No. 1088 บ้านน้อย กลางป่า (EP 4..ทำงานหนัก) |
 |
จขบ. (ไวน์) ขี่มอเตอร์ไซค์รถไปค้างในป่าจันทบุรีเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อนำเงินค่าจ้างไปจ่ายคนงานในป่า ทำอยู่ 2 ปีกว่า |
เลยรู้ว่าในป่าใหญ่ สงบสวยแต่น่ากลัวในเวลากลางคืนเวลาอยู่คนเดียว |
เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่ไปอยู่ในป่าภาคเหนือหลายปี แต่กลับเข้าเมืองไม่ได้และพบ จขบ.ในป่านครไทย เลยเล่าให้ฟังการใช้ชีวิตในป่า |
อาหารที่ไม่เคยกินก็ต้องกิน อยู่กับคนบ้านป่า 2 คนพ่อลูกรอยตะเข็บไทยพม่า ฟังแล้วน่าสนใจ จขบ. เลยนำมาเล่าต่อ |
////////// |
นั่งบนแคร่ไม้หน้ากระท่อมหลังเล็ก แสงแดดเริ่มส่องผ่าน กิ่งใบไม้แสงเป็นลำยาวสู่พื้นหญ้าสีเขียวปนเหลือง พื้นลำห้วยที่ |
ถูกน้ำกัดเซาะลดต่ำลงกว่าพื้นดินหน้าบ้าน สายน้ำใสไหลผ่านก้อนหิน กิ่งไม้ช้า ๆ สายหมอกลอยเรี่ยกับลำห้วย |
หมอกบางส่วนบางขาดหายเห็นสายน้ำใสไหลช้า ๆ ส่งเสียงเบา ๆ |
|
มองเลยไปของอีกฝั่งที่เรานั่งอยู่เป็นไหล่ดอย แสง ผ่านแมกไม้มัดฟ่อนข้าวเหลืองทองวางระเกะระกะ เม็ดน้ำค้างต้องแสงสีทอง |
เป็นประกายวับแวม |
ลมพัดมาเบา ๆ หมอกเป็นแผ่นบางลอยเอื่อย ๆ ยามถูกโขดหินข้างลำห้วยแผ่นหมอกแตกเป็นสองทาง ผสมไอน้ำอุ่นจากลำห้วย |
ลอยขึ้นมารวมเป็น หมอกเข้าด้วยกัน. เสียงน้ำในลำห้วยดังคลิก ๆ ยามไหลถูกกิ่งไม้หัก ทอดยาวขวางน้ำ |
พี่พะก่อ หมอกจะลอยแบบนี้ อีกกี่เดือนครับ |
เป็นอะไร งามเหรอ |
ครับ สวยจริง ๆ |
ถ้าเป็นหน้าเกี่ยวข้าว บนดินมีความร้อนอยู่บ้าง ผสมความชึ้นในต้นไม้ใต้ดินจะเกิดหมอกลอยตรงแอ่งดอยอีกน่าจะสองเดือน |
ไป... เราไปแบกฟ่อนข้าวบนดอย ลงมาไว้ที่ลาน... พี่พะก่อชวน |
เอ้อ ก่ำ.. ยังไม่ต้องตามไป. เก็บจานชามของกินบนแคร่ไปเก็บแล้วค่อยตามไปนะ |
เราเอาไม้คานทำด้วยไม้ไผ่ซาง หนาตรงกลาง ปลายสองข้างบางมีปลายแหลมสองข้างพาดบ่าไปคนละอัน |
ไต่ตะลิ่งหน้าตูบ ลงลำห้วย ไอน้ำลอยเรี่ย ๆ ปลาตัวเล็ก ว่ายวิ่งไปมาคงจะกลัวยักษ์สองตนมาจับกิน เหยียบลงน้ำอุ่นนิด ๆ สบายเท้า |
ไม่เย็นเหมือนตอนนั่งกินข้าวเช้า. ยามเท้าสัมผัสกับกรวดกรมสีขาว ผสมดำที่อยู่ใต้แผ่นน้ำดังเอี๊ยดอ๊าด น้ำลึกแค่เข่าต้องดึงกางเกง |
