No. 1201 ชีวิตในป่า 4 (หาอาหาร) |
|
ชีวิตกลางป่าลึกต้องเดินลัดเลาะไปตามหุบเขาไต่ขึ้นดอยชัน บางครั้งเราอยากเดินผ่านแต่เป็นเขต |
อิทธิพลกลุ่มคนติดอาวุธ เพื่อปัองกัน เขตที่พวกเขาอยู่ พี่ก่อเล่าจะไปอำเภอปายต้องมุ่งหน้ากลับไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ |
ต้องเดินอ้อมไปไกลเป็นวัน ๆ |
ถ้ากานอยากจะกลับบ้าน..เฮาต้องพาก่ำเดินไปด้วย ก่ำคงอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ กานช่วยสอนก่ำอู้ภาษาไทยให้ด้วยนะ |
ก่ำโตขึ้น...จะได้พูดคุยคนในเมืองได้ |
ได้เลยพี่ |
แต่ละวันพี่ก่อจะใช้มีดหวดหญ้าตัดกิ่งไม้เล็กทิ้ง ตอนเช้าจะไปแปลงปลูกผักกาด หอม กระเทียม กะหล่ำจะว่าแปลงก็ไม่ใช่ |
ปลูกคละกันไปถอนหญ้าที่ชึ้นแข่งกับต้นหอมท่ามกลางอากาศเย็นค่อนข้างมากเสียงน้ำในห้วยยังคงดังเบา ๆ |
เมื่อวานเราสามคนไต่เดินลงดอยไปดูต้นถั่วเหลืองที่ปลูกแซมไปกับตอไม้เก่าพี่ก่อปลูกไว้ค่อนข้างมาก |
พี่ปลูกถั่วเยอะต้องใส่ปุ๋ยเปล่าพี่ |
อะไรปุ๋ย |
คืองี้ที่ระยองบ้านเกิดผมเขาปลูกผัก ปลูกมันสัมปะหลังจะเอาขี้วัวขี้ควายบางทีก็ปุ๋ยเม็ดที่บริษัททำ..หว่านให้ผักมันงามนะพี่ |
อ๋อ..พี่ใส่ขี้ค้างคาว..โน่นไงที่ซุกไว้ที่กอไม้เก่าเอาใบตองปิดไว้ไม่ให้เปียกฝน |
ไปหาขี้ค้างคาวไกลเปล่าพี่ |
ไกลซิเดินไป 3 ดอยบนดอยสูงจะมีถ่ำค้างคาวพี่ต้องไต่ไปตามก้อนหิน เอาตระกร้ากระสอบขึ้นไปโกยขี้ค้างคาวแห้งที่ตกตาม |
พื้นในถ่ำมัดถุงกระสอบแล้วหย่อนลงมาก่ำกับพี่ช่วยกันแบกลงมาเก็บไว้ใส่ผักข้าวไร่ |
แล้วพี่ปลูกถั่วเหลืองไว้เยอะเอาทำอะไรพี่ |
ก็เอาเม็ดถั่วมาต้มกินแทนข้าว...เก็บมาใหม่เราจะเอากิ่งถั่วกับฝักม้วน ๆ ต้มแล้วใส่เกลือกินอุ่น ๆ ลำแต้ ๆ |
(อร่อย).. ส่วนใหญ่พี่จะทำถั่วเน่าเมอะ(หมักบดใส่หม้อดิน) ทำถั่วเน่าแผ่นเก็บไว้ปิ้งกินใส่แกงผัด |
แล้วมันเน่าเปล่าพี่ |
ไม่ ๆ เราล้างเม็ดถั่วนึ่งสุกออกผึ่งแล้วใส่หม้อดินอัดแน่นปิดไม่ให้อะไรเข้าไว้ 3 วันแต่พี่ใส่เกลือ |
ถั่วเหลืองจะอยู่ในหม้อดินเคยเอามือซุกเข้าไปมันร้อนครบ 3 - 4 วันก็เอาออกมาตำใช้ใบตองกล้วยห่อแต่เราจะเก็บ |
กานคงได้กลิ่นเหมือน กะปิที่ในเมืองปายขาย |
ใช่พี่ผมนึกออกแล้วกลิ่นเหมือนกะปิที่เมืองระยองทำไว้ขาย เขาใช้กุ้งตัวเล็กหมักเกลือแล้วตากแดดแล้วใส่ครกไม้ใหญ่ |
ตำ ๆ แล้วหมักใส่ไหจู๋ไว้ใช้แต่ส่วนใหญ่จะเอาไว้ขาย |
