No. 1120 อาหารยามยาก ที่ อ.เวียงป่าเป้าเชียงราย |
|
นอนฟังเสียงตกพรำ ๆ เพลินหลับต่อ..เช้าลุกมองไปที่ท้องนาต้นข้าวเขียวไกลออกไป ดอยทอดยาวไปทางขวา |
ก้อนเมฆสีขาวปนเทาลอยเรี่ยยอดดอย หลังฝนตกย่อมสดใสแสงแดดสาดส่องครอบคลุมไปทั่วปริมณฑล |
|
เดินทางมาพักผ่อน ที่บ้านแม่ห่างใต้ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงรายเช้าวันนี้ ขับรถลัดเลาะจากถนนบ้านห่างใต้ไปถนนเส้นไป |
อ.วังเหนือ จ.ลำปางเส้นทางนี้ไปจังหวัดพะเยา อ.จุน อ.ดอกคำใต้กับอีกหลายอำเภอ |
|
แต่ผมไปไม่ถึง แวะแถวบ้านสันกู่ ไม่ไกลจาก บ้านแม่ขะจานน่าจะไม่เกิน 10 กม.จะขับขึ้นไปบนดอยสันกู่ดูท้องฟ้าแล้ว |
ไม่เหมาะ เพราะน่าจะเจอหยาดฝนแต่ ไม่ดีกว่ากลัวรถติดหล่มคือจำสภาพถนนขึ้นดอยได้ |
|
ถิ่นเดิมที่ผม ไปทำไร่ขิง 40 กว่าไร่ร่วมลงทุนกับ น้องอีก 2 คนแล้วขาดทุนย่อยยับเพราะไร่ขิงที่กำลังงอกงามสพรั่ง |
เจอเชื้อรา ใบเหลืองใน 1 ชม.กว้างกว่า 2 ไร่หมายถึง แง่งขิงเริ่มเน่าและจะเน่าหมดในไม่เกิน 7 วัน |
ตอนเริ่มทำทะนุบำรุงใส่ปุ๋ย ทำหญ้า(กำจัดหญ้า) กะว่าถ้าทำแล้วจะได้ขิงไร่ละ 4,000 กก.แค่ขาย กก.ละ 10 บาท |
ตกไร่ละ 4 หมื่นบาทจะได้เงิน 1,600,000 บาท(ฝันหวาน-ขายได้นิดเดียวไม่เกิน 150,000 บาท) |
จึงตัดสินใจเรียกรถสิบล้อมาจอดรอตีนเขาเอ้ย เชิงดอยรอเกวียนขนขิงลงจากดอยที่ ระดมคนงานมาขุดถอนชั่งขิงใส่ |
ถุงปุ๋ยละ 33 กก.ส่งโรงงานขิงดองแถวปริมณฑลของกรุงเทพ ได้กิโลละไม่กี่บาท |
แต่เรายอมรับนะครับว่าถุงปุ๋ย 33 กก.โรงงานจะถือว่าน้ำหนักเพียงถุงละ 30 กก.หายไป 3 กก.ต่อถุงเขาถือว่าเป็นเศษดิน |
หลังจากเจ็งจากการทำขิงแล้วก็โชคดี มีคนฝากทำงานในกรุงเทพด้านการเงินและบัญชี |
แล้วชีวิตก็มีงานตลอดและทำกิจการส่วนตัวสำนักงานบัญชีรับทำให้ลูกค้าทั่วไป |
เมื่อกลับมาบ้านแม่ขะจานและเข้าบ้านสันกู่ที่เคยปลูกขิงข้างบน คุยกับชาวบ้านข้างล่างสองสามคน |
ชาวบ้านเขาว่า...ถนนดีแล้วเลยขับรถขึ้นดอยมาดูไร่ ที่เคยปลูกขิง ปัจจุบัน เขาปลูกข้าวโพด สวยถนนดีกว่าเดิมเยอะมาก |
จากที่ดินป่าไม้เสื่อมโทรมที่เราเช่าเขาทำไร่ เปลี่ยนไปเยอะมาก..เฮ้อ....เสียดาย จัง.................. |
|
เคยกลับมาเยือนถิ่นนี้หลายครั้งครั้งนี้เพื่อนรุ่นน้อง..ไปสมทบด้วย..ขับรถพาไปเที่ยว ทุ่งนาเรือกสวน |
แถวบ้าน พี่เบิร์ดนักร้องดังที่มีบ้านไร่กว้างมากเราได้แค่เฉียดไปนะครับเข้าบ้านเขาไม่ได้เพราะประตูรั้วปิด |
แล้วก็ไม่รู้จักกันด้วย หุ หุ แถวนั้นมีบ้านสวย ปลูกไม้ดอกจัดสวนสวยหลายหลังไม่รู้ของใครบ้าง |
