่ได้ไปเจอภูเขาเหล่านั้นที่จีนค่ะ พี่กดดันตัวเองอย่างมากมาย (ขอโทษนะคะ แต่ในความรู้สึกที่นู๋มี มันรู้สึกแบบนี้จริงๆ หากใช้คำพูดว่า กดดัน ไม่ถูกต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พี่ก๋า^^)
แต่วันนี้หมิงๆ มีความสุขมากมากนะคะ
...
มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:02:51 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

ผมเชื่อว่า หมิงหมิง ต้องโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่สร้างความสุขให้กับตัวเองและคนรอบๆตัวแน่ๆครับ ความสุขของชีวิต

"...ผมเชื่อว่าเด็กจะเรียนรู้เมื่อพร้อม
ไม่ใช่เรียนรู้เมื่อถูกยัดเยียดและบังคับ..."

ขออนุญาติชื่นชมครับสำหรับพี่ก๋าและแฟนพี่ก๋าด้วย

ผมเคยเจอครั้งหนึ่งที่หน้าร้านจักรยาน แม่พาเด็กน้อย(ยังเด็กมากครับ)มาเลือกซื้อจักรยานเด็กและสุดท้ายต้องเลือกระหว่างสองคัน ซึ่งแม่ซึ่งค่อนข้างวัยรุ่นก็ให้ลูกน้อยเลือกเองโดยเห็นได้ชัดว่าต้องการสอนให้คิด..ให้ตัดสินใจ..แต่เมื่อลูกเลือกคันที่ผู้ใหญ่มองออกว่า ไม่ดีเท่าอีกคันหนึ่ง ก็บอกกับลูกว่าเอาคันนี้ดีกว่า มีอย่างนู้นอย่างนี้ ดีกว่าคันนั้นอย่างนั้น สุดท้ายก็ตัดสินใจแทนลูกครับโดยให้ลูกรู้สึกว่าลูกได้เลือกแล้วและเลือกเอง...

ผ่านมาหลายปีผมยังจำได้เลยครับ สงสัยในใจมาตลอด...

ยัดเยียด...บังคับ...เรียนรู้...

แต่สำหรับผมเลือกคันไหนก็ดีครับ ขายได้เงิน


โดย: เงามืดในประวัติศาสตร์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:38:12 น.  

 
หมิงหมิงจะตอบว่า “สนุกมาก” เสมอ....

คำเดียวโดนใจ แบบนี้แหละค่ะ ที่เด็กต้องการ ^^


โดย: wayoflife วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:42:23 น.  

 
หมิงหมิง เรียนสนุก มีความสุข
หลับยังฝันถึงความสนุก
ละเมอเรียกชื่อเพื่อนๆ 555
งวดนี้อะไรครับ น้องหมิงหมิง
สวัสดีพักเที่ยงครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิงหมิง


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:55:56 น.  

 
โรงเรียนทางเลือก ...ความสุขของใคร
ก็ความสุขของลูกไงค่ะ เมื่อลูกมีความสุข
พ่อแม่ย่อมจะมีความสุขไปด้วยค่ะ


โดย: kapeak วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:59:53 น.  

 
นั่นนะสิค่ะ คุณก๋า ตาลเหลืองกำลังคิดอยู่ไม่น่าเปิดช่องเล้ย ...เมื่อวันอาทิตย์ คุยกันเรื่อง หนังสือเนชั่นแนลจีโอ ฉบับที่ว่าล้วงลับวิทยาศาสตร์ใหม่เผยอัศจรรย์ในสมองวัยรุ่น นายต้นจึงหยิบเป็นประเด็นขอ ทำเรื่องเสี่ยง เรื่องนอกกรอบ เพราะนักวิจัยชี้ให้เห็นถึงผลดีของพฤติกรรมการเสี่ยงในวัยรุ่น

ตาลเหลืองว่าก็ต้องให้เสี่ยงโดยเราดูแลอยู่ เพราะคนเก่ง ๆ หลายคน ตอนวัยรุ่น ก็แสบซ่าทั้งน้าน...อย่างคุณสรยุกต์ บก.นิตยสาร aday หรือแม้แต่ตัวคุณก๋าเองก็เถิด


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:06:22 น.  

 
อ่านที่หมิงหมิงพูดแล้วยิ้มตามมาดามกับคุณก๋าเลยค่ะ


โดย: blueberryblossom วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:06:47 น.  

 
สวัสดีครับพี่หมู


โจทย์ของพี่หมู
ตอบยากมากครับ
ว่าจะทำอย่างไร
เราถึงจะพัฒนาการศึกษาให็เด็กได้รับโดยทั่วถึงกัน

ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของ "ความเท่าเทียม" ในด้านการศึกษา
ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย
เหมือนกับ สส.เวลาบอกว่า
จะทำให้เคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าเทียมกัน
มันเป็นเรื่องโกหกนะครับ 5555

เพราะนิ้วห้านิ้วของเรายังไม่เท่าเทียมกันเลย

คนมีเงินส่งลูกเรียนนานาชาติเทอมละแสนห้า ปีละล้าน
คนไม่มีเงินมากเท่า ก็ต้องรับสภาพในการเรียนใน โรงเรียนรัฐ

ผมมองไปที่เรื่องของโอกาสในการเข้าถึงความรู้ครับ

ถ้ารัฐบาลและพ่อแม่
เข้าใจหลักการตรงนี้
ไม่ว่าลูกจะเรียนอะไรก็พอกล้อมแกล้ม
ให้ความรู้นอกห้องเรียนกับลูกได้บ้าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิต หรือการศึกษา