สะดอขึ้นมานิด ไม่ให้เปียก |
|
ชายตลิ่งเป็นดินละเอียดปนทราบ นุ่มเท้ามีหญ้าขึ้นแซมบ้าง เราสองคนเดินขึ้นไหล่ดอยชัน ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าให้ทรงตัวได้ |
ผ่านก้อนหิน ตอไม้เก่า ไม่นานก็ถึงฟ่อนข้าวที่มัดไว้ |
|
น้ำ... เอาไม้หลาว(คาน) แทงลงไปที่ฟ่อนข้าวแบบนี้ จนให้โผล่แล้ว งัดอีกด้านให้ตรงเสมอกัน แล้วจับฟ่อนข้าวตั้งขึ้นแบบนี้ |
ว แทงเข้าไปแรง ๆ นั่น.. ใช่แล้ว. พี่พะก่อสอนวิธีให้ |
|
ทำมั่งพองัดไม้คานตั้งปั๊บพี่พะก่อก็เอาฟ่อนฟางแทงส๊วบเข้าไป เอาผ้าขาวม้าพับรองบ่าก่อนนะ มันจะช่วยให้เจ็บน้อยลง |
พอแบกขึ้นบ่า เออ...พอไหวพี่.  |
น้ำ...เวลาเดินให้เดินตัวตรง แล้วค่อยย่อตัวรับการขย่มของฟ่อนข้าวแต่ไม่ต้องย่อรับมากนักจะได้เดินสบาย |
พี่พะก่อ พาเดินลงดอยเอาไม้คานขวางดอย เอาไว้ตรงต้นคอจะเจ็บต้นคอหน่อย ถ้าไม่ขวางลงดอย ฟ่อนข้าวจะเทไปข้างหน้าเรา |
จะลงไม่ได้ |
|
ลองหาบตาม.... เออ. ก็พอไหวแฮะ แต่เจ็บต้นคอ บ่ามาก.เดินผ่านลำห้วยไต่ขึ้นตลิ่ง รู้สึกลำบากกว่าลงดอยต้องขวางไม้คาน |
หาบได้สามเที่ยวบ่าระบมเจ็บเป็นที่สุดคอแห้งผากต้องก้มตัวกินน้ำในลำห้วยเอาไม้คานเปล่าพาดไหล่เดินขึ้นดอยไปหาบอีก |
ต้องทนเอาหน่อย พี่พะก่อเขายังทำได้ เราก็ทำได้...แต่น้อยกว่ามากมันเจ็บบ่าสุด ๆ |
หลังกินข้าวเที่ยงที่ เด็กชายก่ำจัดหาไว้ให้ที่บนแคร่หน้าบ้าน กินเสร็จก็นั่งพักแล้วเดินลงห้วยไปหาบฟ่อนข้าวต่ออีกสามเที่ยว |
น้องน้ำ...หยุดทำเตอะ วันแรกเป็นอย่างนี้แหละเดี๋ยวพี่จะทำต่อเอง |
ผม.. ไม่เป็นไรพี่ ให้ผมทำต่อจะได้เสร็จเร็ว ๆ |
หาบได้อีก สองเที่ยว...ต้องยอมแพ้นั่งพักบนกองฟ่อนข้าวข้าง |
กระท่อมใต้ต้นไม้สัก. |
พี่ น้องก่ำไปไหน. |
อ๋อ.. ก่ำไปหาเขียดแลว ๆ จะอยู่ริมห้วย มีใบไม้ร่วงทับทม. |
ลองดูว่า เย็นนี้เราจะได้กินแกงเขียดแลว หรือกิน ถั่วเน่าเปอะกับผักหละ(ชะอม) |
พี่... เขียดมันตัวเล็ก จะกินได้กา. |
น้ำไม่เคยเห็นเขียดแลวกา. ตัวใหญ่ขนาดฝ่ามือ กิ๋นอร่อย |
พี่พะก่อคงเห็นสารรูปของผมแล้วเข้าไปในตูบหยิบกระปุกยามาทาไหล่ให้ |
