No. 1127 หมอก เมฆ @ โป่งแยง |
|
นั่งดูภาพที่กลับไปเยี่ยมบ้านของพี่น้องในฤดูฝน ทำให้นึกอยากจะกลับไปอีกแต่ยังติดงานบางอย่าง |
เลยดูเพียงภาพที่เคยไปและตั้งใจว่าต้องไปเยือนอีกในฤดูหนาวหรือฤดูฝน(ก็ได้) เพราะอยากเจอหมอกและเมฆแต่ ฝนเยอะเกิน |
น้ำยังท่วมใน กทม.บางจุด เกรงว่าจะมาถึงบ้านเรา..ยังจำบ้านที่ผมไปพัก อยู่เลยสวนพฤกษศาสตร์พระนางเจ้าถนนจาก อ.แม่ริม ผ่านน้ำตกแม่สานั่นใช่เลย |
ขับไปเรื่อย ๆเจอทางขึ้นขวามือไป ดอยม่อนแจ่ม ขับเลยไปอีก 400 เมตรถึง วัดโป่งแยงเลี้ยวขวาเข้าไปเลย |
|
เป็นถนนเข้าบ้านหลังที่เราจะไปพัก ดูแผนที่ดาวเทียมคงมีคนโปรโมทแถวนั้นว่า ม่อนจ๊อด เห็นคำนี้แล้วสะดุ้งตอนเป็น |
เด็กนักเรียนเราจะพูดว่าวันนี้จ๊อดสตางค์.ก็บ่อจี้เอ้ยเงินขาดมือทำนองนั้นแหละ |
ขับรถเข้าไปประมาณ 300 เมตรก็ถึงบ้านพัก |
จอดรถหน้าบ้านยังไม่ทันกดออด คนสวนเปิดประตูรับเข้าบ้านคงจะนั่งทำสวนแถวนั้น |
ออกมาจากรถ อากาศเย็นค่อนข้างมาก เข้าท่าเลย นับว่าโชคดีกว่าฝนตกก่อนไปสักครึ่งวันฝนผิดฤดู ช่วยกันขนกระเป๋า ตัวบ้านอยู่ไหล่ดอย โรงจอดรถอยู่เสมอถนน |
กับของฝากลงไปตัวบ้าน เยอะมากหมายถึงเสื้อผ้านะครับ ของฝากนิดเดียวเอง 555 |
พี่สาวให้เลือกจะพักห้องข้างล่างที่แนบชิดกับดินห้องสวยกว่าแต่มองไม่เห็นอีกอย่างเคย คราวก่อนนอนครึ่ง ชม. |
ต้องรีบเผ่น หนาวมากคือในห้องไม่มีฮีทเตอร์ ข้างล่างคือห้องที่ผมปฏิเสธเข้าพัก คือมันหนาว |
|
เลยขอพักหน้ามุขข้างบนแทนคือห้องนี้อยู่สบาย ชั้นนี้มีห้องรับแขกห้องพักผ่อน ห้องครัวนั่งเล่นดูทีวี ร้องเพลงได้หมด |
มองจากห้องทานอาหารจะเห็นทิวทัศน์สวย |
มื้อเย็นพี่สาว ทำแกงฮังเล หมูไว้ให้กิน กับอะไรสักอย่างสองอย่างจำไม่ได้แล้วคือจำของอร่อยได้คือแกงฮังเลหมู |
|
แน่นอนที่สุด พวกเรานั่งคุย นั่งกิน นั่งร้องเพลง ท่ามกลางอากาศที่เย็นเพียงเปิดหน้าต่าไว้บานเดียวก็พอดูเวลาเกือบ 4 ทุ่ม |
เลยชงกาแฟร้อน ๆ ดื่มแล้วเข้านอนฟังเสียงน้ำในลำห้วยที่โอบล้อมบริเวณบ้านน้ำไหลแรงพอประมาณ |
แสงจันทร์ฉายแสงขาวนวลไม่นานก็หลับผลอยไป |
วันรุ่งขึ้น แสงแรกของวันค่อย ๆ สาดส่องผ่าน ยอดทิวไม้ ยอดดอยถูกกอไผ่ ไร่ถั่วหวานดวงตะวันลอยสูงขึ้นบนไหล่ดอย |
ขวามือที่ สล้วเริ่มเห็นพื้นดินสีแดงดำ แซมเขียวของต้นหญ้า |
