No. 1209 ชีวิตในป่า อาหารที่ชาวป่าติดใจ (8) |
|
กลับจากไปเที่ยวเขาช่องลมเปิดสมุดที่ยับเยินอ่านต่อ คนเขียนใช้ดินสอและมอบให้ว่าพี่ไวน์สนใจ |
เรื่องนี้หรือเปล่าลองไปอ่านดู |
ได้อ่านหลายตอนน่าสนใจเพื่อนคนนี้ไปอยู่กับชาวบ้านในป่าติดชายแดนพม่าอยู่บ้านบนตลิ่งลำห้วยในฤดูฝน |
จะมีน้ำมากขุ่นแดงในฤดูแล้งน้ำจะไหลรินใส...ผมคือไวนฯ เลยเรียบเรียงเรื่องราวกับคำบอกเล่าที่เราไปนอนค้างที่เขาช่องลม |
นครนายกตอนนั้นแอบ ๆ ไปพักไม่มีใครรู้และคนยังไม่ค่อยรู้จักมาเล่าต่อในนามคนชื่อ กาน |
|
ยังจำได้ครั้งที่เกิดอุบัติเหตตกจากดอยสูงกลิ้งสู่น้ำที่ไหลและตกลงอย่างรวดเร็วรู้สึกตัวสลับกับไม่รู้ตัว เมื่อรู้ตัวสำลักน้ำปล่อยตัว |
ลอยไปกับสายน้ำเกาะกอหญ้ากิ่งไม้แล้วก็หลุดลอยไปนานแสนนาน |
โชคดีพี่พะก่อกับลูกชายก่ำช่วยลากแบกตัวไปรักษาตัวจนร่างกายหายบอบช้ำชวนอยู่ในป่าไปก่อน...ถ้าจะเดินทาง |
กลับเข้าเมืองต้องเดินทางผ่านป่าและถิ่นคนพื้นบ้านที่ไม่ค่อยเป็นมิตร...เดิมพี่ก่อเรียกผมว่า น้ำ แต่เด็กก่ำเรียกว่าพี่กานเพราะจำ |
ได้ว่าผม..คลานขึ้นจากน้ำ |
เราอยู่ในป่ากัน 3 คนมีบางครั้งที่พี่พะก่อชวนไปหาคนบ้านดอยที่อยู่ห่าง ๆ กันหลายดอยสองสามครอบครัวครั้งหลังสุดได้ |
พาไปรู้จัก สาวชื่อดิ่ซัมโพที่อยู่กับคุณตาคุณยายหมอแผนโบราณ |
|
ภาพต่าง ๆ ทะยอยออกมาจากห้วงคิดคำนึงถืงเด็กก่ำเป็นเด็กตัวเล็ก รูปร่างเพรียวแข็งแรง.. ดีใจที่พ่อไปออกล่าสัตว์กับเพื่อน 2 คน |
ล่าเก้งโตเต็มที่จะได้กินแทนปลา...เขาทั้งสองชำแหละหนังออกใช้มีดผ่าเก้งออกสองซีกต่างคนต่างแบกเนื้อเก้ง |
กลับบ้านใครบ้านมันเนื้อจะได้ไม่เสีย |
ถึงบ้านให้ก่ำก่อไฟที่เตาย่างยกสูงเก่าใช้ย่างปลาบ่อย.. ก่ำรีบก่อไฟใส่ฟืนลุกโชนแล้วค่อย ๆ เอาฟืนออกเหลือแต่ |
ถ่านสีแดงกับขี้เถ้า.. พี่ก่อใช้มีดเหน็บเฉือนเนื้อเป็นก้อนโตบางส่วนยังติดกระดูกวางไว้บนตระแกรงไม้ไผ่สูงจากถ่านพอสมควร |
ใช้มีดตัดใบตองกล้วยหลายใบมาคลุมเนื้อ ผมกับเด็กก่ำเขี่ยขี้เถ้ากลับถ่านไม่ให้ลุกความร้อนทำให้เนื้อเก้งสุกน้ำมันกับน้ำหยดใส่ |
ถ่านติ๋ง ๆ ควันคลุ้งแต่ใบตองกล้วยสด...คลุมไอร้อนระอุควัน..กลิ่นเนื้อเก้งหอมทำเอาเราสองคนกลืนน้ำลายอยากกิน... |
