No. 1124 เมืองในหมอก @ อ.ปาย |
 |
นั่งคีย์งานที่บ้านต่างจังหวัดอากาศเย็นค่อนข้างมาก หลังที่พักเห็นภูเขาทอดยาวแสงยามเช้าสาดส่องไป |
ที่ไร่สัปรดเห็นแสง ทอดยาวไปถึงเนินเขาสูงต่ำ..ทำให้นึกถึงบ้านเกิดที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน |
ตอนเด็กยามเช้าอากาศหนาว....ยามตะวันลับฟ้าความหนาวเย็นกลับดังเดิม ความมืดโรยตัว  |
ความหนาวสอดแทรกเข้า ฝาห้องครัวไม้ขัดแตะ ด้านหลังที่ น้า ๆ นั่งทำกับข้าวหนาวมากจนต้อง |
ใส่ฟืนเพิ่มบน กะบะลานดินตั้งเตาในครัว เราไม่ได้ใช้เตาถ่านกันเลยยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ |
 |
ช่วยน้าหญิงตักผัดถั่วเน่าเมอะใส่จานเสร็จ ยกไก่ต้มทั้งตัวออกจากหม้อต้มยังอุ่น ๆ อยู่ใช้มือฉีกเนื้อไก่เป็นเส้นใส่ชามใบโต |
เนื้อไก่บ้านอุ่น หอมจนอด จิกใส่ปากชิมไม่ได้ เนื้อหวาน  |
น้าหยา เป็นคอ กรึบน้ำพรรค์นั้น กำลังคั่ว หอมแดง กระเทียมตะใคร้ซอยใส่ลงในหม้อดินเริ่มหอมตักใส่ครกหินให้ นพตำ |
ส่วนเม็ดผักชี ดีปลี มะแขว่นแบ่งคั่วในหม้อดินนิดหน่อยใส่ครกโขลกเพิ่มความหอบที่ไม่เหมือนอย่างอื่น  พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ดกับพริกแห้งอีก 5 เม็ดคั่วต่อพวกนี้สุกหอมไวตักใส่ครกไปกับเกลือ |
เครื่องแกงที่ตำ เริ่มส่งกลิ่นหอม |
 |
หม้อดินใบใหม่กำลังร้อนฉ่าบน เตาฟืน น้าหยาเป็นผู้ชายนะครับตัวโตนัยตาฉ่ำ ยิ้มเก่งเทน้ำซุบที่ต้มไก่ใส่ไปนิด คดน้ำพริก |
ในครกใส่คนด้วยกระจ่าที่ร้อนจัดผัดน้ำพริกจนมีกลิ่นหอมไหม้นิด ๆ (น้าเขาบอกว่าเป็นเคล็ดลับ) (เดี๋ยวนี้ไปทานอาหารนอกบ้าน ร้านอาหารคนจีนในไทย(บางร้าน) ทำแกงไก่คงจะ เทหางกะทิเยอะแล้วตักน้ำพริกสำเร็จรูป ลงไปละลายตามด้วยเนื้อไก่แน่เลย มันจึงไม่มีกลิ่นหอมแบบชาววังหรือคนไทยแท้ เขาทำ หุ หุ) |
เติมน้ำซุปไปอีก ตามด้วยเนื้อไก่ที่ผมฉีก ส่วนคอไก่กับตีนไก่ กระดูกหลังสับพอคำเทรวมคนไปมาแล้วปิดฝา |
ฟืนในเตาลุกลามเลียหม้อดินสีดำด้วยเขม่าไม่นานน้ำเดือดพุ่งพล่านไอน้ำ กลิ่นโชย |
น้าหยา ตักน้ำต้มยำไก่บ้านขึ้นชิม ใช้มือหยิบเกลือป่นลงไปอีก คนไปมาตักให้ผมชิม โหรสชาติเค็มหวานจากเนื้อไก่ฉีก |
แต่มันร้อนสุด ๆ จนยกนิ้วให้หน้าหยา เลยได้รับการตบหัวเบา ๆ หนึ่งทีแทนการขอบใจที่ผมชม  |
ใบผักไผ่ ก็ที่คน กท.เรียกว่า หอมจันทร์ ถูกหน้าหยาจับมาทั้งต้น ใช้มือบิดจนใบต้นอ่อนขาดโปรยลงในหม้อที่ร้อนจัด |
คนไปมาแล้วปิดฝา เพียงกลิ่นหอมผักไผ่ ทำเอาลูกกระเดือกของน้า ๆ เริ่มเต้นส่วนผมลูกกระเดือกเพิ่งมีทำนองหนุ่มแตกพาน |
ก็พลอยเต้นไปด้วย 555  |
ทีนี้ละ ช่วยกัน ถือหม้อข้าวสวย จานผัดถั่วเน่าเมอะ  ที่ลืมไม่ลงแน่นอนคือ ยำจิ้นไก่บ้านร้อนฉ่าไปวางไว้หน้าห้องนอนใน |
