No. 1179 เที่ยว @ อีต่อง ปิล๊อก เหมืองแร่เก่า..(เก็บตก) |
อัพบล๊อกทุก พฤหัสบดี / จันทร์ |
บล๊อกนี้เขียนเล่าการเที่ยวในหุบเขากาญจนบุรีในฤดูฝนก่อนไวรัสโควิดมาเยือน..เห็นป่าที่ชุ่มชื้น..ทั้งที่เคยแห้งแล้งนาน |
หลายปีเพราะ.....? กลับมาก็ค้นคว้าเพิ่มจึงรู้ว่าทำไมแถวนั้นจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไปสดวกหรือไปเที่ยวแบบดิบ ๆ ก็มี |
|
นอนฟังเสียงน้ำห้วยไหลดังจุ๋งจิ๋งแม้น้ำมีไม่มาก ลืมตามองผ่านหน้าต่าง..เมื่อวานคนที่รีสอร์ทบอกว่าฝนเพิ่งตกได้ 3 วัน |
พูดถึงห้องพักที่นอนผ้าห่ม อาจจะไม่สวยปูไม่ตึงไม่เรียบเท่าเราปูเองที่บ้าน แต่นอนสบายกลิ่นหอม |
แต่ไม่เปรียบเทียบกับโฮเต็ลหรูคืนละหลายพันบาทที่เคยพักแน่นอนอยู่แล้ว แต่ไม่บ่อยนัก หุ หุ |
แสงแรกเริ่มสาดส่องสว่างอากาศเย็นค่อนข้างมาก |
คว้ากล้องวิดิโอ กับกล้องคู่ชีพ ย่อง ๆ ออกไปดูหยาดน้ำฝนที่ตกค้างบนไม้ใบเดินไปด้านในของเหมืองเก่า ที่ทอดยาว สู่เนินสูง |
... |
แล้วแพนกล้องวิดิโอ ไปขวามือช้า ๆ ค่อย ๆ ดึงภาพเข้าใกล้ทุกสิ่งสงบ ได้ยินเสียงน้ำไหลเกรงว่าจะเงียบ เลยทำเสียงหล่อ |
บรรยายกะว่าจะส่งออกเวฟเผื่อมีคนเปิดดู หุ หุ...กลับห้องพักเช็ควิดิโอภาพโอเค |
ได้ยินเสียงผมเองเซ็งเลยครับอุตส่าห์ทำเสียงหล่อกลับ ..ยาน ...555 ไม่น่าฟังเลยต้องงดนำวิดิโอมาให้ดู |
|
กลับมาผลัดผ้าอาบน้ำอุ่นเครื่อง...ทำน้ำอุ่นใช้แก๊ส ใช้ง่ายที่เคยใช้ที่ อ.ปาย ที่เหมืองแร่นี้เครื่องคงรุ่นใหม่กว่า |
ทานอาหารเช้าคุยกับป้าเกล็นต่อ 555 อยากได้ข้อมูลมาเขียนเล่าให้เพื่อน ๆ อ่านป้าเกล็นบอกว่า |
|
เรือนพักหลังคาเป็นกระเบื้อง ใช้ไม้ไผ่เป็นฝามีมุ้งลวดกันยุง..ไม่ต้องกลัวร้อนอากาศ 21 องศาเป็นส่วนใหญ่ |
พวกเรากินอาหารเช้าเค็กตามแต่พุงจะรับได้เติมไม่อั้น คนไม่กินขนมปังมีข้าวต้มด้วยแม่ครัวจบจาก ว.ดุสิต |
ที่วิทยาลัยดุสิตมีชื่อด้านทำ บราวนี่อร่อยเคยไปทานที่นั่นด้วยที่สำคัญ ทำวันต่อวัน แต่อย่างว่า ลิ้นแต่ละคนรับรส ชอบต่างกัน.. เช่นร้านนี้ทำส้มตำเผ็ดกลางเปรี้ยวนำ อีกร้านเผ็ดมาก เค็มเปรี้ยวจัดแต่โฮมสเตย์นี่น่าจะไม่มีส้มตำนะครับ 555 ผมเก็บมะม่วงหล่นหน้าบ้านพักมาปัด ๆ เช็ดกับกางเกง 555 กัดอร่อย |
เดินชมภาพต่าง ๆ ได้ยินเสียงกังสดารดังมาอ้อ.. มีเด็กหนุ่มตีกังสดารบอกให้รู้ว่า ภิกษุมาบิณฑบาต...แสดงว่าในป่านี้ปลอดภัย |
แม่ครัวของป้าเกล็น นำอาหารมาใส่บาตรหน้า บ้าน ส่วนพวกเราไม่มีอาหารเลย |
