เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
5 เมษายน 2550

ใครว่าใคร...

นั่งคุยกับตัวเอง : ใครว่าใคร...
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
5 เมษายน 2550



ใครว่าใครเก็บกด ?
ใครว่าใคร...ถดถอย ?
ใครที่เป็นคนเลื่อนลอย ?
ใครที่ปลดปล่อย...ความคิดเสรี ?


11.40 น.
7 มกราคม 2538


กับระยะเวลาที่ห่าง 12 ปี
ผมนั่งมองตัวเองในวันนี้
กับตัวตนในวันนั้น
วันที่ยังเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง
ผู้ผิดหวังในระบบการศึกษาที่ตนเองมุ่งหวัง
นี่คือความรู้สึกทั้งหมดในวันนั้น
ผมเขียนความรู้สึกนี้ไว้ในบันทึก
และอยากออกไปแลกอนาคตกับอาจารย์ในคณะฯสักตั้ง...
นับเป็นเรื่องดีที่ในตอนนั้นผมไม่ได้ทำอย่างที่คิด


........................................


เพื่อนหลายคนมองผมด้วยสายตาเคลือบแคลง
บางคนบอก
“มึงจะเอาอะไรกันนักกันหนา เรียนๆให้มันจบๆ
ทะเลาะกับอาจารย์ไปทำไม มาเพื่อเอาปริญญาไม่ใช่หรือ ?”

เปล่า....ผมไม่เคยบอกตัวเองว่ามาเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อต้องการ “กระดาษ” แผ่นเดียว
ผมมาที่นี่เพื่อต้องการ “วิชาความรู้” เพิ่มเติม
เพื่อกลับไปทำและเป็นอย่างที่ใจเคยมุ่งหวัง
ผมอยากเป็น “ครูที่ดี” สักคนหนึ่ง
“ครู” ซึ่งมีความหมายมากกว่าคนรับจ้างสอน
หรือคนที่สอนเด็กแบบไปวันๆ....
ผมอยากเป็นครูในแบบที่ผมเคยเห็น
“ครูต้นแบบ” มากมายของผม
“ครู” ซึ่งเป็นมากกว่า “ครู”
“ครู” ผู้เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งพ่อหรือแม่ ในเวลาเดียวกัน
“ครู” ผู้นำทางไปสู่เส้นทางความหวัง
“ครู” ผู้ให้กำลังใจ สนับสนุนและชื่นชม
รักและห่วงใย ลูกศิษย์
ครับ...รักเหมือนลูก ดูแลในฐานะศิษย์
โชคดีที่ผมได้พบเจอครูเหล่านี้มากมายหลายท่าน
โชคร้าย...ที่ผมดันมาเจออาจารย์บางคนในคณะฯ ที่ทำตัวไม่เหมาะสมกับคำว่า “ครู” เลย...
อย่าว่าแต่เฉียดกรายความหมายของคำว่า “ครู”
คำนี้สูงส่งเกินไปสำหรับคนบางจำพวก....


.......................................


หลายพฤติกรรมที่ผมรับไม่ได้
ของคนที่เรียกตัวเองว่า “อาจารย์”

- ไม่เข้าสอนเลยเกือบตลอดทั้งเทอม เพราะต้องเอาเวลาสอนไปรับงานนอก ซึ่งมีรายได้ดีกว่า

- การตัดเกรด ซึ่งไม่ทราบว่ามีมาตรฐานใดชี้วัด
เรียนก็ไม่ได้เรียน ถึงเวลาออกข้อสอบ
กับใช้รายงานแค่ฉบับเดียวตัดสินเกรดของทั้งเทอม บางคนถ่ายเอกสารข้อเขียนของคนอื่นจากนิตยสาร เย็บรูปเล่มสวยๆ ส่งอาจารย์แล้วก็ได้ A แบบเจ้าตัวยังงงชีวิต

