No. 1144 เที่ยวแบบบ้าน ๆ @ Yangon ย่านคนอังกฤษ |
 |
ก่อนไปเมียนม่า กะจะไป ดูวัด 555 อย่าเพิ่งเบือนหรือคลิ๊กหนีนะครับ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะไปดู ใจจริงแล้วอยากเห็นบ้าน |
เมืองของเมียนม่า คาดว่าจะคล้ายกับเมืองเชียงใหม่ เมื่อ 30 ปีก่อน |
เพื่อน ๆ เคยไปมาแล้วเล่าว่ามีเมืองเก่าที่ ชนอังกฤษเข้าไปอยู่อาศัยพร้อมกับครอบครัวมีสิทธิ์มีเสียงในการปกครอง |
ได้หลายอย่างและที่แน่นอนคือ อาคารที่ก่อสร้างไว้ คงจะสวยงาม มีเอกลักษณ์ |
 |
ตอนเที่ยง กับตอนบ่าย แก่ แหะ ๆ คำนี้ไม่อยากจะพิมพ์เลยเกรงจะไปกระทบกระเทือนจิตแหะ ๆ ของตนเองแต่ช่างเถอะนะ |
เราเดินกันเมื่อยน่อง เท้าระบม แต่ได้เห็นบ้านเมืองของเขา คุ้มนะผมว่า |
|
หลังจากนั่งแท๊กซี่กลับโรงแรม เปิดแอร์เย็นฉ่ำ อาบน้ำเย็น สระหัวก็นอนหลับพักผ่อนไปพักใหญ่ตื่นขึ้นมาดูละคร |
เจอละครพม่า คล้าย ๆ กับไทยสมัยก่อน ชนิดมี คนรับใช้ยืนมือกุมเป้า 5 คนแล้วถูกนายด่าแบบละครเวทีแสดงสีหน่าเว่อร์ ๆ  |
5 คน แล้วถูกนายด่า แบบละครเวที แสดงสีหน้าเวอร์สุด ๆ ส่วนคนรับใช้ยืนนิ่ง..ลับหลังจะด่านายหรือไม่นี่ซิ |
เอ.. หรือว่า เหมือนละครไทยสมัยปัจจุบัน ช่องไหนไม่บอก... |
 |
พวกเราลงมา เข้าไปห้องทานอาหารโรงแรม และเห็นพ้องกันว่าจะกินที่กันก่อนคงจะอร่อยกว่า รอให้แดดร่มลมตก |
อากาศจะได้เย็น อีกอย่างไม่ค่อยแน่ใจอาหาร ข้างนอก เพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยวเคยเตือนว่าไม่อร่อย |
 |
ไม่แพงเลย 19,000 จ๊าดคิดเป็นเงินได้ 500 กว่าบาทรสพอไหวครับราคานั้นรวมโค้ก 2 กระป๋องน้ำดื่ม 1 ขวด |
|
ออกจากโรงแรม มีรถแท๊กซี่มาพอดี เรียกไปส่ง เมืองเก่าของเมียนม่าราคาไม่แพง 2 พันกว่าจ๊าด 100 บาทไทยคันไหนคันนั้น |
ไม่โก่งราคาเหมือนพี่ไทย ระหว่างที่นั่งรถมากมายเต็มถนน รอไฟเขียวบางที่ 90 วินาทีพอไฟเขียนก็ขยับไปได้ 30 เมตร |
เมตรจอดอีกแหละ ก็ต้องสองขยักจึงผ่านสี่แยกได้ |
ใช้ค่าแท๊กซี่ให้คุ้ม เลยได้รู้จากปากแท๊กซี่ว่า ส่วนใหญ่ใช้แก๊ส LPG เป็นเชื้อเพลิงตกลิตระ 30 บาทไทยโอแม่เจ้า |
แก๊สแพงกว่าไทย เท่าตัว แต่แท๊กซี่ ไม่เอาเปรียบลูกค้าเหมือน พี่ไทย(พย 65 แก๊สไทย 14-15. บาทต่อลิตร) |
 |
นั่งถ่ายรูปบนแท๊กซี่ไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ถึง ย่านเมืองเก่า |