ตั้งใจไว้เมื่อวานว่า จะไปถ่ายรูปที่วัดตรงทางเลี้ยวเข้าถนนคือ วัดโป่งแยงนอก ไม่ได้ตั้งใจชวนทำบุญหรอกนะครับ |
ที่นั่นเป็น ดอยสูง มองรอบกายได้กว่า 180 องศาน่าจะได้ภาพทิวทัศน์รอบ ๆ ไม่ใช่น้อย |
แปรงฟัน ล้างหน้า โกนหนวดนิดหน่อย ไม่มากหรอก 555 มีน้อยนะครับไปนั่งรอที่ห้องรับแขกรอแสงสว่าง ดูแสงแล้วออกไปได้แล้ว..คว้ากล่องถ่ายรูปเล็กใส่ซองเอวซ้าย เอวขวา |
กระเป๋าใส่กล้องวิดิโอตรึงคล้องไว้ด้วย เข็มขัด ขับรถย้อนกลับสู่ถนนสายหลักไม่ไกลห่างจากบ้านครึ่ง กม.จอดรถแอบซ้ายมือ |
ตรงทางขึ้นวัด เป็นบันใดคอนกรีตกว่า 10 ขั้นมั่ง |
ภาพข้างบนจะเห็นรถ สีเทาคันเล็ก ผมจอดไว้ตรงทางขึ้นแล้วมองลงไปข้างวัด หมอกลอยไปตามยอดดอย |
ผมพามาวัดนี้ อย่าเพิ่งคลิกหนีนะครับ พามาชมวิว เดิมทีผมผ่านวัดนี้ก่อนเข้าบ้านพักที่อยู่ในถนนนี้มาหลายปีแต่ยังไม่เคย |
ขึ้นวัดเลยเพราะคิดว่าคงมีบริเวณไม่มาก คงมีขี้หมา ....หุ หุ แต่ขึ้นไปถึงแล้วไม่ใช่เลยสอาด |
วัดนี้ปลูกศาลาโบสถ์กุฏิพระแบ่งเป็น 3 ชั้น ตอนนี้ดูชั้นที่ 1 ก่อน |
ชั้นแรกนี้กว้าง เป็นโบสถ์ ศาลา ลานกว้างมาก ไปดูชั้นที่ 2 ต่อ |
มองไปด้านหลังที่เดินมา ตอนน้ั้นยังเช้า เกือบโมงเช้า หมอกลอยอยูู่บนดอย |
เห็นขาว ๆ ผืนโต เป็นหลังคาที่ ชาวสวนปลูกพืชเมืองหนาว น่าจะกันน้ำค้าง กับแสงแดด อยู่ชั้นที่สองมองออกไปเห็น |
โรงเรือน่ปลูกพืชเมืองหนาว เขาคลุมหลังคาพลาสติกขยาวเต็มไปหมด |
ตอนนี้ขึ้นบันใดมาที่ ชั้น 3 เดินพอสบาย ๆ ไม่หอบ เพราะอากาศหนาว เย็น ข้างล่างเห็นองค์พระที่กำลังสร้าง |
ภาพข้างล่าง เป็นเจดีย์ บรรจุพระธาตุ |
ยืนดูทิวทัศน์เห็นหลังคาโบสถ์หลังคาบ้านชาวบ้านท่ามกลางอากาศหนาวเย็น มีเมฆ หมอกลอยขาวอยู่ทั่วไป ส่วนศาลาใหญ่ |
นึกได้ว่า เรามาอยู่เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ผมเคยขึ้นมาเดินธุดงค์เพื่อสอบภาคสนามก่อนจะเรียนจบเป็นครูสมาธิ |
ทำตัวให้ว่าง วางกล้องถ่ายภาพ กล้องวิดิโอ เข้าสู่การ ทำสมาธิ ที่ศาลาข้างล่างนี้ |
เดินจงกรมได้ตามกำหนด แล้วนั่งสมาธิใกล้องค์พระ......... แต่...ทำสมาธิได้ไม่นานครับ เสียงปืนดังหลายนัดก็แถว ๆ นั้น |
ชาวสวนผักเมืองหนาวยิงปืนขับไล่นกที่เข้าไปในสวนบางคนก็จุดประทัดดังเป็นระยะ เลยลืมตาออกจากสมาธิเพราะไม่เหมาะ |
