No. 1128 หัวใจขณะพัก (ตะพาบ) |
|
เห็นหัวข้อเรื่องที่จะเขียน คงคิดไปหลายแง่หลายมุมหลายเรื่อง....ใจก็คิดไปถึงผลการตรวจวัดความดันโลหิต หุ หุ |
คงเป็นเพราะ ออกกำลังกายค่อนข้างบ่อย ครั้งที่เรียนขั้นมัธยมศึกษาที่ต่างจังหวัดเล่นกีฬาเบา ๆ ปิงปอง ฯ |
ถูกรุ่นพี่ กับแกงค์เกเรในโรงเรียนแกล้งประจำ ถูกต่อยถูกแย่งลูกบอล ลูกปิงปอง ตบหัวเตะก้นแทบจะไม่อยากไปโรงเรียน กลัวนะครับ |
ก็ตัวผอมต้องเดินเลี่ยง ๆ เหมือนคนแหย ๆ จริงแล้วก็แหย 555 |
ครูทองย้อย เป็นครูผู้ชายสอนพละสังเกตเห็นมั้งเลยเรียกไปคุย..บอกว่าครูจะทำให้เธอแข็งแรง |
จนไม่มีใครกล้าตอแยเอาไหม |
เอาครับครู |
บ้านเธออยู่ใกล้โรงเรียน ให้เธอปีนข้ามรั้วมาซ้อมวิ่งตอนเช้ามืดวันแรก วิ่ง 4 รอบสนามฟุตบอลพอร่างกายอยู่ตัวค่อยเพิ่มวันละ 2 รอบนะ |
ผมก็ทำตามครูแนะนำ เริ่มแข็งแรงกล้ามขาเริ่มมี หุ หุ... กลับไปอาบน้ำกินข้าวเดินเข้าประตูอีกด้านมาเรียน |
ไปพูดคุยกับครูทองย้อยบ่อย ....วันนี้วิ่งกี่รอบโดยไม่หยุด....อีกอาทิตย์ต่อมาครูก็ถามวิ่งได้กี่รอบ |
12 รอบครับครูหายใจสบายไม่หอบแล้ว(รอบละ 400 เมตร) |
|
ดีมาก พรุ่งนี้มาซ้อมชกกระสอบทรายที่โรงพละ(ยิม) ที่นี่วันละ ครึ่งชั่วโมงก่อนกลับบ้านนะ |
ชั่วโมงพละในวันต่อ ๆ มาก็ยังเล่นเตะฟุตบอลสนามกับเพื่อน ๆ ตามปกติ... เช้ามืดซ้อมวิ่งให้ขาแข็งปอดแข็งแรงตอนเย็นก่อนกลับ |
ซ้อมชกกระสอบทราย เตะจนเท้าหายเจ็บเมื่อก่อนไม่มีถุงมือ หรือแองเกิลใส่.. ผิวหนังล้วน ๆ |
อีกเดือนต่อมาครูให้ สวมนวมใหญ่มาก ๆ ลงนวมซ้อมมวยไทยกับ ไอ้หมึกตัวดำ ๆ น้ำหนักมันน่าจะ 60 กก.ส่วนผมเองยังผอม |
หนักแค่ 52 กก.มั้ง.. เจอมันยกเท้าเตะตัดขา ก็ต้องยกขารับคอยระวังหมัดมันด้วยด้วยวิธีกอดรัดมันแทน หุ หุ |
เหม็นขี้เต่ามากก็ คือทั้งให้หมึกกับแหะ ๆ ของตัวเอง |
|
ต่อมาครูก็ให้เปลี่ยนคู่ซ้อมเป็นเพื่อนคนอื่นอีก สองสามคนตัวเล็กกว่าไอ้คุณหมึกมาก... เริ่มมีความมั่นใจว่ายกมือปิดหมัดได้ ยกขาบัง |
แข้งแนบแขนปิดคางกับปิดท้องเวลาคู่ซ้อมถีบ... ยกละ 2 - 3 นาทีเป็นเดือน |
ครูทองย้อยก็ให้เปลี่ยนเป็น ชกสากลแทนบอกว่า เธอแข้งขายาว แขนยาวกำลังขามีแล้วให้เต้นฟุตเวิร์คซ้ายขวาหลบหมัดยกแขนปิด |
