No. 1142 เที่ยวแบบบ้าน ๆ @ Yangon |
|
ครั้งที่เป็นเด็กเล็กอยู่ อ.ปาย เห็นผู้ชายนุ่งกางเกงขาก๊วยยาวเกือบถึงตาตุ่ม บางคนใส่โสร่ง |
ส่วนหญิงเป็นญาติ หรือคนทั่วไปใส่ผ้าซิ่นยาวกรอมเท้าเสื้อจะใส่แขนกระบอกลำตัวเสื้อเข้ารูปนิด ๆ เห็นรูปร่างที่ผอม |
ถ้ามีอายุหน่อยุจะอวบนิด ๆ คล้ายกับ คนไทยภาคกลางอากาศหนาวเย็นใส่เสื้อกันหนาวสีทึม ๆ มีผ้าโพกหัว |
|
ชนพื้นบ้านในอำเภอ เป็นชาวไทยใหญ่ มีคนไทยแท้อยู่ปะปนกันแน่นอนคงมีการแต่งงานข้ามเชื้อสาย ครอบครัวเราเอง |
คงจะมีเชื้อสาย รวม ๆ กันไป ชื่อคุณอา ก็น้องสาวของพ่อมีชื่อว่า ขิ่นเล คุณอาขาวอวบใจดีมากนุ่งซิ่นกรอมเท้าใส่กำไล |
กำไลมือทองหลายอันผมกับพี่ ๆ ได้กินขนมที่คุณอานำมาให้บ่อย |
|
ครอบครัวคุณตาและพ่อของผมทำราชการอยู่ที่นั่นแม่เป็นครูแล้วต่อมาก็เปิดร้านขายสินค้าที่บ้านด้วยเป็นสินค้า |
จากเชียงใหม่ |
ส่วนคุณปู่คุณย่ามีช้างหลายเชือกคงไม่ได้เป็นควาญช้างนะครับเพราะมีคนงานทำงานให้เยอะพวกลากไม้ซุงจากป่า |
แต่บอกตรง ๆ นะครับจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าใดรู้แต่ว่าครอบครัวอยู่กันแบบสบาย ๆ ไม่อดอยากพอมีพอกินพอใช้ |
แต่จำได้แม่นคือที่บ้านกินข้าวเจ้าหรือข้าวสวยไม่ได้กินข้าวเหนียวแบบชาวเหนือเช่นเชียงใหม่ เป็นข้าวเม็ดสั้นคล้าย |
ข้าวญี่ปุ่น ต้องกินร้อน ๆ ถ้าเย็นจะแข็ง |
ภาพข้างบนเป็นภาพ อ.ปาย เกือบปัจจุบันซ้ายมือเป็นบ้านเกิดบ้านหลังเดิมถูกรื้อแล้วปลูกใหม่คล้ายกันมาก |
แม่กับพี่สาวจะเล่าให้ฟังว่า อ.ปายอยู่ ใกล้กับเมืองพม่าทั้งสองไปมาหาสู่กันเขาจะเดินขึ้นดอยลงดอยข้ามเข้ามาค้าขาย |
เงินที่ใช้เงินเหรียญซื้อขายกัน เป็นเงินอังกฤษ เป็นเงินแท้ ๆกับเงินไทย |
ความผูกพันธ์ของคนทั้งสองเชิ้อชาติเป็นแบบพี่น้องมิได้มีเรื่องหมองใจเรื่องเสียบ้านเมืองกันเลย |
ผมรู้เรื่องไทยกับพม่าก็ตอนที่อพยพไปเรียนต่อที่เชียงใหม่รู้แต่เพียงว่า พม่ามีไม้สัก พลอยสีแดงเป็นสิ่งที่มีค่ามากมาย |
สิ่งที่จำได้ตลอดว่าพม่ามีต้นไม้ลำน้ำชุ่มฉ่ำเป็นเมืองปิดและก็ย่ำแย่ครั้งที่ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านพม่าและปักหลักที่ อ.ปาย ///////// |
ได้อ่านงานเขียนของคุณชัยชนะ โพธิวาระท่านเขียน ขำ ๆ เกี่ยวกับพม่า |
ที่ได้ไปท่องเที่ยวพม่า โดยมีไกด์ของพม่า นำเที่ยวตอนนั้นเป็นเมืองปิด ทหารอยู่เยอะเที่ยวไปก็หวาดเสียวกลัวถูกจับ |
|
ก่อนเขียนหมายถึงผมเองนะ ไม่ถึงเดือนที่ผ่านมาคนไทยก็ยังคงถูกจับตัวไปเรียกเงินแต่ต่อรองกันได้เพราะรู้ว่าคนถูกจับ |
ไปรับจ้างแสดงและถ่ายหนังเท่านั้นเรื่องที่เล่าข้างล่างนี้ไปเที่ยวก่อนโควิดระบาด |
|