หยิบเงินจากกระเป๋าใครกระเป๋ามัน ถวายพระแทน |
|
นั่งรอคนอื่นเก็บของใส่กระเป๋านั่งคุยกับป้าเกล็นต่อแหะๆ ให้คุ้มกับ .. ไม่ใช่ ครับ คุ้มกับการรอคอยเลยรู้ว่าคุณสมศักดิ์สามี |
ป้าไปเป็นนักศึกษาด้านธรณีวิทยา ที่ม.ของออสเตรเลีย ไปฝึกงานที่เหมืองทองของพ่อ |
คุณสมศักดิ์ คงไปปิ๊งป้าเกล็นที่นั่น ใช่เปล่าครับ |
ป้าเกล็นอมยิ้ม ใช่ ๆ เราแต่งงานกันที่นั่น ป้าเลยเดินทางมาอยู่ไทยตอนอายุ 23 |
แล้วป้าไม่คิดถึง ป่าไม้ที่ออสเตรเลียเหรอครับ (ภาพแทน) |
ออสเตรเลียแถวบ้านกว้างโล่ง..ไม่มีป่าไม้...ฉันคิดถึงบ้านพ่อแม่พี่น้องอยู่หลายคน...แต่เหมืองแร่ทองฝุ่นเยอะเมื่อมาอยู่ปิล๊อก |
มีต้นไม้เขียวกว่าที่โน่นเยอะฉันก็ชอบ |
|
แต่ป้า อยู่ กท.ไปสอนภาษาแถวกล้วยน้ำไท ไป ๆ มา ๆ กับเหมืองแร่แต่ป้าก็ชอบเหมืองแร่ที่นี่มากกว่าเราสองคนเหนื่อย |
แต่มีความสุข..หลังจากคุณสมศักดิ์เสียชีวิต |
ป้าเลยค่อย ๆ ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูสภาพเหมืองร้างกักเก็บน้ำมีสายน้ำไหล ป้าเกล็นพูดพลางหันไปดู ป่าเขาอย่างมีความสุข |
|
ขณะเขียนบล๊อกนี่เพิ่ม....เช็คข่าว.. เมื่อปลายปี พศ. 2565 ป้าเกล็นได้วางมือให้ทีมงานทำต่อ (ภาพข้างล่างเป็นป้ายชื่อเสื้อหรือภาพถ่ายที่ นักท่องเที่ยวถ่ายภาพตนเองกับเพื่อน ๆ แปะไว้อาจจะไม่สวยแต่แสดงว่าคนนิยมที่จะได้ไปเที่ยวอีก |
|
ได้เวลาลาโฮมสเตย์ของป้าเกล็น...คุณอำนาจโชเฟอร์พาขึ้นโฟร์วิวคันเดิมบอกว่าจะไปเที่ยวน้ำตกจ๊อกกระดิ่น |
ดูแผนที่ดาวเทียมคือขับย้อนกลับไป อ.ทองผาภูมิไม่กี่กิโลก็ถึงทางแยกซ้ายมือเข้าน้ำตกเป็นถนนคอนกรีตแคบนิด |
ไปถึงด่านเก็บค่าเข้าก็เสียเงินตามปกติท้องฟ้าครึ้ม |
ข้างในเป็นถนนคอนกรีตเล็กไม่น่าถึงกิโลเมตรเจอน้ำตกที่ไหลลงช่องแคบที่พม่าเรียกว่าจ๊อกกระดิ่น |
ความหมายน้ำไหลลงที่แคบ.. |
ทำให้นึกถึงเพลงเขมรไทรโยค เสียงดังจอก จอก โครมโครม.งั้นเนื้อเพลงไทย+ภาษาพม่าด้วย (ไม่ยืนยันนะครับ 555) |
|
หลายปีก่อนเหนือน้ำตกเป็นเหมืองแร่ทังสเตนไม่ใช่แร่ดีบุก...เดินเข้าไปอากาศเย็น 21 เซลเซียสฝนเริ่มตกปรอย ๆ |
ทำไงดีไม่ได้นำร่มมารีบเดินกลับแต่ภูมิประเทศสวยหันกลับไปดูน้ำตกอีกหน่อย อ้าวคุณอำนาจโชเฟอร์รีบเดิน |
นำร่มมาให้พวกเรา 2 คัน บริการยอดเยี่ยมจริง |
|
กลับกรุงเทพแล้วอยากรู้ว่า แร่ทังสเตนเป็นแบบไหน...เจ้าของเหมืองขอสัมปทาน่ขุดหาดีบุกแต่โชคดีมีทังสเตนมากว่ามีดีบุก |