- เข้ามาถึงก็เล่าแต่ประวัติชีวิตตัวเอง ข่มนักศึกษาด้วยความเก่งกาจสามารถของตัวเอง เห็นลูกศิษย์โง่ตลอด ข้าเก่งอยู่คนเดียวประเทศชาตินี้

- สั่งงานเสร็จแล้วก็หายจ้อย ไปรับงานนอกอีกตามเคย การตรวจงานหน้าชั้น ก็ไม่ได้ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้อะไรเลย ทำแบบขอไปที

- อาจารย์บางคนมีปัญหาเรื่องชู้สาวกับลูกศิษย์และเจ้าหน้าที่ในคณะฯ

- ไม่เคยอยู่ติดคณะฯเพื่อปรึกษาข้อมูลเลย บางวันไปนั่งรอเรียนรอพบที่คณะฯ รอจนเบื่อ.. แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น “พอดีผมติดธุระ เข้าไปไม่ทัน คุณบอกทุกคนให้กลับบ้านได้”


ผมบอกตัวเองให้ยกมือไหว้พวกเขา เพราะว่าเขาเกิดก่อนเรา
จนถึงวันนี้ ผมไม่เคยเคารพพวกเขาในฐานะอาจารย์ของผมเลยสักครั้ง
ไม่เคยมีความภูมิใจที่ได้เรียนในคณะฯนี้
สองปีที่ผมเรียนที่นี่ เพื่อ “ปริญญาตรี”
ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่ามีความรู้เพิ่มเติมอะไรเลย
วิชาการใหม่ๆ ผมหาอ่านและดูเอาเองจากหนังสือในห้องสมุด
แถมยังเกือบเรียนไม่จบเพราะต้องคอยทะเลาะกับอาจารย์ในคณะฯ

ยังดีที่อาจารย์ต่างสาขา...สอนและเป็นที่ปรึกษาได้เป็นอย่างดี
ผมรู้สึกสนุกกับการเรียนวิชาเลือกมากกว่าวิชาหลักในคณะฯ
จนทุกวันนี้ ผมก็ยังระลึกถึงอาจารย์เหล่านั้นด้วยความเคารพนบน้อมในใจตลอดมา


................................................


ไม่รู้แล้ว....
ว่า “ปริญญาบัตร” ของผมถูกวางทิ้งไว้ที่มุมใดของบ้าน
และผมก็ไม่ได้เป็น “ครูที่ดี” อย่างที่เคยมุ่งหวัง
ชีวิตมันเบี่ยงเส้นทางเดินของผมไปไกลจากความคาดหวังลิบลับ
ถึงตอนนี้ ผมไม่ได้โกรธ “คนเหล่านั้น” เหมือนวันก่อนอีกแล้ว
ไม่ถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักศึกษารุ่นน้อง
ไม่สนใจรับรู้การเปลี่ยนแปลงอะไรที่นั่นหลังจบออกมา

แค่พยายามลบลืม “สองปีที่ฝันร้าย” ให้ออกจากใจไปได้
ก็ต้องใช้เวลายาวนานหลายปี
และอีกหลายปี เพื่อให้อภัย
กับคนที่ผมไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะเปลี่ยนเป็น “ครูที่ดี” ได้เลย.







..................................................


ผมแปลกใจเมื่อถึงถึงรูปวาดในแนวนี้
ที่ตัวเองวาดและเก็บไว้จำนวนหนึ่ง
"เด็กเก็บกด" หายไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้
และคงไม่กลับมาอีกแล้ว.....


Create Date : 05 เมษายน 2550
Last Update : 5 เมษายน 2550 7:41:42 น. 14 comments
Counter : 1401 Pageviews.  

 
ก็คงเป็นแค่ช่วงหนึ่งที่แนวความคิดเป็นอีกแบบ แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป ก็ทำให้ความคิดเปิดกว้างขึ้น....

ความจริงถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็ควรจะภูมิใจด้วยซ้ำที่ครูเหล่านั้นสอนให้เรารู้จักคิด และได้ดูแลตัวเอง....


