มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
6 มกราคม 2550

คนรวยกับความรวย









นั่งคุยกับตัวเอง : คนรวยกับความรวย
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
6 มกราคม 2550



ก่อนแต่งงานผมเคยถามภรรยาว่า
“คิดว่ามีเงินเท่าไหร่ถึงจะมีความสุข ?”
เชื่อไหมว่าถามคำถามง่ายๆแบบนี้ ต้องใช้เวลาตอบ นานมาก...และอาจยาวนานไปจนตลอดชีวิต


……………………………………………..



ผมไม่ได้เกลียดชังความรวย ไม่ได้อิจฉาคนรวย
เงินเป็นสิ่งที่ดีตราบใดที่มันเข้ามาหาเราด้วยความบริสุทธิ์
นายทุนหลายคนเราก็ยกมือไหว้ได้อย่างเต็มใจ
ถ้าดูจากความทุ่มเทอุตสาหะที่เขาพากเพียรสร้างทำมาตลอดชีวิต
ผมชอบความร่ำรวย เพราะมันทำให้เรามีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น
ได้...ในสิ่งที่เราอยากได้ มี...ในสิ่งที่เราอยากมี
แต่มันจริงหรือ ที่ “เงิน” คือคำตอบสำเร็จรูปของชีวิต
จริงหรือ...ที่ว่ายิ่งมีเงินมากๆ ยิ่งมีความสุข


..............................................



ทำไมเงินถึงไม่อาจซื้อความซื่อสัตย์ที่ลูกน้องมีต่อเราได้
ทำไมเงินถึงไม่อาจยื้อชีวิตได้ เมื่อยามเจ็บป่วย
ทำไมเงินไม่อาจสร้างลูกที่รักพ่อรักแม่
ทำไมพี่น้องที่มีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านยังต้องฆ่าแกงกัน
ทำไมลูกเศรษฐียังต้องฆ่าตัวตายเพราะไม่สมหวังในความรัก
ทำไมเศรษฐีต้องยิงตัวตายเพราะติดหนี้พนัน
ทำไมเงินถึงไม่อาจรั้งประสานชีวิตคู่ไม่ให้แตกสลาย
ทำไมคนรวยถึงยังมีความทุกข์
ทำไมเงินถึงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้…
ทำไม ?


.................................................


หลายครั้งผมรู้สึกสะอิดสะเอียนกับคำว่า “พอเพียง”
คุณให้คนพอเพียงได้อย่างไร ในขณะที่เขายังไม่ “เพียงพอ”
เขายังไม่เคยกินอิ่มนอนอุ่นเหมือนคุณ
เขายังไม่เคยเฉียดใกล้กับความว่าอยู่สุขสบายเลย
แม้เพียงสักครั้งในชีวิต
ใช่...เป็นคำตอบที่ถูกต้องว่า
“คนเรารวย เมื่อเขารู้จักพอ”
แต่อย่าลืมว่าธรรมชาติมนุษย์นั้น มีแต่ “ความโลภ”
เพราะคำนี้มิใช่หรือ พี่น้องถึงต้องยิงกันตาย พระสงฆ์ฆ่าลูกศิษย์ ตำรวจฆ่าทหาร ฯลฯ
เราพูดได้...”ไม่โลภ” แต่มันไม่ง่ายที่จะทำให้ได้อย่างที่พูด
มันไม่ง่ายเลย....


................................................



ผมชอบ “ความรวย” ถ้ามันทำให้ชีวิตผมดีขึ้น (จะดีกว่านั้น ถ้าช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าให้เขาดีขึ้นด้วยบ้าง เท่าที่เราสามารถทำได้)
ผมชอบ “ความรวย” แต่ควรเป็นความร่ำรวย
ที่ทำให้เราสามารถสบตาตัวเองได้โดยไม่ละอายใจ
ผมอาจขอ “มี” ให้น้อยลง หากมันแลกเปลี่ยนได้กับ ความสุขสงบ ความรื่นรมย์ในชีวิตทั้งในส่วนของตัวเองและครอบครัว


…………………………………………….



“คิดว่ามีเงินเท่าไหร่ ถึงจะมีความสุข ?”....
บางที...
ผมอาจต้องถามตัวเองด้วยประโยคซ้ำซากนี้ไปอีกนาน.



.......................................................


หมายเหตุ :


ภาพรถจักรยานที่ชนบทเมืองกุ้ยหยาง ประเทศจีน
เมืองนี้เป็นเมืองที่จนเป็นอันดับสองของประเทศ
อากาศชื้นฝนเปียกแฉะตลอดทั้งปี แทบไม่มีแสงแดดลอดส่องลงมาให้เห็น บรรยากาศรอบตัวดูทึมเทา บ้านเมืองไม่ค่อยสะอาด
แต่สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของเมืองนี้ คือ "คน"
ผู้คนที่พบเจอในทุกๆที่ ที่ผมไปดูมีน้ำใจไมตรีมาก
น่ารักและจริงใจ ....... และนี่เป็นความสว่างไสวที่ลอดส่องฉายออกมาให้สัมผัสจับต้องได้




 

Create Date : 06 มกราคม 2550
2 comments
Last Update : 6 มกราคม 2550 8:00:18 น.
Counter : 1443 Pageviews.

 


แวะมาค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง

 

โดย: immyjang 6 มกราคม 2550 10:00:30 น.  

 

ของผม มีบ้านเล็กๆ ในพื้นที่พอสำหรับคนในครอบครัว
มีเงินพอสำหรับใช้จ่ายแต่ละเดือน กับ ยามเจ็บป่วย ก็พอครับ ขอแค่มีคนในครอบครัวที่เข้าใจกัน ผมก็พอใจแล้วครับพี่
ไม่ต้องมีเงินมากมาย ไม่ต้องได้ในทุกสิ่ง แค่มีคนที่เรารักอยู่ด้วยกัน แบบนี้เป้นความฝันของเด็กรึเปล่าครับ อิอิ

 

โดย: กลิ่นดอย 11 กุมภาพันธ์ 2553 23:30:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 393 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]