No. 1210 ชีวิตในป่า (9) หลงป่า ? |
|
เราสามคนอยู่บ้านบนเนินริมลำห้วยสูง ไปด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่ราบดินสีดำยาวปลูกผักของกินได้มาก |
ถัดไปเป็นเนินดินสูงเอียงแบบหน้าผามีต้นกล้วยป่า ต้นไม้ใหญ่หลายต้นขึ้นห่าง ๆ มาอยู่กับพี่ก่อหลายเดือนช่วยปลูกข้าวโพดข้าวไร่ |
บนดอยอีกลูกห่างจากบ้านขึ้นไปข้างบนช่วยเกี่ยวแบกฟางข้าวที่มีเม็ดข้าวติดลงมานวดใช้ฟาดกับขอนไม้ |
ส่วนข้าวโพดพี่ก่อเรียกว่า"ข้าวสาลี"กินฝักสดน้ำมาต้มแกะกิน..ดึงเปลือกออกใช้มีฝานเม็ดเป็นแผ่น เยาะเกลือสีมอ ๆ บางครั้งฝาน |
น้ำอ้อยก้อนสีแดงค่อนข้างดำใส่คลุกเคล้ากินแทนข้าวไม่ใช่ขนมหรือว่าใช่... |
ปล่อยฝักข้าวโพดติดลำต้นใบออกสีเหลืองเราสามคนจะช่วยกันหัก ฝักข้าวโพดใส่เข่ง... |
สอดไม้ไผ่หามลงมาไว้ที่บ้าน น้องก่ำจะดึงเปลือกข้าวโพดมัดติดกันสองฝักไปพาดกับเชือกไว้ในครัวให้ควันไฟรม |
พี่ก่อบอกว่าจะช่วยไม่ให้ตัวมอดกิน..ถ้าข้าวไร่หมดก็ใช้ข้าวโพดแช่น้ำหุงแทนข้าวแต่โชคดีไม่ได้กินข้าวโพดแห้งแข็งมาก ๆ |
|
อาหารที่กินก็มีผัก ปลาขาวย่างรมควันปลากด ปลากั้ง.. พี่ก่อไปดักยิงผูกแร้วดักกระต่ายได้บ้างไม่ได้บ้างถ้าได้มาก็ได้กินย่างสด |
เหลือรมควันไว้กินแห้ง ไก่ป่าไม่ค่อยได้กินแต่ได้กินไข่...แอบไปเก็บตอนแม่ไก่ไม่อยู่ |
|
เคยถามพี่พะก่อเรื่องยิงสัตว์ พี่ก่อหยุดนิ่งแล้วพูดว่าพวกเราอยู่ในป่าต้องกินเนื้อสัตว์ให้ร่างกายแข็งแรง เฮาทำกันมาตั้งแต่ปู่ย่า |
ใช่ ๆ พี่เราอยู่ในเมืองก็ซื้อเนื้อจากโรงเชือดกินเคยอ่านหนังสือว่ามีคนกินผักถั่วแทนเนื้อสัตว์ก็อยู่ได้ |
พี่ก่อเล่าว่า.ครูนินที่อยู่อีกดอย..เคยพูดให้พี่ฟังว่าส่วนใหญ่จะกินถั่วแทนเนื้อสัตว์ครูนินพยายามงดเนื้อ..แต่พี่ไม่ค่อยรู้เรื่อง |
ไว้กานเจอครูนินค่อยถามก็แล้วกัน |
อยู่แอ่งดอยอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดปี จะมีอบอ้าวบ้างเมื่อก่อนฝนจะตกถ้าฤดูแล้งใบไม้ร่วงก็เพียงเย็น ๆ อบอ้าวบ้าง |
ติดเนินเขาหลังบ้านใกล้กับกอกล้วย พี่ก่อปลูกผักหละ(ชะอม) ไว้เป็นแถวยาว เมื่อตัดยอดไปกินสองสามครั้งจะ |
ใช้มีดตัดกิ่งส่วนบนออก ใส่ปุ๋ยขี้ค้างคาวรดน้ำบ้างไม่นานยอดชะอมก็แตกออกให้กิน |