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:8:04:46 น.  

 

ไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจในระบบการศึกษาเท่าไหร่นัก

รู้แต่ว่ามีหน้าที่เรียน ก็เรียนเพื่อให้พ่อสบายใจ

เรียนยังไงก็ได้ ให้พ่อไม่ต้องลำบากหาที่เรียนบ่อยๆ

จำได้ว่าตอนจบ ม.3 ทางโรงเรียนเขาจะให้สิทธิ์เด็กเก่าที่เรียนเกรดดีๆ เพื่อเรียนต่อ ม.4 ที่เดิมได้ ในใจตอนนั้นมุ่งมั่นอย่างมาก เพื่อที่จะเรียนเพื่อให้เกรดถึง โดยหวังอย่างเดียวคือ พ่อไม่ต้องยุ่งยากหาที่เรียนให้ใหม่

เรียนจบ ม.6 ก็มุ่งมั่นอีกว่า ต้อง ม.ของรัฐเท่านั้น และต้องสอบเข้าให้ได้ โดยไม่สนใจว่าจะ ม.อะไร คณะอะไร เพราะไม่อยากให้พ่อเสียเงินมากเกินความจำเป็นกับ ม.เอกชน เพื่อแลกกับกระดาษเปิดทางสู่อนาคต

ความเข้าใจในการเรียนมีแค่นั้นจริงๆ

แต่โชคดี
ระหว่างทางเดินนั้น พบเจอครู อาจารย์
ที่เป็นเรือจ้างสมบูรณ์แบบ
ท่านสละเวลาให้กับลูกศิษย์จริงๆ
อาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้น ม.ปลาย 3 ปี
สละเวลาและชีวิตเพื่อลูกศิษย์ของท่านจริงๆ

มารู้สึกแย่กับระบบการศึกษาตอนเรียน ป.โท นี่แหล่ะ
หมดศรัทธากับการเรียนไปเลย
เหมือนยิ่งเรียนจะยิ่งถอถอย ซะงั้น


โดย: sunny-low วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:8:51:57 น.  

 
ชอบรูปวาดนั่นมากเลย.....
เด็กเก็บกดรึ? แลดูเป็นปีศาจดีน่อ...

"ระบบ"การศึกษา ไม่ขอออกความเห็น
อยากออกความเห็นเรื่อง ระบบการใช้ชีวิตมากกว่า




โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:10:05:38 น.  

 
ขอดูภาพวาดวันนี้หน่อย
เพื่อยืนยันว่า เด็กเก็บกด หายไปแล้ว
เอ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนมาเป็น ผู้ใหญ่เก็บกด นะเออ

แล้วประโยคนี้แปลว่าอะไรคะ
โดนแบบไปเรียบร้อยครับ

มีความสุขกับอากาศร้อนๆ ให้ได้นะคะ
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:10:15:22 น.  

 
แวะมาอ่าน...

สะดุ้ง..แหะ..แม่นเป้นครูแบบนี้ก่อหา...

รีบสำรวจตัวเอง..อย่างสุดฤทธิ



โดย: gripenator วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:10:23:41 น.  

 
มันอยู่ทีี่่การทำงานมากกว่านะ อย่างบางทีเรียนแล้วไม่ได้นำมาใช้ในการทำงานเลยคับ


โดย: frank3119 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:11:49:48 น.  

 
บางเรื่องก็พูดยากเนอะ

ทำตัวเราให้ดีที่สุดละกันค่ะ



โดย: ใบไม้ร่วงในป่าใหญ่ วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:48:59 น.  

 
อ่ะ มาช่วยเพิ่มเรตติ้งที่หน้าบ้านนี้อีกครั้ง
ก่อนจะไปเดินเล่นหลังบ้าน
อิอิ

พรุ่งนี้คงไม่ได้มาชมภาพวาดฝีมือ ผู้ใหญ่ไม่เก็บกด
เพราะว่าจะกลับบ้านที่ตจว. ค่ะ
บอกก่อนว่าไม่ใช่เชียงใหม่แน่ๆ
อีกสองสามวันเจอกันใหม่ค่ะ

^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:17:40:59 น.  

