No. 1183 เที่ยวติดดิน @ เขาค้อ Khaokor |
|
ทำงานบริษัทที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพอยู่ฝ่ายตรวจสอบแม้จะมี พนง.เดินทางไปตรวจสาขาทั่วประเทศ |
แต่ พนง.ในสังกัดมีไม่พอ..เราต้องไปตามสาขาต่าง ๆ ด้วย |
บางขณะนึกอยากจะไปเที่ยวจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ก็ไปเองได้ 555 |
|
อยู่ในกรุงเทพเบื่อ ๆ เลยหาทางเปิดหูเปิดตาตามต่างจังหวัด.. ได้พบปะเพื่อน ๆ ตามสาขาต่าง ๆ หลังเวลาทำงาน |
มีเวลาไปเที่ยวหรือไปทานอาหารพื้นบ้านน้ำพรรค์นั้นบ้าง เลยรู้แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากกว่าเพื่อนหน่อย |
เพื่อน ๆ ที่บริษัทจะขอให้จัดนำเที่ยวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ช่วยกันแชร์ค่าใช้จ่าย |
ในครั้งนี้เราไปเที่ยวเฉพาะผู้ชายเพราะ ตั้งเป้าแค่ชมธรรมชาติ ค่ำไหนนอนนั่นไม่นอนโรงแรม |
|
เพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่งที่เคยถูกดำริ จะให้เป็นเมืองหลวงของไทย เมื่อนานมาแล้ว |
ภูมิประเทศเป็น ภูเขา มีต้นไม้มาก ทำให้เกิดสายน้ำที่หลากจากภูเขาสูงชันบางแห่งเป็นพื้นราบ เนินสูงต่ำพื้นดินจะเป็นดินดำ |
บางแห่งสีแดงเหมาะปลูกข้าวยาสูบ ปลูกข้าวโพด บางแห่งมีก้อนหินเล็กใหญ่มาก ลำบากในการเพาะปลูก |
เขาปลูกแตงโมพันธ์ลูกเล็กเขาปลูกเอาเมล็ด ทำเม็ดกวยจี้ คือแตงโมชนิดนี้ ไม่ค่อยมีเนื้อแถว อ.หนองไผ่ |
|
เมื่อก่อนเดินทางไป ติดต่องานที่สาขาเพชรบูรณ์สาขาหล่มเก่าสาขาหล่มสักหรือ สาขาหนองไผ่จะซื้อเม็ดแตงโมกลับ |
กลับไปฝากเพื่อน ๆ ที่บริษัทเพื่อให้ได้แทะกันทั่วถึง 555 |
มีเพื่อนบริษัทหนึ่งอยากไปเที่ยวแบบติดดิน หุ หุได้เลย..ทรีปนี้ไปกัน 4 คนขับพิคอัพสองตอนไปกะว่าค่ำไหนนอนนั่น |
เราเตรียมเต็นท์เดี่ยวกับถุงนอนอาหารกระป๋องเนื้อย่างกาแฟและเอาทิชชูไปด้วย |
คงเข็ดคราวก่อนเข้าป่าไปทำธุระส่วนตั๊ว ส่วนตัวไม่มีกระดาษเลยใช้ใบไม้แห้งแถวนั้นเช็ด ดันเจอตัวบุ้ง คัน.... |
อีกคนใช้ไม้แก้ง(คำโบราณเชียงใหม่) ใช้กิ่งไม้รูดดันมีหนามตำไม่อยากนึกเลยสาบานว่าสองคนนั้นไม่ใช่ผม |
ผมก็แล้วกัน 555 |
ระยะทางจาก กท.ไป เพชรบูรณ์ไม่ไกลถนนราบเรียบแต่มีตำหนวดคอยดักจับความเร็วเป็นบางจุดเราไม่ห่วงอยู่แล้ว |
แวะกินไก่ย่างวิเชียรบุรี ร้อน ๆ กับข้าวเหนียวกะจะไปค้างคืนแถวอ่างเก็บน้ำ รัตนัยหรืออ่างเก็บน้ำเล็กแถวบ้านพักทหารม้าก็ได้ |
ความที่ไม่ได้ไปนาน ต้นไม้ถูกตัดไปเยอะ ชาวบ้านปลูกพืชไร่เป็นส่วนใหญ่ |