แต่ถ้าพ่อแม่บอกว่าไม่มีเวลาเลี้ยงดู
เพราะต้องทำมาหากิน
อันนี้เหนื่อยเลยนะครับ
เพราะหลุดจากพ่อแม่ก็เหลือครูเท่านั้นเองที่จะบ่มเพาะลูกได้

เรื่อง "เงิน"...ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ
แต่ไม่ไ่ด้สำคัญมากกว่า "เวลา"
และ "ทัศนคติ" ที่พ่อแม่มีต่อการศึกษา

พ่อแม่รวยพันล้าน
ก็ทำแต่งานโดยไม่สนใจลูกได้นะครับ
ถ้าเป็นแบบนี้
ต่อให้ส่งลูกเรียนนานาชาติ
เด็กก็อาจไม่มีความสุขในการเรียนรู้ได้....

ต่างกันถ้าเด็กเรียนในโรงเรียนวัด
แต่เด็กรักในการเรียนรุ้ ขยัน อดทน
ถ้าได้เจอครูดี พ่อแม่เข้าใจสนับสนุน

ผมว่าคุณภาพการศึกษาของเด็กคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าลูกเสี่ยพันล้านเลยครับ


เพราะฉะนั้นผมมองว่าเรื่องของ "ทัศนคติ" สำคัญกว่า "เรื่องเงิน" ครับ

แล้วพ่อแม่ต้องทำงานร่วมกับครู

พัฒนาคุณภาพครู

โดยน่าจะเริ่มต้นที่ทัศนคติในการสอนเด็ก
สร้างครูที่มีความเป็นครูอย่างมืออาชีพน่ะครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:12:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า และหมิงหมิง

เป็นการปลูกฝังให้ลูกรักเรียน อยากไปโรงเรียนดีค่ะ
เมื่อเขาโตขึ้นเขาก็จะคิดได้เอง
ถ้าบังคับจะทำให้เขาไม่อยากทำ ไม่อยากไป

หมิงหมิงเหมือนเจ้าพ่อเซี้ยงไฮ้
vote ให้หมิงหมิงค่ะ



โดย: pantawan วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:13:21 น.  

 
จริงค่ะ คุณก๋า ถ้าพ่อ แม่ ใส่ใจ ตอนนายต้นเล็ก ๆ ตาลเหลืองจะโทรหาครู ประจำชั้น ไม่ได้โทรถามเรื่องเรียน โทรถามว่า ลูกเล่นกับเพื่อนหรือเปล่า คุยกับคุณครูมั๊ย ประมาณเนี่ยะค่ะ
ขนาดม.1 ก็ยังโทร ช่วงนั้นเพื่อนสนิท เขาย้ายโรงเรียนค่ะถาม ต้นท่าทีเหงามั๊ย ครูบอก ร่าเริงแจ่มใส เข้ากับเพื่อนได้ดี

เหนื่อย แต่สนุกค่ะ การเลี้ยงลูก (วัยรุ่น)


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:38:13 น.  

 

พอครูให้สวดมนตร์เสร็จ
ท่านเจ้าประคุณก็หลับปุ๋ยเลยครับ 5555

.................

อ่า..นะ
สมกับเป็นลูกพ่อก๋า เป็นหลานยายปอป้าจริง ๆ..อิ อิ

จะมีเด็กสักกี่คน..คะ
ที่พ่อแม่สอนให้สวดมนต์ก่อนนอน

ส่วนใหญ่ที่เห็น ก็ กู๊ดไนท์
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์...จุ๊บ จุ๊บ

พี่บอกให้หลานสาวที่แม่ริม
สอนให้เหลนน้อยสวดมนต์เหมือนกัน..ค่ะ

ขานั้นก็ช่างถามมาก
นะโม ตัสสะ พระไปไหนแล้ว..คะ
ภควโต พระนอนหรือยัง....555

มีหลายสิ่งที่พ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ทำหล่นหายไป
ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ หรือแววตาอันสดใสของเด็ก
นับว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก
เพราะเวลาผ่านไปแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้

เลี้ยงเจ้าสัวอ้าย อย่างนี้แหละ..ค่ะ
พี่เห็นด้วย และสนับสนุนเต็มที่
บ้านเรา ครอบครัวของเรา จะประหลาดไปสักหน่อยในสายตาชาวบ้าน
ก็ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติดีกว่า

เรามีสิทธิเลือกให้กับลูกของเรา
ระหว่าง ปกติ อย่างคนทั่วไป
หรือ ปกติสุข อย่างที่เราและลูกต้องการ

เรื่องเลี้ยงลูกตามวิถีแห่งธรรมชาตินั้น
สมัยที่ลูกของพี่ยังเล็ก ๆ อยู่ พี่ทะเลาะกับสามีบ่อย..ค่ะ

ขานั้น เหมือนชาวบ้านทั่วไป คือชอบคาดหวังในตัวลูก ๆ
ต้องเรียนนั่น ทำโน่น ไม่ทำตามก็อารมณ์เสีย
กว่าจะรู้ตัวว่าเลี้ยงลูกผิดวิธี ก็เกือบจะสายเกินแก้ไปแล้ว