ข้างล่างนี้ยังไม่ได้รีโนเวทปรับปรุงคงอีกไม่นานที่ต้องใช้ย่านนี้เป็นย่าน ธุรกิจ เป็นส่วนใหญ่ บ้านคนไม่ค่อยมี ที่ดินคงแพงมาก ๆ |
ชาวต่างชาติ รวมทั้งไทย มักจะไปเยือนแห่งนี้ |
 ..  |
ลักษณะอาคาร หรือบ้านจะหลังโตมาก ๆ ที่ชาวอังกฤษก่อสร้างไว้ใช้ในกิจการและที่พักอาศัยในสมัยก่อนที่พวกเราจะเกิด |
เราเดินดู ถ่ายรูปไป จนเมื่อยขา เห็นเจดีย์สีเหลืองทองอร่ามในยามเย็นดูสะดึดตาสวยเลยแวะไปสักการะซะหน่อย บอกตรง ๆ |
อยากเห็นเจดีย์หรือวัด 555 เลยแวะไปวัดซูเล่กลางเมืองมีถนนรอบตัววัดแล้วก็มี |
กล้องถ่ายรูปโบราณ ของใหม่ ขายหมากพลู อ้าวนั่น มีขายมือถือด้วยกล้องถ่ายภาพโบราณ ของใหม่ ขายหมากพลูอ้าวนั่น |
มีขายมือถือด้วยต้องบอกก่อนว่า ระบบโทรศัพท์ในพม่า เอเลนอร์ ยึดครองเพื่อน ๆ งง..ใช่เปล่ามีเครื่องหมายใบพัดเรือหางยาว |
ของดีแทกเต็มไปหมดทั้งเมืองก็ว่าได้ |
 |
ชาวเมียนม่า ใช้แอนดรอย ปัด ๆ จิ้ม ๆ กันทุกที่คนปั่นสามล้อรับจ้างยังใช้ ดีนะผมไม่นำซัมซุงที่ใช้ประจำ 470 บาท |
ติดตัวไปด้วยไม่งั้นขายหน้าเขาแย่ตอนนั้นกำลังเห่อใช้แทบเล็ต หุ หุเบ่อเริ่มสั่งถ่ายภาพด้วยคำพูด capture |
ผลคือใช้ลำบากมาก  |
วกเข้าวัดซูเล่ ดีกว่า ทางเข้าวัดมีหลายทาง แต่ทุกทาง เขาเก็บเงินคน ตปท.รวมทั้งคนไทยด้วย 3U$ เกือบ 100 บาทไทย |
พอจ่ายเงินเสร็จก็มี สติกเกอร์แปะติดอก  รองเท้านำไปวางไว้ที่ชั้นคงไม่หายนะ  |
ข้างในมีเจดีย์สีทองตั้งอยู่ จะมีคนเมียนม่าเดินไปดูไม่น้อยเลยเห็นหญิงชาวพม่าหุ่นบางสวยน่ารัก  ....  ส่วยชายเมียนม่ารูปร่าง |
ร่างไม่ใหญ่ ค่อนข้างผอม ไม่ค่อยหล่อ แถมไม่พอ คนหนุ่ม ๆเคี้ยวหมากปากแดงเยอะมาก  |
จะว่าเจดีย์ซูเล่เล็กก็ไม่ได้ ถ้าจำไม่ผิดคำว่า ซูเล่ หมายถึงใหญ่เดินรอบ ๆ ไหว้พระถ่ายรูปเมื่อยก็นั่งพัก  ...  |
เราเดินดูกับไหว้พระไม่นานเพราะวัดแห่งนี้ไม่กว้างเท่าใดไม่คุ้มแหะ ๆ จริงนะครับ |
|
เดินลงมา ถ่ายภาพข้างล่าง รอทีมเที่ยว ตรงที่วางรองเท้าคนเมียนม่า จีนใต้หวันฝรั่งอั้งม้อหัวแดงผมดำถักเปียทั้งหัว |
ทั้งหัว ต่างลงมาเลือกรองเท้าของตนเองใส่แล้วเดินจากไป |
เจ้าหน้าที่หญิง 2 คนนั่งมองเฉย ๆ คือไม่มีการแจกเบอร์ฝากนะครับครู่เดียวเสียงหญิงที่นั่งอยู่โวยวายแล้วเดินมาที่เด็กหญิง |
น่าจะ 11 - 12 ขวบตัวดำผอม ให้ถอดรองเท้าออก |