ใกล้กันปลูกพริกขี้หนูเม็ดเล็กเผ็ดหอม.. อีกแปลงปลูกพริกเม็ดโตไว้เก็บแกงสด พริกค่อนข้างดกเราจะปล่อยให้มันแก่จัด |
ก่ำจะเด็ดไปวางบนตระแกรงไม้ไผ่ที่ยกสูงตากแดดหลายแดดจนแห้งเก็บใส่ก๋วย(ตระกร้า) ปิดฝา |
ต้นหอมแดง หอมขาว(กระเทียม)ปลูกไว้ 4 แปลงใช้ยกแปลงด้วยขอบก(จอบ) ผมมีหน้าที่ปลิดหัวหอมแก่ที่เก็บไว้..ออกจากกัน |
ใช้มีดปาดหัวออกไปจิ้ม ๆ บนแปลงดินร่วนซุยผสมขี้ค้างคาว |
กระเทียมจะแยกกลีบออกได้มากกว่าหอม ไปจิ้ม ๆ บนแปลงดิน เคยถามพี่พะก่อว่าทำไมกระเทียมหัวเล็กไม่เอาหัวใหญ่มาปลูก |
อ๋อ.. กระเทียมนี้พี่เอามาจาก อ.ปายเป็นกระเทียมหัวเล็กจะหอมกลิ่นแรงกว่า กระเทียมหัวโต |
ใช่ ๆ พี่ผมไปเชียงใหม่แถวกาดสันป่าข่อยมีกระเทียมดองขายมาก แรก ๆ ผมคิดว่ากระเทียมหัวโตจะหอมกว่ามิน่า |
พ่อค้าจะรับซื้อกระเทียมหัวโตมาตัดต้นออก..แล้วดอง คนต่างถิ่นเขากินกระเทียมดองกับข้าวต้ม |
บางทีก็ซอยผัดใส่ไข่กินนะ |
แปลงผักหลังบ้านให้น้ำไม่ยาก พี่ก่อเอาไม้ไผ่ถากให้ข้างบนเปิดทะล้วงปล้องรองน้ำแอ่งน้ำซับข้างบนในดินต่อเป็นรางไผ่ไหล |
ใกล้ตัวบ้าน..ผมกับก่ำใช้จอบขุดดินเป็นร่องให้ไหลมาใกล้แปลงผัก แล้วตักน้ำในหลุมบ่อไว้รดสบาย |
หลังปลูกหอมกระเทียมได้อาทิตย์กว่า เดินไปดูแปลงหอม ๆ จะแทงยอดโผล่พ้นดินสีเขียว |
ไม่นานก็เขียวไปทั้ง 4 แปลง |
เช้าวันหนี่ง.....พี่กานก่ำอยากกินยอดผักหวาน...พี่รู้จักเปล่า |
รู้ซิพี่อยู่ในเมืองมีขายกินบ่อยน่าจะขายเดือน เมษา พฤษภาฤดูร้อน |
งั้นเราไปหาผักหวานมากินกัน ก่ำไปกับพี่กานนะพ่อ |
เอาซิ..ต้องเดินไปไกลอีกสองดอย เอาเนื้อย่างแห้งใส่ย่ามไปด้วยนะเวลาหิวจะได้กินกันได้มากได้น้อยไม่เป็นไรดูแล้ว |
จะมืดก็ให้รับเดินกลับนะ |
จากบ้านแอ่งดอยเราสองคนเดินข้ามลำห้วยแล้วไต่ขึ้นดอยไปเรื่อย ๆ แล้วก็เจอแอ่งดอยมีน้ำไหลคล้าย ๆ กันเราไต่ดอยไปเหนื่อย |
ยังไม่ถึงเหรอก่ำ |
ยังพี่ต้องเดินผ่านลำห้วยอีก 2 ห้วยไต่ไปอีกสองดอยข้างบน ดินจะแห้งมีต้นผักหวานเยอะ... นั่นไงพี่กานห้วยที่ก่ำว่า |
เดินไปอีกพักใหญ่ป่าเริ่มแห้งเพราะความหนาว มีเถาวัลย์พาดไปกับกิ่งไม้แล้วก็ไต่ดอยลัดเลาะเจอต้นผักหวานมียอดสีเขียวอ่อน |
ขึ้นเยอะช่วยกันเด็ดยอดใส่ย่ามจนเกือบเต็ม แวะดื่มน้ำในลำห้วยที่เย็นใส |
