No. 1207 คนเดียวก็ได้ สบายดี (ตะพาบ) |
|
ระยะที่เป็นนักศึกษาแรก ๆ ก็อยู่รวมกันพี่ ๆ จากภาคใต้แต่เรียนต่างวิทยาลัยเช่าบ้านอยู่ตรอกแม้นศรี 1 เลยค่อนข้างอบอุ่น |
พี่สาวเข้ากรุงเทพบ่อยเลยเช่าบ้าน 1 หลังในซอยชัยพฤกษ์เลยวัดธาตุทองเลยย้ายไปอยู่บ้านเดี่ยวกันสองคน แต่ก็มีเหตอีกคน |
ไปอยู่ทึ่อื่นเลยต้องอยู่คนเดียวว้าเหว่เงินมีใช้จำนวนจำกัดมาก |
ปลายเดือนเงินจะหมดแล้วเลย ใช้เบ็ดตกปลาในบ่อบ้านเป็นปลาสลิดกินแบบ งั้น ๆ คือเนื้อปลาสลิดมันจืดสนิทเขาจึง |
เคล้าเกลือทำปลาสลิดเค็มแทน... แต่ผมไม่มีทางเลือกก็ต้องกินไป....ต้นเดือนมีเงินไปกินข้าวต้มร้านตึกแถวหน้าสถานีขนส่งเอกมัย |
อยู่คนเดียวเหงาสุด ๆ |
ตอนเช้าก็โหนรถเมล์ไปเรียนเพื่อนหลายคนขับรถซีตรองไปเรียน |
เฟียต เปอร์โยต์...อาจารย์เห็นผมนั่งเงียบคนเดียวบ่อย..เรียกไปคุยว่า อยากทำงานตอนบ่ายไหม...เข้าวิทยาลัยตอนเช้า |
ผมรีบตอบตกลงทันที 555 เลยได้ทำงานพร้อมกับเรียนในปีสุดท้าย |
พอเรียนจบบริษัทก็เรียกไปว่า จะส่งไปทำงานสาขาเพราะบริษัทกำลังขยายสาขาได้กว่า 30 สาขาแล้ว |
|
บริษัทออกคำสั่งส่งไปที่ ผจก.ภาค และ ผจก.สาขาระยองทางไปรษณีย์ล่วงหน้า |
จำได้แม่นหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นรถเมล์ประจำทางจาก สถานีเอกมัยไประยอง.. นานมากเพราะวิ่งเส้นทางจากพระโขนงผ่าน |
สมุทรปราการก็ปากน้ำ ผ่านบางปิ้ง หุ หุ.. บางปู คลองด่านออกบางปะกงผ่าน เมืองชลบุรีเหม็นขี้เป็ดมาก 555 นั่งนาน ปีนั้นยังไม่การสร้างถนน บางนา- ตราดมีถนนเดียวคือถนนสุขุมวิท |
กว่าจะถึงสัตหีบเข้าเขตระยองบ้านโป่ง.. นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ ก็นั่งตรงที่นั่งแถวหลังข้างประตูนั่งมาหลายชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงสักที |
รู้สึกเย็นเท้าว๊าป เฮ้ยรองเท้าหนังหลุดตก |
ลูกพี่โชเฟอร์จอด ๆ ๆ รองเท้าหลุดครับ |
โชว์เฟอร์ได้ยินเสียงตระโกนรีบเหยียบเบรค ปึ๊ดใหญ่หัวเราะพร้อมกับส่ายหัวรถจอดนิ่งรีบกระโดดลงวิ่งเขยก ๆ เพราะ |