ปนเมื่อนำไปถลุงใช้ความร้อนแล้วทำป่นจะได้...แร่ทังสเตนมากกว่าที่ใช้ทำเครื่องมือหลายอย่างเช่น |
แร่ทังสเตนหรือมีอีกชื่อคือ วุลแฟรมที่มีสัญญาลักษณ์ทางเคมีว่า W เอะ..แร่นี้เป็นพิษแก่ผู้ใช้น้ำแบบเหมือง..คลิตี้หรือไม่ |
ไม่หรอกครับเหมืองคลิ๊ตี้เป็นเหมืองแร่ตะกั่วอยู่ต่างพื้นที่ |
ส่วนแร่วุลแฟรม หรือดีบุกในจังหวัดกาญจนบุรีต้องขนไปถลุงที่ภาคใต้ของไทย |
|
โชเฟอร์ขับพาไปส่งที่โรงพัก ที่เราฝากรถไว้เปลี่ยนรถแล้วขับไปบนเขาที่ค่อนข้างโล่งแต่เขียวชะอุ่ม เราไป |
เนินช่างศึก..ไม่ไกลครับ อยู่ยอดดอยมองเห็น ป่าของพม่า |
ถนนไปไม่ยากเลย เป็นคอนกรีตฝนตกค่อนข้างหนักมีเมฆก้อนโตลอยปกคลุมไปไม่เหมาะลงถ่ายภาพมองสายฝน |
เห็นแท๊งค์น้ำใหญ่บริการคนที่ไปกางเต๊นท์ในฤดูหนาวเลยขับรถกลับลงข้างล่าง |
ขับกลับไปดูที่อื่นต่อ ไปเที่ยวตลาดบ้านอีต่องดูแล้วคล้ายกับ อ.ปายแม่ฮ่องสอนคือเริ่มเป็นสาว 555 แต่งตัวนิด ๆ แล้ว |
เริ่มแต่งตัวเป็นกำลังสวยคือปลูกบ้านเรือนพัก ปลูกต้นไม้กักเก็บน้ำในอ่างน้ำใหญ่ |
ระยะที่เราไปฝนตกน้ำเริ่มไหลสู่อ่างเก็บน้ำ..ลำห้วย ใบไม้เขียวจัด |
พอจะลงรถถ่ายภาพทางเข้า ฝนก็เริ่มตกต่อเลยเข้าไปพักใต้หลังคาตรงข้ามป้อมดูเหมือนปิล๊อกเก่านำมาปรับปรุงใหม่ |
ดูสวยงามและน่าจะเป็นแห่งเดียวกันกับที่เพื่อนผมคุณปรีดี มีลือพรปั่นจักรยานมาเที่ยวและค้างคืนในเบิร์มทหารปี 2535 |
ที่เขายิงกันอยู่ในฝั่งพม่า ตอนกลางคืนระหว่าง ทหารพม่า กับ กะเหรี่ยง |
|
เราเดินเข้าไปดูในตลาดมีร้านขายของกับร้านอาหารเปิดอยู่บ้างไม่มากนักดูสงบและน่าจะคึกคักในฤดูหนาว |
เรานั่งรถไปดูจุดชมวิวต่อ |
ที่นี่มีป้อมของพม่าอยู่ติดถนนพอเราจะถ่ายภาพรีบโบกมือ...คล้ายกับว่าอย่าถ่ายคงจะกลัวนาย ด่า |
ผมเลยมิงกะลาบาทหารหนุ่มยิ้มเห็นปากแดงเถือกน้องแกกินหมากครับตรงนี้ที่ท่อแก๊สพม่าผ่านเข้าไทยบ้านอีต่องไทยซื้อ |
มาใช้ในไทยผลิตไฟฟ้า |
มีทางเดินเล็ก ๆ ลงไปข้างล่าง.. นั่งรถดูบ้านคนมีพื้นที่กว้างเป็นลานใหญ่สำหรับกางเต็นท์อยู่เหนือหมู่บ้านอีต่อง |
สำหรับคนที่จะไปค้างแบบติดดิน สนุกดี... แต่ไม่ต้องห่วงครับ ที่นี่มี รีสอร์ทคอยบริการอยู่แล้ว |
ดูจะยาวไปแล้วขอขยักไว้เล่าต่อ.....ครับ |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re.500) |
st ผู้เข้าชม 2,501,007. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
บรรยากาศดีตังโฮมสเตย์ป้าเล็นน่าพักจัง
ช่วงอากาศร้อนตับ ตับ ตับ จะแตกนี้
ไปที่เขียวๆมีน้ำตก..ฟินนักนะคะ