เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
4 เมษายน 2550

การศึกษาตายแล้ว

นั่งคุยกับตัวเอง : การศึกษาตายแล้ว
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
4 เมษายน 2550



สิบปีก่อน....
ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ
ไปในนามของนักเรียนทุน
ไปแบบเต็มเปี่ยมด้วยความหวังว่าจะได้พบกับการศึกษาที่ดี
การได้พัฒนาความรู้ของตนเอง และการเติบโตทางความคิด
ในความมุ่งหวังของชีวิต ผมคิดที่จะเป็นครู
นั่นเป็นเป้าหมายที่วางแผนไว้มาโดยตลอด
ที่นี่...น่าจะตอบสนองเป้าหมายของผมได้ดีที่สุด
ตรงกับสาขาความรู้ที่ได้เรียนมาที่สุด


............................................


สิ่งที่ผมได้พบ คือ สิ่งที่แปลกแตกต่างไปจากความคาดหวัง
แบบหน้ามือเป็นหลังเท้า
อาจารย์ที่นี่(บางคน) คือ นักธุรกิจที่สวมเสื้ออาจารย์คลุมทับ
คือ คนทำงานที่มีอาชีพสอนหนังสือเป็นงานอดิเรก
เข้ามาสั่งงาน แล้วก็หายไปแทบจะในทันทีทันใด
เพื่อไปรับงานนอกซึ่งมีรายได้มากกว่าไม่รู้กี่เท่าตัว
การตัดเกรดและการให้คะแนนที่เคลือบแคลงและน่าสงสัย
บรรยากาศการเรียนที่ไม่ได้ทำให้ศิษย์กับอาจารย์ผูกพัน หรือแลกเปลี่ยนความคิดกันได้ (เพราะอาจารย์แทบไม่เคยอยู่ติดคณะฯ)
ผมปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ไม่ได้
ผมไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อกระดาษแผ่นเดียว
แต่มาเพื่อมุ่งหวังความรู้ และเพื่อกลับไปเป็นครูอย่างที่ตัวเองมุ่งหวัง


.............................................


เพียงปีเดียว....ผมพบว่าตัวเองไม่สามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ได้
ไม่ศรัทธาอาจารย์ในคณะฯ
ไม่นับถือระบบการศึกษาแบบนี้
และเพื่อนใหม่ไม่ได้ชนะใจผมอย่างที่หวังตั้งใจ
บางที...ที่นี่อาจไม่ได้มีปัญหาอะไร
ยกเว้นตัวผม...ที่ดูว่าเรียกร้องสูงเกินไป คาดหวังมากเกินไป


...........................................








ภาพนี้เป็นหนึ่งในหลายรูปที่ผมวาดขึ้นเพื่อประกอบการจัดนิทรรศการศิลปะ
มันดูแรงมาก เฉพาะบอร์ดที่ผมรับผิดชอบ มีแต่รูปที่ดูรุนแรง
เศร้า ผิดหวัง มีบทกวีที่เขียนวิพากษ์ระบบการศึกษา
วิจารณ์อาจารย์ของตัวเอง
ผมไม่รู้ว่าท่านคณบดีรู้สึกอย่างไรในวันเปิดงาน...
มีเพื่อนมาบอกให้ผมทราบในภายหลังว่า
คณบดีมาหยุดยืนที่บอร์ดผม ยืนอ่านงานที่ผมเขียนเงียบๆ
ยืนดูรูปหนึ่งอยู่นานมาก
มันเป็นรูปวาดที่ใหญ่ที่สุดในงานนิทรรศการนี้
ที่ผมวาดและแขวนไว้…
มันเป็นรูปนักศึกษาที่ถูกแขวนคอ
ที่ใบหน้าของเขาถูกปิดตาด้วยผ้าดำ ถูกมัดมือ มัดเท้า
ตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่เขียนทับไว้ว่า
“education is dead”


............................................


ภายหลังจากงานนิทรรศการนี้...
ผมทราบข่าวจากอาจารย์รุ่นพี่ที่สนิทกัน
ว่าคณบดีเรียกหัวหน้าแผนกที่ผมเรียนอยู่เข้าพบ
จากนั้นในวันเดียวกัน
หัวหน้าแผนกก็เรียกอาจารย์รุ่นพี่ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพวกผมเข้าพบ
ผลคือ อาจารย์รุ่นพี่ตัดสินใจลาออกในปีนั้น
ปีเดียวกับที่ผมเรียนจบ......


.............................................