ตัวบ้านกินกันนอกชานไม่ได้หรอก มันหนาวสุด ๆ |
|
น้าหญิง คนเมืองปายแท้ ๆ คดข้าวเม็ดสั้นร้อน ใส่จานสังกะสีให้ครบคนแจกช้อนสังกะสีเคลือบสีน้ำเงินเขียวแดง |
นั่งเอามือไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าสำลี ตรงเท้าใช้ผ้าขาวม้าที่ชื้น ๆ วางรองไว้ดีกว่านั่งบนพื้นไม้ที่เย็นเฉียบ |
เรานั่งล้อมวงแต่ละคนตัวโต ต้องนั่งเฉียงนิด ๆ ไม่ให้หัวเข่าเกิน ส่วนมานพ นั่งยอง ๆ ที่มันแคบช่วยไม่ให้ขา |
หนาวเย็น |
รอให้น้า ๆ ตักกับข้าวครบแล้ว เป็นธรรมเนียมชาวเหนือใช้ช้อนกลางตักน้ำแกงราดข้าวกับเนื้อไก่ฉีกใส่จาน |
ไอร้อนบนข้าว กับยำจิ้นไก่ น้ำหวานเนื้อไก่บ้าน เผ็ดนิดหอมหน่อยของน้ำพริกผสมกับใบผักไผ่ เนื้อไก่บ้านเคี้ยวไม่ยุ่ย |
เหนียวนิด ๆ จนต้องป้อนข้าวเม็ดสั้นพันธ์พื้นเมืองนุ่มเหนียว  |
ส่วน ผัดถั่วเน่าเมอะ กลิ่นหอม(แบบนัตโต๊ะ) เป็นตัวชูรส ได้มัน เค็มหน่อย เคี้ยวหมูสับปนกับผักกาดจ้อน(แคระแกรน) |
ผสมกับ ไข่ไก่ตีกระจาย ขาวช่วยให้ผัดนัว เข้ากันเหมาะเจาะหมดก่อนยำจิ้นไก่ |
นั่งกินไม่นานครับ มันหนาว ได้ยำจิ้นไก่ กับผัดถั่วเน่าเมอะช่วยให้อุ่นขึ้นยังสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมน้าหยาไม่กรึ๊บ 555 |
|
เราสามหนุ่มนั่งฟังน้า ๆ พูดคุยกัน ส่วนใหญ่จะพูดถึงความหลังครี้งที่น้าสองคนอยู่ระยอง |
แรกเริ่มเดิมที แหะ ๆ พูดถึงเรื่องเก่าขอใช้สำนวนแบบนี้หน่อย คือน้าหยายังหนุ่มเห็นขบวนม้าต่างที่บ้านแม่แตงเชียงใหม่ |
เกิดสนใจวิถีชีวิตคน ขนสินค้าด้วยม้า เข้าไปคุย เลยรู้ว่าที่ ปายเป็นอำเภอเล็ก สงบสวยงามแถมมีแม่หญิงสวย.. |
เลยขอติดตามกองคาราวานมาเที่ยวด้วย |
|
และแล้วได้เจอน้าผู้หญิงตัวเล็ก แทนที่จะเป็นหญิงสูงใหญ่แบบ "ไทใหญ่" เจอไม่ยอมกลับไประยองขออาศัยชาวบ้าน |
ทำงานรับจ้างเป็นคนตัดไม้ ทำงานได้ดีมีแววเจ้าของคือ พ่อเลี้ยงเลยให้ เป็นคนคุมคนงาน...ให้ห้องพัก |
น้าหยากับหน้าหญิงเลย เฮ็ดก้อกัน (แต่งงานแบบไทใหญ่) ข้างล่างเป็นภาพแทนเป็นชายไทใหญ่ ขอบคุณเจ้าของภาพที่ให้ใช้ด้วย ทั้งคู่สวยหล่อหน้าตาดีมาก..  |
น้าอยู่ปาย สองปีกว่ามีคนติดต่อไปเป็น ผจก.โรงหนังตงก๊กที่เชียงใหม่น้าเลยพาน้าหญิงไปอยู่ นาน ๆ จะเดินทางกลับมาเยี่ยม |
พ่อแม่กับญาติน้าหญิง |
|
คืนนั้นพวกเราน้าหยา นอนกันนอกห้องไม่มีอะไรกั้นหนาวสุด ๆ ผ้านวมคนละ 2 ผืนอุ่นนิดเดียวเลยนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ |
ยินเสียงไก่ขันดังเป็นระยะความหนาวสอดแทรกตรงคอลืมตามองรอบ ๆ ห้องโถงถัดไปเป็นชานบ้าน..มีแต่ความมืด |
นอนรอแสงนานกว่าชั่วโมง ดูแล้วคงจะยังอีกนาน ใส่กางเกงขาสั้นเอาเสื้อผ้าสักหลาดเขียวตัวใหญ่สวมทับเสื้อผ้าสำลี |
