No. 1218 ชีวิตในป่า (ตอน 14 กุมารทอง) |
|
เอ้า กานช่วยแกงผักแบบเดิมได้เปล่า |
ได้เลยพี่ไปเก็บผักปั๋งที่ไหนมา อ้อมีมะเขือเทศลูกเล็กด้วย |
ครูนินปลูกไว้ฝั่งห้วยด้านโน้นเยอะ....ข้าวไม่ต้องพี่ตื่นมาหุงไว้แล้ว |
เอาพริกชี้ฟ้าสีเขียวเม็ดยาวเสียบไม้เล็กปิ้งไฟ 6 เม็ดน่าจะไม่เผ็ดเท่าใด.. พริกสดเริ่มระอุร้อนเปลือกไหม้นิดหน่อยลองใช้มือแกะลอก |
เปลือกร่อนแล้วแต่ร้อนเลยวางทิ้ง... เอาหอมแดง 4 หัวหมกขี้เถ้าให้สุก...น้องก่ำไปเก็บมะนาวที่ต้นให้พี่หน่อยลูกเดียวนะ |
แกะเปลือกพริกที่สุกนิ่มกับหัวหอมแดงใส่ครกไม้ตำ ๆ เอาถั่วเหลืองแค๊ปที่ปิ้งเหลืองใส่ 1 แผ่นโขลกเอามือหยิบโถเกลือเปิดหยิบ พี่ก่อครูมีกะปิด้วย แต่เหลือนิดหน่อยเองไม่พอเอาถั่วเน่าแค๊ปใส่แทนกะปิดกว่าเนา |
เกลือนี้เค็มขาวกว่าเกลือที่เราใช้ ครูทำแบบไหนนะพี่ |
ไม่ ๆครูบอกว่าซื้อมาที่ ดอยไตแลงเขตพม่ามา... |
ครูนินเอาเงินมาจากไหนพี่แล้ว พม่าเขารับเงินไทยเหรอครับ |
เคยคุยกับครู ๆ บอกว่าเมื่อก่อนทำงานในกรุงเทพหลายแห่งพร้อม ๆ กันพี่ยังงง.. พี่เคยรับจ้างเกี่ยวข้าวบ้านหัวยข้าวก่ำ |
วันทั้งวันเดือนทั้งเดือนก็หมดเวลาแล้ว.. ครูบอกว่าได้เงินมาก็ฝากธนาคารไว้จะใช้ก็ ก๊าดกดออกมาใช้ ก๊าดเป๋นแบบไหน |
กานรู้เปล่า |
รู้ครับพี่ เป็นแผ่นเล็กเท่านี้ เขาเรียกว่า การ์ดยัดใส่เครื่องหน้าธนาคารเงินก็ออกมา แล้วครูทำไมไม่ทำงานต่อ |
ไม่รู้ซิพี่ไม่กล้าถามครูชอบอยู่คนเดียวเห็นเดินเงียบ ๆ ไปกลับกว่าครึ่ง ชม. แล้วก็ลงนั่งบนแคร่ไม้หลับตา |
นาน..... พี่เลยไปเดินเล่นในสวนของครูแทน |
พอกลับจากสวนครูก็ถามว่า รถมอไซค์ชนก้อนหินแม่ของก่ำตายพระ สวดให้กี่วัน |
พี่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยพี่เลยถามครูว่า ครูเลี้ยงผีไว้เหรอ |
ครูยิ้ม ๆ ไม่ตอบว่าอะไร |
ใช่ ๆ ผม งง... ครูไปนั่งดักรอเราสามคนจะมาเมื่อวานหรือครูจะเลี้ยงกุมารทองหัวจุกไว้น่ากลัวเนาะ |
กุมารทองเป็นอะไรพี่กาน |
อ๋อ.. คนโบราณเอาศพเด็กเกิดแล้วตายมาทำให้แห้ง จะรมควันหรือเปล่าพี่ไม่รู้เขาว่า วางบนหิ้งสูงแล้ว เซ่นหมายถึงเอาอาหารให้ |