 
สำหรับ เราแล้วเราชอบ ครู ที่ไม่ได้สอนในตำราหน่ะ

เพราะว่าในตำราเราอ่านเองได้ โดยเฉพาะครูที่ชอบ

เล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิต หรือไม่ก็ความรู้รอบตัว

ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน หรือแม้กระทั่ง ครู ที่คิดนอกกรอบ



โดย: หิมะสีดำ (หิมะสีดำ ) วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:18:51:38 น.  

 

ปริญญาใจที่บ้านยังไม่พอเหรอยะ

ถึงอยากเรียนอีกเนี่ย

เดี๋ยวเหอะ

อิอิ

ปริญญาอะไร ไม่เท่าปริญญาชีวิต

ที่แต่ละคนได้เรียนรู้มา

เพราะแต่ละคนก็คงได้รับมาคนละหลายๆ ใบ

เลยเนาะ

จิงปะ


โดย: sunny-low วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:18:56:59 น.  

 
เห็นรูปนี้แล้วรู้สึกเจ็บปวดจังค่ะ
เหมือนถูกพันทนาการ รัดตรึง
อยากจะเอากรรไกรตัดเส้นลวดและเชือกเหล่านั้นออกไปเหลือเกิน
ความเจ็บปวดอาจจะบรรเทาเบาบางลงไปได้


โดย: tu_bong วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:19:18:34 น.  

 
ระบบการศึกษาก็เหมือนกับระบบอื่นๆ

มีคนอยู่ในระบบไหน ก็วุ่นวายไปเสียทุกระบบแหละครับ

เช่นเดียวกับ วงการการศึกษา ครู เป็นผู้ที่ถูกคาดหวังมาก

แต่ในขณะที่ระบบของการคัดเลือกครู และส่งเสริมยกระดับวิชาชีพครู

กลับถูกมองข้ามไป

ฉะนั้นก็ทำใจเถอะครับ

มาสร้างระบบความคิดดีๆ ให้กับเด็กไทยดีกว่าครับ อย่ายกให้ครูเป็นผู้สร้างแต่เพียงฝ่ายเดียว

modeling ดีๆ ก็ทำให้เด็กๆได้ดูกันบ้าง เนอะ



โดย: DekChaiDam วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:54:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ
ตอบคุณกะว่าก๋า ที่ไปถามไว้ในบล็อกนะคะ อักษรศาสตร์ เป็นคณะวิชาหนึ่ง ที่มีหลายภาควิชา ส่วนใหญ่จะเน้นเรียนในเรื่องภาษา เช่นภาควิชาภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ไทย ส่วนวรรณกรรมต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรค่ะ

ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ตนรักและเลือกแล้วนะคะ


โดย: pretty lady วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:22:26:12 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่ง "ฉันจึงมาหาความหมาย" ค่ะ ชอบวรรคทองที่ว่า "สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว"

และชอบประโยคนี้ของคุณค่ะ "อยากออกไปแลกอนาคตกับอาจารย์ในคณะฯสักตั้ง..."

ฉันค่อนข้างเชื่อยังไงไม่รู้แฮะ ว่า..ตอนนั้นถึงคุณจะออกไปแลกอนาคตกับอาจารย์จริงๆ อีกสิบกว่าปีต่อมาคุณก็มาจบอย่างที่คุณเป็นนี่..อยู่ดีค่ะ เพราะอะไรหรือคะ คุณมีความคิดและจิตสำนึกแบบนี้เป็นหางเสือ ถึงที่สุดมันก็จะพาคุณมายืนอยู่ ในที่ๆคุณยืน ณ.ปัจจุบันนี้อยู่ดี

นิทราสวัสดิ์ค่ะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:22:28:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]