(ถั่วเน่า..ไวน์กับสายน้ำ.. เป็นของปรุงรสเปรียบเสมือนกะปิที่ทำจากกุ้งเคยตัวเล็กแต่บนดอยกุ้งหายากภูมิปัญญา |
ชาวภาคเหนือหรือบนดอยสูงจึงใช้ถั่วเหลืองหมักให้เกิดกลิ่นรสเค็มแทน---ทำสอาด) |
|
อยู่ในป่านานวัน หนวดเคราที่มีไม่มากเริ่มยาว..แต่หรอมแหรม กินข้าวก็ลำบาก ต้องแหวกกินผมก็ยาวเปียกเหงื่อเหม็นสาบ |
เลยอาบน้ำสระหัวทุกวัน พี่พะก่อคงรำคาญแทนให้ไปอาบน้ำสระหัวให้เปียก พี่ก่อนั่งรอบนขอนไม้ข้างลำห้วยหน้าบ้าน |
พี่เขาเอานิ้วมือจับเส้นผม ข้างหู |
เอามีดยับ(กรรไกร) ขลิบปลายผม บางครั้งเอาปลายกรรไกรทิ่มลง วางขนาน ข้างหูกับปลายตีนผมค่อย ๆ เล็มจนบางเอามือ |
สางเส้นผมด้านบนขลิบตัดพักใหญ่เอามือปัดเส้นผมให้เข้ารูป หนวดที่ยาวแต่หรอมแหรมพี่ก่อใช้กรรไกรขลิบให้สั้น |
เกือบติดผิว จะไม่ต้องเอามือแหวกหนวดที่ยาวกินข้าว หุ หุอยากจะโกนหนวดไม่มีมีดโกน กระจกเลิกพูดถึงเลย |
เอาเสร็จแล้ว. ไปอาบน้ำได้แล้ว |
ขอบคุณครับพี่ ให้ผมตัดผมพี่เอาบ๋อ(เอาไหม) |
ไม่ต้องหรอก เอาไว้ก่อน |
พี่กานบ่าต้องตัดหื่อป้อ(ไม่ต้องตัดให้พ่อ) ป้อเปิ่นจะหื่อน้าแม่หญิง บ้านปู้น..ตัดหื่อ(พ่อจะให้น้าผู้หญิงบ้านโน้นตัดให้) |
มีคนอยู่แถวนี้ด้วยเหรอ |
แม่หญิงอยู่บนดอย ปู๊น.... พ่อคงหาแม่ใหม่ให้ก่ำ. |
บ่าต้องอู้ (ไม่ต้องพูด)พี่พะก่อ คงจะอายลูก อมยิ้มรีบเดินหนีเข้ากระท่อม |
นุ่งผ้าขาวม้า ลงอาบน้ำสระผมในห้วย เอาลูก บ่าซักแห้งสี่ห้าลูกใส่แอ่งหินกลมโขลกตำด้วยหินกลมมน ๆ จนแหลก |
ลูกมะซักนี้ พี่พะก่อบอกว่าเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างบนเราไป เรียกว่า ซะเหล่เด เป็นลูกไม้กลมเล็กเท่าหัวแม่มือผิวสีน้ำตาลแห้ง |
แต่กินไม่ได้สองพ่อลูกเก็บใส่หม้อดินไว้เต็มหม้อดิน |
|
ก้มหัวให้เส้นผมเปียกน้ำในลำห้วย ควักผงมะซักละเลงหัว มีฟองเต็มหัว รู้สึกกัดหัวนิด ๆ ขยี้ผมแล้วทรุดตัว ดำน้ำล้างหัวจับ |
เส้นผมดูสอาดลูบดูดังเอี๊ยดแล้วก็ฟอกตัวมีกากติดตัวรูปไล้ขัดทั่วตัวทรุดตัวให้น้ำในลำห้วยไหลผ่าน หายลื่นแล้วขัดขี้ไคล้ด้วยมือ |
ส่วนขามีขี้ไคลติดแน่น ใช้หินใต้น้ำแบนสาก ๆ ขึ้นขัด จนสอาด |
พี่ก่อเล่าว่าลูกบ่าซัก มีประโยชน์แก่เราชาวป่าคราวที่ผมเกี่ยวข้าวบนดอยขนมานวดที่ลานทำให้ปวดเมื่อยกายมากพี่เขาถาก |
เอาเปลือกต้นมะซัก (ประคำดีควาย)มาตำ ผสมเหล้าทาผิวที่คันให้ผม(เรื่องนี้ไม่รับรองนะครับไม่มี อ.ย. 555) |
บ่ายวันหนึ่ง อากาศเย็นสบาย แสงแดดค่อนข้างเยอะ |
ไปหาเขียดแลว หาปู..ไหมพี่กานผมอยากกิน |