กินคือวางกุมารทองจะดูบ้านให้คนเลี้ยง ถ้ามีคนมาลักของก็หลอกให้กลัวนะ |
แล้วน่ากลัวหรือเปล่าพี่กาน |
ไม่รู้ซิพี่ตื่นมาตอนตี 3 เห็นครูเอามือจับกันวางแนบสะดือตรงเนินดิน |
เดินไปเดินมานานตอนเดินน่าจะมองลงพื้นไม่ไกลตัว.. พี่ดูนานแล้วหลับต่อ.. เอ้าก่ำทำกับข้าวต่อนะ |
|
พี่ก่อเอาหม้อดินสีแดงวางบนเตา ใช้กระจ่ากะลามะพร้าวคดน้ำพริกหนุ่มตำรวมกับถั่วเน่าแค๊บเกลือพอแหลกใส่เตา คนไปมาไอร้อน |
เริ่มลอยออกมากลิ่นหอม... เอาน้ำใส่เยอะเปล่ากาน |
มะ ผมตักใส่ให้ใส่กระบวยเดียวก็พอ เดี๋ยวน้ำจากผักปังออกก็พอดี ใช้มีดบางปาดมะเขือเทศลูกเล็กสองซีกใส่ไป 7 ลูกแล้วปิดฝาหม้อ |
รอให้น้ำเดือด... |
อึดใจไอร้อนก็ลอดออกมาเปิดฝา เอาปลาขาวย่างรมควัน บิ หักเป็นชิ้น ๆ ขนาดนิ้วมือใส่ไป 1 ตัว คน ๆ แล้วขะยุ้มผักปังใส่จนหมด มีดอกผักปังด้วย |
ปิดฝานั่งรอจนเดือดขลั๊ก ๆ เปิดฝาไอพุ่งออกมาหอมพริก หัวหอมที่ตำรวมกลิ่นถั่วเน่าแค๊บปิ้งฟุ้ง |
ใช้กระจ่าตักน้ำชิม ก่อนเค็ม หยิบเกลือใส่ไปอีก 3 เม็ด...ใช้มีดผ่ามะนาว 3 ซีกใช้ปลายมีดเขี่ยเม็ดออก แล้วบีบใส่ไปจนหมด |
คนไปมาได้ที่ตักผักปังปนกับมะเขือเทศเล็กเปรี้ยวหอมอร่อย |
กานใส่มะนาวไปกลัวไม่เปรี้ยวเหรอมะเขือส้ม(เทศ) ก็เปรี้ยวแล้ว |
อ๋อ..ใส่มะนาวลงไปช่าวให้ผักปังมีน้ำลื่น ๆ หายไปนะพี่ อีกอย่างผักปังจะมีสีเขียวน่ากิน รอแป๊บให้มันสุกอีกนิด ก่ำช่วยยกจานไปที่ |
ตั่งไม้ไผ่หน้าบ้านครูได้เปล่า |
ได้เลย ก่ำได้กลิ่นหอมปลาย่างอยากกินข้าวเลย... |
เช้านั้นเราสี่คนนั่งกินข้าว ครูนินถามว่าใครทำแกงนี้ |
พี่กานครับครู ลำบ่อ |
ลำก่า (อร่อยซิ) วันหลังก่ำทำกับข้าวให้ครูกินบ้างนะคงจะอร่อย |
ก่ำทำเป็นไม่กี่อย่าง ถ้าใข่ไก่ป่าเจียวใส่หัวหอมซอย พอได้ครับครู |
กินข้าวอิ่มก่ำนำจานหม้อไปล้างที่ลำห้วย กวาดเศษข้าวไม่กี่เม็ดลงน้ำ ปลาเกล็ดสีขาวว่ายรุมกินเม็ดข้าว..นำจานไปวางคว่ำไว้ที่ |
บ้านหลังเล็กที่เรานอน... //////////////////// |
เราสามคนก็ลาครูนินไป หาแอ่งน้ำแห้งจะได้นำทรายเค็มมาละลายน้ำเดินไปใจก็คิดในทางไม่ดี หุ หุ |
ถ้าดินโป่งมีขี้นกขี้ไก่ขี้กวาง จะทำได้เหรอน่าจะเหม็น |
เกือบชั่วโมงพี่ก่อก็พาเดินลงแอ่งดอยชี้ให้ดูดินโป่งเค็มที่ สัตว์ป่าเก้งกว้างหมีเสือหรือหมูป่ามากิน |
|
พี่ก่อชี้ให้เราดูเนินดินเหนือโป่งแห้ง ๆ ว่าเราจะทำเพิงพักที่นั่น บอกว่าจะต้องก่อกองไฟกันมิให้สัตว์ป่าที่ดุเข้ามาเมียงมองแทนที่ |
จะแทะเล็มกินดินโป่งดีไหมจะได้ไม่กินพวกเราพูดแล้วก็อมยิ้ม |
|
ป่อจุ๊ก่ำ ๆ ไม่กลัวหรอก(พ่อหลอกก่ำ ๆ ไม่กลัวหรอก) ก่ำผอมสัตว์น่าจะกินพี่กานนะมีเนื้อหนังเยอะ |
เราสามคนช่วยกันตัดไม้ไผ่มัดติดต้นไม้สองข้าง ก่ำไปตัดใบกล้วยสดมาวางทับ ไปตล่อมใบไม้แห้งหญ้าแห้งมาปูบนดินปนหิน |
พี่ก่อเอามุ้งในล่อนสีฟ้ามัดสี่มุมกับไม้เคร่าหลังคาตูบ ตลบชายขึ้นเก็บ |
ทำไปก็เหนื่อยนั่งพักมองดูก่ำไปเก็บกิ่งไม้มาสุมไว้ ตรงแอ่งดอยใกล้น้ำห้วยที่ไหลริน |
พี่ ๆ เราต้องโกยดินโป่งไปละลายน้ำแล้วรินน้ำมาต้มใช่เปล่า |
เมื่อก่อนพี่ก็ทำแบบนั้น เกลือที่ได้มันดำมากบังเอิญพี่เดินไปตรงก้อนหินโน้นนะ ว่าแล้วก็ชี้ไปดู... ตรงนั้นมีตาน้ำผุดขึ้นมานิด ๆ |
กะว่าจะใช้น้ำผุดมาหุงข้าว เป็นตาน้ำผุดใสเลยใช้มือวักชิม น้ำเค็มมาก.. |
กานมองขึ้นไปบนเขาซิ นั่นใช่เลยเป็นดอยสูงน้ำฝนคงจะซึมลงดินลึก ละลายก้อนเกลือมั้งนานเข้าก็หาทางออกซึมออกมา |
แล้วค่อยไหลรินลงมาตรงร่องเล็ก ๆ ตรงนั้นไปรวมในแอ่งดินโป่ง นกหนูเก้งเลยมากินดินโป่ง |
เราสามคนเดินไปดูแอ่งน้ำผุดดูนิ่ง ใส่มีน้ำดันมาช้า ๆ แต่ไม่ไหลออก |
พี่แล้วถ้าเราตักออกมันไม่หมดเหรอ |
พี่มาตักได้ 3 ปีแล้วไม่แห้งพอน้ำลดลงนิด ข้างล่างหรือน้ำข้างในก็ดันขึ้นมาแทน...ก่ำฟังพี่ก่อพูดเห็นเฉย ๆ นัยตาก็มองดูกิ่งไม้ |
ก่ำมองหาอะไร |
จักกะจั่นพี่ พวกมันร้องไม่หยุดก่ำว่าจะชวนพี่ไปจับมากินนะ |
หะ กินได้ด้วยเหรอก่ำ |
ไม่รู้อะไรเสียแล้วอร่อย หอมลำกว่าจี้กุ่งซะอีก (จิ้งหรีด) |
ว้ายาวไปซะแล้วไว้เล่าต่อตอนต่อก็แล้วกัน.... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,607,597. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียนเรื่อง สั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
|
เข้ามาตอนเช้านี้หิวๆๆ
อยากรับประทานต้มปลาแห้งร้อนๆจังค่ะ
หอมทะลุบล็อกออกมาเลย
สวัสดีวันพฤหัสฯค่ะ