มีรองเท้าข้างเดียวไกลกว่า 100 เมตร..คว้าได้รีบวิ่งกลับ.. ผู้โดยสารอื่นชะโงกหน้ามาหัวเราะให้ |
ขอโทษครับ |
รถจอดหน้าโรงพยาบาลระยอง ต้องนั่งสามล้อไปบริษัทที่อยู่ใกล้กับโรงหนังเทศบันเทิง... เจอผจก.วิสิทธิ์ พงฯกับ |
พี่หลวน...คนร๊ายองคอยต้อนรับพาไปกินข้าวบ่ายมาก ๆ... |
พี่หลวนพาชึ้นเอากระเป๋าไปเก็บชั้นสองไปชี้ให้ดูห้องนอนสมุห์บัญชีที่กว้างพอประมาณมีเตียงที่นอนเก่า ๆ ไม่มีมุ้ง |
พื้นห้องมีฝุ่นนิดหน่อยวางของแล้วก็ลงไปคุยเรื่องงาน... เลยรู้ว่าที่นั่นเป็นสาขาเล็กมาก ๆ มีพลเมืองทั้งจังหวัด 6 หมื่นกว่าคน |
มีตัวแทนประกันภัยหัวหน้าหน่วย 10 คน ผจก.สาขากับ พี่หลวน พนง.เก็บเงิน |
สาขามีลูกค้าเป็นคนจีนเยอะหน่อยเขาทำประกันอัคคีภัยเพราะในตัวตลาดร้านค้าเป็นไม้เกือบหมดอันตรายจากไฟ |
กับลูกค้าประกันชีวิต.. ผจก.วิสิทธิ์ให้ดูบัญชีลูกค้าเป็นการ์ดกระดาษขนาดเท่ากับการ์ดไอบีเอ็ม (น่าจะกระดาษ A 4 ตัด |
ได้ 4 แผ่นอยู่ในตู้เหล็ก) เต็มลิ้นชัก 5 ชั้นดูแล้วมากเหมือนกัน |
ไปวันแรกรู้สึกเหงามาก เพราะไม่มีพนง. พนง.เก็บเงินช่วยดูแลรับแขกมี ผช.สมุห์บัญชีหน้าตาเหงา ๆ คนเดียว |
ผมนะเอง 555 ต้องทำหน้าที่ออกกรมธรรม์สัญญาใหม่ รับชำระเงินจากลูกค้า จากตัวแทน |
นั่งคุยกับตัวแทนสองสามคนส่วน ผจก.สาขาอยู่คุยไม่ถึง 2 ชม.ขับจิ๊ปสีขาวไป อ.แกลงนัยว่า นัดลูกค้าไว้ตัวเมืองระยองเงียบจริง ๆ |
ตกกลางคืนก็นอนคนเดียว ใช้ไม้กวาด ๆ พื้นถูพื้นเตียงไม้เอาที่นอนเดียวปู ผ้าขาวม้าผืนใหม่ปูทับ ส่วนปลอกหมอนไม่มีไม่เป็น |
ไรเหม็นนิด ๆ เอาหนังสือไทยรัฐพัน ๆ ปิดซะหน่อย.. ไม่ต้องกางมุ้งพี่หลวนบอกว่า ร๊ายองไม่มียุง |
ยกเว้นหน้าทุเรียนเงาะจันทบุรีออกรถสิบล้อจากเมืองจันทบุรีมาจอดพักพายุงมากัดคนร๊ายองนะสมุห์ |
คืนนั้นนอนหลับสบาย ๆ คือนอนฟังเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลขนาดใหญ่ของจังหวัดที่อยู่ติดกับบริษัทเดินสั่นตลอดเวลา |
เฮอะ.. ต้องทำใจทำหูให้ไม่ได้ยินไว้ ทั้งที่นอนไปตัวก็สั่นตามจังหวัดเครื่องดีเซล 555 |