ตอนแต่งตัวยืนอยู่บนผ้านวมก้าวไปเหยียบพื้นไม้ แหยงเย็นเจี๊ยบต้องยกเท้าขึ้นแต่ตัดใจเหยียบซ้ำ |
|
หยิบตลับยาสีฟันกับแปรงอันเบ่อเริ่มที่ชานบ้าน เอาน้ำราดแปรงแล้วเปิดตลับยาสีฟันใช้ขนแปรงถูไปมาให้ยาสีฟันติ |
แล้วแปรงฟัน ไม่นานครับน้ำมันเย็น บ้วนปากจนสอาด ต้องบอกว่าปากสอาดมากกลิ่นเย็น ๆ |
เพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่าน อาจจะว่า อีตาไวน์นี้โม้ ยาสีฟันอะไรเป็นตลับ เป็นแบบนั้นจริง ๆ ตอนนั้นอายุ 14 ปีเองมันนาน |
หลายปี เนื้อยาสีฟันเหมือน แป้งพับ  เนื้อละเอียดแน่นแบบเดียวกับที่สาว ๆ ใช้แตะแก้มไงงั้นเลยแหละ |
|
แปรงฟันเสร็จใช้นิ้วชี้จุ่มน้ำ..แตะเปลือกตาให้ขี้ตาหลุดเป็นอันเสร็จการล้างหน้าก็น้ำมันเย็น...น 555 |
เพื่อนสองคนยังนอนห่มผ้าไม่รู้เรื่องเราเคยตื่นซ้อมวิ่งที่สนาม ร.ร.ยุพราชวิทยาลัยทนหนาวได้..ลงไปข้างล่างไปโน่น |
ริมน้ำปายห่างจากตัวบ้านร้อยกว่าเมตรเอง  |
ยังสลัว มองน้ำปาย มีไอน้ำลอยจากผิวน้ำสู่เบื้องบน.....เดินลงตลิ่งตื้น ๆ สู่น้ำปายดินริมฝั่งนิ่มคล้ายดินโคลนเดินต่อไม่ |
กี่ก้าว พื้นกลับเป็นทรายปนกรวด น้ำไม่เย็น อุ่นสบายน้ำลึกเลยเข่านิดเดียว ลุยน้ำอุ่นไปอีกฝั่งฟ้าเริ่มสาง ขึ้นฝั่งเป็นนาข้าว |
เก่า มีหญ้าปกคลุม น้ำค้างพร่างพรม ยามเหยียบเย็นฉ่ำ  มองไกลไปข้างหน้า |
เดินลัดเลาะแปลงกระเทียม ไปด้านขวามือ แสงแดดแรกของวันเริ่ม |
 |
ส่องเห็นสีเหลืองของสวนถั่วเหลืองอยู่ข้างหน้าความหนาวเย็นไม่ลดลงเลย ต้องดึงคอเสื้อกันหนาวแนบชิดคอ ขาที่ที่เปลือย |
เพราะนุ่งกางเกงขาสั้นนั้นเย็นเจี๊ยบ มิอาจะหลีกเลี่ยงได้ไม่ไกลจากนั้นเห็นมันอะลู ถูกถอนกองยังไม่ได้เก็บ ใจนึกถึง  |
ถ้านำไปโยนใส่ขี้เถ้าร้อน ๆ ไม่นานจะระอุ สุก หอมชักอยากจะกินมองหาใครก็ไม่เจอ ไม่มีเงินติดตัวเลยทำไงดี |
หนอ อยากจะขอแบ่งไป เขาคงไม่ให้....ก็ไม่รู้จักกัน |
เอ...แบ่งไปสัก 10 หัวเดินตามหาเจ้าของมันอะลู แล้วค่อยบอกเขาว่าพักอยู่บ้านน้าผู้ชายคงจะดี เลยนั่งแบ่งมันเงียบ ๆ |
กำลังคัดมันอะลูเพลิน สะดุ้งสุดตัว ก็ เสียงกระแอมจากด้านหลัง..... |
แม๊ด มัน กา. (โขมยมันอะลูเหรอ) |
ซวยแล้วทำไงดี |
|
(ถ้าใครเคยไป อ.ปาย แล้วผ่านสพานคอนกรีตข้ามน้ำปาย มุ่งสู่พระธาตุแม่เย็นก่อนถึงจะเจอบ้านพัก "บ้านปายนา" เป็น |
เป็นสถานที่ผม เดินไป ไร่มันฝรั่งไร่กระเทียม |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 254/4,338) |
st ผู้เข้าชม 2,347,100 |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
ยำจิ้นไก่กินตอนร้อนๆในหน้าหนาว
ฟินสุดๆเลยนะครับ
โรงหนังตงก๊กผมไม่ทันครับ
เก่าสุดในเชียงใหม่ที่ผมทัน
น่าจะเป็นศรีวิศาลครับ