เป็นการเรียนรู้ที่เจ็บปวด และทำลายความหวังของผมจนหมดสิ้น
แต่ในมุมที่เลวร้าย ผมกลับได้พบกับแง่มุมดีดีบางด้าน
คือ ผมได้พบกับอาจารย์ที่ดีมากในความหมายของ
“การเป็นครูที่ดี” จากอาจารย์ที่สอนด้านการศึกษา
หลายท่านตั้งใจสอน ตั้งใจถ่ายทอดความรู้อย่างไม่ปิดบัง
สามารถเข้าคุยปรึกษาได้ตลอด
เป็นด้านที่อบอุ่น ท่ามกลางความเย็นชาในคณะฯของตัวเอง


………………………………………….


ผมไม่เคยสนใจไถ่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
หลังจากวันที่ตัวเองจบออกมา
ผมไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ดีขึ้นมากนัก
เพียงแต่รู้ว่า....
กว่าผมจะลืมฝันร้ายที่นั่น
ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา....




Create Date : 04 เมษายน 2550
Last Update : 4 เมษายน 2550 7:22:10 น. 14 comments
Counter : 1056 Pageviews.  

 

เห็นระบบการศึกษาในปัจจุบันยังนึกห่วงเด็กรุ่นหลังอยู่เสมอ

เหมือนถอยหลังลงทุกวัน


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:7:41:37 น.  

 



"ไม่ศรัทธา"
คำเดียว
แต่เปลี่ยนโลกได้นะคะ






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:8:32:31 น.  

 
บางครั้งเราก็เป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ ที่ยากจะเปลี่ยนแปลงจุดใหญ่ๆได้...แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนตัวเอง และสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:9:06:09 น.  

 
อืม ก้อยังดีเนอะยังมีอาจารย์ที่ดีหลงเหลืออยู่บ้าง
แต่ไม่ใช่ในคณะเรานี่สิ จิงๆ แล้วเราต้องสนิทกับอาจารย์ที่คณะมากกว่าหน่ะ
ถ้าเป็นอาจารย์คุณจขบ. ต้องเป็นอาจารย์ที่ดีมากแน่ๆ เลยค่ะ
อุดมการณ์ ศรัทธา ความฝัน...


โดย: jeab (annyjeab ) วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:9:57:50 น.  

 
หลายครั้งที่เราคิดว่า เราก็แค่จุดเล็กๆที่ไม่มีพลังมากพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เราทั้งหลายจึงกลายเป็นคนในชนชั้นผู้ชม ชมแล้วได้แต่นั่งทอดถอนใจว่า เราคงทำอะไรไม่ได้ เพราะเรื่องมันใหญ่และไกลตัวเราเกินไป

แต่แท้ที่จริง ความกลัวที่จะยืนขึ้นและเป็นผู้เปลี่ยนแปลงมันเสียเอง ที่ฝังอยู่ในใจเราต่างหากที่ใหญ่ เสียจนทำให้เรากลัวลาน

เพราะงั้นฉันชื่นชมในความกล้าหาญ ของคุณและเพื่อนๆที่ร่วมกันจัดบอร์ดในนิทรรศการครั้งนั้น ที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเรียนการสอนที่คุณไม่ศรัทธา

เพราะอย่างน้อยมันได้พิสูจน์ว่าคุณและเพื่อนๆกล้า แม้ผลของมันจะยังไม่มีแรงกระทบมากพอจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้เป็นแค่เพียงชนชั้นผู้ชมที่ได้แต่ยืนชมเฉยๆ แล้วเอาแต่ทอดถอนใจว่า "เฮ้อ..แล้วเราจะทำอะไรได้"

มีความสุขทุกๆวันค่ะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:10:40:48 น.  

 

แม้การศึกษาจะตายไปแล้ว
แต่ถ้า “ครู” ยังอยู่
“การศึกษา” น่าจะฟื้นขึ้นมาใหม่ได้

^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:11:04:42 น.  

 
ระบบการศึกษาในปัจจุบัน...เฮ้อ...ไม่รู้พวกผู้ใหญ่เค้าเล่นอะไรกัน
น่าเศร้าใจ


โดย: พีทคุง (redistuO ) วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:11:55:49 น.  

 
อาจารย์ ดีและไม่ค่อยดี หมอ ดี และไม่ค่อยดี ลูกจ้าง ดี และไม่ค่อยดี

ในคำว่าอจารย์ ไม่ดี ท่านก็มีทั้งส่วนดี และส่วนไม่ดี ในคำว่าอาจารย์ ดี ท่านก็มีทั้งส่วนดี และส่วนไม่ดี

ขอให้มองส่วนดี จะได้สบายใจ

โลก ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ


โดย: yyswim วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:13:01:05 น.  

 
ในโลกแห่งโลกาภิวัฒน์...ได้ฆ่า...และทำลายล้างคนที่คิดจะเป็นอาจารย์ดีๆไปหมดแล้ว...
ป้าคนหนึ่งที่อยากเป็น...ครูที่ดี...แต่อุปสรรคที่ได้รับกับคววามกดดันจากผู้อยู่เบื้องสุงที่ทำกันเป็นกระบวนการทำให้ความคิดในการศึกษาบิดเบือน...