สำหรับพี่ ความสุขและความถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อลูกมีความสุขอยู่บนความถูกต้องแล้ว
เราผู้เป็นแม่ ก็พลอยมีความสุขไปกับเขาด้วย

ไม่เคยคิด เอามาตรฐานของตัวเองมาเป็นเครื่องกำหนดหรือวัดกับลูก

พี่จะปล่อยให้ลูก ๆ ดำเนินชีวิตไปตามที่เขาต้องการ
แต่จะคอยประคอง แนะนำในสิ่งที่ถูกที่ควรให้เขาเห็นให้เขาเข้าใจ
ผิดถูกอย่างไร ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ให้เขารู้จักคิด
ถ้าเขาไม่มั่นใจ เขาจะกลับมาหาเราเอง

ทุกวันนี้ พี่เป็นทั้งแม่ เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นศิราณี
และตอนนี้มีตำแหน่งใหม่ให้ด้วย
คือเป็นเนิสเซอรี่ คอยเลี้ยงหมาที่ซนยิ่งกว่าลิงให้เขา
ยามที่เขามากรุงเทพฯ แล้วไปทำธุระที่ไหน ๆ

ประมาณว่า ยังไม่มีหลานเป็นคนให้เลี้ยง
ก็เอาหลานที่เป็นหมา ไปเลี้ยงก่อนละกัน...555





โดย: พรหมญาณี IP: 124.120.197.237 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:54:19 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณก๋า มีอะไรก็ถามได้นะคะ กิ่งพอจะรู้ที่เที่ยวอยู่บ้างค่ะ
มาดามคงอยากให้น้องหมิงหมิงเก่งวิชาเหมือนคนอื่นๆที่อยากให้ลูกรู้เร็วๆน่ะค่ะคุณก๋า

แต่อีกหน่อยกิ่งว่าน้องหมิงหมิงต้องเรียนเก่งแน่ๆค่ะ




More Flowers Wishes Comments


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:54:40 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

หมิงหมิงได้เรียนรู้ด้วยการเล่นแบบนี้ดีจังค่ะ
แต่ละวิธีที่เล่น ได้เรียนรู้ในหลายวิชา
จับมีดไว้มั่น ได้สมาธิจดจ่อกับการหั่น ได้รู้จักชนิดของผักผลไม้
ได้ทำงานเป็นกลุ่ม ช่วยกันทำคนละไม้ละมือ
และได้รู้วิธีปรุงและชิม อร่อยด้วยมือตัวเอง

ที่บ้านพี่ก็มีมุมการเรียนรู้นี้ในครัวค่ะ
ช่วยกันทำ ช่วยกันชิม เด็กๆก็ได้เล่นสนุก
เลอะบ้างไม่เป็นไร เขาได้เรียนรู้




โดย: แอมอร IP: 182.52.114.180 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:18:49 น.  

 
โรงเรียน หมิง หมิง น่าเฮียนขนาด
คนไทยบางทีกะบ่ามีทางเลือกตี้จะเลือกโรงเรียนหื้อลูก
ต๋อนน้องภูมิเข้าอนุบาลป่ามีก๋านบ้านบ่ามีก๋านสอบ
ปอรุ่นภูริ ใด้หนังสือเฮียนฟรีบ่า บ่าฮู้ว่าโจกดีกะว่าโจกร้าย
ก๋านบ้านเพียบ แถมมีสอบอีก
ภูริเขียนจื้อกับนามสกุลเป็น ตั้งแต่อนุบาล
ดีหนาจื้อสั้นแต่นามสกุลยาว 555
บ่าเดี่ยวละอ่อนต้องท่องสูตรคูณถอยหลัง ท่องปรกติแม่มันยังจะท่องบ่าใด้เลย

ปล.วันนี้หมิง หมิง แอ๊บถ่ายฮู้ปสู้น้องเวียงพิงค์ใด้เลย เห็นฮู้ปวันนี้แล้วกะอดอมยิ้มบ่าใด้


โดย: BongKet วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:36:40 น.  

 
ขอบคุณนะคะ พี่ก๋า ^^
ที่โหวตให้นู๋


โดย: Nissan_n วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:46:03 น.  

 
สวัสดีครับน้องก๋า

มาอ่านอย่างละเอียดจนจบเลยครับ ^^

คิดเหมือนกันนะครับว่าจะไม่บังคับลูกให้ได้ความรู้เยอะๆ

ให้เก่ง ฯลฯ แต่อยากให้เขามีความสุขครับ

ถ้าเราไม่หวังแต่ให้ความเชื่อมั่นกับเขา

ชีวิตเขาก็จะพบกับความสุขครับ

จะทำงานก็สุข จะเรียนก็สุขได้

หรือถ้ามีทุกข์เราก็จะสอนให้เขาเรียนรู้มัน

ให้เป็นชีวิตที่สมบูรณ์ครับ






โดย: วนารักษ์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:05:20 น.  

 
พี่ไม่ใช่ครูคะ
แต่ได้มีโอกาสไปสอนเด็กชาวบ้านในโรงเรียนที่เชียงใหม่
รู้ไหมเด็ก ๆ สนุกกับการที่ได้เรียนรู้
พี่ก็สนุกกับการหาอะไรมาสอนเด็ก ๆ
สิ่งที่ชอบมากเมื่อสิบปีก่อน คือการให้เด็ก ป.2 หล่อปูนพาสเตอร์และระบายสีกันเอง

สนุกมากคะ สมัยนั้นยังไม่มีวัตถุชิ้นนี้ขายให้ระบายสีเป็นการทั่วไป

ตอนแรกสอนแค่ ป.2 ไป ไป มา มา สอนทั้งโรงเรียนคะ
เพราะเด็กโตกว่าก็สนใจ

อุปกรณ์ทั้งหมดเราซื้อ ออก คชจ.เอง
แต่แลกกับสิ่งที่เด็กได้รับ คุ้ม!!!