พี่ก่อผมจะทำกับข้าวให้กินเอาเปล่า |
ทำอะไรเหรอ |
เรียกไม่ถูกแต่จำรส...ได้ผมใช้เนื้อเก่งย่างนะ.. ก่ำช่วยพี่หน่อยนะ |
ได้เลยพี่กาน |
ในครัวเป็นพื้นเป็นดินอัดแน่นเหนือเตาไฟสูงเลยหัวพริกแห้งร้อยเป็นพวงฝักข้าวโพดแห้งมัดเรียงรายข้างฝา มีหอมขาว(กระเทียม) |
มัดจุกเรียงห่างกันติดกับห้องครัวเป็นห้องนอนของพวกเรา..มีหม้อดินใส่ข้าวสารเต็มสองหม้อ |
ใช้มือควักข้าวสารครึ่งกำมือใส่หม้อดินเล็ก ก่ำช่วยก่อไฟใส่ฟืนไม่นานก็ลุกโชน เอามือวักน้ำพรมบนเม็ดข้าวใช้ไม้พายคนข้าวไปมา |
ไม่นานเม็ดข้าวก็ร้อนไอลอยสีเริ่มคล้ำเท่า ๆ กันก็ยกลง |
เอ้าก่ำตำข้าวคั่วให้พี่หน่อย ตำพอแหลกไม่ต้องละเอียดนะ เด็กก่ำตำข้าวด้วยสากไม้ข้าวคั่วเริ่มโชยกลิ่นหอม |
ก่ำไปเอาพริกแต้(พริกขี้หนู) แห้งในกระด้งหน่อยเอามาสัก 7 - 8 เม็ดก็พอนั่นใช่เลยตำ อ้อเอาข้าวคั่วออกใส่ถ้วยไว้ก่อน |
ตำพริกขี้หนูให้แหลกละเอียด |
ก่ำตำจนละเอียด... พี่กานจะเอาเนื้อเก้งแห้งในครัวหรือเนื้อเก้งที่กำลังย่าง |
ใช้เก้งย่างใหม่ดีกว่า..เดี๋ยวพอไปเอาที่กำลังย่างร้อน ๆมาให้เอาติดมันหรือเนื้อทั้งหมด |
ติดมันซิ...พี่เอามา 2 ก้อนคงพอนะ |
ตักพริกขี้หนูตำละเอียดจากครกดินเผา..ใส่กาละมัง....เดินไปหน้ากระท่อมริมลำห้วยที่อยู่ข้างล่าง |
รอบตัวบ้านเริ่มหนาวใบไม้ร่วงสู่ลำห้วย ใบโกร๋นไปบ้างตะวันค่อย ๆ ลดแสงลงความหนาวเย็นคืนคลานเข้าสู่พวกเราช้า ๆ เสียงน้ำ |
ในลำห้วยไหลคริก ๆ ไม่ขาดสาย |
ยกเขียงไม้เล็กกับเครื่องปรุงมาวางไว้บนแคร่ไม้ไผ่หยิบชิ้นเนื้อย่างร้อนติดมันหั่นก้อนเนื้อเป็นชิ้นพอคำกลิ่นหอมกรุ่น |
หั่นจนหมดใส่กาละมังเล็กจนหมด |
พี่กาน..ก่ำหอมอยากกินเนื้อย่าง |
เอาซิแต่อย่ากินมากนะ 555 ให้พี่ผสมอย่างอื่นกินกับข้าวอร่อยนะ |
เอาเกลือป่นสีมอ ๆ โปรยกับพริกขี้หนูตำละเอียดซอยหอมแดง 4 หัวลงคลุกเคล้าเอามะนาวลูกเป้งมาผ่าเป็น 3 ซีกใช้มีดเขี่ยเม็ด |
ออกบีบใส่รวมกับซอยต้นหอม 2 ตันโปรยตามชิม..ยังเปรี้ยวน้อยเผ็ดดีแล้วผ่ามะนาวอีก 1 ลูกบีบลง |
ชิมแล้วเผ็ดเค็มเปรี้ยวใช้ได้เอาข้าวคั่วที่ตำพอแหลกโปรยคลุกชิม...เอ้าก่ำลองชิมดู เป็นไง |
