เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
12 เมษายน 2550

โลกนี้มีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้มากมาย

นั่งคุยกับตัวเอง : โลกนี้มีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้มากมาย
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
12 เมษายน 2550



มีสองสามเรื่องที่ค้างคาในใจมานาน
บางครั้งผมอยากหาคำตอบให้ใจตัวเอง
แต่มาคิดๆดูแล้ว
บางทีการปล่อยให้คำถามวางอยู่ตรงนั้น
โดยที่เราเป็นเพียงผู้เฝ้ามองดู
คำตอบอาจคลี่คลายและเฉลย...ด้วยตัวของมันเอง


.................................


ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นชาวไทยภูเขา
บ้านเขาอยู่บนดอย
เมื่อก่อนนี้เขายากจนมาก แต่พอหลังจากการท่องเที่ยวนำคนขึ้นไปอย่างมากมาย
ครอบครัวของเขาก็จัดอยู่ในฐานะของคนร่ำรวยทันที
ที่บ้านของเขามีรถกระบะขับ ในขณะที่พวกผมยังขี่รถมอเตอร์ไซด์ต๊อกกะต๋อย
บ้านบนดอยนั้นมีกระทั่งดาวเทียม ในยุคนั้นมีแต่คนรวยเท่านั้นที่สามารถติดตั้งดาวเทียมได้
ครั้งหนึ่งเขาบอกผมว่า ถ้าเรียนจบจะไม่ขึ้นไปอยู่บนดอยแล้ว
ผมพอคิดได้อยู่ว่าทำไม
“วัฒนธรรมแบบคนเมือง” คงเปลี่ยนตัวตนของเขาไปแล้ว
“รำคาญ...เจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาขอร้องว่าอยากให้แต่งชุดชาวเขาขายของ แถมยังไม่ให้ติดดาวเทียมอีก ใครจะไปอยู่กระท่อมใบตองตึงตลอดชีวิตวะ” เขาว่า
“ยีนส์ก็ใส่ไม่ได้ มีเงินแล้วทำไมต้องทำตัวจนวะ”
ผมได้แต่อึ้ง แต่คิดตามไปแค่ว่า
เออ....จริงของมัน
เงินก็ได้มาจากการค้าขายที่สุจริต รวยแล้วทำไมมีความสุขไม่ได้
หรือว่า วิธีคิดแบบนี้มันผิด เราต้องอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเอาไว้สิ
ก็เพราะชุดแต่งตัวแบบพื้นถิ่น บ้านแบบเก่า วิถีชีวิตแบบเก่าไม่ใช่หรือที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ขึ้นมา
แค่ความคิด ยังไม่ทันพูด เพื่อนก็ตอบขึ้นมาก่อน
“กูอยากให้พวกมัน (เจ้าหน้าที่) มาเป็นอย่างกูบ้าง ดูสิมันจะอยากสบายบ้างมั้ย”
คำตอบมันยิ่งทำให้ผมหุบปากอย่างสนิท
โลกนี้ก็ไม่ได้มีคำตอบสำเร็จรูปสำหรับเราเสมอไป


..............................................


น้องสาวมาปรึกษาเรื่องอยากทำค่ายอาสา
พานักศึกษารุ่นน้องไปออกค่ายที่บนดอย
ไปสร้างห้องน้ำให้เด็กชาวเขา
ผมถามว่า “แล้วรู้ได้ไงว่าเขาอยากได้ห้องน้ำ”
น้องสาวเริ่มอึ้ง...
“เป็นความอยากของเราฝ่ายเดียวหรือเปล่า ?
เกิดเขาไม่อยากได้ แต่พูดกับเราไม่ได้ ที่สร้างไว้ไม่เป็นของเสียเปล่าหรือ ?
โรงเรียนไปสร้างๆกันไว้ ครูดอยมีขึ้นไปสอนซะที่ไหน
เดี๋ยวก็เหมือนนักการเมืองโง่ๆที่เอาเครื่องคอมพิวเตอร์ไปแจกโรงเรียนบ้านนอก
ครูก็เปิดเครื่องไม่เป็น สอนก็สอนไม่ได้
ที่ปัญญาอ่อนก็คือ ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงเลย”
ผมร่ายยาว
“ไอ้ที่ขึ้นไปสร้างนู่นสร้างนี่ ถ้าไปด้วยความตั้งใจก็ไม่เป็นไรหรอก
ไปเมาไปกินเหล้า ไปนั่งเล่นกีตาร์ หรือไปแจกขนมเด็กแค่นั้นแล้วก็กลับหรือเปล่า ?”
ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมเห็นปัญหาที่ซ้ำซากนี้
หลายครั้งเป็นการไป “เพื่อความสนุกสนานของตัวเอง”
ไม่ได้เป็นการไป “เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้ผู้อื่น”