โดย: aenew วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:46:09 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกิจ&ming ming&มาดาม&ทุกๆท่านค่ะ

Congratulations! Happy Birthday !!
อวยพรวันเกิดย้อนหลังหนึ่งวันให้หลานสาวคนสวยของคุณกิจนะคะ
ขอให้มีความสุขมากๆ น่ารักๆต่อพ่อแม่และญาติๆ อิอิ

เรื่องโรงเรียนทางเลือกนี่ พี่เห็นด้วยค่ะ น่าจะมีเยอะๆทั่วไทย แต่ราคาแพงนี่ พ่อแม่หลายคนคงสู้ไม่ไหวน่ะ?
หมิงหมิงต้องเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขและเป็นคนที่เปี่ยมคุณภาพคับแก้วแน่นอนอยู่แล้วค่ะ

เรื่องเรียนเขียนอ่านนั้น ไม่ต้องรีบเร่งค่ะ เพิ่งสามขวบเอง
ลูกพี่ยังเรียนตอน7 ขวบเลยค่ะ แต่ทีเดียวทั้งไทย- ดัตท์
พอเขาโตขึ้นที่ร.ร.มีให้เรียนอะไร เขาก็ต้องเรียนเพิ่มเอง
อังกฤษ,ฝรั่งเศส,เยอรมัน นี่ก็อ่านได้ พูดได้ เขียนได้
พอที่จะปีนกำแพงได้ หรือทะลุกำแพงไปหาเพื่อนๆได้มั่ง555
พี่ว่าพ่อแม่เราแค่เป็นที่ปรึกษาให้ลูกว่าเขารักอะไร ชอบอะไร ถนัดทางไหน?มากกว่าจะไปบังคับให้เขาเรียนโน่นนี่
ไม่ควรคิดทุกๆเรื่องแทนลูก...หรือตัดสินใจแทนลูกไปหมด
บางเรื่องปล่อยให้เขาคิดด้วยตัวเองบ้าง(ทุกวัย)
เขาจะได้ค้นพบตัวเอง และเลือกทางเดินของเขาเองต่อไป
ที่สำคัญเด็กจะมีความสุขในการตัดสินด้วยตัวเอง

เรื่องเรียนพิเศษพี่ก็ไม่เห็นด้วย เรียนทั้งวันที่โรงเรียนแล้ว
เอาเวลาไปเล่นกีฬา ไปออกกำลังกายจะดีกว่า จะได้สนุกๆ
ควรให้อิสระในทุกๆเรื่อง อย่าทำให้ลูกรู้สึกกดดัน
การพูดคุยและมีเวลาให้ลูกนั้นจะทำให้เขากล้าพูดคุยทุกๆเรื่อง คือต้องรับฟังให้จบ ครอบครัวจึงจะอบอุ่นค่ะ

การเลี้ยงดูแลลูกนั้น ยากง่ายตามแต่ที่พ่อแม่แต่ละคนจะตั้งความหวังไว้ยังไง? ...ชีวิตเป็นของเขาเราอย่าไปบงการทั้งหมด ตัวเราเองยังชอบความมีอิสระเลย
พี่ไม่เคยรู้สึกว่าเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกนะ มีความสุขมากๆ
ยิ่งเขาโตเรายิ่งมีความสุขขึ้น เขาช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
คิดว่าสักวันลูกนกโต เขาคงบินออกไปสร้างรังของตัวเอง
ก็เหมือนกับเราแหละ ที่พ่อแม่ห่วงน้อยลงเมื่อเรามีครอบครัว มีคนรัก มีคนดูแลเรา นี่แหละชีวิตคนเรา 555


โดย: ชัญญา IP: 88.159.126.165 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:55:59 น.  

 
หมิงหมิิงโชคดีจริงๆค่ะ


โดย: ดอกไม้หน้าฝน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:08:28 น.  

 
สบายดีค่ะคุณก๋า...แบบว่ากำลังสนุกกับสวนสยามทะเลกรุงเทพอยู่อะค่ะ ฮ่ะๆๆๆ (บ้านแม่อะค่ะ บ้านเราไม่ท่วม อิอิ)


โดย: wayoflife วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:09:05 น.  

 
สวัสดีครับพี่ชัญญา



ความจริงช่วงนี้
โรงเรียนมีจัดสอนเพิ่มเติมนะครับ
แต่ผมดูแล้ว
มันคาบเกี่ยวเวลาทานข้าวของหมิงหมิงครับ
เลยไม่ได้เรียน 555

ช่วงนี้กินข้าวดี
เลยเลือกกินข้าวก่อนครับ 555

เรื่องเรียนไว้ทีหลังครับ 555






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:45:27 น.  

 
หวัดดีค่ะน้องก๋า

ช่วงนี้ไม่ได้แวะมาหาเลยยุ่งๆอ่ะค่ะ

น้ำบ้านพี่ลดแร้ว เหลือรอยคราบให้จัดการเยอะแยะเลย

เห็นเฟสบุควันก่อนเอารูปหมิงหมิง กับมาดาม
ตอนหมิงหมิงเด็กๆ มาลง น่ารักเชียวค่ะ






โดย: nok_noyly วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:27:31 น.  

