เงื่อนไม่มีปม # 7 เรื่อง รักของตำรวจ (ตอนที่ 5)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ประพันธ์้เมื่อปี พ.ศ. 2516
เรื่อง รักของตำรวจ (ตอนที่ 5)
หญิงสาวเลยวัยรุ่นไปแล้วคนหนึ่ง ก้าวเข้ามาในห้องนายเวร ขณะที่ ทวน เทพไท กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานการสอบสวนคดีหนึ่งอยู่ ทวนเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขายิ้มเมื่อมองเห็นหล่อนเข้ามายืนเก้ ๆ กังๆ อยู่ตรงหน้าโต๊ะ ปัดงานที่ทำค้างตรงหน้าไปข้างตัว แล้วทวนก็เชิญให้หล่อนนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้านั้น เขาหันไปมองนาฬิกาข้างฝา มันบอกเวลาบ่ายสี่โมง เหลืออีกสองชั่วโมงเขาก็จะได้ออกเวร
ผู้หญิงตนนั้นนั่งลงตามคำเชิญ แล้วก็พูดขึ้นทันทีว่า ดิฉันจะแจ้งความ
คุณมาถูกที่แล้ว เชิญแจ้งได้เลยทีเดียวครับ ทวนพูดอย่างติดตลก
ดิฉันถูกลักทรัพย์ค่ะ หล่อนพูด
เล่าเรื่องคร่าว ๆ ให้ผมฟังก่อน ว่าคุณเก็บทรัพย์นั้นไว้อย่างไร หายไปอย่างไร และสงสัยใคร ข้อสำคัญ ทรัพย์นั่นคืออะไร มีมูลค่าเท่าไหร่ เขาพูดอย่างท่องจำ
เงินสดค่ะ พันสองร้อยบาท ดิฉันเก็บมันไว้ในลิ้นชักจักร์ที่ร้าน มันหายไปอย่างไร ดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ผู้ที่ดิฉันสงสัยคือ เพื่อนร่วมร้านเดียวกับดิฉันนั่นเอง
คุณทำอะไร ผมหมายถึงว่า ที่ร้านของคุณเป็นร้านอะไร
ร้านเย็บเสื้อค่ะ เป็นร้านส่วนตัวของดิฉัน ดิฉันรับจ้างเย็บเสื้อผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านไม่มีใคร นอกจากเพื่อนที่เคยรู้จักกันมานานแล้ว ที่มาอาศัยเย็บปักถักร้อยประจำวันอยู่ด้วยอีกคนเดียว เมื่อเช้านี้ ดิฉันได้เอาเงินมาจากบ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนายวงเปียร์แชร์ จำนวนพันสองร้อยบาท เพื่อเอามาให้เพื่อนคนหนึ่งที่เขาขอกู้ก่อนในเดือนนี้ ดิฉันได้เก็บเงินนี้ไว้ในลิ้นชักจักร์ เพื่อนคนนั้นเขานัดจะมารับเงินวันนี้ เมื่อตอนบ่ายสามโมง เขามาตามนัด ดิฉันก็เปิดลิ้นชักจะหยิบเงินให้เขา ปรากฏว่ามันหายไปทั้งหมด ดิฉันเที่ยวค้นดูจนทั่วตามลิ้นชักต่าง ๆ ก็ไม่พบ คิดว่าจะหลงลืมไว้ที่ไหน แต่มา ทบทวนดูอีกทีแล้ว ดิฉันจำได้ไม่ผิด ว่าดิฉันได้เก็บมันไว้ในลิ้นชักจักร์แน่ ๆ ที่ดิฉันสงสัยเพื่อนคนที่เย็บจักร์อยู่ด้วยกัน ก็เพราะ มีตอนหนึ่งที่ดิฉันออกไปหาอะไรรับประทานที่ร้านใกล้ ๆ กัน ตอนกลางวันนั้น เพื่อนคนนี้เขาอยู่ที่ร้านคนเดียว ดิฉันออกจากร้านไปเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จึงกลับมาที่ร้าน เขาก็ไม่อยู่เสียแล้ว ไม่ทราบว่าเขาออกไปไหน ดิฉันก็ไม่เฉลียวใจอะไร สักครู่เขาก็กลับมา ดิฉันก็ถามเขาว่าไปไหน ทำไมไม่อยู่เฝ้าร้านตอนที่ดิฉันไม่อยู่ เขาบอกว่า เขาออกไปเดินเล่นใกล้ ๆ นี่เอง และมองที่ร้านอยู่ตลอดเวลา ตอนนั้น ดิฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะยังไม่ทราบว่าของหาย