ไม่ได้ทำให้เสียความตั้งใจ
แต่ผมไม่อยากให้เขาใช้วิธีคิดแค่ว่า
เราไปทำสิ่งที่มีประโยชน์ ทั้งๆที่ไม่รู้จริงๆว่า
สิ่งที่เราทำให้เขานั้น เขาต้องการจริงๆหรือเปล่า
ไม่เช่นนั้น มันแค่เหมือนเราทำความดีเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี

แล้วอย่าไปลำเลิกบุญคงบุญคุณอะไรเลย
ว่าฉันสร้างโน่น สร้างนี่ให้ชาวดอย
เขาอาจนั่งเราะมองดูห้องน้ำประจำหมู่บ้าน
แล้วก็ถือกิ่งไม้ ไปนั่งปลดทุกข์บนดอยเหมือนเดิมก็ได้ใครจะไปรู้


........................................


ให้ปลาฉันหนึ่งตัว
ฉันมีกินไปหนึ่งวัน
สอนฉันจับปลา
ฉันมีกินหนึ่งเดือน
สอนฉันเลี้ยงปลา
ฉันมีกินไปตลอดชีวิต


ครั้งหนึ่งนิรลม เมธีสุวกุล
พิธีกรรายการโทรทัศน์เดินทางเข้าไปถ่ายทำรายการในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
เมื่อเห็นป้าคนหนึ่งถือปลาตัวหนึ่งเดินเข้ามา
จึงทักทายไปว่า
“ปลาตัวใหญ่จังนะคะคุณป้า คงจะทำกับข้าวได้หลายอย่างเลย”
คุณป้าท่านนี้จึงถามกลับไปว่า
“รู้มั้ย ทำอย่างไรปลานี้จึงจะมีกินได้นานที่สุด”
ทีมงานพยายามช่วยกันตอบ
ทั้งทำเป็นปลาร้า เอาไปตากแห้ง หมักเกลือ
คุณป้าส่ายหน้าแล้วยิ้ม ก่อนที่จะตอบว่า
“ปลาตัวนี้จะกินได้นานที่สุด ต้องเอาไปแบ่งบันคนในหมู่บ้าน
เพราะเมื่อคนอื่นหาปลามาได้ เขาก็จะแบ่งเรากินเหมือนกัน”


.....................................


โลกนี้มีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้มากมาย
ใช่....สำหรับผม
การวางคำถามไว้ โดยไม่ต้องเค้นค้นหาคำตอบ
ก็ดูเป็นวิธีที่เหมาะที่ควรแล้ว.



......................................................






 

Create Date : 12 เมษายน 2550
14 comments
Last Update : 12 เมษายน 2550 7:32:50 น.
Counter : 963 Pageviews.

 

มาคนแรก เย้ เย้ ** ทุกที่เป็นเหมือนกันค่ะความเจริญเข้าถึงความงามตามธรรมชาติก็จะค่อย ๆ หายไป ที่อุบลฯ เหมือนกันสมัยก่อนมาเที่ยวช่วงปิดเทอมยังได้นั่งเกวียนที่ริมแม่น้ำโขงตอนนี้หรือค่ะกลายเป็นศาลาตามบ้านคนมีตังค์หน่อยหมดแล้วค่ะ แต่อย่างน้อยความเจริญก็ทำให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นค่ะ

 

โดย: นู๋นีล (นางน่อยน้อย ) 12 เมษายน 2550 8:27:23 น.  