เราสองคนเดินย่ำไปบนพื้นหญ้า กระทบน้ำค้างเย็นมาก ๆ แถวลำห้วยที่ไหลรินตลอดเวลา มองท้องนาที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝน |
ที่ตกเมื่อคืนดวงอาทิตย์สาดแสงแรงขึ้นแต่ก็ยังไม่อุ่น ดูนาฬิกาแล้วเราน่าจะเข้าตลาดบ้านแม่ขะจานก่อนดีกว่า |
ที่นั่นเป็นตลาดประเภท สายหยุด 555 |
|
|
ซื้ออาหารพื้นเมืองพร้อมกิน..จากแม่ค้ามากินเยอะเหมือนกัน กลับไปกินข้าวเช้าที่บ้านน้องสาวก็ที่เป็นร้านขายก๊วยเตี๋ยว |
เอาลิ้นวัวที่ซื้อมาจากตลาด..ล้างเก็บไว้บนชั้นกะว่าจะทำกินเป็นอาหารเย็นลงมือทำตอน 5 โมงเย็นก็ทันกินพอดี |
คือจะทำหลังร้านเลิกขายตอนเย็นลูกน้องของน้องสาวกลับบ้านแล้ว เราค่อยทำอาหารกินกัน |
ชั่วโมงเดียวก็ได้กินแล้วลิ้นวัวเหนียวแต่ไม่ต้องเคี่ยวหลาย ชม. มีวิธีพิเศษ |
ไม่ใช่เอายางมะละกอมาหมัก |
น้องชายนำลิ้น ล้าง ใช้มีดขูดผิวออกขยำด้วยเกลือจนสะอาด แหะ ๆ ก็ได้แต่ดู ๆ เคยอ่านในหนังสือต่างประเทศที่แปล |
(ผมเคยเขียนความฝัน ในวัยเด็ก เรื่องบ้านเล็กในป่าใหญ่ของลอร่า อิงกัลล์ หมายเลขงานเขียน 303 เมื่่อคศ. 2014) ภาพจาก กูเกิ้ล |
แล้วนะเออ ชาวบ้านป่าในป่าลึกไม่มีอะไรกิน ก็ทำสตูว์มีเศษเนื้อย่างแห้งแข็งเศษหนังมาล้างสับ ๆ ลงเคี่ยวในหม้อเหล็ก |
ในฤดูหนาวจัดไว้กินแก้หิวให้ร่างกายพออยู่ได้ นั่งมองข้างนอกมีแต่น้ำแข็ง หิมะจับต้นไม้ขาวโพลนไปไหนไม่ได้ |
แต่เราอยู่เมืองไทย มีทางสดวกกว่านั้น ใช้ลิ้นนี่แหละ อร่อยยามไปกินตามร้านอาหารตักเคี้ยวรสดีนุ่มดีจัง |
|
นำลิ้นใส่ในน้ำเดือด ต้มไปสักพักใหญ่ พอให้หนังลิ้นสาก ๆ ลอกง่ายตักขึ้นมาขูดลิ้นสีขาวลอกออกค่อนข้างยาก นำมาตัด |
เป็นชิ้นหนาใส่ในหม้อตุ๋นไอน้ำใช้ความดัน.... ให้บังเอิญไปเห็นเก็บในห้องเก็บของไม่ได้ใช้มานาน..ถ้าใช้หม้อ |
ธรรมดาต้องเคี่ยวหลาย ชม.กว่าจะกินได้ |
|
นึกถึง ลิ้น เครื่องในสัตว์ ต่างประเทศเขาไม่ค่อยกิน เขานำเป็นอาหารสัตว์แต่คนไทยชอบมาก ๆ รวมทั้งผมด้วย |
เพื่อนผมคนอยู่ใน กท.นี่แหละ เป็นพ่อค้าเนื้อสัตว์ ขายเนื้อวัวขายส่ง แต่เครื่องในไม่พอขายเลยสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ |
มาขายด้วยเขาแพคมาเป็นกล่องฟรีซแข็งเป็กมา เพื่อนก็นำมาวางไว้ข้างนอก ให้ละลายนำมาขายก็เหมือนกับของสด |
ผมมาต่างจังหวัดเห็นลิ้นพวกนี้แล้ว นึกอยากจะกิน น้องมาช่วยทำให้กินสบายหน่อย |
|
มาเป็นลูกมือน้องชาย..นำลิ้นใส่หม้อตุ๋น เทน้ำที่ต้มเดิมนั่นแหละใส่ไปด้วย ตามด้วย หอมหัวใหญ่ซอยชิ้นโต เอามันอะลู |
ปอกเปลือกผ่า 4 เพื่อนคงไม่รู้จักมั้งมันที่ว่ามันก็มันฝรั่งนี่แหละผมอยู่ภาคเหนือตอนเป็นเด็กเห็นชาวไทยภูเขาปลูก |