ไปซิ เอาอะไรไปบ้าง |
ข้องไม้ไผ่ไปอย่างเดียวก็พอพี่กานเฮาไปแอ่งดอยตรงโน้นมีลำห้วยของพม่ากับบ้านของเฮาอยู่จะมีปูเขียดแลวอยู่ |
|
เราเดินตามลำห้วยที่ทอดยาวลงข้างล่าง ก้าวข้ามรากไม้ที่โผล่ เท้าเหยียบใบไม้ที่ร่วงทับถมหนาไปพักใหญ่เห็นหลืบลำห้วย |
มีใบไม้ทับน้ำซึมก่ำ เอาไม้เขี่ยใบไม้ออก เจอปูชูก้ามร่อนออกมาสองสามตัว ใช้ไม้เขี่ยตัวปูออก แล้วจับใส่ข้องที่เอว |
ใส่ข้องที่แขวนข้างเอว เราเดินไปเรื่อย ๆ ใช้ไม่เขี่ยพุ่มไม้ที่อยู่ชายลำห้วย ปูก็โผล่ออกมา |
พี่กาน ช่วยจับปูต๋วยเน่อ |
ได้เลยโอ้ย ปูหนีบ |
ก่ำหัวเราะ. บอกให้แบมือคว่ำลงบนตัวปู กดลงแล้วจับปูจะหนีบไม่ได้ |
ลองทำตาม กางฝ่ามือกดเบา ๆ บนตัวปูแนบกับดิน ปูหนีบไม่ได้จริงด้วย วันนั้นเราได้ปูสีดำได้หลายตัวบางตัวมีก้ามออกแดง |
แต่ไม่มากนัก |
พี่เส(กาน)เราไม่เห็นเขียดแลวเลย สงสัยจะต้องขึ้นไปบนดอยเลยไปอีกไกล วันนี้ได้ปูตะอี้ก็ปอเนาะ(ได้ปูเพียงแค่นี้ก็พอเนาะ) |
ดีชักเมื่อยน่องเหมือนกัน กลับบ้านกัน. |
ถึงแอ่งน้ำหน้าบ้าน ก่ำเอาข้องใส่ปู จุ่มน้ำส่วยไปส่ายมา จนสอาด เก็บเศษใบไม้ที่ปนออกแล้วล้างอีกครั้ง |
ไปบนบ้าน จะได้ดองปู๋กันเน่อ |
ก่ำเอาปูใส่ไหดินเล็ก ปูบางตัวตาย ส่วนที่ไม่ตายก็หนีบนิ้วก่ำบ้าง เอาผงเกลือสีคล้ำกับกระเทียมแห้งทั้งเปลือก 5 หัวโขลกพอแตก |
โปรยใส่ไหคลุกเคล้าจนทั่ว เอาไม้ไผ่ที่สานโปร่ง ๆ วางทับอัดบนตัวปู แล้วนำไม้ฟืนเล็กทับ |
เสร็จแล้วกา ก่ำ... |
เสร็จแล้ว เอาฝาไหปิด แมงจะได้ไม่ลงไปกินปู๋. |
กี่วัน จึงจะกินได้ |
สองสามวันกินได้ หอมเตียม(กระเทียม)ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมปูด้วย |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (Re No. 08/739/743/745) พิมพ์ครั้งที่ 3 |
st ผู้เข้าชม 2,555,685. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียน เรื่องสั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
ชีวิตในชนบท ในป่านี่ก็คือ ง่ายๆ สบายๆนะคะ
เดินไปเอาขี้ค้างคาวไกลขนาดนั้น เป็นเราจะไหวไหมคะนั่น 3 ดอยนี่หมายถึงเขา3 ลูกเลยรึเปล่าคะนั่น
อ่านถั่วเน่าของคุณไวน์มาหลายรอบแล้ว เพิ่งเข้าใจคำว่าถั่วเน่าแจ่มแจ้งก็วันนี้แหละค่ะคุณไวน์
นึกสภาพตัดผมเล็มหนวดด้วยกรรไกร ก็น่ากลัวอยู่นะคะนั่น
คุณไวน์อย่าลืมมาเล่าเรื่องร้านกาแฟหลังบ้านให้ฟังนะคะ
ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะคุณไวน์