Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2565
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 พฤษภาคม 2565
 
All Blogs
 
No. 1086 บ้านน้อย กลางป่าใหญ่ (อาหารป่า EP 2)

No.  1086  บ้านน้อย กลางป่าใหญ่ (อาหารป่า..EP 2)




 
ความเดิม...เพื่อนชื่อน้ำ เกิดอุบัติเหตได้รับบาดเจ็บที่หัว นอนสลบตัวพาดริมริมลำห้วยในป่าลึก รอยต่อพม่า คนพื้นเมืองสองคนพ่อลูก
ได้อุ้มมามาอยู่บ้านช่วยรักษาแผล ให้กินอาหารจนร่างกายแข็งแรงแต่ต้องอยู่ด้วยกันไปก่อน เพราะไม่อาจจะเดินทางผ่าน
ป่าและหมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยสองสัญชาติได้ ซึ่งพวกนั้นระแวงคนทั่วไป
บ้านน้อยในป่าอยู่ห่างไกลบ้านคนอื่นมาก แต่อาหารการกินไม่เดือดร้อนหาง่าย เพราะเขาปลูกข้าว ผัก ไก่ป่าและสัตว์ที่เป็นอาหาร
มีอยู่ทั่วไป...  ทั้งสามคนจึงช่วยกันทำงานหนักเป็นบางวัน 
 
จขบ. ได้ฟังจากเพื่อนผู้หลงป่าเล่าให้ฟังไว้นานมาก เป็นเรื่องการใช้ชีวิตในป่าแบบเรียบง่ายแต่น่าสนใจวิถีชีวิตในการมีชีวิตอยู่
จึงเรียบเรียงมาเล่า เพราะหลายคนบอกว่าอยากมีชีวิตอยู่ในป่า หาของป่ากินสบาย ๆ
จขบ.อยากจะคัดค้านว่าไม่จริงเพราะ เคยอยู่ในป่ามาก่อน อยามอดก็อดมากไม่มีอะไรจะกิน ถ้าอยู่ในป่ากลางคืนคนเดียว
ไม่สนุกเลย ...เรื่องนี้ จขบ.ยืนยันน่ากลัวมาก



 
เช้ามืดได้ยินเสียงไก่ป่า ดังมาแต่ไกล เสียงน้ำไหลในลำห้วยข้างล่างความเมื่อยขบ ปวดหลังจากการเกี่ยวข้าวบนไหล่ดอย
เมื่อวานเป็นวันที่สามเราสามคน จะเกี่ยวข้าวไร่ บนไหล่ดอยฝากเดียวกับกระทุ่อมที่ไปเรื่อย ๆ
 
เก็บผ้าห่มผ้าฝ้ายหนา พับเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก วางไว้บนหมอน แล้วไปทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าปากที่ลำห้วยข้างล่าง
อากาศเย็น ใช้มือจุ่มน้ำลูบผมให้ผมลู่เข้าเป็นระเบียบ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ผมยาวมาก หนวดขึ้นไม่น่าดูยังกะโจร
 มากินข้าวเช้ากัน
มีอะไรกินบ้าง พี่พะก่อ
มีเนื้อกวางรมควัน กับน้ำพริกชี้ฟ้า มากินแล้วเราจะไปเกี่ยวข้าวต่อ
ระยะหลังมานี้ พี่พะก่อพยายามพูดภาษาให้ผมเข้าใจง่ายขึ้น แต่สำเนียงยังแปร่ง ๆ น้องก่ำลูกชายพี่ยังพูดภาษาบ้านติ๊ก่อเหมือนเดิม
พูดไทยทั่วไปไม่ถนัดเลย
พี่พะก่อเล่าให้ฟั้งว่า พ่อส่งพี่พะก่อไปช่วยน้องของพ่อที่บ้านเวียงใต้ อ.ปาย..ห่างจากที่เราอยู่ต้องเดินไป 4 วัน.. 
ปลูกถั่วเหลือง ทำนาข้าว ที่นั่นเป็นพื้นที่ราบกว้าง ข้าวที่ปลูกเป็นข้าวเจ้าไม่ได้กินแบบคน เมืองอื่นที่กินข้าวเหนียว
การแต่งตัวของคนบ้านเวียงใต้ ชายนุ่งเตี่ยวสะดอ ยาวครึ่งน่องเสื้อใช้สวมทางหัว มีรอยผ่าตรงคอเสื้อแขนสั้น
หญิงนุ่งผ้าซิ่นยาวถึงตาตุ่ม เสื้อมีปก ผ่าตรงร่องอกยาวประมาณคืบไม่เหมือนบ้านที่เราอยู่
พี่พะก่ออยู่ได้ แปดปีได้เรียนหนังสือนิดหน่อย โตเป็นหนุ่ม พ่อพากลับมาอยู่บ้าน ช่วยทำไร่ข้าว จับปลาปลูกข้าวโพด 