 

เคยได้รับฟังเรื่องราวของชนเผ่าจากอ้ายนักเขียนคนนึงที่แกเคยเป็นครูดอย ใช้ชีวิตคลุกคลีกับชนเผ่าหลายปีอยู่
แน่นอนว่ามุมมองย่อมแตกต่างกับเจ้าหน้าที่และนักศึกษาค่ายอาสาโดยสิ้นเชิง

น่าตลกดีน่ะ ชาวเขาเดินเข้าป่าไปปลดทุกข์ แต่ระหว่างทางก็ไม่ลืมที่จะหันมามองส้วมที่ชาวเราสร้างให้ พร้อมกับยิ้มให้ 1 ที
แล้วก็เดินลิ่วเข้าป่าไป...........



ป.ล. เพลงเพราะสมวัยเจ้าอ้าย....เก่ง ๆ ๆ

 

โดย: กากีซ่าส์ 12 เมษายน 2550 8:39:39 น.  

 

วันนี้เครียดกว่าเมื่อวานจิ๊ดนึง (แวะมาอ่าน ตอบแล้วแต่ไม่ได้ login คำตอบเลยหายไปกับแบนวิดธ์ )

เคยไปออกค่ายสมัยเรียนสองสามครั้ง แค่ค่ายแรกก็รู้สึกแล้วว่า เราไปเรียนรู้มากกว่าไปให้... ได้อะไรติดหัวมาเยอะแยะเลยค่ะ คิดว่าถ้าเราทำตัวเราให้เล็กมากๆ จะเรียนรู้ได้มากกว่านั้นอีก

ที่ประทับใจมากๆคือ ที่หมู่บ้านนั้นไม่มีไฟฟ้า คืนวันสงกรานต์ใส่ผ้าถุง(ของชาวบ้านที่ไปอยู่ด้วย)เดินอาบแสงจันทร์ไปงานวัด อากาศเย็นสบาย พระจันทร์สวยเย็นตา ... รู้สึกใจเป็นสุข ชีวิตเป็นสุข อยู่เมืองแสงไฟจ้าเสียจนกลบแสงธรรมชาติที่ช่วยกล่อมใจให้สงบไปเสียหมด มิน่าคนเมืองใจร้อน...

...ถึงวันนี้ยังเรียนรู้เรื่องใหม่ๆทุกวัน ทั้งงานและชีวิต(และภาษา)จากคนรอบข้าง บางเรื่องอย่างที่คุณว่าจริงๆ เวลาจะหาคำตอบมาให้เอง


ปล. ขอบคุณที่ชอบรูปนะคะ เวลาถ่ายดอกไม้รู้สึกว่าบางทีดอกไม้บานน้อยๆถ่ายรูปแล้วสวยดี เพราะเหลือที่ให้เห็นด้วยว่ารอบๆดอกไม้มีอะไรบ้าง (และเหลือที่ให้คิดเวลามองภาพ) อย่างรูปเชอรี่กับระเบียงบ้านที่เห็นแสงไฟหลังบ้านไงคะ

ปล.สอง ชอบสัตว์เลี้ยงของคุณจังค่ะ ไอเดียบรรเจิดจริงๆ

 

โดย: SevenDaffodils (SevenDaffodils ) 12 เมษายน 2550 9:00:30 น.  

 

เคยไปฝึกงานแล้วได้ไปสำรวจบนดอย ยังเป็นธรรมชาติอยู่นะคับ ผมว่าก็แล้วแต่บางคนนะแต่ยังให้มีวัฒนธรรมแบบเดิมอยู่้คับ ส่วนเรื่องปลาได้ใจมากคับ ตามนิสัยคนไทยแถวชนบทยังมีแบบนี้อยู่นะัคับ (บ้านผมเอง)

 

โดย: frank3119 12 เมษายน 2550 10:24:58 น.  