 

สวัสดีอีกครั้งค่ะน้องกิจ

ขอบคุณมากสำหรับคำตอบ คงต้องใช้เวลาอีกนานมากที่จะพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพ ไม่ใช่แค่คนที่มีอาชีพครูนะคะ




โดย: พี่หมู IP: 182.53.197.87 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:55:31 น.  

 
กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ ที่ทำงานสมัยก่อนเจ้านายญี่ปุ่นรักลูกน้องมากๆพาไปกินอาหารญี่ปุ่นดีๆตลอดเลย

ถึงเวลาพักเที่ยงปุ๊บ ต้องไปกินอาหารกันทุกคน เขาบอกว่า...เวลาหิวๆจะทำอะไรได้ไม่ดีเท่าที่ควร จะหงุดหงิดง่าย

พูดถึงเรื่องกิน พี่เริ่มจะหิวๆอีกแล้วน่ะเนี่ย 555
กินอะไรดีน๊า? ซุปเด็กหมิงหมิงดีเปล่า?
จะได้ฉลาดเหมือนหมิงหมิงและอารมณ์ดีด้วย

ยังมีเวลาเรียนอีกทั้งชีวิต...ไม่ต้องรีบหรอก อิอิอิ
ป้าออกกำลังเสร็จ หิวอีกแล้ว ไปก่อนนะครับหมิงหมิง
จุ๊บๆๆ เป็นเด็กดีน่ะ และกินอาหารเยอะๆจะได้โตไวๆ


โดย: ชัญญา IP: 88.159.126.165 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:09:54 น.  

 
หลับฝันดีนะคะพี่กำ



โดย: ญามี่ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:33:12 น.  

 
หมิงๆชอบศิลปะไหม น่าจะได้พ่อนา... ว่านน่ะก้อเอียงทางพ่อเขานะน้องก๋า


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:48:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ

โรงเรียนทางเลือกของหมิง หมิง ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปโฮมสคูลในวัยก่อนเข้าเรียนชั้นประถม

แต่โรงเรียนของฉันเป็นสวนผลไม้ผสมผสาน มีคลองแทนสระว่ายน้ำ มีวิถีธรรมชาติเป็นครูสอน

ช้อนปลาเข็มในท้องร่อง ขุดจิ้งหรีดมาปั่นเล่น ช่วยเก็บผลไม้ในสวน เป็นกิจกรรมประกอบการเรียน

วัดใกล้บ้านคือสถานที่ซึ่งได้ไปทัศนศึกษา ทุกวันพระ
มีเพื่อนร่วมห้องเรียนเป็นลูกคนงาน กับเด็กๆในละแวกสวน

อ้อ แถมคุณย่าฉันที่เป็นครูใหญ่ ก็เรียนจบแค่ชั้นประถม เลยสบาย ไม่ต้องท่องA แอนท์ มด B เบิร์ด ธงชัย

เป็นโฮมสคูลที่สนุกมากกกก

ไม่ต้องสิ้นเปลือง แต่กลับถูกลืมเลือน ทั้งที่อยู่ใกล้ตัว พ่อแม่บางคนแท้ๆ


สำหรับฉัน โรงเรียนทางเลือกไหนๆ ก็ดีไม่เท่า ความรักและใส่ใจ ของคนในครอบครัวค่ะ


โดย: คล้ายดาว วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:08:26 น.  

 
จะมีพ่อแม่ซักกี่คน ที่นึกถึงความรู้สึกของลูกก่อน
เห็นส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่คุณก๋าบอกทั้งนั้น
คือ ยัดเยียด “ความหวัง” และ “ความฝัน” ใส่ตัวลูก

ตอนเด็กๆฉันเคยหนีโรงเรียน ด้วยว่าไม่ชอบครู
ไม่ใช่ว่าครูดุ แต่ครูทำให้ฉันต้องอายเพื่อนๆ
ทำให้ฉันไม่อยากไปเรียน ด้วยว่าไม่อยากไปเจอ
ครูคนนี้ ไม่มีใครสักคนที่จะเข้าใจความคิดของเด็ก
อายุ 8 ขวบ ว่าทำไมถึงหนีโรงเรียน พอรู้ว่าเด็ก
หนีโรงเรียน กลับซ้ำเติมเข้าไปอีก ทำให้เด็กมีแต่ความกลัว
แล้วจะให้เรียนได้ดีไปได้อย่างไร....


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:33:08 น.  

 

วันนี้เศร้ามากเลยพี่
มีเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นข่าววันพรุ่งนี้อีกแล้ว
คราวนี้ .. เกิดในโรงเรียนเลย ..
สังคมเป็นอะไรไปหมดแล้วไม่รู้ เฮ่อ ..
แอบมาบ่นหน่อยค่ะ
ตอนแรกว่าจะเขียนเล่าที่บล็อก
แต่เขียนไม่ออก
เปลี่ยนหน้าบล็อกเฉยๆพอ






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:53:34 น.  

