มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
7 มกราคม 2550

ความรู้กับความเข้าใจ







นั่งคุยกับตัวเอง : ความรู้กับความเข้าใจ
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
7 มกราคม 2550



สมัยที่ผมยังเป็นนักศึกษา...
มีคำถามหนึ่งที่ผมสงสัยมาก คือ
“เราเรียนรู้เรื่องบางเรื่องไปทำไม ?”
….. ผมรู้สึกว่าผมเรียนเยอะ เรียนหนัก
และต้องรู้ไปเสียทุกศาสตร์ทุกแขนง
ก่อนที่ในท้ายที่สุด คล้ายว่า...ผมไม่รู้อะไรอย่างถ่องแท้สักเรื่องเดียว


...................................................



ในสมุดบันทึกเล่มเก่าของผม
ผมเขียนไว้ว่า แม่ค้าไม่จำเป็นต้องเรียนตรีโกณมิติ
เขาก็ยังดำรงชีวิตอยู่ได้
ลุงชาวสวนไม่จำเป็นต้องท่องจำชื่อประธานาธิบดีเปรู
เขาก็ไม่เห็นเดือดร้อนตรงไหน
ผมแค่รู้สึกในตอนนั้นว่า เรารู้จักตับไตไส้พุงของกบเป็นอย่างดี แต่เราไม่รู้จักตัวเองเลย....
โดยเฉพาะความรู้สึกนึกคิดของตัวเรา


………………………………………………….


หลายปีหลังจากนั้น
ผมก็ยังเชื่อว่าหลายครั้งที่ระบบการศึกษาของเรา
บีบอัดให้นักเรียนนักศึกษาเข้าแม่พิมพ์เบ้าหลอมแบบเดียวกัน เพื่อผลิตฟันเฟืองป้อนเข้าสู่ระบบทุนนิยมแบบเต็มตัว
ให้เราเรียนรู้เยอะๆในระดับประถม มัธยม
ก่อนค่อยๆคัดเลือกไปตามสายพานของความเชื่อที่ว่า
ถ้าคนเก่งต้องไปเรียนหมอ ไม่เก่งไปเรียนครู ฯลฯ
คนเก่งคือคนที่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว วัดคุณค่าของคนจากเงินที่เขามีอยู่
เราสร้างฐานความเชื่อที่ว่ายิ่งคนเรียนสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่าในตัวเองเท่านั้น

แต่ในสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ...
ชาวนาส่งลูกเรียนปริญญาตรี เพื่อหวังเพียงว่าลูกจะไม่ลำบาก หรือหวังว่าลูกจะได้นำความรู้ทางการเกษตรที่ได้กลับมาพัฒนาครอบครัว
น้อยยิ่งกว่าน้อย....เมื่อเด็กหนุ่มเข้าสู่สายพานการผลิตของระบบการศึกษา เขาไม่เคยหันกลับมามองวิถีชีวิตเดิมของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่อีกเลย


..............................................



“เมื่อเขาไม่มีความรู้ เขาขโมยน๊อตรางรถไฟ
เมื่อเขามีความรู้ เขาขโมยรางรถไฟ”

ความรู้ทำให้เรารู้วิธีค้นหาและรู้จักกับนิวเคลียร์
แต่ความรู้ที่ไร้จริยธรรม ทำให้เกิดการนำระเบิดนิวเคลียร์ไปเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์นับแสนนับล้าน
เป็น “ความรู้” ที่ขาด “ความเข้าใจ” อย่างถ่องแท้
ผมไม่รู้ว่าระบบการศึกษาที่เขาว่าจะปฏิรูป ปฏิวัตินั้น
จะทำให้การศึกษาเปลี่ยนโฉมไปขนาดไหน
จะทำให้วิธีคิดที่คนเรามีต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และต่อสิ่งรอบข้างเป็นอย่างไร
เราเชื่อและฝากความหวัง ฝากชีวิต ฝากอนาคตของลูกหลานของเรา ให้กับคนเพียงไม่กี่หยิบมือที่เรียกตัวเองว่า
“นักการศึกษา นักวิชาการ” ได้จริงๆหรือ....


..................................................



การศึกษาที่มีคุณค่าในความรู้สึกของผม
กลับเป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
ทั้งกับธรรมชาติของมนุษย์ และธรรมชาติที่เป็นสิ่งแวดล้อม
ให้อยู่แบบกลมกลืน พึ่งพา เข้าใจในกฎของการเปลี่ยนแปลง เข้าใจตนเอง และเข้าใจผู้อื่น


ผมชอบเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่เขาบอกไว้ว่า

มีชายกวาดถนนคนหนึ่ง เขาเป็นคนไร้การศึกษา
แต่ทุกเช้า เขาจะออกไปกวาดถนนด้วยความสุข ด้วยความตั้งใจ เขากวาดถนนอย่างชนิดที่ว่า เมื่อใครมาเห็น ต้องเอ่ยปากว่า
นี่คือ คนกวาดถนนที่ดีที่สุดตั้งแต่พระเจ้าเคยสร้างขึ้นมา....

ผมไม่แน่ใจ ว่าระบบการศึกษาของเราเคยผลิตคนที่มีวิธีคิด มีวิธีทำงานแบบนี้ออกมาสู่สังคมได้มากน้อยเพียงใด
หรือทุกวันนี้ สังคมของเราอาจเต็มไปด้วย
“นักขโมยรางรถไฟ” ที่เดินกลาดเกลื่อนเพ่นพ่านอยู่เต็มเมือง.