 
เราเกี่ยวข้าวพาดกับ ตอซังข้าว..ได้ส่วนหนึ่งมัดต้นข้าวที่เกี่ยวเป็นฟ่อนใช้เชือกกล้วยพาดไว้กับตอซังข้าวเกือบทั้งวันหยุดกินข้าวพัก
 
เหนื่อยเป็นระยะ..อาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง ไหล่ดอย อากาศเย็นลงทุกขณะ หมอกเริ่มปกคลุมทั่วหุบเขา


 
เย็นนี้ผมแสดงฝีมือ แกงผักเสี้ยว ที่ก่ำไปเก็บมาตอนกลางวัน ใช้พริกแห้ง 4  เม็ดใส่เกลือปอกหอมแดง 5  หัวใส่ครกไม้ตำพอแหลก
เอาถั่วเน่าแผ่นที่ค่อนข้างเหม็นปิ้งไฟอ่อนกลิ่นหอมฟุ้ง ใส่ครกตำคลุกเคล้ากันจนนัว

ใช้หม้อดินตั้งบนเตาให้ร้อน ตักน้ำพริกลงรวนให้หอม ควันฟุ้งแล้วเติมน้ำไปนิดพอขลุกขลิก ฉีกเนื้อกวางแห้งเป็นเส้นยาว ๆ โปรย
ใส่ในหม้อ คนไปมาแล้วปิดฝาสักครู่ (ข้างล่างภาพแทน)


 
พอน้ำเริ่มเดือด เอายอดผักเสี้ยว(ชงโค) โปรยใส่ในหม้อ คนอีกนิดหยิบมะเขือส้ม(มะเขือเทศลูกเล็ก) เปรี้ยวปาดผ่าครึ่งโยนใส่
ไป 5 ลูก คนแกงด้วยป๊าก(กระจ่า) แล้วปิดฝาเป็นอันเสร็จ
ก่ำ ช่วยยกข้าวเจ้าในหม้อดินที่หุงเผื่อตอนเช้าไปวางที่แคร่ไม้ไผ่น้าบ้าน กลิ่นแกงผักเสี้ยว(ชงโค) ใส่เนื้อกวางแห้งส่งกลิ่นหอมคลุ้ง
รสหวานของผัก ความเค็มของถั่วเน่าแผ่นปิ้ง เนื้อกวางที่เหนียวนุ่มพอดี ตักชิมแล้ววางไม่ลงกินข้าวหมดหม้อน้ำแกงไม่เหลือ
น้ำ...แก๋งผักลำแต้ ๆ (พี่พะก่อชมว่าผมทำแกงอร่อย)
แหมมีคนชม ก็ต้องยิ้ม.....
พี่น้ำ เยี๊ยะ(ทำ)แกงลำแต้ ๆ ก่ำกินน้ำแกงจนหมด....ก่ำพูดชม
ผมไม่เคยแกงเลย แต่มีชายคนหนึ่งบอกว่า ถ้าจะให้ความหวานของใบผักออกมาให้ใส่ตอนน้ำเดือดจัด
ให้เป็นสีเขียวตลอดวัน ให้ใส่มะนาวหรือของเปรี้ยวไปก่อนยกลงผักจะหวานไม่ขม วันก่อนเห็นพี่พะก่อแกงเลยแปลงวิธีการนิดหน่อย
แต่ก็จำไม่ได้ว่า ชายนั้นเป็นใคร.
บางครั้งการจำอะไรไม่ได้ดีเหมือนกัน ไม่รู้แม้แต่ชื่อ บ้านอยู่ไหนรู้สึกรำคาญตัวเองนิด ๆ แต่ก็ไม่ทุกข์ใจ
 