 
พี่หมูครับ

ผมเห็นเปลี่ยนรัฐมนตรีศึกษามากี่คน
ก็สาละวนอยู่แต่การปลดหนี้ให้ครู จะเพิ่มเงินเดือน
ปรับเปลี่ยนเขตการศึกษาใหม่

เอาเข้าๆ ก็มาจัดการแค่เรื่องของการปกครอง
มางาบงบ เอ๊ย มาดูแลงบ
แล้วก็มาซื้อคะแนนเสียงของครูล่วงหน้าเท่านั้นเอง

ไอ้การปฏิรูปการศึกษาที่หาเสียงไว้
ไม่เห็นมีรัฐบาลไหนทำสำเร็จสักรัฐบาลครับ


ครูมืออาชีพและอาชีพครูสำหรับผม
เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากนะครับ

ผมรักในวิชาชีพครูมากครับ
แม้จะไม่ได้เป็นครูอย่างที่ใฝ่ฝันก็ตาม






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:58:32 น.  

 
พี่ก็อยากเรียนแบบนี้ตอนเด็ก แต่ดูเหมือนระบบการศึกษาของเรามันไม่เอื้อเราเลยในยุคนั้น อยากให้เด็กๆได้เรียนแบบนี้กันเยอะๆน่ะครับ หมิงๆคงมีความสุขทุกวันที่ไปเรียนเลยใช่ไหมครับก๋า


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:13:41 น.  

 


คงต้องดูข่าวพรุ่งนี้ก่อนค่ะพี่ก๋า
ไม่อยากให้มีข่าวเลย
ดี.ส่งหลังไมค์ไว้ค่ะ




โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:29:59 น.  

 
สวัสดีตอนหัวค่ำค่ะศิษย์พี่

ระบบการศึกษาของไทย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ศิษย์น้องสะท้อนใจ

ที่ทุกวันนี้เน้นที่การประเิมินผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน

มันเป็นการทำเพื่อเอาหน้าว่าฉันต้องผ่านเกณฑ์

ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้อะไรถึงตัวเด็กอย่างแท้จริงเลย

น่าเศร้าเนอะศิษย์พี่

แต่ศิษย์น้องก็ยังเป็นครูในระบบคนหนึ่ง

ที่คงคิดนอกกรอบ และสอนทางเลือกด้วยตัวของศิษย์น้องเอง

ตามที่คุณครูศิษย์พี่เคยแนะนำ หุๆๆ

เพราะสิ่งสำคัญคือ การที่เด็กมีความสุขและสนุกในการเรียนรู้นั่นเอง

(เพราะงี้หละมั๊งศิษย์พี่ ที่ทุกวันนี้ทำให้ศิษย์น้องสอนอย่างมีความสุข แถมวิชาการก็น้อยไร้สาระอีกต่างหาก หุๆๆ เอิ้กๆๆ (แบบเน้นวิชาเกินเป็นหลัก))

ปล.ดีใจแทนหมิงน้อยที่ได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน ได้เรียนในโรงเรียนที่ดีและคุณครูที่ดี ที่สำคัญที่มีพ่อและแม่ที่ดีแบบนี้ด้วยค่ะ

ปล.2 วันนี้ศิษย์น้องรู้สึกยังไงบอกไม่ถูกค่ะศิษย์พี่ ใจมันทั้งสงบ และอยากจะวิ่งออกไป (พอมีสิ่งที่มาตกกระทบอ่ะนะ) ทั้ง ๆ ที่มันรู้ บางครั้งก็ยังวางมันไม่ลง


โดย: minporee วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:31:30 น.  

 
แวะมาชมภาพน้องหมิงค่ะ

คืนนี้ฝันดีนะคะ


โดย: นารีจำศีล วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:36:54 น.  

 
ไปกินซีฟู้ดมาอิ่มแล้วครับคุณก๋า เหล้ายาไม่มี เป็นคนดีของครอบครัว 555

20 ปี กินไป 720 บาท เอ๊ะ..หรือจะเป็นเลข 20 พรุ่งนี้ ฮิ ฮิ อะไรก็เป็นหวยไปหมดพอหวยใกล้ออก


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:37:34 น.  

 
อยากไปเรียน ทีต้นกล้าของ หมิง หมิง จัง


โดย: puipom วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:01:09 น.  