พอจับใจความได้ เด็กหญิงคนนี้ ไม่ได้ใส่รองเท้ามา แต่คงชอบรองเท้าคีบสีชมพูว่าสวย |
เลยหยิบมาใส่ กะจะเดินออกไป เพราะความอยากได้ |
จนท.หญิงที่นั่งเฝ้าคงมีประสพการณ์มากเลยจับได้ สั่งให้เด็กถอดรองเท้า เดินออกไปอย่างรวดเร็ว หายไปเฮ้อ |
ย้อนกลับมาดู เจ้าหน้าที่หญิงที่เฝ้ารองเท้า เขายังมีเมตตา ให้เด็กหญิงถอดรองเท้าไว้แล้วปล่อยตัวไป เพราะเป็นเมืองพุทธ |
เมืองพุทธ เช่นไทย...ครับ |
 |
เดินดูรอบ ๆ วัดนี้ต่อ วันนี้นำมาให้ดูบางส่วนนะครับ เมืองเก่านี้กว้าง เราต้องไปดูกันสองวันในวันรุ่งขึ้น |
ข้างล่าง เขาเรียกว่า ซิตี้ฮอลล์ ยังใช้ทำงานอยู่  ...  ...  |
ลักษณะอาคาร หรือบ้านจะหลังโตมาก ๆ ที่ชาวอังกฤษก่อสร้างไว้ใช้ในกิจการและที่พักอาศัยในสมัยก่อนที่พวกเราจะเกิด |
โชว์รูปตัวเองซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไปถ่ายชาวเมียนม่าแถวมหาชัยมา  |
สังเกต ชายชาวเมียนม่านุ่งโสร่ง จะเห็นเหน็บมือถือไว้ตรงเอวบางคนเหน็บ 2 เครื่องเลย |
เดินจนเมื่อย แสงเริ่มหมด ไฟจากร้านค้า ถนนส่องสว่าง ได้เวลากลับเรียกแท๊กซี่กลับที่พักไม่แพงแต่ของบอกก่อนคนขับ |
แท๊กซี่ตอนโพล้เพล้..มักจะผิวดำ คล้ายแขกอินเดียวเรียกเรา 4,000 จ๊าดเราไม่เอาหรอกอีกคัน 2,500 |
จ๊าดเป็นเงินไทยประมาณ 80 บาทไทย |
ไปถึงหน้าโรงแรมมืดมาก คือถนนเขาไม่ค่อยติดไฟเท่าใด เข้าไปในโรงแรมรู้สึกสบายเย็นตา |
ในห้องเย็นสบายด้วยแอร์คอนดิชั่นอาบน้ำจิบชาร้อนดูสารคดีต่างประเทศเข้านอนหลับสบาย |
อยู่ในเมือง ที่อังกฤษอยู่ น่าจะกิน ชา ครับ แต่เป็นชาร้อน ของเมียนม่า ซองเขียว ๆ มีทั้งชาธรรมดาและไม่ใส่นำตาล |
มีผงมะนาวด้วย  |
เป็นกาแฟชาผงเครื่องดื่มที่เขาให้ดื่มฟรี อีกนิดในเขตเมืองย่างกุ้งห้ามใช้มอเตอร์ไซค์ให้ตำรวจใช้เท่านั้น |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 366/1,307) |
st ผู้เข้าชม 2,405,072 |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
พิมพ์ภาษาเหนือไม่คล่องเหือนพูดค่ะพี่ไวน์ ไวเจอตัวคงได้อู้เหนือตวยกั๋นเน้อเจ๊า อิอิ
ตามมาเที่ยวเมืองผู้ดีอังกฤษในพม่าด้วยค่ะ โห..บ้านช่องสวยงามจริงๆนะคะ
เรื่องอาหารพม่ายอมรับเลยค่ะไม่ถูกปากเลย 555
คนพม่าใช้มือถือเป็นว่าเล่นเลยค่ะพี่ไวน์
เที่ยวเพลินเลยค่ะ ไว่รอชมตอนต่อไปนะคะ
โหวต Diarist