เอาน้ำมันหมีทา ป่ออุ้ยบ้านปุ๊น(คุณตาบ้านโน้น)....ผสมยาจะได้หาย |
|
ถอดเสื้อดึงลำตัวเสื้อขึ้นผ่านหัวพาดไว้กับตอไม้เอาน้ำมันหมีทาบนไหล่รู้สึกร้อนวูบวาบพี่ก่อช่วยทาส่วนหลังให้ |
สายลมเย็นพัดมาแผ่วเบา นั่งพิงกองฟ่อนข้าวใต้ต้นไม้สัก ไม่นานนักหนังตามันหนัก เลยหลับผลอยไป |
|
พี่น้ำ ตื่นเตอะ เย็นแล้ว จะได้กิ๋นข้าวแลง. เสียงเด็กชายก่ำปลุก ลืมตาเห็นแสงแดดค่อย ๆ ลับสันดอยพี่พะก่อยืนเช็ดตัวริมห้วย |
ผมรู้สึก ไม่ค่อยสบาย เจ็บปวดรวดร้าวไปทั่ว. |
น้ำไปอาบน้ำก่อนกินข้าวจะได้สบายเนื้อสบายตัว |
หลังอาบน้ำผลัดเสื้อผ้ามานั่งกินข้าวเย็นบนแคร่  |
พี่น้ำ... วันนี้กิ๋นกันง่าย เน่อ... มีผักหละ(ชะอม) ลวกกับ ถั่วเน่าเป๊อะ (ถั่วเหลืองหมักห่อผสมเกลือห่อด้วยใบตองกล้วย) ปิ้งไฟ |
ผมตักข้าวใส่จานพูน ตักถั่วเน่า(ไม่เน่าหรอก) ใส่จานใช้มือจับ |
ข้าวสวยกับถั่วเน่า จ่อเข้าปากใช้ หัวแม่มือดันเข้าปาก ตามด้วยผักชะอมลวกเขียวแต่ถั่วเน่าเป๊อะนี้รสแปลก พี่ใส่พริกด้วยเหรอ |
อ๋อเรานึ่งถั่วเหลืองสามวันจนได้กลิ่นเอาออกมาตำผสมเกลือพริกชี้ฟ้าเผาแล้วห่อใบตองกล้วยหลายชั้นไว้อีก 2 วัน |
จะกินก็ปิ้งไฟให้หอมอีกหน่อย  |
ดูแล้ว พี่พะก่อ กับ ก่ำ กินข้าวแบบเดียวกับผมมือนิ้วไม่เลอะไม่มีเม็ดข้าวติดมือเลยเย็นนั้นข้าวหมดหม้อตามเคยดื่มน้ำเย็น |
ในหม้อดินข้างบ้าน |
น้ำ...กินข้าวเสร็จ แล้วเอายาน้ำมันหมีทาให้ทั่วไหล่แล้วเข้านอนเลยเน่อ กินยาในชามนั่นด้วยนะ |
ครับพี่.... |
พอน้ำยาไหลเข้าปาก โอ้โห้มันขมมาก....พี่. |
บ่าลำกา... พี่น้ำ(ไม่อร่อยเหรอ) น้องก่ำถามพลางหัวเราะ. |
บ่าลำแต้ ๆ ผมตอบก่ำ. |
ล้มตัวนอน....เจ็บบ่าเจ็บน่องเจ็บขาเจ็บชายโครง โอ้ยเจ็บไปทั่วหัวใหล่กับแผ่นหลังยังคงร้อนจากน้ำมันหมี |
นอนฟังเสียงน้ำในลำห้วยไหลจุ๋ง จิ๋ง...แผ่วเบาไปก็หลับผลอยไป |
(ภาพทั้งหมด เป็นภาพแทนใกล้เคียงกับกับที่เล่านะครับ) |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 09) |
st ผู้เข้าชม 2,246,253. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ถทอว่าเป็นกำไรชีวิตนะคะ
มีครบรส..
เปฌนประสบการณ์ที่หาซื้ไม่ได้