การศึกษาตายแล้ว
นั่งคุยกับตัวเอง : การศึกษาตายแล้ว เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 4 เมษายน 2550
สิบปีก่อน.... ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ ไปในนามของนักเรียนทุน ไปแบบเต็มเปี่ยมด้วยความหวังว่าจะได้พบกับการศึกษาที่ดี การได้พัฒนาความรู้ของตนเอง และการเติบโตทางความคิด ในความมุ่งหวังของชีวิต ผมคิดที่จะเป็นครู นั่นเป็นเป้าหมายที่วางแผนไว้มาโดยตลอด ที่นี่...น่าจะตอบสนองเป้าหมายของผมได้ดีที่สุด ตรงกับสาขาความรู้ที่ได้เรียนมาที่สุด
............................................
สิ่งที่ผมได้พบ คือ สิ่งที่แปลกแตกต่างไปจากความคาดหวัง แบบหน้ามือเป็นหลังเท้า อาจารย์ที่นี่(บางคน) คือ นักธุรกิจที่สวมเสื้ออาจารย์คลุมทับ คือ คนทำงานที่มีอาชีพสอนหนังสือเป็นงานอดิเรก เข้ามาสั่งงาน แล้วก็หายไปแทบจะในทันทีทันใด เพื่อไปรับงานนอกซึ่งมีรายได้มากกว่าไม่รู้กี่เท่าตัว การตัดเกรดและการให้คะแนนที่เคลือบแคลงและน่าสงสัย บรรยากาศการเรียนที่ไม่ได้ทำให้ศิษย์กับอาจารย์ผูกพัน หรือแลกเปลี่ยนความคิดกันได้ (เพราะอาจารย์แทบไม่เคยอยู่ติดคณะฯ) ผมปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ไม่ได้ ผมไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อกระดาษแผ่นเดียว แต่มาเพื่อมุ่งหวังความรู้ และเพื่อกลับไปเป็นครูอย่างที่ตัวเองมุ่งหวัง
.............................................
เพียงปีเดียว....ผมพบว่าตัวเองไม่สามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ได้ ไม่ศรัทธาอาจารย์ในคณะฯ ไม่นับถือระบบการศึกษาแบบนี้ และเพื่อนใหม่ไม่ได้ชนะใจผมอย่างที่หวังตั้งใจ บางที...ที่นี่อาจไม่ได้มีปัญหาอะไร ยกเว้นตัวผม...ที่ดูว่าเรียกร้องสูงเกินไป คาดหวังมากเกินไป
...........................................
ภาพนี้เป็นหนึ่งในหลายรูปที่ผมวาดขึ้นเพื่อประกอบการจัดนิทรรศการศิลปะ มันดูแรงมาก เฉพาะบอร์ดที่ผมรับผิดชอบ มีแต่รูปที่ดูรุนแรง เศร้า ผิดหวัง มีบทกวีที่เขียนวิพากษ์ระบบการศึกษา วิจารณ์อาจารย์ของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าท่านคณบดีรู้สึกอย่างไรในวันเปิดงาน... มีเพื่อนมาบอกให้ผมทราบในภายหลังว่า คณบดีมาหยุดยืนที่บอร์ดผม ยืนอ่านงานที่ผมเขียนเงียบๆ ยืนดูรูปหนึ่งอยู่นานมาก มันเป็นรูปวาดที่ใหญ่ที่สุดในงานนิทรรศการนี้ ที่ผมวาดและแขวนไว้… มันเป็นรูปนักศึกษาที่ถูกแขวนคอ ที่ใบหน้าของเขาถูกปิดตาด้วยผ้าดำ ถูกมัดมือ มัดเท้า ตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่เขียนทับไว้ว่า “education is dead”
............................................
ภายหลังจากงานนิทรรศการนี้... ผมทราบข่าวจากอาจารย์รุ่นพี่ที่สนิทกัน ว่าคณบดีเรียกหัวหน้าแผนกที่ผมเรียนอยู่เข้าพบ จากนั้นในวันเดียวกัน หัวหน้าแผนกก็เรียกอาจารย์รุ่นพี่ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพวกผมเข้าพบ ผลคือ อาจารย์รุ่นพี่ตัดสินใจลาออกในปีนั้น ปีเดียวกับที่ผมเรียนจบ......
.............................................
เป็นการเรียนรู้ที่เจ็บปวด และทำลายความหวังของผมจนหมดสิ้น แต่ในมุมที่เลวร้าย ผมกลับได้พบกับแง่มุมดีดีบางด้าน คือ ผมได้พบกับอาจารย์ที่ดีมากในความหมายของ “การเป็นครูที่ดี” จากอาจารย์ที่สอนด้านการศึกษา หลายท่านตั้งใจสอน ตั้งใจถ่ายทอดความรู้อย่างไม่ปิดบัง สามารถเข้าคุยปรึกษาได้ตลอด เป็นด้านที่อบอุ่น ท่ามกลางความเย็นชาในคณะฯของตัวเอง
………………………………………….
ผมไม่เคยสนใจไถ่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น หลังจากวันที่ตัวเองจบออกมา ผมไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ดีขึ้นมากนัก เพียงแต่รู้ว่า.... กว่าผมจะลืมฝันร้ายที่นั่น ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา....
Create Date : 04 เมษายน 2550 |
Last Update : 4 เมษายน 2550 7:22:10 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1056 Pageviews. |
|
|
|
|
เห็นระบบการศึกษาในปัจจุบันยังนึกห่วงเด็กรุ่นหลังอยู่เสมอ
เหมือนถอยหลังลงทุกวัน