จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
17 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

เงื่อนไม่มีปม # 7 เรื่อง รักของตำรวจ (ตอนที่ 5)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ประพันธ์้เมื่อปี พ.ศ. 2516

เรื่อง รักของตำรวจ (ตอนที่ 5)

หญิงสาวเลยวัยรุ่นไปแล้วคนหนึ่ง ก้าวเข้ามาในห้องนายเวร ขณะที่ ทวน เทพไท กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานการสอบสวนคดีหนึ่งอยู่ ทวนเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขายิ้มเมื่อมองเห็นหล่อนเข้ามายืนเก้ ๆ กังๆ อยู่ตรงหน้าโต๊ะ ปัดงานที่ทำค้างตรงหน้าไปข้างตัว แล้วทวนก็เชิญให้หล่อนนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้านั้น เขาหันไปมองนาฬิกาข้างฝา มันบอกเวลาบ่ายสี่โมง เหลืออีกสองชั่วโมงเขาก็จะได้ออกเวร

ผู้หญิงตนนั้นนั่งลงตามคำเชิญ แล้วก็พูดขึ้นทันทีว่า
“ ดิฉันจะแจ้งความ ”

“ คุณมาถูกที่แล้ว เชิญแจ้งได้เลยทีเดียวครับ ”
ทวนพูดอย่างติดตลก

“ ดิฉันถูกลักทรัพย์ค่ะ ” หล่อนพูด

“ เล่าเรื่องคร่าว ๆ ให้ผมฟังก่อน ว่าคุณเก็บทรัพย์นั้นไว้อย่างไร หายไปอย่างไร และสงสัยใคร ข้อสำคัญ ทรัพย์นั่นคืออะไร มีมูลค่าเท่าไหร่ ” เขาพูดอย่างท่องจำ

“ เงินสดค่ะ พันสองร้อยบาท ดิฉันเก็บมันไว้ในลิ้นชักจักร์ที่ร้าน มันหายไปอย่างไร ดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ผู้ที่ดิฉันสงสัยคือ เพื่อนร่วมร้านเดียวกับดิฉันนั่นเอง ”

“ คุณทำอะไร ผมหมายถึงว่า ที่ร้านของคุณเป็นร้านอะไร ”

“ ร้านเย็บเสื้อค่ะ เป็นร้านส่วนตัวของดิฉัน ดิฉันรับจ้างเย็บเสื้อผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านไม่มีใคร นอกจากเพื่อนที่เคยรู้จักกันมานานแล้ว ที่มาอาศัยเย็บปักถักร้อยประจำวันอยู่ด้วยอีกคนเดียว เมื่อเช้านี้ ดิฉันได้เอาเงินมาจากบ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนายวงเปียร์แชร์ จำนวนพันสองร้อยบาท เพื่อเอามาให้เพื่อนคนหนึ่งที่เขาขอกู้ก่อนในเดือนนี้ ดิฉันได้เก็บเงินนี้ไว้ในลิ้นชักจักร์ เพื่อนคนนั้นเขานัดจะมารับเงินวันนี้ เมื่อตอนบ่ายสามโมง เขามาตามนัด ดิฉันก็เปิดลิ้นชักจะหยิบเงินให้เขา ปรากฏว่ามันหายไปทั้งหมด ดิฉันเที่ยวค้นดูจนทั่วตามลิ้นชักต่าง ๆ ก็ไม่พบ คิดว่าจะหลงลืมไว้ที่ไหน แต่มา
ทบทวนดูอีกทีแล้ว ดิฉันจำได้ไม่ผิด ว่าดิฉันได้เก็บมันไว้ในลิ้นชักจักร์แน่ ๆ ที่ดิฉันสงสัยเพื่อนคนที่เย็บจักร์อยู่ด้วยกัน ก็เพราะ มีตอนหนึ่งที่ดิฉันออกไปหาอะไรรับประทานที่ร้านใกล้ ๆ กัน ตอนกลางวันนั้น เพื่อนคนนี้เขาอยู่ที่ร้านคนเดียว ดิฉันออกจากร้านไปเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จึงกลับมาที่ร้าน เขาก็ไม่อยู่เสียแล้ว ไม่ทราบว่าเขาออกไปไหน ดิฉันก็ไม่เฉลียวใจอะไร สักครู่เขาก็กลับมา ดิฉันก็ถามเขาว่าไปไหน ทำไมไม่อยู่เฝ้าร้านตอนที่ดิฉันไม่อยู่ เขาบอกว่า เขาออกไปเดินเล่นใกล้ ๆ นี่เอง และมองที่ร้านอยู่ตลอดเวลา ตอนนั้น ดิฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะยังไม่ทราบว่าของหาย ต่อมา เมื่อเพื่อนคนที่มา เอาเงิน เขามาตามนัด และดิฉันหาเงินไม่พบ ดิฉันจึงนึกถึงมาได้ ถามเขาว่า เขาหยิบเอาเงินไปหรือเปล่า เขาปฏิเสธแข็งขัน แต่ท่าทางมีพิรุธมากทีเดียวค่ะ มือไม้สั่นเห็นชัด ดิฉันจึงซักไซ้ต่อไปว่า เขาออกไปเดินเล่นถึงที่ไหน เขาก็บอกว่า ใกล้ ๆ ร้านนี่เอง ดิฉันถามว่า ถ้ายังงั้นก็ต้องเห็นตอนที่ดิฉันกลับมาร้าน เขาว่าเขาเห็น ดิฉันแกล้งถามว่า ดิฉันกลับมาที่ร้านคนเดียว หรือมีใครมาด้วย เขานิ่งอยู่สักครู่ ก็ตอบว่า เห็นมีใครก็ไม่ทราบมาด้วยคนหนึ่ง ดิฉันถามว่า ผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาบอกว่า เห็นไม่ถนัด นี่ก็จับโกหกได้แล้ว ดิฉันแกล้งถามไปยังงั้นเอง เขาคงคิด หากว่าดิฉันมาคนเดียว ดิฉันจะถามไปทำไมอย่างนั้น ดิฉันจึงบอกเขาว่า หากเขาเอาเงินไป ก็ขอให้เอามาคืนเสีย เพราะมันเป็นเงินแชร์ที่ดิฉันเอามาจากนายวง และดิฉันไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาใช้เขา เขาก็ยังปฏิเสธว่า เขาไม่ได้เอาไป ดิฉันหมดหนทาง จึงมาแจ้งความนี่แหละค่ะ ”

“ คุณแน่ใจว่า คุณไม่ได้ไปหลงลืมไว้ที่ไหน ” ทวนตั้งคำถาม

“ ดิฉันแน่ใจค่ะ เพราะเงินเพิ่งจะเอามาเมื่อเช้านี้เอง และดิฉันไม่ออกไปไหนเลยตั้งแต่เช้า นอกจากจะไปหาอะไรทานตอนกลางวัน อย่างที่เล่าให้คุณฟังนั่นเท่านั้น ”

“ ทั้งร้าน ไม่มีใครนอกจากคุณกับเพื่อนคนนั้น ”

“ ค่ะ มีคุณพ่ออยู่อีกคน ท่านก็อยู่แต่ข้างบน เพราะท่านเป็นง่อย ไปไหนมาไหนไม่ได้ ”

“ ระหว่างที่คุณออกจากร้าน และเพื่อนคนนั้นก็ออกจากร้านไปด้วย อาจจะมีใครแอบเข้ามาในร้านก็ได้ ”

“ ถ้าเป็นคนอื่น อย่างอื่นก็ต้องหายด้วยซีคะ ทำไมจึงจะเจาะจงเปิดลิ้นชักเอาแต่เงินไป นี่ของอื่นก็ไม่หาย และตอนที่ดิฉันเอาเงินเข้าลิ้นชัก เขาก็เป็นผู้ที่เห็นคนเดียว และมีเหตุผลอะไรคะที่เขาจะต้องออกไปจากร้าน ไปเดินเล่น ตอนที่ดิฉันไม่อยู่ เขาก็รู้ว่า เขาต้องเฝ้าร้านตอนนั้น ดิฉันว่าเขาต้องเอาเงินไปซ่อนที่ไหนที่หนึ่ง ตอนที่ออกไปนั่น และต้องไม่ใช่ไปเดินเล่นที่ใกล้ร้าน อย่างที่เขาบอก เพราะเขาไม่เห็นตอนที่ดิฉันกลับเข้าร้านแน่ อย่างที่ดิฉันจับโกหกได้ที่เล่ามานั้น ”

“ เงินที่หาย เป็นธนบัตรชนิดไหน ”

“ ใบละร้อย สิบสองใบค่ะ อยู่ในซองเดียวกัน ”

ทวน หยิบเอาฟอร์มคำให้การออกมาจดถ้อยคำตามวิธีการร้องทุกข์ ผู้หญิงคนนั้นชื่อ มณฑา เจนใจ

ทวน สอบสวนถ้อยคำของหล่อนโดยละเอียดอีกทีหนึ่ง ถามถึงชื่อผู้ต้องสงสัยคนนั้นของหล่อน บอกชื่อว่า จินตนา เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน เมื่อเรียนหนังสืออยู่

ทวน จดปากคำหญิงสาวผู้มาร้องทุกข์ไว้แล้ว ก็ถามถึงที่ที่จะไปเอาตัวเพื่อนที่ต้องสงสัยคนนั้น

มณฑา บอกว่า เพื่อนของหล่อนยังอยู่ที่ร้าน เพราะหล่อนให้คอยอยู่ที่นั่น




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555
4 comments
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2555 0:51:12 น.
Counter : 929 Pageviews.

 

ขอบคุณมาก..

 

โดย: ก้นกะลา 19 กุมภาพันธ์ 2555 23:04:38 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ssk (sasakorn ) 20 กุมภาพันธ์ 2555 12:03:56 น.  

 


สวัสดีค่ะ..
แวะเข้ามาอ่านรักของตำรวจด้วยคนค่ะ..
หลวงพ่อเขียน เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง
ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดกระทิง
ท่านจะมาคอยดูแลเมื่อเปิดเขาคิชฌกูฏ
วันเกิดของท่าน 18 ก.พ.ของทุกปี
แต่ปีนี้หลวงพ่อเขียน..ไม่ได้อยู่บนเขาคิชฌกูฏค่ะ
ท่านอาพาธและรักษาตัวอยู่ที่ห้องICU รพ.จุฬาลงกรณ์
อ้อมแอ้มขอเรียนเชิญเพื่อนๆ
สวดมนต์ส่งกระแสจิตแด่หลวงพ่อเขียน
ให้หายจากอาพาธไวไวนะค่ะ..สาธุ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 20 กุมภาพันธ์ 2555 20:08:20 น.  

 

ขอบคุณที่แวะมาชมสวนผักค่ะ อ่านแล้วก็ขำจังค่ะ สาววัยใหน ใจสดใสได้ทั้งนั้นค่ะ ยิ่งคุณธารน้อยหมดห่วงหมดกังวลกับครอบครัว ก็สบายเลยค่ะ รอดูแปลงผักนะคะ แปลงของสดใสตอนนี้ต้องโละใหม่แล้วน่ะ เพราะกวางตุ้งแก่ออกดอกแล้วคงจะไม่เหลืออะไรให้เก็บกินในไม่ช้า ปลูกวันนี้ พรุ่งนี้มะรืนนี้จะได้งอกเร็ว ๆ นะคะ

 

โดย: วันสดใส 20 กุมภาพันธ์ 2555 21:08:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.