 
วันนี้หมวกของเด็กชายแสงสว่างเท่ห์มากเลยค่ะ

เข้าใจเส้นทางที่คุณก๋าเลือกให้หมิงหมิงค่ะ
แต่ก็ยังแอบงงๆ อยู่ดี

ตามประสาคนที่โดนบังคับให้เรียน
ต้อง "ท่องจำ" ก่อนสอบมาตลอดชีวิต

เอ...แล้วโรงเรียนทางเลือกไม่สอบวัดผล
แล้วจะวัดผลอย่างไรอะคะ งงๆ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:13:10 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า
จริงแบบที่พี่ก๋าพูดตากับยายของน้องเปาเปาทำแบบนั้นเลย
วันทั้งวันหลังเลิกเรียนกลับบ้านก็เจอครูสอนพิเศษ
ครูคนแรกไปคนที่สองตามมาติดๆยังไม่ทันอาบน้ำกินข้าว
เสร็จก็อ่านหนังสือต่อห้ามดูละครทีวี
เสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษรอบ7โมงเช้าตื่นตั้งแต่ตี5
เลิกเรียน2ทุ่มเรียนแทบทุกสถาบันที่มีทุกวิชา
กว่าจะถึงบ้าน4ทุ่มยืนรอรถอีก
เมื่อล้าเดินตกรถเมล์เลยก็มันเหนื่อยอะค่ะพี่ก๋า
และก็ทำเพราะเป็นหลานสาวคนโตของตระกูลต้องเก่ง
น้องๆได้ดูเป็นตัวอย่างตอนสอบห้ามเกินที่สามและต้องอยู่
ห้องคิงเท่านั้นเพราะโชคดีกว่าพ่อแม่จึงโชคเลือดเลยค่ะ
แต่ก็เข้ามหาลัยในฝัน(ของพ่อแม่ได้)เรียนจบมีงานที่ดี
เงินเดือนที่ดีอย่างที่พ่อแม่วาดฝันไว้ได้
แต่ยอมรับเลยกว่าจะมาถึงตรงนี้มันไม่ตอบโจทย์
ของความสนุกในวัยเรียนเลยเพราะแทบไม่รู้สึกสนุกกับมัน
เหมือนเป็นเพียงหน้าที่ที่ต้องทำ
น้องเปาเปาจะไม่เป็นแบบอัน
เค้าควรไปโรงเรียนแล้วกลับมาเจอคำถามว่า
วันนี้ไปโรงเรียนสนุกไหมมากกว่า
แต่ถึงคุณตาคุณยายน้องเปาเปาจะเคยใช้วิธีแบบนั้น
ก็เคยถามอยู่นะว่าไปโรงเรียนสนุกไหม
รีบตอบเลยว่าไม่
แต่สองตายบยนั่นบอกว่าไงรู้ไหม่ค่ะพี่ก๋า
ถูกแล้วลูกไปเรียนไม่ได้ไปเล่นจะเอาสนุกได้ไง
เห้อถ้าแบบนี้จบเลยตอบแบบนี้หมดเรื่องสนทนาค่ะ
ทำใจเรื่องผ่านมานานแล้ว
เพราะทำตามแล้วได้ดีจึงยังมีคนทำแบบนี้เยอะ
ก็เป็นเพราะคนที่ทำตามแล้วไม่ได้ดีเครียดจนบ้าฆ่าตัวตายไปหมดแล้ว
เราจึงมองเห็นแต่คนที่ประสบความสำเร็จ
เปิดสอนพิเศษจึงหาเงินได้อีกนาน




โดย: evil_aun วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:19:17 น.  

 

เหมือนกันเลยน้องก๋า
เวลาเจ้าน้องอุ้มกลับมาบ้าน
พี่อุ้มมักจถามว่า
วันนี้มีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟังไหม
หรืออย่างตอนนี้มาอยู่โรงพยาบาล
เจ้าน้องอุ้มจะเล่าให้เสมอว่าไปทำอะไรมา
ขนาดไปเรียนพิเศษกลับบ้านเอง
หิวข้าว
โทรมาบอกพี่อุ้มที่โรงพยาบาล
ว่าหนูหิวข้าวขอแวะกินข้าวกะเพราหมู
ที่ร้านข้างบ้านครูตุ๊กก่อนนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:19:54 น.  

 
มาทัน มาทันแน่นอน
เพราะก๋ากำลังจะเข้านอนพอดี...

นอนหลับฝันดีคะก๋า


โดย: aenew วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:20:48 น.  

 
แวะมากอดๆ หนุ่มหล่อหมิง หมิง ค่ะ
ใส่หมวกแล้วเท่ห์ไปเลยค่ะ
อ่านบล็อกนี้ของพ่อก๋าแล้วนึกถึงสาวๆ ที่บ้าน ตอนนี้กะลังเกเรเลยค่ะ ไม่อยากจะเรียนภาษาไทย บอกว่า ครูน่าเบื่อ แรกๆ ก็บังคับค่ะ ตอนนี้ อธิบาย พร้อมกับคุยกับครูที่ปรึกษาว่า ครูภาษาไทยน่าจะมีอะไรที่ทำให้เด็กอยากเรียนอยากติดตามบ้าง เฮ้อออ


โดย: beuysliv วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:21:24 น.  

 

lozocatlozocat



สวัสดีตอนค่ำค่ะ..คุณก๋า

lozocatlozocat


โดย: nootikky วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:32:03 น.  

 
วัยผู้ใหญ่
... โรงเรียนทางเลือกมีไม่มากนัก ...
... บางครั้งก้อยอมถูกบังคับให้เข้าเรียนในระบบนะคะ ...


โดย: องุ่นแก้ว IP: 101.108.197.215 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:41:32 น.  

 
สวัสดีครับคุณองุ่นแก้ว


จริงครับ....


แม้กระทั่งพ่อแม่ที่ส่งลูกเรียน รร.ทางเลือก
บางคนก็เอาลูกออกจาก รร. เมื่อเรียนไปได้หนึ่งเทอมครับ
เพราะเห็นว่าลูกตัวเองเรียนช้า ไม่มีพัฒนาการ

พัฒนาการคือการไปนั่งคุยกับเพื่อนบ้าน
แล้วก็อวดกันว่าลูกใครอ่านออกเขียนได้ก่อนกัน

นี่คือสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเด็กนะครับในความรู้สึกของผม

เหมือนลูกเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตา
ยิ่งลูกเก่งเท่าไหร่ โชว์เพื่อนบ้านได้มากเท่าไหร่
พ่อแม่ก็ภูมิใจมากเท่านั้น

ผมไม่เคยเอาลูกเปรียบเทียบกับใครเลยครับ

โชคดีที่ผมพอมีเวลาเลี้ยงดูอละอยู่กับเค้าตลอดครับ

พัฒนาการช้าๆ ไปเรื่อยๆ
เรียนรู้ผ่านการเล่นแบบนี้
ผมชอบครับ

ช้าแต่ชัวร์





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:55:14 น.  