แสงตะเกียงน้ำมันหมูป่าที่จุด ส่งแสงวับแวบรอบสลัวเกือบมืด หมอกลอยเป็นแผ่นบนลำห้วยที่ไหลส่งเสียงดังจุ๋งจิ๋ง
น้ำค้างจากหมอกหนาเริ่มรวมตัวเป็นหยาดน้ำหนาวเย็น เป่าตะเกียงให้ดับ
 เรากลับบ้านนอนห่มผ้าและแล้วก็ผลอยหลับ ไปอย่างมีความสุข
 
เสียงไก่ป่าตีปีกส่งเสียงดังก้องลำห้วยเหนือตัวบ้าน พี่พะก่อขยับตัวลุกออกไปนอกตัวบ้าน เงียบหายไปเลยลุกเดินลงตลิ่ง


 
ไปริมน้ำวักน้ำเย็นล้างหน้าล้างปาก  หยิบกิ่งข่อยที่ตัดซุกไว้กับตอไม้ทุบเบา ๆ บิดจนขาดแล้วอ้าปากถูฟันไปมา น้ำความชื้นจากกิ่งข่อย
รสแปลกฝาดนิดผสมกับน้ำที่อมไว้ ใช้นิ้วชี้ถูกฟันกับกระพุ้งแก้มถูไปมาจนทั่วบ้วนทิ้ง
 
วักน้ำล้างปากจนรู้สึกว่า สะอาด...  พี่พะก่อ สอนล้างปากด้วยกิ่งข่อย ไม้ที่หาง่ายในแอ่งดอยทำให้นึกได้ว่า เมื่อก่อนเราใช้แปรงสีฟัน
แต่ก็เคยอ่านหนังสือว่า ตุ๊เจ้า(ภิกษุ) ชราในชนบทใช้ทำความสะอาดฟันและปาก
 
ไต่ตลิ่งขึ้นไปนั่งแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ครู่เดียวแสงแรกของวันสาดผ่านต้นไม้ใหญ่ ใบไม้ก็มาถึง พี่พะก่อเดินถือเคียวมา 2 อันชวน
เดินลุยลำห้วยไปอีกฝั่ง ไปเกี่ยวข้าวดอยที่ปลูกไว้ รวงสีเหลืองทองห้อยย้อยสู่ดิน ก่อนกินข้าวเช้า
เราสองคนช่วยกันเกี่ยวข้าวไว้กิน ไหล่ดอยปลูกข้าวค่อนข้างชัน ต้องค่อย ๆ ไต่เดิน
 
ก้มตัวเกี่ยวข้าว พอเกี่ยวได้กอ ตวัดข้าวไปข้างหลังพาดไว้กับ ตอซังพาดไว้เฉียงตัวนิดหนึ่ง
สังเกต ดูแล้วพี่พะก่อปลูกข้าว โดยขุดหลุมบนที่ลาดเชิงดอยห่างกันประมาณศอกผู้ใหญ่ บางหลุมห่างเลี่ยงก้อนหินตอไม้ ไม่ได้
ปลูกเป็นแนวอย่างที่เคยเห็นแต่นึกไม่ออกว่าที่ไหน




(ภาพแทน)