แล้วก็เดินกลับทางเดิมจะได้กลับบ้าน แต่ไม่เจอกิ่งไม้ที่หักไว้เลย ชักท้อแต่เราสองคนก้มหน้าก้มตาเดินต่ออีกนานดูแล้วไม่คุ้น |
ก่ำพี่ว่าเราหลงทาง |
ใช่พี่ทำไงดี จวนค่ำแล้ว |
เราก็เดินตัดลำห้วยมาแล้ว 2 ห้วยน่าจะใช่ห้วยบ้านเราแต่ไม่ใช่อีก...เรากลับบ้านไม่ทันจะมืดเสียก่อนเราหาของกินก่อนดูแล้ว |
คงต้องนอนค้างในป่า... |
เอางี้เราพักริมห้วยตรงนั้นมีชะง่อนหินเรานอนค้างหัวนอนมีก้อนหินกันไว้ เราแค่ระวังสองข้างที่เราจะนอนข้างหน้าเป็นลำห้วย |
คงไม่เป็นไรมั้ง |
จะดีเหรอพี่กาน.. ก่ำยังไม่เคยนอนในป่าแบบนี้แล้วถ้าหมีตัวใหญ่มาเจอเรา มันจะกัดเอานะพี่ |
คงไม่มั้งก่ำเราก่อกองไฟไว้สองข้างที่เราจะนอน ก่ำจะได้นอนหลับพี่จะคอยดูกองไฟเองปะ ไปหากิ่งไม้แห้งมาเยอะ ๆ หน่อย |
เราช่วยกันขนกิ่งไม้ใหญ่เล็กมากองไว้สูงเกือบเอวไว้ตรงที่จะนอน.. |
ก่ำไปตัดใบกล้วยแห้ง ใบสดมาหอบใหญ่บอกว่า จะเอาไว้ปูนอน.. ดีเหมือนกันเพราะพื้นดินใต้ชะง่อนหินไม่เรียบ |
เออก่ำ เราจะหาไฟมาจุดจากไหนดี |
ไม่เป็นไรพี่กาน ก่ำเคยดูพ่อใช้กิ่งไม้แห้งกับนี่ ก๋ง..มาทำจนมีควันแล้วเกิดไฟเดี๋ยวนะพี่กาน ไม่รู้ว่าก่ำเอาปุ๋ยดอกงิ้วมาด้วยเปล่า |
อ้อ..มีอยู่ใต้ย่ามพ่อคงยัดใส่ให้ |
เห็นเด็กก่ำหยิบปุ๋ยดอกงิ้วคล้ายดอกฝ้ายสีมอ ๆ ออกมาดูหน้าแล้วเด็กก่ำน่าจะคลายความหวาดกลัวความมืดลงบ้าง |
แสงอาทิตย์เริ่มลดลงเรื่อย ๆ เกือบมืด |
ก่ำใช้มีดเหน็บถากไม้แห้งท่อนขนาดขาลึกเกือบสองนิ้ว ใช้ปลายมีดเจาะเนื้อไม้แห้งเป็นรูลง แล้วเอาไม้ไผ่พันเชือกก๋ง จรดปลาย |
ไม้ไผ่ที่แห้งที่แอ่งไม้ ใช้มือจับกระบอกไผ่สดกดลงด้วยมือซ้าย ใช้มือขวาดันเชือกก๋งไปมานาน.. จนอึดอัด |
ก่ำลองใช้มือจับรู เริ่มร้อนแล้วพี่กาน ก่ำจะปั่นให้ร้อนอีกจะได้เกิดไฟ รอหน่อยนะพี่รับรองมีไฟแน่ |
ผมก็เคยนั่งดูก่ำเงียบ ๆ แต่ก็ลุ้นให้ติดไฟ เราจะได้มีไฟจุดกองไฟได้...... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,581,619. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียนเรื่อง สั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
|
พี่ไวน์หลงป่า
เรื่องราวเหมือนในหนังเลย
ว๊าาาาาววว