....................................................


หมายเหตุ :


ภาพเถาวัลย์ที่ขึ้นอยู่ข้างกำแพงที่ทำงาน
ผมเดินผ่านทุกวัน เห็นจนชินตา วันหนึ่งลองเดินเข้าไปดูใกล้ๆ...และพบว่ามันมีความสวยงามอยู่ไม่น้อย
เพียงแต่ทุกวัน เราเดินผ่านเลยไปโดยไม่ได้ใส่ใจมอง
ประมาณครึ่งเดือนหลังจากที่ถ่ายภาพไว้ ต้นมันก็ตาย ทิ้งใบร่วงหล่นตรงพื้นดิน
(ภาพด้านล่างแต่งภาพด้วย Photoshop cs)




 

Create Date : 07 มกราคม 2550
4 comments
Last Update : 7 มกราคม 2550 7:35:57 น.
Counter : 1278 Pageviews.

 

Photobucket - Video and Image Hosting

คิดสิ่งให้ สมปราถนานะค่ะ

มีสุขภาพ แข็งแรง

ตลอดไปนะค่ะ

หวัดดีค่ะ แวะมาเยี่ยมเยียน

วันหยุด ค่ะ

 

โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) 7 มกราคม 2550 10:56:54 น.  

 

ข้อเขียนของคุณ โดนใจ

ดิฉันไม่ใช่ นักวิชาการ แต่ทำงานเกี่ยวข้องกับการศึกษา
และตอนนี้ก็กำลังสมบุกสมบันกับการศึกษาอยู่เหมือนกัน

การปลูกฝังด้านศีลธรรมนักเรียนในช่วงอุดมศึกษานั้นค่อนข้างยาก เพราะขาดความใกล้ชิด แล้ววัยรุ่นๆ ก็จะมีอย่างอื่นให้สนใจมากกว่าที่จะมาเพ่งพิจารณาความคิด แต่สมัยเรียน ก็มีบ่นๆ กัน ว่าว่าเรียนอะไรเยอะแยะ ไม่ได้เอาไปใช้รวมถึงตอนนี้ด้วยแหละ ก็ถามตัวเอง

แต่ฉันคิดว่าบางทีการที่เราต้องเรียนเยอะๆ เนี่ย ประโยชน์ของมันอาจจะไม่ได้อยู่ที่การนำไปใช้โดยตรง แต่มันเป็นกระบวนการฝึกตนอย่างหนึ่ง ทั้งความอดทน ความมีวินัยและความรับผิดชอบ

กระบวนการศึกษาให้เราในสิ่งเหล่านี้ แต่อาจจะไม่มี เรื่องความเข้าใจชีวิต อย่างที่คุณว่า แต่ดิฉันว่าจริงๆ มันก็ให้นะ แต่อาจจะยากที่จะมองเห็น มัวแต่ทำรายงานส่ง อ่านหนังสือสอบไง

หรือ บางคนในวัยศึกษามีโอกาส เวลาที่จะคิดถึงสังคม แต่พอออกไปสู่โลกภายนอกแล้ว กลับทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ที่เคยออกค่ายอาสาพัฒนาอะไร ก็ลืมหมด ก็มี

บางที มันต้องใช้เวลานะ กว่าจะคิดได้ หรือ ได้คิด ใครคิดได้ก่อนก็ต้องไปจุดประกายให้คนอื่นต่อ เป็นกัลยาณมิตรให้กัน ตักเตือนกันเวลา ใครหลงลืม มีลูกมีหลานก็ทำให้พวกแก เห็นเป็นตัวอย่างที่ดี มันคงช่วยให้อะไรๆ ในสังคมดีขึ่นมาบ้าง

พล่ามซะยาว แวะมาอ่านข้อเขียนดีๆ ค่ะ

 

โดย: ปอ (O_Sole_mio ) 7 มกราคม 2550 20:42:53 น.  

 

สวัสดีค่ะ
แวะมาขอบคุณและทักทายค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่แวะไปเยี่ยมเยี่ยน

บทความของคุณวิอ่านแล้วรู้สึกชอบมากๆเลยค่ะ
มันเป็นจริงตามที่คุณเขียนทุกอย่างเลยค่ะ

แล้วจะเข้ามาอ่านบทความดีๆอย่างนี้บ่อยๆค่ะ

สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยค่ะ
มีความสุขมากๆนะค้ะ

 

โดย: ชะตาฟ้า 7 มกราคม 2550 21:05:10 น.  

 

พี่ครับ
ผมอ่านวันนี้มาสามบล้อกอ่ะ
ทำไมเราคิดเหมือนกันเลยหละ
หรือผมคิดไปเอง ว่าผมคิดเหมือนพี่กันแน่นะ
แต่ไม่นะ
ผมคิดแบบนี้ก่อนจะมาอ่านบล้อกพี่อ่ะครับ

ไม่รู้ว่า คิดเอง หรือ เหมือนกันจริง
อันใหนกันแน่
แต่ผมจะไม่หาคำตอบกับคำถามนี้แล้วครับ ว่า ทำไม
คิดแบบเดียวกัน

ก็แค่แปลกใจชั่วครู่ แล้วก็ดีใจ แล้วก้อ .....

ขอบคุณครับ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอยากขอบคุณ

 

โดย: กลิ่นดอย 11 กุมภาพันธ์ 2553 23:47:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]