 

แวะมาส่ง Tag อีกรอบคับ ฉลองลิเวอร์พูลเจอเชลซีคับ

 

โดย: frank3119 12 เมษายน 2550 10:41:02 น.  

 

เคยได้ยินเรื่องการถนอมปลาไว้ให้มีกินไปตลอดเหมือนกันค่ะ
ถนอมปลาด้วยการแบ่งปันปลา

บางครั้งเราตั้งคำถามจนปวดหัว
ก็เลยพานคิดไม่ออก
ถ้านั่งนิ่งๆ บางทีคำตอบก็ลอยมาเอง
บางทีก็คิดว่า
ถ้าไม่มีคำตอบให้บางคำถาม
ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร
^^

 

โดย: I am just fine^^ 12 เมษายน 2550 11:54:01 น.  

 

สวัสดีค่ะ วันนี้มาสายค่ะ ก็ไม่สายเท่าไหร่ค่ะ เที่ยงเลย

มาอ่านเรื่องราวดี ๆ ให้แง่คิดดี ๆ เช่นเคยค่ะ

" ให้ปลาฉันหนึ่งตัว
ฉันมีกินไปหนึ่งวัน
สอนฉันจับปลา
ฉันมีกินหนึ่งเดือน
สอนฉันเลี้ยงปลา
ฉันมีกินไปตลอดชีวิต "

อันนี้ดีมาก ๆ เลยค่ะ ถ้ารัฐช่วยเหลือประชานชนแบบนี้ได้ก็ดีสิคะ

ดูจากข่าว จากรายการโทรทัศน์ที่ช่วยเหลือโดยการบริจาค แต่จะใช้ไปได้สักเท่าไหร่กัน หากว่ายังไม่มีการมีงานทำเลี้ยงชีพตัวเอง ก็ได้แต่คิด ๆๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ

 

โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ 12 เมษายน 2550 12:26:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณกะว่าก๋า

สุขสันต์วัน สุกดิบนะคะ พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสงกรานต์แล้ว สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ ปอชอบความเห็นที่คุณไป แปะเรื่องละครไทยมากเลยค่ะ เปรี้ยวมากๆๆๆ ถูกใจค่ะ

ไม่ได้แวะมานานเลยค่ะ เพราะเท้งเต้ง บ้าๆ บอๆ ไปเรื่อย เบื่อๆ อยากๆ ไปซะทุกเรื่อง

บล็อกวันนี้ถูกใจอีกแล้วค่ะ คมมาก จริงๆ นะคะ ปอเห็นด้วยว่าคนเรา ชอบเอาความคิด และบรรทัดฐานของตัวเองไปตัดสินคนอื่น ว่าเขาน่าจะอย่างนั้น อย่างนี้ถึงจะดี เหมาะสม ไม่ได้มองเลยว่า คนที่เราไปกะเกณฑ์ ตัดสินพิจารณา เขาก็มีมุมมอง ความคิดเห็น ความพึงพอใจ และวิถีชีวิตในแบบของเขา

อย่างนี้ล่ะค่ะ ชีวิตคนมันถึงได้วุ่นวายนัก

หยุดสงกรานต์ เที่ยวให้สนุกนะคะ ปีนี้ช่วงสงกรานต์ปอตกค้างอยุ่ในเยอรมนีเป็นปีที่ 2 แล้ว อยากกลับบ้านมากๆ เลยค่ะ

 

โดย: ปอ (O_Sole_mio ) 12 เมษายน 2550 15:49:28 น.  