 
เราเกี่ยวข้าวไป จนกระทั่งแดดเริ่มกล้าแรง.... เด็กก่ำ จะหิ้วกระบอกไม้ไผ่สีคล้ำคล้ายถูกควันไฟรมหอมไต่ดอยมาส่งให้ดื่ม
หอม. ยามน้ำไหลลงลำคอ.เย็นชื่นใจ
ท้องเริ่มหิวอยากกินข้าว แต่น้อยกว่าความเจ็บเมื่อย เอวลำตัวที่ก้มเกี่ยว ตะวัดรวงข้าวที่มีฟางข้าวสีเหลืองติดไปวางไว้กับตอ
ข้าวที่เกี่ยวออกไปแล้ว ใจนึกถึงกับข้าว จะกินอะไรดีตอนเช้า
ปะ หยุดเกี่ยว ลงไปพักกินข้าวกันก่อน   ค่อยมาเกี่ยวต่อตอนแลง(เย็น) พี่พะก่อเอ่ยปากชวน
ดีครับพี่กำลังหิวข้าว เราทำอะไรกินดี
ก็กินแบบแกงที่เหลือเมื่อวาน...  ไหวเปล่า
คำพูดแบบนี้คุ้น ๆ  ยามอยู่ที่บ้าน...แต่บ้านเราอยู่ไหนนี่ซิ... เลยตอบว่า  ครับพี่
 
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ  
st ผู้เข้าชม  2,241,633.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
Diarist



Create Date : 02 พฤษภาคม 2565
Last Update : 2 พฤษภาคม 2565 5:26:38 น. 25 comments
Counter : 1162 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณเริงฤดีนะ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณตะลีกีปัส, คุณSleepless Sea, คุณtoor36, คุณทนายอ้วน, คุณtanjira, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณอุ้มสี, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณmcayenne94, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณชีริว, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณกิ่งฟ้า, คุณโอพีย์


 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์

ทักษะชีวิตเหมือนจะง่าย
แต่พอจะใช้งานจริง
ยากมาก
เหมือนที่พี่ไวน์เล่าว่า
ในป่ามีของกินเยอะมาก
แต่ใช่จะหามาง่ายๆ
ล่าสัตว์ จับปลา
คนไม่เคยทำ
ยังไงก็ทำไม่เป็น
ต้องฝึกนานเลยกว่าจะทำได้
ผักหญ้าชนิดไหนกินได้ไม่ได้
อันนี้ก็ต้องรียนรู้จริงๆครับถึงจะกินได้ปลอดภัย

ผมเพิ่งทราบจากบล็อกพี่เลยครับ
ว่าน้ำมันหมูป่าสามารถนำมาจุดตะเกียงได้ด้วย
สุดยอดเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:18:57 น.  

 
อ่านเพลินค่ะ

แกงผักเสี้ยว (ยอดชงโค)
ที่ดอกสีม่วงรูปทรงคล้ายหางนกยูง แค่ใหญ่กว่า 5-6 เท่า นั้นหรือคะ

นำมาแกงได้และดูอร่อยด้วย


ดีจัง
แต่เชื่อๆๆค่ะว่าต้องอร่อยแน่นอน
ถึงแม้พะก่อจะไม่confirm


นำมันอะไรก็จุดตะเกียงได้ใช่ไหมคะ
น้ำมันพืช ด้วย..ที่เวลาเราไปเติมตะเกียงน้ำมันตามวัด


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:7:38:18 น.  

 
เหมือนอ่านนิยายเลยพี่ไวน์



โดย: หอมกร วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:9:15:14 น.  

 
สวัสดีครับพี่
เห็นด้วยกับเม็นต์คุณก๋าเลยครับว่าดูเหมือนง่าย แต่ยากมากครับ สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับป่า ผมคนนึงเลยครับ ผมน่าจะหุงข้าวได้อย่างเดียว 555 ถ้าคนคุ้นเคยกับป่าผมว่าหากินง่ายมาก ๆ ครับ อยากเข้าป่าแล้วครับ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:9:54:33 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

เพิ่งรู้ว่ายอดเสี้ยวเอามากินได้ คราวหน้าเจอจะลองทำดูค่ะ
แต่เนื้อกวางรมควันนี่ก็ยังไม่เคยกิน
กินแต่เนื้อค่าง เนื้อเก้งผัดเครื่องซาค่ะ อร่อย
แต่ไม่เสาะหากิน แค่ลองชิมเพื่อรู้เท่านั้นค่ะ

ชอบเที่ยวป่า แต่ให้อยู่ในป่าคงไม่ไหวค่ะ
เรื่องกินสำคัญมากๆ ไม่อบากอดเพราะหาอาหารป่าไม่เป็นเลยค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:10:11:50 น.  

 
มันไม่มีอะไรง่ายหรอก คนที่บอกว่าง่ายอาจเป็นเพราะเขาเชี่ยวชาญแล้ว ในขณะที่เราไม่คุ้นเคยอะไรๆ มันก็ยากไปหมด

แค่หุงข้าวในป่าก็น่าจะลำบากแล้ว แต่ได้ยินแว่วๆ ว่ามีคนต้องหุ้งข้าวกินเองแล้ว1 จากแต่ก่อนมีคนหุงให้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:14:37:03 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์
อยากรู้ค่ะว่าในอดีตที่สูญเสียความจำ เป็นนานไหมคะกว่าความจำ
จะกลับมาเหมือนเดิม และเข้าป่าไปทำอะไรจึงถูกทำร้ายนอนอยู่ข้าง
ตลิ่งน้ำ (ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ) อยู่ในป่าก็ดีเหมือนกันนะคะ
มีแต่พืชและสัตว์เลี้ยงพอเลี้ยงชีพไปวันๆสบายใจดีไม่มีสังคมมากนัก
แต่ต้องแข็งแรงมากจึงอยู่ได้เพราะห่างไกลความเจริญ อยู่ป่ากินผัก
ปลอดสารพิษ มีสมุนไพรรักษาโรคได้ ก็มีความสุขไปอีกแบบหนึ่งค่ะ


โดย: จินดา พูลผล IP: 58.8.104.98 วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:14:38:44 น.  

 
ถั่วเน่าแผ่นมีแล้วครับ ขอไปล่ากวางกับเก็บผักเสี้ยวแป๊บนึงครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:14:45:23 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์

เข้าป่าอีกรอบแล้วนะคะ 555
ยืนยันอีกเสียงว่า ป่า น่ากลัว มากกว่าน่าอยู่ค่ะ
ถามว่าเคยอยู่เหรอ เปล่าค่ะ ใช้จินตนาการเอา 555
มันน่าจะมีสิ่งอันตรายเยอะพอควรนะคะ
ถ้าไม่เคยอยู่ก็อย่าเสี่ยงเลยคร่า เนอะ

ผักเสี้ยวไม่เคยกินเลยค่ะ แถมแผ่นถั่วเน่าไปอีก
ขอยกมือบ๊ายบายนะคะ
ส่วนตัวธัญไม่ชอบแกงป่าค่ะ ชอบแกงกะทิมากกว่าค่ะ

ขอบคุณคุณไวน์สำหรับกำลังใจดีดีนะคะ
จิตใจคนเราต่างกันนะคะ ส่วนธัญคงอ่อนแอเกินไปล่ะค่ะ
จิตไม่แข็งพอ เลยทนอะไรไม่ค่อยได้นะคะ

มีความสุข รักษาสุขภาพนะคะคุณไวน์


โดย: tanjira วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:15:13:14 น.  

 
ภาพหนังสือ
ผมเอาหนังสือวางที่พื้นห้องครัวเลยครับพี่ 555
เพราะเป็นห้องเดียวในบ้านที่มีแสงธรรมชาติเพียงพอ

เซ็นก็มาจากพุทธ
ผมคิดว่าหลักการเหมือนกัน
แต่วิธีสอน วิธีปฏิบัติต่างกัน

ที่มันต่างก็เพราะแต่ละประเทศมีประเพณี วัฒนธรรม
พื้นฐานความคิดของคนที่ไม่เหมือนกัน
ก็เลยต้องใช้วิธีสอนที่ต่างกันไป
เหมือนเวลากินอาหาร ทำอาหาร
แต่ละประเทศก็ทำต่างกัน รสชาติต่างกันเท่านั้นเองครับพี่
บังเอิญว่าจริตของผมไปตรงกันกับวิธีของเซ็น
ก็เลยชอบเป็นพิเศษครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:15:24:58 น.  

 
อ้าววว
จั่วหัวขึ้นมาก็เพื่อนสลบ
แวะมาอ่านค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 2 พฤษภาคม 2565 เวลา:21:31:42 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤษภาคม 2565 เวลา:6:19:15 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์

การเกี่ยวข้าวในพื้นที่ราบน่าจะปวดเมื่อยเพราะก้มตัวอยู่แล้ว
ยิ่งปลูกในพื้นที่ลาดเชิงดอยอย่างในภาพคงต้องพยุงตัวไปด้วยยิ่งน่าจะเพิ่มความปวดกว่าปกตินะคะ
นับถือความอดทนของคนทำงานค่ะ

แกงผักเสี้ยวใส่เนื้อกวางหอมๆ เสิร์ฟกับข้าวในหม้อดินแล้วนั่งล้อมวงกินบนแคร่ไม้ไผ่หลังจากเหน็ดเหนื่ยจากงานน่าอร่อยมากค่ะ
ได้ทราบวิธีให้ความหวานของใบผักออกมาด้วย นำไปใช้กับผักอื่นๆได้ด้วยนะคะ

ภูมิปัญญาอย่างการทำความสะอาดปากและฟันด้วยกิ่งข่อยเป็นการพึ่งพาธรรมชาติ
ไม่ต้องใช้แปรงสีฟันยาสีฟัน ลดการซื้อการผลิต ลดโลกร้อนด้วย ดีจริงๆค่ะ

ต๋ากลับมาจากพิษณุโลก ย้อนอ่านบล็อกที่แล้วๆค่ะพี่ไวน์
โชคดีมากนะคะที่พี่ไวน์และครอบครัวปลอดภัยจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่ขว้างขวดเข้ามาในโรงรถ
ความดีคุ้มครองคนดีค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 3 พฤษภาคม 2565 เวลา:7:38:52 น.  

 
จากบล็อก
เจ้าภาพไม่ยอมให้เปลี่ยนครับ ทีมไทยเราเลยต้องขยับกันหมดเลย ของเวียดนามเค้าก็มีหวังบางรุ่นด้วยนะครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 3 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:30:22 น.  

 
ลาป่วยค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 พฤษภาคม 2565 เวลา:20:23:46 น.  

 
สวัสดีครับพี่ไวน์
อ่านจนจบเจอคำที้ไม่รู้จักหลายคำเลยครับ แต่ชอบนะครับเหมือนอ่านนิยายย้อนยุค ไม่รู้ว่าเพชรพระอุมาเป็นแนวนี้ไหม แต่น่าจะป่าๆแบบนี้เหมือนกัน ในป่าแบบนี้ถ้าไม่ได้คนถิ่นนี่แย่เลยครับ แม้แต่เด็กก่ำก็คงมีทักษะมากกว่าคนแปลกหน้าที่มาจากในเมืองแน่นอนครับ
พี่ไวน์ต้องทำการบ้านเยอะมากแน่ๆรายละเอียดเยอะเลยครับ

จากบล๊อก
ใช่ไหมครับ ถ้าติดออกกำลังกายแล้ววันไหนงดจะไม่สดชื่นเท่าไหร่ ติดจิงๆครับ
ผมไม่เคยเจอหมอดุเลยครับ ยกเว้นหมอภูมิแพ้หอบหืดที่รักษาอยู่ ป่วยทีไม่หนักหนาก็ไมากล้าไปหาเพราะหมอดุมาก บ่นทุกครั้งเลย เลยต้องเก็บไว้รอหนักๆค่อยไปให้โดนบ่นทีเดียวครับ 5555 เพราะผมเกเรมาก ก็ปกติผมเป็นคนแข็งแรงมาก จะให้มาเคร่งครัดจิงจิง ยาไม่ขาดเลยไม่ไหวหรอกครับ ชีวิตก็ต้องใช้ กินเหล้าถึงตี 2 จะเอาสติที่ไหนมาพ่นยาก่อนนอน เช้าทาก็แฮ้งอีก ให้อมอะไรก็อ้วกแล้วครับ555555


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 3 พฤษภาคม 2565 เวลา:23:10:36 น.  