ตื่นเช้ามาตี 5 กว่า..ลงมาเปิดไฟกวาดพื้นสำนักงาน ใช้ผ้ากระสอบครึ่งใบพันไม้ชุบน้ำบิดถูพื้นจนเหงื่อออก โต๊ะทำงาน |
ทั้ง 7 ตัวก็ใช้ผ้าขี้ริ้วชุบน้ำหมาดเช็ดจนหมดดูสะอาด |
บริษัทแต่งตั้งให้เป็น ผช.สมุห์บัญชีงานแรกคือ กวาดพื้นถูกพื้น หุ หุ |
เคยอ่านหนังสือหนังสือ ชีวิตคนเมกันยุคบุกเบิกที่เขียนโดย ลอร่า อิงกัลล์เล่าว่า พ่อลอร่าทำงานให้การรถไฟต้องจ่ายเงิน |
ให้คนงาน หักค่าสิ่งของที่คนงานเบิกล่วงหน้า และพ่อลอร่าก็กวาดถูพื้นห้องเสมียนเอง หุ หุ |
|
อะดูความเรียบร้อยสำนักงานเสร็จก็ นุ่งผ้าขาวม้าเตรียมตัวอาบน้ำแต่งตัวซะหน่อย ธรรมชาติเรียกร้องให้เข้าห้องน้ำ |
เมื่อก่อนส้วมยอง ๆ เป็นแบบนั้นจริง ๆ เอื้อมมือไปหยิบกระดาษชำระที่แขวนไว้ข้างห้อง |
เอะอะไรดำ ๆ ยาว ๆ อยู่ใกล้ เฮ้ยงู |
กระโดดหนีชนประตูดังปัง งูมันกำลังแผ่แม่เบี้ยเตรียมจะฉกรีบเปิดประตูเผ่นออกแทบไม่ทัน |
ยืนตัวสั่นอยู่พักใหญ่.. เช้านั้นกว่าจะอาบน้ำได้รีรอพักใหญ่ตรวจดูถังน้ำว่ามีอะไรซุก |
หรือเปล่าเปิดน้ำก๊อกรีบตักฟอกสบู่นกแก้วสีเขียวหอมมาก ๆ (ปัจจุบันเปลี่ยนกลิ่นลดกลิ่นมั้งเลยใม่ใช้) |
ขึ้นไปแต่งตัวใส่เสื้อแขนยาวขาวผูกไทค์ กางสแลคสีดำรองเท้าหนังขัดมันก็คู่ที่หลุดตกจากรถเมล์ |
|
เปิดประตูแบบเหล็กยืดกว้างพอ เดินออกได้ออกไปหากาแฟ ปาท่องโก๋หน้าโรงหนังเทศบันเทิงกิน เจอชาวบ้านนั่งกินกันเยอะ |
มีชายร่างท้วมใส่กางเกงขาสั้นนั่งอมยิ้ม ทักทาย |
คุณทำงานบริษัท....มาจากกรุงเทพใช่เปล่า |
ใช่ครับพี่ |
ผมชื่อแจ๋ เป็นเพื่อนกับผจก.วิสิทธิ์นอนหลับเปล่า |
แนะรู้อีกว่าผมจะนอนหลับเปล่าเลย เลยอมยิ้มกว่าจะหลับเสียงเครื่องจักรดีเซลไฟฟ้าดังมาก 555 ระยองตอนนั้นใช้เครื่อง |
กำเหนิดไฟฟ้าดีเซล 3 เครื่องใหญ่มากเขาเปิดให้ทำงานคราวละ 1 เครื่อง |
คุยกันพักใหญ่ก็เลยขอตัวกลับไปเปิดบริษัท หุ หุ หมายถึงเปิดประตูเหล็กยืดนะครับไม่ได้เป็น ผู้มีเกียรติเปิดป้ายบริษัท |
นั่งดูการ์ดลูกค้าเทียบกับ รายงาน IBM เป็นรายงานสถานะลูกค้าว่ายังมีความคุ้มครองหรือ ขาดส่งหรือจวนจะครบกำหนดชำระ |
เงินให้บริษัท.. ไปดูไปเรื่อย ๆ พร้อมกับนึกถึงพี่แจ๋มาทักทายแถมรู้ด้วยว่าผมทำงานบริษัทนี้ |
แสดงว่าจังหวัดนี้เล็กมาก ขนาดเพิ่งมายังรู้เรื่องกันหลายคน 555 |
|
เก้าโมงกว่ายังไม่มึคนมาติดต่อบริษัท เลยเดินไปหน้าบริษัทซ้ายมือเป็น คลินิคหมอเป็นแพทย์หญิงลดาวัลย์ |
เดินไปดู มีหญิงสาวตัวเล็กผิวสีแทนแหะ ๆ ก็ค่อนข้างผิวคล้ำตาชั้นเดียวแต่นัยตาใสแจ๋ว...เปิดประตูออกมายิ้มให้ |
คุณเป็นสมุห์ใหม่ใช่เปล่าคะ |
ใช่ ๆ ครับคุณผมเสรีน้องชื่ออะไรครับ |
ชื่อแจ๋วคะ |
เอาแล้วไงวันนี้มีคนชื่อ จ. จานสองคน แจ๋ + แจ๋ว... เลยยืนคุยกันนิดหน่อยดูคุณแจ๋วจะเขิน ๆ พิกลก็เจอสมุห์บัญชีหนุ่มน้อยเนาะ |
ขอตัวกลับเข้าบริษัทเพราะพี่หลวน พนง.เก็บเงินมาขอเบิกใบเสร็จไปเก็บเงิน |
ทำงานในสาขาคนเดียวดูแปลก ๆ ไม่เหมือนครั้งที่อยู่สำนักงานใหญ่บริษัทที่มีคนทำงานเยอะมากหลายแผนกที่เป็นปัญหา |
คือหาเอกสารหรือเรื่องบางอย่างไม่พบแต่เมื่อปรับตัวทำงานคนเดียวในสาขาได้ครึ่งเดือน ดูสบาย ๆ |
เหงา...แต่ก็อยู่สบาย ๆ เพราะไม่ต้องเบียดคนอื่นบนรถเมล์ขาวสาย 48 ทุกเช้าไปเรียนในกรุงเทพ |
อยู่คนเดียว..นอนคนเดียว กินข้าวคนเดียวทุกมื้อไม่ถึงเดือนมีคนแวะเวียนมาคุยเช่น คุณยศ พนง.ออมสิน เฮียแจ๋ เจ๊ไพพี่พยาบาล |
เจ๊เป็นลูกของลุงหัวหน้าหน่วยบริษัท เพื่อนใหม่ร้านขายจักรยานเฮียชูร้านขายผ้าผู้หญิง เริ่มมาชวนไปกินข้าวเย็นกับเที่ยวที่หอพักพยาบาลแหะ ๆ ไปบ้านเพแต่ส่วนใหญ่ตอนเย็นจะนั่งร้านริมคลองติดกับปากน้ำระยอง สะพานเดิมเล็กกว่านี้ภาพข้างบนเป็นสะพานใหม่สร้างเมื่อปี 2539 เชื่อมต่อตัวเมืองไป ปากน้ำระยอง |
ชื่อร้านลมโชยอยู่คอสะพานขวามือปัจจุบันรื้อและสร้างศาลาทรงไทยไม่เหลือเค้าเดิม..มียศ เฮียแจ๋ |
สุรินทร์..เอ้าสมุห์กรึ๊บ...ไม่เอากรึ๊บ....แล้วต้องหมดแก้วซิ นั่นใช่เลยสุดยอดเลยมุห์ |
เฮอะ ๆ เริ่มบ้ายอ..เพราะอยากเข้ากับเพื่อน ๆ ใหม่ได้...ดื่มเอ้าดื่ม.... |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
st ผู้เข้าชม 2,574,569. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ทีหลังเด็กสมัยใหม่จะได้รู้ว่าปลาสลิดมีหัวจ้า