ลูกจ๋า...บ่าเจ้าหนักอึ้ง
นั่งคุยกับตัวเอง : ลูกจ๋า...บ่าเจ้าหนักอึ้ง เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 24 เมษายน 2550
สมัยผมเป็นเด็กนักเรียน ผมไม่เคยเรียนพิเศษ ไม่เคยเรียนกวดวิชาเลยสักครั้งในชีวิต เพิ่งมารู้ว่าตัวเองเหมือนเด็กผิดปกติ เพราะหลานๆตัวน้อยเริ่มมาถามว่าสมัยก่อนเรียนหนักแบบนี้หรือเปล่า ผมก็ตอบไปว่า เปล่า....ไม่เคยเรียนเลย เท่าที่จำความได้....สมัยประถมผมจัดตัวเองให้อยู่ในหมวดนักเรียนหลังห้อง เปิดสมุดเรียนขึ้นมาเล่มใด ก็มีแต่รูปวาดไอ้มดแดงวีสาม กับกันดั้ม หรือไม่ก็โดราเอมอนเต็มไปหมด เลิกเรียน...วิ่งเล่น กลับบ้าน...กินข้าวเย็น ทำการบ้าน อาบน้ำ หลับ เช้าตื่นเช้าหน่อย เดินไปเรียน เรียนกับเล่นเป็นงานหลัก ไม่เคยรู้สึกว่าการไปโรงเรียนเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสอะไรเลย ดีที่พ่อแม่ไม่เคยคาดหวังอะไรมาก ไม่กดดันลูกด้วยการอยากให้ลูกเป็นโน่นเป็นนี่ มีบ้างแค่เปรยๆว่าอยากให้ลูกเป็นหมอสักคน แต่คำเปรยนี้ก็เลยผ่านไป เพราะลูกๆไม่มีใครอยากเอาดีเป็นหมอสักคน
...................................
เข้ามัธยม จนเรียนเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่เคยกดดัน เรียน เล่น ทำกิจกรรม เอนทรานซ์ก็ไม่เคย เพราะคิดไว้ตั้งแต่จบม.3แล้ว ว่าจะไปเรียนวิชาชีพ (ปวช. ปวส.) จบปวส.ก็ต่อปริญญาตรี สอบก็ไม่ต้องสอบ (ขอคุยหน่อยครับว่าผลการเรียนของผมดีพอที่จะได้โควต้าเข้าเรียนโดยไม่ต้องสอบ) เรียนจบปริญญาตรี ได้ทุนเรียนต่อปริญญาโทของคณะฯ แต่ไม่เอา...เพราะเบื่อระบบการศึกษาที่เจอมา ไม่ประทับใจ เลยอยากทำงาน สรุปแล้ว...ชีวิตนี้ไม่เคยผ่านสถาบันกวดวิชาที่ไหนสักแห่ง ไม่เคยเรียนพิเศษที่ไหนสักที่
...................................
มานั่งฟังชีวิตของเด็กไทยวันนี้แล้วก็ได้แต่ปลงอนิจจัง กระเป๋าเด็ก...ผมหิ้วเอง...ยังไหล่เอียง มันจะบ้าตำราอะไรกันขนาดนี้ เรียนเสร็จ ต้องต่อด้วยการเรียนพิเศษทุกวัน กลับมาถึงบ้านต้องทำการบ้านต่อ ทั้งแบบฝึกหัดที่โรงเรียนให้ และแบบฝึกหัดจากโรงเรียนกวดวิชา เสาร์เช้าเรียนเปียโน อาทิตย์เช้าเรียนว่ายน้ำ “บ้าหรือเปล่า” .....ผมเคยพูดกับเพื่อนคนหนึ่ง “จะปั้นลูกให้เป็นอัจฉริยะหรือไง.....” เอาเปรียบลูก ทรมานเด็กเกินไปหรือเปล่า ถึงได้บางอ้อว่าทำไมเด็กยุคนี้มันถึงซึมเศร้ากันเหลือเกิน เพราะพวกผู้ใหญ่อย่างเรา “ยัดเยียด” ความเก่งให้เขา จนหลงลืมว่าเด็กควรมี “ความสุข” ขณะ “เรียนรู้” เด็กควรมีเวลาว่างบ้าง เพื่อให้เขาได้เล่น ได้ผ่อนคลาย เพื่อนได้แต่อ้อมๆแอ้มๆว่า “เดี๋ยวมีลูกเอง มึงก็รู้”.....
..........................................
ผมได้แต่นึกขอบคุณที่พ่อซึ่งจบเพียงชั้นประถม 4 ของผม ไม่เคยขู่เข็ญผมให้ต้องเรียน ต้องเก่ง ต้องเป็นอัจฉริยะ เพียงเพื่อเป็นหน้าเป็นตาของวงศ์ตระกูล อย่างน้อยพ่อก็ไม่เคยคาดหวังว่าลูกจะต้องเป็นคนเก่ง แต่ขอให้เป็นคนดี เลี้ยงตัวเองรอด และมีความสุขในชีวิตตามอัตภาพ
ไม่อยากนึกถึงสภาพของตัวเอง หากผมต้องแบกหนังสือไปเรียนจนไหล่เอียงแบบเด็กวันนี้ ป่านนี้ผมคงเป็นแค่ชายหนุ่มผู้ห่อเหี่ยวในชีวิตของตัวเอง และถ้าผมต้องเรียนๆๆๆๆๆๆ แข่งขันอย่างคลั่งบ้าแบบเด็กทุกวันนี้ ผมคงหารอยยิ้มมายิ้มให้กับตัวเองได้น้อยครั้งเต็มที.
Create Date : 24 เมษายน 2550 |
|
25 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2550 7:40:22 น. |
Counter : 1438 Pageviews. |
|
|
ไม่เป็นไรเม้นท์ใหม่ แต่ไม่เยอะเหมือนเมื่อกี้แล้วนะ เพราะจำไม่ได้แล้วว่าพิมพ์อะไรไปบ้างก็ไม่รู้เพราะมันยาวเหลือเกิน
ดีใจเหมือนกันค่ะที่ไม่ต้องแบกหนังสือจนใหล่เอียงเหมือนเด็กสมัยนี้...เอาล่ะ สั้นๆก็พอเนอะ