 

หวัดดีคะ คุณ กะว่าก๋า <<( ไม่แน่ใจว่าตัวเองออกเสียงถูกหรือเปล่า)
- เรื่อง บนดอย เอิม..มันก็จริงๆนะ ว่าการออกค่ายอาสา ทำประโยชน์ได้จริงๆหรือ คงได้แต่เฉพาะที่คนในพื้นที่ขอมา ส่วนที่จะเสนอไปว่าเดี๋ยวจะไปทำให้ เค้าต้องการจริงๆหรือเปล่า ...อืมๆน่าคิดๆ
ก็คงไม่ต่างกับเด็กข้างถนนที่เก็บอาหารเหลือทิ้ง แล้วเอามากิน และคนก็ไปมอง แล้วยื่นของกินที่ตัวเองมีให้
เด็กคนนั้น คงไม่อยากได้ เพราะตัวเองกำลังกินอยู่ แต่คงคิดว่า ถ้าสงสารก็เอาเงินมาสิ ของกินไม่ต้องเพราะมีกินอยู่แล้ว ....เออเราบ่นอะไรเนี่ย
สรุปคือ จะให้อะไรใคร ผู้รับเค้าต้องการจริงๆหรือเปล่าอืม..งั้นทีหลังจะถามก่อนให้555

 

โดย: กิล (li_goro ) 12 เมษายน 2550 16:24:35 น.  

 

เห็นด้วยนะคะว่า ถ้าจะให้อะไรกับใครก็ควรจะต้องรู้ก่อนว่าเขาต้องการหรือไม่

ถ้าหาเขาไม่ต้องการไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

แวะมาทักทาย สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

 

โดย: เพียงแค่เหงา 12 เมษายน 2550 19:15:15 น.  

 


วันนี้ทำงานเจอปัญหาอย่างหนึ่ง
ตอนแรกพยายามจะทิ้งมัน และไม่สนใจ
แต่มาทบทวนอีกที
การทิ้งปัญหาไม่ใช่ทางแก้ปัญหา

ก็เลยกลับมาหาทางแก้
แต่หาไปหามาก็ไม่มีหนทางใดเลย
จนเริ่มอ่อนใจ

พอเริ่มรู้สึกหมดหนทางจริงๆ
อยู่ดีๆ ทางแก้ปัญหาก็เดินมาเอง
ทำให้ปัญหานั้นคลี่คลายลงได้ดี


ปัญหา ก็คงเหมือน คำถาม

บางทีเรารีบร้อนอยากได้คำตอบ
กลับไม่พบคำตอบ

แต่บางทีเราปล่อยนิ่งๆ
คำตอบที่เราอยากได้
มันก็โผล่พรวดขึ้นมาเอง

การวางเฉยกับบางปัญหา
หรือการไม่เค้นหาคำตอบในบางคำถาม
ณ เวลาใด เวลาหนึ่ง
อาจดูว่าเหมาะสมแล้ว

แต่

กับบางปัญหาและบางคำถาม
การวางเฉยก็อาจส่งผลร้ายมากกว่าที่คิด

แล้วแต่สถานการณ์นั้นๆ มากกว่า

มั้ง

 

โดย: sunny-low 12 เมษายน 2550 19:49:17 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องราวดีๆ ครับ
มีความสุขวันสงกรานต์ครับ

 

โดย: คนขับช้า 12 เมษายน 2550 23:54:43 น.  

 

แวะมาอ่านบทความนี้แล้ว ได้ข้อคิดดี ๆ เยอะเลยค่ะ ^_^

 

โดย: Beee (Beee_bu ) 15 เมษายน 2550 20:25:22 น.  

 

วันที่ 12 เม้นท์ไปรอบนึงละค่ะ
แต่ว่า...ที่ทำงาน login ไม่ได้
เลยไม่ได้ฝากร่องรอยไว้
...
อ่านแล้ว นึกไปถึงเรื่องของ คนตาบอดคู่สามี ภรรยา
เดินจูงมือกัน แลกเสียงเพลงกับเงินบริจาค
...
บางคนอาจนึกสงสาร แต่เราว่า บางที
เค้าอาจจะมีความสุขมากกว่า คนที่นึกสงสารเค้าอยู่อีก
...
สำหรับเรา เงินบริจาคที่หยอดใส่กระป๋องลงไปนั้น
แลกมากับ เสียงเพลงเพราะเพราะที่ได้ฟังค่ะ
...
ปล.เราคุยกันเรื่องเดียวกันอยู่ใช่มั้ยคะ

 

โดย: Serendipity_t 18 เมษายน 2550 1:34:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]