| No. 1080 เก็บตก @ Dalat |
|
| ขณะที่เขียนเรื่องดาลัท เวียตนาม..(ตอนนี้) อยู่ที่ หัวหินประจวบอากาศ 33 องศาเซลเซียส |
เมื่อดูแผนที่โลกจะเห็นว่า เมืองดาลัทอยู่ระดับแนวนอน ตรงกับ จ.ตราด กับ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์....เช็คดูอุณหภูมิของเมืองดาลัท
|
| แล้วจะอยู่ระดับ 18 - 25 องศาเซลเซียสตลอดปี ถ้าต่ำสุด 6.5 องศา...ร้อนสุดเพียง 27 องศา |
| |
| ครั้งที่ไปเมืองตากอากาศดาลัท ไปก่อนโควิดมาเยือนไม่ต้องใส่แมส แต่ต้องใส่คือเสื้อกันหนาวหรือแจ๊คเก็ตเกือบทั้งวัน |
| คงเป็นด้วยพื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำประมาณ 1,500 เมตร...นั่งรถบัสขนาดเล็กที่บริษัททัวร์เขาจัดให้เฉพาะพวกเรา |
| สองข้างทางจะเป็นภูเขาปลูกกาแฟโรบัสต้า แซมอาราบิก้าใกล้ตัวเมืองจะปลูกผักเมืองหนาวเขาปลูกลดหลั่น |
| |
|
| ต้นไม้ใหญจะเป็นต้นสนไม่รู้สนกี่ใบ แต่ไม่ใช่สนสองใบแบบที่เขาพูด หุ หุ.. ก็นับทีไรมีมากกว่านี่นา |
|
| แต่ที่ไม่เห็นเลยคือต้นยางพารา นั่งรถกว่าจะถึงที่เห็นสองข้างทางจาก ฟานเที๊ยตเมืองชายทะเล มุยเน่จะมี เนินเขาเป็นทรายที่ค่อน |
| ข้างแห้งแล้ง Red Sand Dunes กับ White Sand Dunes |
| มีหญ้าขึ้นบ้างไม่มาก จะเห็นแพะเป็นฝูงปล่อยให้เดินหากินหญ้า มีต้นกระบองเพชรบ้างและเห็นเนินสูงมีสิ่งปลูกสร้าง |
| กระจายไปทั่วคล้ายบ้านหลังเตี้ยชั้นเดียวพอไปไกล้ อ้าวกลายเป็นสุสานของคนเวียตนามไปซะนี่ |
พื้นที่แห้งแล้งกลายเป็นไร่แก้วมังกรสุดลูกหูลูกตา ดูแล้วน่าจะมีการจัดการดีมาก
|
| แล้วก็มีจุดคัดเก็บแก้วมังกรน่าจะเป็นแบบที่ ไทยเรียกทัพศัพท์จีนว่า "ล้ง" ทีมเที่ยวเราแวะเป็นจุด ๆ |
| มีโอกาศพูดคุยไกด์ กับผู้รู้ว่า แก้วมังกรส่งไปขายที่ จีนเป็นส่วนใหญ่ ปี พศ.2559 ส่งออก 35,000 ตันเพราะคนจีนถือว่า ผลแก้วมังกร |
มีผิวคล้ายมังกรกินแล้วจะมีโชคลาภมีอำนาจบารมีทำนองนั้น
|
| ได้คุยกับคนเวียตนามผ่านล่าม ผมถามเรื่องทะเลจีนใต้ ที่มีหมู่เกาะสแปรดลี่ ล่ามแปลถามไป คนเวียตตามบอกว่า ไม่ควรเรียก |
| ว่าทะเลจีนใต้ เพราะทะเลช่วงนี้เป็นของเวียตนามดูสีหน้าแล้วเขาจริงจัง ควรเรียกว่าทะเลเวียตนาม |
| แต่ด้วยการค้าเขายอมปิดปากเพราะ ต้องการขายสินค้าให้จีนแผ่นดินใหญ่ |
| |
| คงจะขายสินค้าหลายอย่าง อีกอย่างนิคมอุตสาหกรรมที่โฮจิมินห์ น่าจะมีชาวจีนไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้าส่งขายหลายที่ |
| และนิคมที่ว่า คนไทยเป็นคนลงทุนสร้างนิคมเพื่อให้ โรงงานต่าง ๆ ไปซื้อสร้างโรงงาน |
| น่าจะเป็นเจ้าเดียวกับ อมตะ AMATA มีคนตระกูล พานิชชีวะกับ กรมดิษฐ์ดำเนินการมีพื้นที่ 9,300 กว่าไร่ |
|
| ที่เขียนถึงประเทศเขาดำเนินนโยบายการค้ากับต่างประเทศ แม้จะมีความนัยอยู่ในใจก็คงจะเก็บไว้ก่อนการค้ามาก่อน |
| มีอีกเรื่องที่ไปเห็นที่ ดาลัด |
| เขารักษาภูเขาต้นไม้และน่าจะปลูกทดแทน หรือยินยอมให้คนเวียตนามปลูกไม้เกือบยืนต้นเช่นกาแฟก่อนถึงดาลัท เมื่อเข้าสู่เมือง |
จะเห็นการเกษตรปลูกพืชเมืองหนาว
มีโรงเรือนเพื่อควบคุมสัตรูพืชลดการใช้สารเคมีดูและสังเกตด้วยสายตาความลาดชันภูเขา |
| น่าจะไม่เกิน 35 องศา ส่วนภูเขาสูงกว่านั้นแทบจะไม่เห็นการตัดไม้ทำไร่แบบ แหะ ๆ... พูดไปก็ไม่ดี |
|
| เมื่อไปถึงเมืองก็ได้ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ชมทิวทัศน์ ตลาดเช้า-กลางคืน ทานอาหารแบบเวียตนามค่อนข้างจืด และได้ไปเที่ยว |
น้ำตกที่ตกลงข้างล่าง 555 แหง..เนาะ
|
| เราไม่ต้องเดินลงให้เมื่อย นั่งล้อเลื่อนแบบนี้ เสียวทั้งขาลง และขาขึ้นโดยเฉพาะขาขึ้นนั่งลุ้นไปว่า จะขึ้นไหวเปล่าหนอ |
สังเกตดูล้อเลื่อนที่ว่าลัดเลาะเลี้ยวโค้งไปมา คนนั่งหน้าสุดก็ใช้มือรั้งเบรคไว้มิให้ไหลเร็วเกิน
|
| ส่วนคันที่ผมนั่ง ไกด์คงดูแล้วสองสามคนหน้าคง ไม่มีทักษะใช้เบรคมือเลยขอให้ จนท.นั่งหน้าสุดคอยเบรค พอลงถึงน้ำตกมองขึ้น |
| ข้างบนมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม เขาแทบจะไม่ตัดต้นไม้เลย |
...
....
...
|
| อีกแห่งที่ไปคือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้า ตอนนั่งลงเสียวดี มองลงไปข้างล่างเห็นยอดไม้อยู่ข้างล่าง มีต้นลูกพลับแซม |
อยู่ข้างบนนั้นมองลงไปได้ไกล เห็นทะเลสาป ต้นไม้ไกลออกไปเป็นภูเขา (ภาพข้างล่าง เป็นทีมเที่ยวกับผู้เขียน)
|
เวียตนามคงจะมีผู้รักษากฏหมายเข้มแข็ง เลยยินยอมให้สร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูเขา
|
| ผู้เขียนเองสังเกตดู กระเช้ากับสายเคเบิลลอยอยู่ข้างบนยอดไม้ มีการตัดต้นไม้บ้าง ณ ที่ก่อเสาคอนกรีต/เหล็ก |
| ทำให้มีคนเดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่นมาก การค้าดีสร้างรายได้แก่คนท้องถิ่นและแน่นอนรัฐได้ภาษีตามมา |
| |
ทำให้นึกถึง มีคนคิดที่จะสร้าง กระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยสุเทพ เชียงใหม่ กับ ขึ้นภูกระดึง
|
| มีคนต่อต้านที่เชียงใหม่ ว่าจะทำลายอาชีพรถสองแถวขึ้นดอยสุเทพ คนจะตกงานเยอะ แต่ที่ภูกระดึงมีคนหนุ่มสาวต่อต้านมากกว่า |
| เคยคุยกับเพื่อนที่เคยเดินป่าด้วยกัน..นักกีฬาวิ่งมาราธอน นักปั่นจักรยาน คนเต้นแอโรบิก นักรีวิวการท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อนที่ไป |
| ภูกระดึงหลายครั้ง... แต่ละคนมีความเห็นแตกต่างกัน |
(ต่อต้าน 1.) ทำกระเช้าทำไม ต้องตัดต้นไม้เยอะ
|
| (สนับสนุนให้สร้าง) ..ตัดต้นไม้ไม่กี่ต้น น้อยกว่าพวกทำไร่เลื่อนลอย ช่วยให้คนสูงอายุได้เดินเที่ยวข้างบน |
ต่อต้าน 2. ลูกหาบจะตกงาน จะมีคนไปเยอะทำให้เสียบรรยากาศ ขยะจะเยอะ
|
| สนับสนุน ฯ ก็ให้เจ้าของกระเช้าฯ ต้องทำสัญญาว่าจะรับคนงานจาก ลูกหาบเดิมจำนวน กี่เปอร์เซ็นของ พนง.ทั้งหมด |
ต่อต้าน 3. ลูกหาบจะไปคุมกระเช้าได้ไง ไม่มีความรู้
|
| สนับสนุน...ก็จ้างเป็นฝ่ายซ่อมบำรุง ฝ่ายขนขยะจากข้างบนลง ไปกำจัดทำลายข้างล่างพื้นที่ราบซิ |
| ต่อต้าน 4. แบกหามขยะลงนะเหรอ คิดได้ไง |
สนับสนุน..โด่เอ้ย.. ราชการกำหนดในสัญญาว่า ให้ขนเข้ารถกระเช้าพิเศษ...ก็ได้นี่รถไม่ได้ วิ่งตลอดเวลา
ภาพข้างล่าง เป็นหญิง ส.ว.เดินขึ้นภูกระดึงได้ น่าชื่นชมจริง ๆ ถ้าเป็นเราจะไหวหรือ..?
|
| ต่อต้าน 5.. คนแก่ หรือคนเดินไม่ไหวควรอยู่บ้าน |
สนับสนุน...อะ ๆ เราเองเป็นคนออกกำลังกาย แต่เห็นใจคนสูงวัยร่างกายไม่แข็งแรงเท่าพวกเรา ควรให้สิทธิกับเขาใช้ทรัพยากร
|
| ต่อต้าน 6.. เรื่องตัดต้นไม้ ถ้ามีการก่อสร้างจริงคุมไม่ให้ตัดต้นไม้ไม่ได้หรอก ต้นไม้คือต้นไม้เหมือนกันหมด |
สนับสนุน... ปกติการอนุญาตสัมปทานป่าไม้ จะมีการเดินสำรวจป่าจาก ผู้รับสัมปทาน + จนท. ตีตราต้นไม้มีหมายเลข
 |
| ต่อต้าน 7.. เขาว่าต้นไม้ที่ตัดจากป่า มีความสูงยาว 10 เมตรแต่เวลาขนออกมา มันยาวเป็น 50 เมตรเลยตัดเป็นท่อน ๆ ไง |
| |
| สนับสนุน... การทำบัญชีไม้ปัจจุบันทำง่ายก็กำหนดไปเลยว่า ต้นไม้หมายเลขใดอยู่หลุมใดมีกี่ต้นที่ต้องตัด ถ่ายภาพประกอบ |
ด้วยกล้องภาพนิ่งกำหนดเลยว่า ตั้งกล้องห่างจากโคนต้นกี่เมตรครั้งที่ 1 แล้วเงยกล้องกี่องศาแล้วถ่ายซิ
|
| ต่อต้าน 8 แล้วลูกหาบสมมุติมี 200 คนถูกจ้างโดยผู้รับสัมปทานเพียง 60 คนตกงาน 140 คนลูกเมียเขาจะอยู่ได้ไง |
สนับสนุน.. ลูกหาบเดิมก็รับจ้างหาบของขึ้นให้คนหนุ่มสาวเหมือนเดิมไง
|
ต่อต้าน 9 ไม่รู้ละ เรายังนิยมเดินขึ้นเหมือนเดิม มัน มันส์.. สุด ๆ แค่ซำแฮกก็แฮกสุด ๆ
 |
นั่นซิ หุ หุ ผมก็ว่า |
| วันนี้นำแนวคิดของ คนเวียตนาม กับคนไทยที่มองไกลทั้งคู่คือ ก. ต่อต้าน ข. สนับสนุน มาเปรียบเทียบ..แล้วเราจะคิดสร้างสิ่งใหม่ |
แทรกอยู่กับธรรมชาติคือกระเช้าลอยฟ้า แบบจุดชมวิวสกายวอร์ค เป็นทางเดินกระจกหนาอีกหรือไม่
|
| ฝ่ายสนับสนุน เราเป็นประเทศซิวิไลซ์ถือเสียงข้างมากไว้ก่อน แต่ฝ่ายเคยต่อต้าน..มีความเห็นว่า "ไม่เกี่ยวประชาธิปไตย" |
| อยู่ที่เงินทอนมากกว่านะ หุ หุ |
| ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
| st ผู้เข้าชม 2,224,036. |
| ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
| |
| Diarist |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ไปเที่ยวเวียนนาม
สงสัยได้กินแก้วมังกรทุกวันแน่ๆเลยนะครับ
เพราะเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของเวียดนาม
เหมือนมาบ้านเราต้องกินทุเรียน มะม่วง
รถรางของเค้าน่าตื่นเต้นดีนะครับพี่