 
ไม่ได้อ่านตอนที่แล้ว ขออตัดตอนมาตอนนี้เลยนะครับ เพื่อนสลบกลางป่า อันตรายจริง ดีนะครับมีคนมาเจอ
พวกอยากหนีความวุ่นวายในเมืองไปอยู่ป่า อยู่ชนบท นี่ต้องจับให้ไปอยู่จริงๆ แบบจนๆ ดูสักนิดครับ จะได้ไม่แฟนตาซีมากเกินไป

ทั้งผักเสี้ย วทั้งถั่วเน่าแผ่น กินไม่เป็นเลยครับ
ส่วนเนื้อกวางจำไม่ได้ว่าเคยกินมั้ย ไม่น่าจะเคยมั้ง


โดย: ชีริว วันที่: 4 พฤษภาคม 2565 เวลา:0:09:03 น.  

 
ถ้าใส่ผักเผ็ดก็คงเป็นแกงแคได้เลยนะคะ
พี่ไวน์ทำอาหารเก่งมากค่ะ เป็นโชคดีของเพื่อนๆที่เดินป่ากับพี่ไวน์

ราตรีสวัสดิ์นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 4 พฤษภาคม 2565 เวลา:0:10:33 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2565 เวลา:4:49:02 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจตะพาบเรื่องเล่านะคะ
ตามมาอ่านเรื่องบ้านน้อยกลางป่าใหญ่ เพลินเลยค่ะ น่าสงสารความจำเสื่อมนะคะ

แกงผักเสี้ยวอ่านแล้วมะโนภาพไปด้วยน่ากินมากค่ะ อิอิ คงหวานผักเสี้ยวกับกวางแห้ง อร่อยมากๆ ถั่วเน่านี่ใช้แทนกะปิ ปลาร้าได้เลยนะคะ

โหวต Diarist ค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 4 พฤษภาคม 2565 เวลา:12:55:48 น.  

 
ปกติพี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ออกหนังสือใหม่ปีละ 1-2 เล่มโดยตลอดครับ
ถือว่าเป็นนักเขียนที่ทำงานสม่ำเสมอมากๆคนหนึ่งเลย

เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่าเติมน้ำมัน
ผมมีแต่ไม่เคยใช้เพราะมันหนักมาก
และดูจะตัดแบบรุนแรงไปหน่อยครับ 555

เลยชอบแบบแบตลิเธียม
แต่ก็มีข้อเสียคือใช้ได้ 20 นาทีแบตก็หมดแล้วครับ
ชาร์จใหม่ก็เ้กือบ 2 ชั่วโฒงกว่าจะเต็ม
แต่ตัดได้ดีเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2565 เวลา:19:13:53 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:25:14 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์

ส่งสรุปผลฟุตบอลไทยลีคค่ะ
เพิ่งปิดฉากเมื่อคืน



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 5 พฤษภาคม 2565 เวลา:11:13:10 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

ใบเซียงดา อยากลองชิมจังเลยค่ะ
อยากหาพันธ์มาปลูกบ้างค่ะ อยากรู้อยากเห็นอยากชิมค่ะ
ผักเหมียงต้องปลูก ร่มรำไร ตามร่องยางค่ะ ใบจะได้ไม่กระด้าง


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 5 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:07:44 น.  

 
ใบหม่อนผัดไข่ต๋าได้ไอเดียจาก YouTube เลยลองทำบ้างค่ะพี่ไวน์
ต้องใช้ยอดอ่อนมากๆน่าจะดีกว่าใบส่วนอื่นค่ะ
ขอบคุณพี่ไวน์สำหรับกำลังใจนะคะ




โดย: Sweet_pills วันที่: 6 พฤษภาคม 2565 เวลา:1:01:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.