ข้างซ้ายมือ จะเห็นโรงเรือนผักเมืองหนาวที่ มาของเสียงปืน |
ผมใช้กล้องป๊อกแป๊ก ถ่าย ถ้าเพื่อน ๆ มี กระบอกข้าวหลามมาถ่าย จะได้ภาพสวยงามกว่านี้เยอะและคงจะจับหมอกแสงดีแน่ |
ภาพข้างล่าง ผมหันไปทางทิศตะวันตก จะเห็นดอย กับแอ่งดอย มีเมฆลอย ตรงนั้นแหละครับที่ผมเข้าพัก |
ที่ชั้นสาม จะมี ถาวรวัตถุสวยงามอีก |
ดูเวลา แล้วเกือบ สองโมงเช้า ได้เวลากลับบ้าน เลยเดินลงมาข้างล่างเข้าไปในโบสถ์วิหารกราบพระพุทธรูป |
วัดโป่งแยงนอกนี้ สวยงาม สงบตอนกลางวัน น่าไป ทำจิตให้สงบ พร้อมกับ ถ่ายภาพทิวทัศน์ไปสดวกมาก |
ตอนกลับเห็นสาว ๆ เดินขึ้นวัดแน่นอนแต่ละคนมีมือถือพร้อมถ่ายภาพ |
ผมจอดรถตรงใกล้ทางขึ้น เป็นถนนเล็ก ก็ทางเข้าบ้าน....พัก |
ขับรถขึ้นวัด มีนะครับ อยู่ตรงถนนสายใหญ่ เลยจุดที่ว่าไว้เพียง 100 เมตรได้มั้งขับขึ้นเนินสูงหน่อยก็ถึงแล้วครับ เฉพาะชั้นที่ |
1 ใครมีกล้องส่องทางไกลนำติดตัวมาด้วยยิ่งดี ถ้ายืนหันหน้าเขาหาถนน |
สาย นี้ไปสู่ อ.สะเมิง ปรับกล้องดึงภาพเข้ามาจะเห็นไร่ผักอยู่ตามไหล่ดอยถ้าจำไม่ผิดบ้านนักเขียน คุณรงค์ วงค์สวรรค์บ้านสวน |
ทูนอินในหุบเขาแถวนั้นเหมือนกัน.วันนี้ขับไปไม่ถึงบ้านคุณรงค์แต่ ขับเข้าถนนเล็กตรงข้ามวัดลัดเลาะไปตามหมู่บ้านชาวบ้านปลูกพืชเมืองหนาวเยอะถ้าคนชอบดู ไปได้เลยแต่ไม่ต้องถึง จ.เลย นะที่นี่เยอะกว่า หุ หุ |
|
นั่งดูภาพที่เคยไป นึกถึงภาพหมอกลอยเรี่ยอยู่บนยอดดอยจากบ้านพักที่อยู่แอ่งดอย เสียงน้ำลำห้วยยังคงไหลไม่ขาดสาย |
อยากเดินทางไปเที่ยวแถวนั้นอีก ..... |
ตอนนี้ฝนตกเย็นสบายอยากไปพักที่นั่นอีก รวมทั้งบ้านพักน้องสาวที่ อ.แม่แตง อีกคนบ้านแม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า หรือบ้าน |
พี่ชาย อ.หางดง เชียงใหม่..ตอนนี้ทำใจนิด เพราะกรุงเทพฝนก็ตกกลัวน้ำจะท่วมบ้านคงต้องรอสักพัก |
สักวัน คงไปอยู่ในดงหมอกฤดูฝน หรือหมอกฤดูหนาวก็ได้ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 240/2,438) |
st ผู้เข้าชม 2,355,303. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
เส้นทางแม่ริม - สะเมิงสวยมาก
ตอนนี้น่าจะมีบ้านพัก รีสอร์ตเพิ่มขึ้นเยอะ
วิวที่นี่สวยมากครับพี่
อากาศก็เย็นสบาย
ใครชอบธรรมชาติ
อยู่แถวนี้คงชอบมากๆเลย