ที่โล่ง น่าจะมีเจ้าของหมดแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อน |
ครั้งก่อน ๆ หลายสิบปีไปเที่ยวที่บ้านผู้ใหญ่พาไปเที่ยวบางแห่งบอกว่าตรงนั้นยังไม่ควรไปมี กับระเบิดอยู่มีงูจงอางหลายตัว |
ไม่เหมือนภาพปัจจุบันข้างบน... คราวนี้เลยพากันขับรถลงไปใกล้อ่างเก็บน้ำดูเขาเจอนักตกปลา |
เขาใช้เบ็ดฝรั่งเหยื่อปลอมแบบบางทีก็เป็นยางเวลาลากเหมือนกับตัวเขียดกระโดดบนผิวน้ำปลาตัวโตเห็นก็คอยจ้อง |
กระโดดงับเหยื่อ |
เราเข้าไปคุยด้วยพวกเขายิ้มแย้มทักทายนำน้ำดื่มพรรค์นั้นมาให้ดื่มด้วย 555 พวกเราก็นำอาหารซื้อจาก อ.วิเชียรบุรีแบ่งกินกัน |
กลุ่มนักล่าปลาชอบสันโดษอยู่เงียบ ๆ แต่บางคนก็คุยเก่งมีทั้งหนุ่มสาวปลาที่ตกได้จะปล่อยใส่ที่กักเก็บเป็นตาข่าย |
ลอยน้ำแต่ถ้าเป็นสาวคนสวยเธอจะปล่อยกลับสู่ท้องน้ำบอกว่าปลาตัวเล็กเกินไปผมดูแล้วน่าจะหนัก 3 ขีด..อื้อหือเสียดายจัง |
นักตกปลาชายเย่อปลาได้ตัวโตก็ปลดใส่ถุงตาข่ายลอยน้ำ |
คงกะทำเป็นปลาเกลือ ปลาเค็มแดดเดียว ปลาที่ว่าเป็นชะโด..ครับ เนื้อมันจืดทำอาหารไม่อร่อยต้องขอดเกล็ดควักใส้ทำ |
ริ้วเคล้าเกลือตากแดดน่าจะนะครับ ไม่ใช่แค่แปดริ้ว คงจะ 15 ริ้วตัวโตมาก |
แน่นอนเราขอซื้อปลาช่อนตัวโตจากเพื่อนใหม่ไปหนึ่งตัว กะจะนำไปย่างกินตอนเย็น เพื่อนใหม่ไม่ยอมรับตังค์ ดีที่ยอมรับเบียร์ |
555 ทำให้เราสบายใจ |
เรา 4 คนปรึกษากันว่าเขาค้อเป็นป่าโปร่งพื้นที่เป็นของส่วนบุคคลเยอะคงไม่เหมาะ เลยขับรถลงเขาเข้าสู่ อ.เมืองแล้วขับออกนอกตัวเมือง |
จะไปกางเต็นท์เลยลงไปสู่ อ.เมืองเราขับดิ่งไป สู่ อ่างเก็บน้ำคลองเฉลียงลับ พอไปถึงตัวเขื่อนก็หลบไปเส้นทางเล็ก |
ลัดเลาะไปตามป่าแพะก็ป่าที่มีต้นไม้เล็กสูงไม่เกินหัวถนนเป็นทางเกวียน |
กะว่าเข้าไป 2 กม.หาทำเลกางเต็นท์ตอนนั้นเวลาน่าจะเกือบ 5 โมงเย็น..ไปถึงเห็นต้นไม้ใหญ่เป็นเนินป่าไม่รกอยู่ใกล้ |
อ่างเก็บน้ำจอดรถซุกลับตา แล้วเดินเข้าไปใช้จอบสนามถาก ๆ ดินให้เรียบนิดหน่อย |
กางเต็นท์ค่อนข้างยากเป็นดินลูกรังสีแดงต้องใช้สันขวานตอกสมอบก |
ยึดตรึงไม่ให้เต็นท์โย้ ทำของใครของมันพวกเราช่วยกันเก็บ กิ่งไม้แห้ง ใบไม้แห้ง มากองไว้ จะได้ใช้ส่องสว่างในกลางคืน |
แน่นอนทำอาหาร เพื่อให้ชีวิตไม่สดวก เลยไม่ยกเตาแก๊สปิคนิคลงจากรถ 555 |
ใช้ขวานด้านคมสับกิ่งฟืนแห้งกองไว้เยอะหน่อยกิ่งโตวางสุมไว้แล้วเราก็ผลัดผ้ากเหลือกางเกงขาสั้นลงอาบน้ำแต่อาบไม่ |
ไหวอากาศมันเย็นค่อนข้างมากใช้ผ้าจุ่มน้ำเช็ดตัวแทน หุ หุ |