 
วันนี้ได้มาอ่านความคิดเห็นและมุมมองของคุณก่า ชอบค่ะ
อยากให้หมิงหมิงมีความสุขตลอดไปจ้า


โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:15:00 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

เป็นการเรียนที่น่าสนุกมากค่ะ น่าจะมีโรงเรียนแบบนี้ที่อ่างทองบ้างนะคะ



โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:15:17 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณก๋าในยามดึกๆ ครับ
โรงเรียนทางเลือกที่สั่งสมและเสริมพัฒนาการให้ความรู้ของเด็กน้อยแบบนี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ปกครองเช่นกันนะครับ ที่พยายามหาโรงเรียนให้กับเจ้าตัวน้อยอันเป็นดวงใจ


โดย: ถปรร วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:18:09 น.  

 
ดีจัง...


โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:45:30 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋าแอนด์น้องหมิงหมิง
แอนด์ครอบครัวที่น่ารักฝันดีนะค่ะ




โดย: mastana วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:38:36 น.  

 
พ่อแม่ส่วนใหญ่ ส่งลูกไปเล่าเรียน ไม่ใช่ไปเรียนรู้

พี่คิดถูกแล้วล่ะครับ ผมเชียร์เต็มที่emoemoemo


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:44:32 น.  

 
สวัสดีตอนดึกค่ะคุณก๋าและหมิงหมิง

ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ




โดย: pantawan วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:1:16:16 น.  

 


ถ้าสนุกมีความสุข เด็กก็จะชอบเรียน
คิดถึงตอนพี่เป็นเด็กๆเลยจ้ะ
วิชาไหนไม่สนุกไม่อยากจะเรียนเลย

พี่คิดว่าหมิงหมิง โตขึ้นคงจะเป็นเด็กที่มีความสุขและก็เรียนเก่งด้วย

พี่ไปเมืองไทยครั้งนี้ได้ไปเห็นลูกๆเพื่อน
โหยยย วันๆ มีแต่เรียนพิเศษ ทำกิจกรรมพิเศษ
จนเด็กไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
วิชาที่ให้เรียนพิเศษเด็กก็ไม่ชอบด้วย แต่เพราะพ่อแม่อยากให้เรียน

เหอออ เห็นแล้วก็สงสาร แทนที่จะมีชีวิตสนุกแบบเด็กๆ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:1:22:54 น.  

 
มิน่าล่ะ เห็นหน้าน้องหมิง หมิง แล้วมีความสุขจังเลย
แววตาขี้เล่น แสนซน รอยยิ้ม ร้าย เอ๊ย ไร้เดียงสา
ทำให้ พี่ ป้า น้า อาน้า อา ป้า ลุง ตามเข้าบล็อกกันมาบ่อยๆ

อ้ายก๋ามีวิธีคิดที่แจ่มมาก .... อยากให้คนเรามีความคิดแบบนี้เยอะๆ จะได้ไม่ต้องแก่งแย่ง แข่งขัน กันมาก
เพราะหากมีการแก่งแย่ง แข่งขันกันเกิดขึ้นเมื่อใด
ความอิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว ก็ตามมาติดๆ ทั้งคนอิจฉาและคนถูกอิจฉาต่างก็ไม่มีความสุข

ดีใจที่ได้เรียนประถมเมื่อสามสิบปีก่อน พ่อแม่ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรา เพราะมัวแต่ยุ่งแต่เรื่องปากท้องก็ไม่มีเวลาแล้ว แค่ลูกไปโรงเรียนอย่างที่ควรจะไปก็พอใจแล้ว ตอนเย็นล้อมวงกินข้าว เล่าเรื่องสัพเพเหระ นั่งผิงไฟหน้าหนาวกัน ชีวิตแบบนั้นหาไม่ได้อีกแล้วอ่ะ

ของน้องหมิง หมิง มีโรงเรียนทางเลือก
แต่ของอา ไม่มีอะไรให้เลือกเลย แต่ก็มีความสุขมากๆ
ชอบไปโรงเรียนทุกวัน ไม่สบายก็ยังไม่อยากขาดเรียน
พูดแล้วคิดถึง "โรงเรียนของหนู" (ย้อนไปไกลได้อีก)


โดย: ก๋าสะลองเงิน วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:2:19:49 น.  

 
ขอให้น้องหมิงหมิงเป็นเด็กที่รัก สนุก กับการเรียนรู้ เป็นเด็กใฝ่รู้ด้วยตนเอง .....จะรู้อะไรตอนไหน

น้องรู้ในสิ่งที่น้องสนใจ พร้อมรู้ และพร้อมเข้าใจ

จะวางกฏเกณฑ์ ไปใยว่าต้องรู้เท่านั้นเท่านี่ อายุเท่านี่ต้องรู้เรื่องนี้ จะเอาอะไรมาวัดเก่งไม่เก่ง
ไม้บรรทัดที่มาวัดนั้นอาจไม่เท่ากันเสมอไป
หมิงหมิงตอบว่า “สนุกมาก” ....ความสุขวัดได้ที่ใจน้องเอง


โดย: saaikaew (Green_Marble ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:11:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]