เมื่อวานเข้าสัมมนาทางวิชาการเรื่องการทำผลงานทางวิชาการของเหล่าอาจารย์...

สิ่งที่วิทยากรพูดถึงสิ่งแรกคือ...ผลตอบแทนที่เรียกว่าเงิน

เฮ่อ...เลยเซ็ง...นิดๆ...แต่ต้องยอมรับ...

ขอถามคุณหน่อย...ครูเป็นคนเหมือนกันใช่ใหม...

ในขณะที่ครูคนหนึ่งสอนคนจนจบไป 10 - 20 รุ่น นักเรียนของครูขับรถโก้...ผ่านครูที่สอนมาแต่เด็ก...ที่เดินไปทำงาน...ไม่แม้จะหยุดทัก...หรือแวะรับ...เพราะครูคนนี้สอนเลข...และดุเหลือเกิน...ให้คุณตกเลขถึง2 ครั้ง...แต่ปัจจุบันคุณเป็นนักบัญชีที่เก่งที่สุดในประเทศ...คุณคิดอย่างไรกับครูที่ยังเดินอยู่ข้างถนนเพื่อไปสอนหนังสือ...

คุณจะให้คนเป็นครู...คิดอย่างไง...คุณจะให้เด็กนักเรียนที่เดินตามมา...และเห็นพฤติกรรมของรุ่นพี่ที่กระทำต่อครู...คิดอย่างไร...และเมื่อรุ่นน้องคุณโต...และต้องมาเป็นครู...คุณก็คิดเองก็แล้วกัน...เด็กรุ่นหลังๆก็จะเป็นครูอย่างที่คุณรู้จัก...แบบที่คุณไม่ชอบ...ตราบใดที่ครูยังจน...ยังต้องเจ็บจากการถูกนักเรียนของตนเหยีดหยาด....

ครูก็เป็นคนนะค่ะ...น้อยใจเป็นเหมือนกัน

ปล.เงินเดือนครู ป.โท 8000 บาท ป.ตรี 6530 เท่านั้นค่ะ...


โดย: nong_taky วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:14:10:30 น.  

 

กลับมาแล้วจ้า

ขอบใจที่แวะไปทักทายนะ

พบสัจธรรมบางอย่างกับชิวิต

แค่เพียงหนึ่งอาทิตย์เอง

บรรลุเลย

อิอิ


โดย: sunny-low วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:17:42:54 น.  

 
ถ้าพลาดการเข้าบล็อกของคุณเพียงวันเดียว
อาจไม่ได้อ่านคมความคิดที่สดใหม่...ที่คุณนำเสนอ
อาจพลาดมุมมองดี ๆ จากเพื่อนบล็อก

อยากถามเหมือนกันว่า...ครูดี ๆ อยู่ที่ไหนคะ
ไม่ใช่ไม่มีนะคะ
แต่อยากให้มีมาก ๆ ๆ

ใครจะตระหนักบ้างว่า ครูมีอิทธิพลต่อการ"สร้าง"เด็กมากแค่ไหน ครูไม่ใช่"แม่พิมพ์" แต่ครูสร้าง"รูปพิมพ์คนดี"ได้


โดย: ชิงดวง วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:19:22:55 น.  

 
"แล้วผลที่ตามมามันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นเลยครับ
ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม
มีแต่ตัวผมที่เปลี่ยนไป...."

มันเปลี่ยนสิคะ อย่างน้อยที่สุดก็คุณ ฉันไม่รู้หรอกที่คุณบอกว่า "มีแต่คุณที่เปลี่ยนไป" คุณเปลี่ยนไปในทิศทางไหนและอย่างไร แต่จากการที่เข้าบล็อกคุณมาหลายๆบล็อก ฉันมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า

อย่างน้อยฉันก็เห็นความเป็นคน "คุณภาพ" จากงานที่คุณเขียน จากสิ่งที่คุณคิด อย่างน้อยสิ่งที่คุณมี ก็คือจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม นั่นก็น่าจะพอถูกไหมคะ ในหลวงทรงตรัสว่าเราทุกคนต่างมีหน้าที่ เราจึงต้องทำหน้าที่ของแต่ละคนให้ดีที่สุด

เราอาจไม่ได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ขนาดเปลี่ยนแปลงโลก แต่หากเราทำภาระหน้าที่ส่วนของเรา ได้อย่างดีแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจอีกค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:20:26:49 น.  

 
มาอ่านคำคมคับ


โดย: frank3119 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:1:03:37 น.  

 
ความศรัทธา คือพลังอันยิ่งใหญ่ จริงๆค่ะ


โดย: tu_bong วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:5:38:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]