ไม่ถึง 6 โมงฟ้ามืดมิด มองรอบกายไม่เห็นอะไรเลย น่ากลัวมาก 555 |
เลยจุดขี้ใต้ด้วยไฟแช็ค เอากิ่งไม้แห้งเล็ก ๆ สุมพอติด ก็นำกิ่งโตหน่อยวางทับเข้าไปอีก |
รอบ ๆ เต็นท์เริ่มสว่างจัดการหุงข้าวด้วยหม้อ ใส่ฟืนเข้าไป หม้อดำช่างมัน 555 หุงแบบไม่รินน้ำ ฝีมือ |
เพือ่น ๆ โอเคเลยกน้ำให้พอดีอาหารมีไม่มากหรอก ไม่ได้ทำแกงอะไร มีไก่ย่างวิเชียรบุรี ยำปลาทูน่า ซอยพริกขี้หนู |
สีเขียวแดงเยอะมากซอยมะเขืออ่อนหอมพม่าแทนหอมไทย ก็โอเคปอกเปลือกใช้มีดซอยจากมือกว่า 4 หัวโปรยลงไป |
บีบมะนาวลูกเป้งน้ำดันน้อยเลยใส่ไป 4 ลูก |
ใช้มือเคล้า (ล้างมือแล้วนะครับ 555) กระฉอกน้ำปลาลงไปหลายฉึก ใช้นิ้วมือยำ ๆ |
|
ให้สมกับคำว่า ยำปลาทูน่าชิ้มดูเผ็ดนำเปรี้ยวตามส่วนเพื่อนอีกสองคน ควักใส้ปลาที่ขอแบ่งมาจากเพื่อนใหม่เขาค้อ ล้างน้ำใน |
อ่างเก็บน้ำนำมาเสียบไม้ไผ่ย่างกันน้ำหูน้ำตาไหลก็ควันไฟไม่สบายเหมือนกันตามร้านอาหารเนาะ |
กินข้าวเอาปลาย่างวางคู่กับยำปลาทูน่าลองบิเนื้อปลาชิม |
เฮ้ย ไม่ได้เคล้าเกลือเหรอ |
อ้าวต้องใส่ด้วยเหรอเฮ้อ..เวรกรรม เลยให้สองคนกระฉอกน้ำปลาบีบมะนาวซอยพริกใส่ถ้วย กินเนื้อปลากับน้ำปลาพริกดีเลยเนื้อ |
ปลาหอมควันไฟ..กินข้าวด้วยปลาช่อนย่าง ปลาทูน่า ตามด้วย กาแฟ คนละถ้วย ก็กาแฟซอง 3 in 1 สบาย ๆ |
เรานั่งคุย นั่งโม้กัน นานมาก ดูนาฬิกา ยังไม่ถึง 3 ทุ่มลองเช็คมือถือ โอเคมีสัญญาน |
ก็เข้านอนกันเงียบ ๆ ส่วนผมก็เอาหูแนบ หมอนที่ติดกับถุงนอน |
ก็เข้านอนกันเงียบ ๆ ส่วนผมเอาหูแนบหมอนที่ติดกับถุงนอนฟังเสียงสัตว์เล็กเดิน ทุกสิ่งเงียบมาก ๆ มองแสงไฟที่วับแวม |
นอนคิดถึงเพื่อน ๆ ที่อยู่ในกรุงเทพ ป่านนี้คงเพิ่งกลับถึงบ้านมั้ง |
และแล้วได้ยินเสียงสัตว์เล็ก ๆ เดินลัดเลาะไปด้านหัวเต็นท์ น่าจะเป็นหนูป่า หรือไม่ก็กระต่ายแล้วก็หลับไปง่าย ๆ |
ตื่นมาก็รีบวิ่งเข้าป่าไปคนละทางแหะ ๆ เรานัดกันไว้แล้วว่าผมไปเส้นนี้เอ็งไปเส้นโน้นนะ 4 คนสี่เส้นทาง |
ให้ไกลจากเต็นท์อย่างน้อย 60 เมตร กัน..ไว้ก่อน |
เรากลัวกับระเบิดของแต่ละคนที่วางไว้ 555 |
เรานำแปรงสีฟันสบู่ไปชายอ่างเก็บน้ำกะจะอาบน้ำแต่ไม่ไหวครับหนาวเย็นเกินไปได้แต่แปรงฟันล้างหน้าก็พอ |
ดูแล้วยาวไปไว้เล่าในวันอื่น.... ครับ |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re.502/2465) |
st ผู้เข้าชม 2,511,050. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
ทริปนี้จึงลุยๆหน่อยนะครับพี่ไวน์
นักตกปลาใจดีมากๆครับ
แบ่งปลาให้ เงินก็ไม่รับด้วย