โห ลำขนาด (อร่อยจริง ๆ) หอมข้าวคั่วกับน้ำมันเก้งที่หยดติ๋ง ๆ ตอนย่างมาผสมกัน |
พี่พะก่ออมยิ้มใช้ช้อนตักกิน แล้วก็ยกนิ้วให้....กานเยียะ(ทำ)กับข้าวอร่อยมาก ที่บ้านกานเขาเรียกว่าอะไร |
น้ำตกมั้งพี่ |
อะไรพี่กาน เรียกชื่อกับข้าวไม่เห็นเหมือนน้ำตกจากก้อนหินเลยไม่ใช่มั้งพี่ |
ก่ำคิดดูนะคนในเมืองเขาเห็น ย่างเนื้อถูกไฟน้ำมันหยดติ๋ง ๆ น้ำมันปนกับน้ำในเนื้อมันตกลงล่างเขาเลยเรียกว่า น้ำตกไง |
พี่พะก่อหัวเราะว่าแล้วก็ใช้ช้อนตักใส่จานข้าวเคี้ยวตุ้ย ๆ ก่ำกับผมมีหรือจะไม่กิน |
เราสามคนกินข้าวจนหมดหม้อแน่นอนที่หมดก่อนคือ น้ำตกเนื้อเก้งย่าง... กินถั่วฝักยาวสีม่วงแกล้มไปด้วยลดความเผ็ดร้อนของ |
พริกขี้หนูตำ |
เรานั่งที่แคร่ไม้ไผ่ช่วยกันเก็บจานชามกองรวมไว้บนแคร่กะจะล้างในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นตามประสาคนโสด... แสงจันทร์เริ่มทอแสง |
นวลลงสู่ริมตลิ่งก่ำกับผมกระชับเสื้อกันหนาวทอด้วยเส้นด้านหยาบ ๆ ให้แน่น |
พี่ก่อไปล่าสัตว์ไกลหรือเปล่าครับ |
ไกลซิเดินไต่ดอยไป 4 ลูกอยู่ฝั่งพม่าโน่นทางโน้นไม่ค่อยมีคนอยู่เก้ง กับหมูป่ามีเยอะพี่ไปไม่บ่อยนักนอกจากมีเพื่อนไปด้วย |
บางทีก็ไปต้มน้ำทำเกลือไว้ใช้.. ถ้าย้อนกลับมารอยต่อตรงแอ่งดอยไทยกับพม่า....มีคนอยู่คนเดียวเราเรียกว่าครูนิน |
อายุน่าจะ 50 เกือบ 60 ปีได้มั้งครูเขาชอบอยู่เงียบ ๆ.. วันหลังจะพากานไปรู้จักเท่าที่เคยฟังครูนินเล่า ครูน่าจะเคยเรียนหนังสือใน |
ไทยพี่เห็นมีหนังสือเล่มหนาแค่นี้อยู่หลายเล่มพี่อ่านไม่ออกนะ |
ครูไม่มีครอบครัวเหรอพี่ |
ไม่มีมั้งครูเคยเล่าว่าเดินทางไปหลายจังหวัดของไทย..ครูพูดช้า ๆ นัยตาไม่ค่อยกระพริบดูใจดี ยิ้มนิด ๆ วันหลังพี่จะพาไปนะ |
ครับพี่เผื่อครูจะรู้เรื่องในจังหวัดที่ผมอยู่บ้าง...หนาว...มากเราเข้าบ้านกันดีกว่านะพี่ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,579,555. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียนเรื่อง สั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
|
ชอบนั่งสบายๆ เป็นชั่วโมงในโรงหนังมากกว่าจ้า