พอทราบข่าวว่าพม่าเปิดให้ท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปี ความคิดที่จะไปเที่ยวพม่า หรือที่เรียกว่าเมียนม่าก็ผุดขึ้นในสมองอยากจะ |
เห็นเมืองพม่าคงคล้ายกับ เชียงใหม่เมื่อหลายสิบปีก่อน ชาวบ้านปลูกบ้านเรือนไม้และไม้ไผ่มีร่องน้ำไหลรินริมถนน |
ชายเมียนม่า คงจะเคี้ยวหมากปากแดงบ้วนน้ำหมากปรี๊ดลงข้างทาง หุ หุ |
อาหารการกิน น่าจะเหมือนชาว อ.ปาย สมัยก่อน คงจะกินได้อร่อยเหมือนคนที่ไปเที่ยวพม่าแล้ว แล้วเราชาว อ.ปาย |
คงสบายบรึ๊อ....ๆๆ |
เราหมายถึงครอบครัวของเรา 5 คนพ่อแม่ลูกวางแผนจะไปเที่ยวกันตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ก็ต้องเลื่อนเรื่อยมา ลางานได้ตรงกัน |
ยากมาก ๆ เพราะทำงานศูนย์การค้า 2 คนทำบริษัทโฆษณาติดการถ่ายทำภาพยนต์ทำราชการและบริษัทนำเข้าสินค้าตปท. |
เรื่องมันยาว...งั้นเข้าเรื่องต่อ |
|
จากฤดูที่อากาศจะหนาวเย็น กลายเป็น ฤดูร้อน พวกเราไปกันเองหาข้อมูลในเน็ตจองที่นั่งเครื่องบินโรงแรม วางเป้าหมาย |
สถานที่จะไปที่สำคัญหาเงินสำรองไว้จ่ายท่องเที่ยว หุ หุ |
รู้ ๆ อยู่ว่า ค่าโรงแรมแพงค่าอาหารคนต่างชาติ แพง แถมสถานที่หรือเมืองที่พวกเราจะไปอยู่ห่างไกลกันมากถนนเป็นดินแดง |
ต้องผ่านขุนเขาสายน้ำเลยต้องใช้สายการบินในประเทศ หลายครั้งไม่เป็นไรใจมันอยากเที่ยวก็ต้องไปไม่ว่าร้อนหรือหนาว |
เกริ่นมายาว ตัดตอนมาวันเดินทางเลย |
เราโทรตามแท๊กซี่ มา 2 คันไป ขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองคน 5 คนแต่กระเป๋าใหญ่เกินที่จะใส่แท๊กซี่คันเดียวได้ |
ค่าโดยสาร รวมค่าทางด่วนตกคันละประมาณ 500 บาทแถมค่าบริการแท๊กซี่ไปเรียกรับอีกคัน 20 บาท |
ที่ดอนเมืองคนใช้บริการเยอะมาก ๆ ผ่านกรรมวิธิ ของสายการบินด่าน ต.ม.ก็เตรียมขึ้นเครื่องสายการบิน แอร์เอเซีย |
จาก กท.ดอนเมือง ไป เมือง yangon บินไม่นานครับประมาณ ชม.ค่าโดยสารคนละ 2 พันกว่าบาท |
ตอนเครื่องตีวง ลดระดับ เห็นพื้นที่ โล่งเป็นท้องนาแห้งกว้างใหญ่ก่อนถึงตัวเมือง มีบ้านชาวบ้านเป็นสังกะสีเยอะ |
พอเข้าใกล้สนามบิน บ้านชาวบ้านปลูกเป็นระเบียบดีขึ้น หลังคากระเบื้อง |
เข้าเมืองเขาไม่ยากหรอกครับ เข้าแถวยาวเหยียด แต่นานมาก ๆ รอ ต.ม.ของพม่าเช็คคอมพิวเตอร์ถามโน่นถามนี่ตอบได้บ้าง |
ไม่ได้บ้างฟังยากพิลึก |
แต่ฟังออกทำนองว่า ช่วยถอดแว่นตาออกหน่อยพี่แกหันกล้องถ่ายภาพแล้วเปรียบเทียบกับภาพในวีซ่าแล้วหงึกหน้า |
ทีนี้แหละตอกโป้ง เวลคัม.. |
ลองดูหน้าตัวเองในภาพถ่าย วีซ่า โห..หน้ามันแบนหัวเหม่งดูไม่จืดเมื่อก่อนคิดว่าตัวเองหน้าตาพอดูได้คงเพราะแว่นตา |
นะเอง ต.ม. คงจะไม่เชื่อว่าใช่เลยให้ถอดแว่นตา 555 |
แลกเปลี่ยนเงินดอลล่า ไป 200 เหรียญ ได้มา 200,000 กว่าจ๊าดแต่ก็ยากอีกแหละ ดอลล่ายับไม่เอายืนให้อีกใบ ไม่เอาอีก |