หัวเล็กหน่อย. |
|
แครอทปอกสับเป็นลูกเตาขนาดนิ้วก้อย โยนใส่พร้อมโปรยเกลือป่น กานพลูขาดไม่ได้ก็พริกไทยดำ ใบกระวาน |
เม็ดถั่วลันเตา มีอยู่ครึ่งกระป๋อง น้องสาวคงทำอาหารเหลือ เทใส่หมดเลย |
อีกอย่าง นี่... เรียกอะไรไม่ถูก เห็นวางอยู่ในตู้กับข้าวของน้องสาวหักบิใส่ไปด้วยเคยเห็นเขาใส่ในหมูพะโล้ใส่แล้วสตูว์หอม |
มะเขือเทศอยากจะใส่ชนิด ลูกเล็กเปรี้ยวแต่ไม่มี เอาลูกขนาดนี้ใส่แทนถ้าไม่ใส่เปรี้ยวจะไม่อร่อย เหยาะฉิกโฉ่พวก worcestor |
sauce ก็ วูสเตอร์ซอส..พอขลุกขลิก ปิดฝาหมุนให้มันล๊อก ดังกล๊อก.... |
ตั้งไฟ ดูนาฬิกาไว้ เอาแค่ 45 นาทีก็คงจะเปือยดีระหว่างนั้นก็ทำอะไรนิดหน่อยได้ยินเสียงหม้อตุ๋นดังวิ๊ด ๆ นิด ๆ |
ดูนาฬิกาแล้วครบแล้ว จะเปิดฝาหม้อ...ยั้งมือได้ทัน ไม่งั้นระเบิดโป้งฝากระเด็น น้ำกระจายแน่ เลยหยิบ |
ตะเกียบ แยงเข้าไป ปุ่มข้างบนหม้อตุ๋น แล้วง้างทิ้งไว้... เสียงไอน้ำวิ๊ดพักหนี่งก็เงียบได้กลิ่นหอมโชยมาจากไอน้ำ |
ความดันในหม้อคงจะหมดไปแล้ว เอามือบิดตรงด้าม เปิดฝาออก โห |
กลิ่นลิ้น ผสมเครื่องเทศ กับฉิกโฉ่ หอมมาก เสียแต่น้ำยังไม่ข้น ไม่เป็นไรเอาแป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะใส่ชามแกงเทน้ำธรรมดาใส่ |
ใส่ชามแกงคนไปมาด้วยช้อน เทลงในหม้อที่ร้อนใช้ไม้พายสักคน น้ำแป้งมันเริ่มสุกใช |
ช้อนตักชิม นิด น้ำสตูว์ร้อนจัด เค็มนิดของเกลือ รสเปรี้ยวไม่มี ใช้ได้แล้วปิดฝาหม้อไว้ |
เห็นน้องสาวมาเมียงมอง คงได้กลิ่นหอม (ภาพแทน) |
|
พวกเราอาบน้ำเสร็จ ก็ตักอาหารวางไว้บนโต๊ะอาหารน้องสาวทำแกงผักปั๋งมาเสริมคงทำที่ครัวร้านก๊วยเตี๋ยว ผักปั๋งคือ |
ผักปังในภาษาภาคกลาง ใส่แหนมเปรี้ยว รสเผ็ดปานกลางตักชิ้มแล้วอร่อยมาก |
มื้อเย็นเรากิน แกงผักปัง กับข้าวสวยร้อน ๆ ผมกินแค่ครึ่งจานแล้ว ตักสตูว์ใส่ชามตัวเองฉีกขนมปังหัวกระโหลกจิ้มสตูว์ร้อน ๆ |
เวลาเคี้ยวลิ้นที่ไม่เปื่อยมาก หอมนุ่มลิ้น(ตัวเอง) มีรสเปรี้ยวของมะเขือเทศ |
นิด ฉิกโฉ่เปรี้ยวหอมกว่า อร่อยสุดยอด |
|
ทำสตูว์นี่น้องชายเขาทำนะครับผมเป็นเพียงลูกมือน้องชายเขาเคยทำงานโรงแรมใหญ่ในกรุงเทพ |
พวกเราพี่น้อง กินกันง่าย ๆ แบบนี้แหละครับ อาหารเหนือ พื้นบ้านกับอาหารต่างประเทศ หุ หุ ใช้สูตรโบราณที่จำ ๆ |
จากหนังสือชีวิตชาวป่ากลางป่าและกลางหิมะอันหนาวเย็น |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 215) |
st ผู้เข้าชม 2,337,362. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
ชอบบรรยากาศธรรมชาติแบบนี้จัง
อาหารน่ากินด้วย