หมัด..แล้วก็ใช้แขนยาวแย๊ป ๆ คู่ซ้อมนะ.. อย่าเผลอไปอัปเปอร์คัดนะ(ต่อยเสยที่ช่วงท้องไปคาง) ก็ทำตามครูแนะนำ |
คู่ซ้อมหน้าหงายบ่อยจนหาคู่ซ้อมไม่ค่อยได้... คงมีคนคุยกันคนเริ่มรู้จัก |
เวลาเดินไปไหนพวกเกเรซุบซิบไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้คงจะรู้แล้วว่า ผมซ้อมชกมวย.. |
ทีนี้เลยสบาย ๆ ไม่มีใครคอยแกล้งจนกระทั่งเรียนจบมัธยม ไปเรียนต่อกรุงเทพไม่ได้เล่นกีฬาใด ๆ เลย |
|
จนกระทั่งย้ายไปทำงานแถวแยกเพลินจิต เปล่า..ไปขายพวงมาลัยตอนรถติดนะเออ |
หลังเลิกงาน สี่โมงครึ่งก็ขับรถไปเที่ยวสวนลุมพินีใกล้ ๆ ที่ทำงานเจอพี่ประเสริฐ พี่ ๆ ตำรวจกับนักวิ่งจาก UN เป็นฝรั่งพูดไทยได้ |
ชวนวิ่ง.. เอาซิครับเลยติดการวิ่งตั้งแต่นั้นมา...ร่างกายที่อ่อนแอเริ่มแข็งแรง และแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ รู้แต่เพียงว่าวิ่งวันละ 2 รอบ |
(รอบใน 2.6 กม) แล้วดีพอเหมาะกลับบ้านอาบน้ำกินข้าวนอนทำงาน ไม่เหนื่อยง่าย |
|
เจอหมอนักวิ่งอุดมศิลป์ ศรีแสงนามด้วยได้พูดคุยไม่กี่ครั้ง หมออีกคนช่วยจับชีพจรที่แขนดูขณะพัก พยักหน้าโอเค ดีมากซ้อมต่อไปนะ |
น่าจะเป็นการตรวจนับชีพจรครั้งแรก หุ หุ เมื่อก่อนไม่มีเครื่องวัดเล็ก ๆ แบบปัจจุบัน |
เริ่มแก่เอ้ย เริ่มแข็งแรงลงสนามวิ่งแข่งมินิมาราธอน กับฮาล์ฟบ้างไม่มากนัก... รู้ว่าควรวิ่งไปเรื่อย ๆ แล้วไปเร่ง กม.ที่เท่าใดแล้วเร่ง |
เข้าเส้นชัย..ไปสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ ตามต่างจังหวัด.. วิ่งบนเขาใหญ่ตอนตี่สี่นอนอยู่ได้ยินเสียงเคี้ยวจั๊บ ๆ |
ลืมตาเจอเพื่อนนักวิ่งเคี้ยวกล้วยน้ำว้ากินไป 2 ใบเพื่อนบอกว่ากินก่อนวิ่ง 1 ชั่วโมงจะได้มีแรงวิ่ง หุ หุ ไม่ว่ากันวิธีใครวิธีมัน |
|
ชีวิตที่ทำงานตลอดตอนเช้ามืดไปวิ่ง 6 กม..ค่อยขับรถไปทำงานไปอาบน้ำที่ทำงานเกือบทุกวัน |
ไม่เคยวัดความดันหรือชีพจรเลย รู้แต่เพียงว่าวิ่งเสร็จ. เพื่อนชวนวิ่งต่อก็วิ่งต่อได้อีก 1 รอบรู้สึกว่าเหนื่อยแต่หายเหนื่อยเร็ว |
วิ่งนานหลายปีจนเกิด สลักเพชรตรงโคนขาหลังเจ็บจากการเกร็งของกล้ามเนื้อคงเป็นเพราะวิ่งผิดวิธีหรือไม่ก็รองเท้ายังลงแข่งทั้งที่เจ็บ(ภาพ เปิดสะพานพระรามแปด) วิ่งเกือบไม่รอดเจ็บโคนขาสลักเพชรจม.. |
จำต้องหยุดวิ่งไปเต้นแอโรบิคตามภาพแรกกับครูแอโรบิค+เพื่อน กับไปเล่นวินด์เซิร์ฟแทน |
|
วันที่จำแม่นที่สุดคือเดินแล้วเจ็บมาก ๆ พาครอบครัวไปเที่ยวพม่า ใช้เดินเที่ยวเดินได้แค่ 100 กว่าเมตรต้องบอกให้คนอื่นเดินไปก่อน |
จะนั่งพักให้หายเจ็บแล้วเดินตาม..วัน ๆ หยุดพักหลายรอบจนทนไม่ไหวต้องเช่ารถยนต์เป็นวันพาเที่ยวในย่างกุ้ง กับ |
พุกาม ล่องเรือในทะเลสาปอินเลที่ไกลหลายร้อย กม. กลับกรุงเทพแล้ว |
เพื่อนชวนปั่นจักรยานก็โอเคซื้อจักรยานเพื่อน 1 คันเพื่อนตกลงเพราะมันซื้อไว้ 20 กว่าคันไม่ให้เมียมันรู้เราขอแบ่งซื้อ 1 คัน |
ปั่นไปหลายปีไม่ได้วิ่งเลย... จนกระทั่งไปเที่ยวลาว เที่ยวรัสเซีย ญี่ปุ่นเดินได้ปร๋อ... |
|
เริ่มรู้แล้วว่าการปั่นจักรยานช่วยให้กล้ามเนื้อขาดีขึ้น หายจากการเจ็บสลักเพชรโดยไม่รู้ตัว เพิ่งสังเกตเมื่อปีกว่ามานี้เอง หุ หุ |
เมื่อหยุดพักจะใช้เครื่องวัดความดัน ตัวบน ตัวกลางปกติ แต่ตัวล่างสุดคือชีพจร PULSE เต้นแค่ 52 ครั้ง |
เคยปรึกษาหมอว่าอันตรายหรือเปล่าครับหมอ กลัวตายครับ 555 |
เต้น 52 ครั้งดีมาก ๆ เลยแสดงว่าร่างกายแข็งแรงสุด ๆ นั่กวิ่งมาราธอนบางคนเขาวัดตอนใช้ชีวิตประจำวัน 46 บางคน 36 ครั้ง |
คนไข้รักษาร่างกายแบบนี้ดีมาก ทำต่อไป |
ระยะโควิดมาทำให้ ต้องปิดจมูกวิ่ง หายใจไม่ค่อยออกหายใจไม่คล่องเลยหยุดพักนาน หุ หุ เริ่มขี้เกียจอย่างแรงเลยใช้เดินแทน |
กะว่าจะเริ่มปั่นจักรยานเพิ่มน่าจะดีก็ต้องหาข้ออ้างไปเรื่อย |
|
วันก่อนไปเยี่ยมญาติที่พิษณุโลก เจอหลานใส่กางเกงขายาวเลยถามว่า จะไปไหนกันตอน 2 ทุ่มกว่า |
ไปเล่นบอลครับน้า.. แถวเรือนแพ |
พยักหน้าแล้วเป็น งง... อะไรว่ะไปเล่นบอลตอนกลางคืนตรงนั้นไม่มีสนามฟุตซอลซะหน่อยหรือเราจะตามหลานไปเล่นบอลด้วย |
กลัวติดเล่นบอลร่างกายไม่แข็งแรงหมอจะดุเอา หุ หุ |
ก็ ๆ เล่นบอล กับเตะบอลต่างกันครับเล่นบอลมาก มันจะจุกอกหรือไม่ก็ช๊อคเดินกลับบ้านไม่ไหว |
ขอบคุุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,631,288. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียน Diarist |
|
ลูกชายพี่ไวน์ฯ นี่ ตอก copy right
สำเนาถูกต้อง เหมือนพี่ไวน์ฯเด๊ะ
หัวใจขณะพักพี่ไวน์ฯ ดีเยี่ยม
เพราะได้exercise หรือมีกิจวัตร กิจกรรมนู่นนี่
อย่างสม่ำเสมอ..
ตรงตามโจทย์...ถามมาก็ตอบไป