มีจุดแดงนิดก็ไม่เอา ...เอาใบใหม่ให้ พลิกดูหน้าหลัง อ้าวมีตาประทับเล็ก ๆ |
ฉบับแรกข้างบน มีรอยแดงเล็ก ๆ เขาไม่เอาอีกเวรกรรมพวกเราต่างคนต่างแลกได้มาคนละปึ๊งหนากะเอาไว้ทำบุญ |
แล้วซื้ออาหารเล็กน้อยกิน ส่วนค่าโรงแรมค่าเครื่องบินที่จะไปรัฐฉานและรัฐอื่น ๆ โอนจ่ายล่วงหน้าแล้ว |
เรียกแท๊กซี่ไปโรงแรม ในเมืองไม่ไกลจาก เจดีชเวดากอง ตกคันละ 2,500 จ๊าดไม่แพงแถมได้นั่งรถแท๊กซี่ป้ายแดงด้วยนา |
โชคดีจริง ๆ ได้นั่งรถป้ายแดง ว่าเข้านั่น |
เราไปกันสองคัน เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ยังดูรถไม่เป็น ก็ดันไม่เลือกคันโต...เลยเสียเงินเยอะหน่อยแต่บอกก่อนนะครับรถใน |
ย่างกุ้งวิ่งเร็วมาก ๆ ผมก็คอยนั่งดูแท๊กซี่คันหน้าไว้กลัวหลงทางไปโรงแรมไม่ถูก |
โห...แท๊กซี่ป้ายแดงเยอะจริง ๆ โตโยต้ารุ่นใหม่ ๆ ไม่มีในเมืองไทยรูปร่างกคล้ายกับรถโฮลเด้นยาวท้ายมน ๆ แถมรถยี่ห้อ |
อื่น ๆพอเข้าเมืองไปไม่นาน รถติดเป็นตังเม |
เลยยกกล้องถ่ายบ้านเรือนเขาไปเรื่อย ๆ ลักษณะบ้านตามที่รถผ่านเป็นบ้านหลังโตเยอะ ต้นไม้ร่มครึ้มพอประมาณบ้านหลัง |
เล็กไม่ค่อยเสียงแตรรถ ดังเป็นระยะ ๆ หนวกหูพิลึกเขาคงจะติดนิสัยบีบแตรแบบ เวียตนาม |
นั่น ๆ หม่องผู้ชาย เคี้ยวหมาก บ้านน้ำหมากสีแดงปรึ๊ดลงข้างทางส่วนหญิงต้องบอกว่า หุ่นดีมาก ๆ ไม่อ้วนเลยใส่เสื้อแขน |
กระบอกลำตัวเสื้อติดตัวเอวคอด |
นุ่งผ้าซิ่นกรอมเท้า ดูส่วนล่างยาวระหงสวยแน่นอนเธอป้ายหน้าด้วยสะนาบคาหรือทะนาคาทั้งสองข้าง |
มัวดูหญิงสวย ๆ หุ่นดีเพลิน อ้าว รถแท๊กซี่ป้ายแดงของพวกเราที่วิ่งคันหน้าหายไปแล้วทำไงดีหลงทางซะมั้ง |
ถามโชว์เฟอร์แท๊กซี่ว่า ไป winner Inn ถูกปะ |
yes แล้วพี่แกก็พูดอะไรไม่รู้ยาวเหยียด |
นั่งรถครึ่ง ชม.กว่า รถก็เลี้ยวเข้าโรงแรม เห็นแท๊กซี่จอดอยู่ 2 คันป้ายแดงทั้งคู่อีกคันเก่ามาแต่ยังป้ายแดง น่าจะเหมือนเพื่อน |
ของผมที่ใช้ป้ายแดงหลายปีไม่ได้ป้ายจริงซะดีคงจะไม่มีตังค์จ่ายค่างวดผ่อนรถแน่เลย หุ หุ |
โรงแรมที่พัก อยู่ทางสามแพร่ง เลยหันไปมองทั่ว ๆ เห็นรถเก๋งวิ่งไปมาเป็นป้ายสีดำอักษรขาวทีคำว่า YNG เลขอารบิคห้อยท้าย |
อ้าว...ป้ายดำรถบ้านครับส่วนป้ายสีแดงเป็นป้ายรถแท๊กซี่ทั้งหมดมิน่าถึงเวียนหัวหารถที่พวกเรานั่งไม่เจอ |
บล๊อกนี้ตีอู้ไว้ก่อนกลัวมันยาวเพื่อน ๆ จะคลิ๊กหนี หุ หุเลยเอาเรื่องขายขี้หน้ามาเล่าให้ฟังตอนหน้า |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 364/2,017) |
st ผู้เข้าชม 2,400,069. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |
|
เคยๆๆไปยืนถ่ายรูปหน้าร้านนี้
อนากไปพม่า (ติดเรียกชื่อเดิมมากกว่าเมียรมา)
รออ่านตอนต่อไป
Happy Monday ค่ะ