ต่อมา เมื่อเพื่อนคนที่มา เอาเงิน เขามาตามนัด และดิฉันหาเงินไม่พบ ดิฉันจึงนึกถึงมาได้ ถามเขาว่า เขาหยิบเอาเงินไปหรือเปล่า เขาปฏิเสธแข็งขัน แต่ท่าทางมีพิรุธมากทีเดียวค่ะ มือไม้สั่นเห็นชัด ดิฉันจึงซักไซ้ต่อไปว่า เขาออกไปเดินเล่นถึงที่ไหน เขาก็บอกว่า ใกล้ ๆ ร้านนี่เอง ดิฉันถามว่า ถ้ายังงั้นก็ต้องเห็นตอนที่ดิฉันกลับมาร้าน เขาว่าเขาเห็น ดิฉันแกล้งถามว่า ดิฉันกลับมาที่ร้านคนเดียว หรือมีใครมาด้วย เขานิ่งอยู่สักครู่ ก็ตอบว่า เห็นมีใครก็ไม่ทราบมาด้วยคนหนึ่ง ดิฉันถามว่า ผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาบอกว่า เห็นไม่ถนัด นี่ก็จับโกหกได้แล้ว ดิฉันแกล้งถามไปยังงั้นเอง เขาคงคิด หากว่าดิฉันมาคนเดียว ดิฉันจะถามไปทำไมอย่างนั้น ดิฉันจึงบอกเขาว่า หากเขาเอาเงินไป ก็ขอให้เอามาคืนเสีย เพราะมันเป็นเงินแชร์ที่ดิฉันเอามาจากนายวง และดิฉันไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาใช้เขา เขาก็ยังปฏิเสธว่า เขาไม่ได้เอาไป ดิฉันหมดหนทาง จึงมาแจ้งความนี่แหละค่ะ
คุณแน่ใจว่า คุณไม่ได้ไปหลงลืมไว้ที่ไหน ทวนตั้งคำถาม
ดิฉันแน่ใจค่ะ เพราะเงินเพิ่งจะเอามาเมื่อเช้านี้เอง และดิฉันไม่ออกไปไหนเลยตั้งแต่เช้า นอกจากจะไปหาอะไรทานตอนกลางวัน อย่างที่เล่าให้คุณฟังนั่นเท่านั้น
ทั้งร้าน ไม่มีใครนอกจากคุณกับเพื่อนคนนั้น
ค่ะ มีคุณพ่ออยู่อีกคน ท่านก็อยู่แต่ข้างบน เพราะท่านเป็นง่อย ไปไหนมาไหนไม่ได้
ระหว่างที่คุณออกจากร้าน และเพื่อนคนนั้นก็ออกจากร้านไปด้วย อาจจะมีใครแอบเข้ามาในร้านก็ได้
ถ้าเป็นคนอื่น อย่างอื่นก็ต้องหายด้วยซีคะ ทำไมจึงจะเจาะจงเปิดลิ้นชักเอาแต่เงินไป นี่ของอื่นก็ไม่หาย และตอนที่ดิฉันเอาเงินเข้าลิ้นชัก เขาก็เป็นผู้ที่เห็นคนเดียว และมีเหตุผลอะไรคะที่เขาจะต้องออกไปจากร้าน ไปเดินเล่น ตอนที่ดิฉันไม่อยู่ เขาก็รู้ว่า เขาต้องเฝ้าร้านตอนนั้น ดิฉันว่าเขาต้องเอาเงินไปซ่อนที่ไหนที่หนึ่ง ตอนที่ออกไปนั่น และต้องไม่ใช่ไปเดินเล่นที่ใกล้ร้าน อย่างที่เขาบอก เพราะเขาไม่เห็นตอนที่ดิฉันกลับเข้าร้านแน่ อย่างที่ดิฉันจับโกหกได้ที่เล่ามานั้น
เงินที่หาย เป็นธนบัตรชนิดไหน
ใบละร้อย สิบสองใบค่ะ อยู่ในซองเดียวกัน
ทวน หยิบเอาฟอร์มคำให้การออกมาจดถ้อยคำตามวิธีการร้องทุกข์ ผู้หญิงคนนั้นชื่อ มณฑา เจนใจ
ทวน สอบสวนถ้อยคำของหล่อนโดยละเอียดอีกทีหนึ่ง ถามถึงชื่อผู้ต้องสงสัยคนนั้นของหล่อน บอกชื่อว่า จินตนา เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน เมื่อเรียนหนังสืออยู่
ทวน จดปากคำหญิงสาวผู้มาร้องทุกข์ไว้แล้ว ก็ถามถึงที่ที่จะไปเอาตัวเพื่อนที่ต้องสงสัยคนนั้น
มณฑา บอกว่า เพื่อนของหล่อนยังอยู่ที่ร้าน เพราะหล่อนให้คอยอยู่ที่นั่น
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2555 0:51:12 น. |
Counter : 929 Pageviews. |
|
|
|