No. 1212 ชีวิตในป่า (ตอน 10 แววตาน่ากลัว...?) |
|
ตะวันคล้อยต่ำลับทิวไม้ช้า ๆ...อากาศเย็นลง นั่งดูน้องก่ำใช้ก๋งคล้ายคันธนูเล็กจับคันดันไปหน้าดึงกลับมาหมุนแกนไม้หมุน |
หลุมไม้ถูกไม้ปั่นเริ่มมีควันก่ำเร่งปั่นต่อ...หยิบปุยงิ้วใส่มีควันเปลวไฟ.. รีบเทลงบนเศษใบไม้แห้งที่ขยิ้ไว้ใช้ปากเป่าครู่เดียว |
ไฟก็ลุกดูหยิบเศษไม้แห้งเล็กลงเพิ่ม ไฟลามเลี้ยกิ่งไม้เล็กลุกโชนช่วยกันเอาไม้ฟืนแห้งใส่เพิ่ม |
เป็นกองโต ทำให้มั่นใจว่าเรามีไฟใช้ตอนมืด |
พี่กานช่วยก่ำ ตัดไม้ไผ่ใหญ่มาหุงข้าว |
ได้เลย ตัดกอไหนดี |
ฝั่งห้วยตรงโน้นดีกว่าต้นโตดี... ก่ำใช้มีดโต้หรืออีโต้ตัดไผ่โตเกือบน่อง..พี่กาน..ตัดต้นที่มีสีเขียวนะ..เวลาใส่บนไฟมันจะไม่ไหม้ |
ได้เลยก่ำ.ทำตัวเหมือนคุ้นเคยหุงข้าวใช้ลำต้นไผ่แทนหม้อข้าว 555 |
ตัดไม้ไผ่มายาวเกือบเมตร ท่อนนี้มี 2 ปล้อง... ใช้มีดสับระหว่างปล้องลืกเกือบนิ้วใช้มีดอีโต้ถากเปิดกระบอกเกือบครึ่ง |
พี่กานเปิดกระบอกไผ่หุงข้าวหรือทำอะไรนะพี่ |
อ๋อ..จะต้มแกงผักหวานใส่เนื้อกวางแห้ง พี่เคยเห็นในหนังสือเขาทำแบบนี้จะได้ตักน้ำแกงกิน |
กินลำบากเราไม่มีช้อนนะพี่..ลองทำแบบก่ำดีไหม |
ก่ำใช้มีดอีโต้ตัดกระบอกไผ่สีเขียวให้เปิดด้านบนด้านเดียว..เราชาวบ้านป่าใช้มีอีโต้หรือมีดเหน็บมีน้ำหนักตัดฟันได้ดี |
ลองทำดูนะพี่กาน ก่ำเคยใช้มีดถากทำข้าวต้มที่บ้าน ครูนิน..ต้องใช้ง่ามกิ่งไม้ปักบนดินสองข้างแล้วพาดกระบอก น้ำร้อนเดือดหกหมด |
ตรงนี้เป็นหินพี่จะปักง่ามไม้ยังไงอีกอย่าง กินแกงต้มยากเราไม่มีช้อนนะพี่ |
ฟังก่ำพูดแล้ว ใช่ ๆ ทำไม่ได้แน่เลยช่วยก่ำ เด็ดผักหวานเอาแต่ยอดอ่อน ก่ำเอาพริกป่าวางบนใบกล้วยสดหนาสองสามชั้น |
ใช้มีดโต้ตบ ๆ แตก..ช่วยกันฉีกเนื้อเก้งแห้งคลุกไปบนยอดผักหวานพริกป่า ควักข้าวสารในย่ามใส่กระบอกไม้ไผ่ |
เอาผักหวานเคล้ากับพริกเนื้อเก้งแห่งหยอดใส่กระบอกไผ่ดิบ เดินไปริมห้วยใช้มือวักน้ำใส่กระบอก |
ก่ำหยิบใบตองกล้วยป่าแห้งมาพัน ๆ เป็นก้อนแล้วยัดปิดกระบอกเอาไปวางเอียงกับกองไฟ |
รอบกายเริ่มมืดเปลวไฟลุกส่องแสงวาบแว๊บถูกใบหน้าก่ำที่ก้มมองกระบอกไม้ไผ่ดูเฉย ๆ.. รอสักพักนะพี่เดี๋ยว |
ได้กินข้าว... |
ก่ำ..เราเจอตัวริ้นตอมกัดจากดอยข้างบนเยอะตอนนี้ไม่มีดีจังริ้นไปไหนหมดเนาะ |
น่าจะเป็นตัวแมงหวี่ชอบบินเกาะหน้าตอมเราเฉพาะกลางวัน..มันตอมลูกมะเดื่อสุกที่หล่นใต้ต้นนะพี่ ก่ำกับพ่อเคยเจอริ้นตัวโตเขาเรียกว่าตัวคุ้นนั่นร้ายกว่ามีบางดอย |
พ่ออุ้ยของพี่ดิซัมโพถูกกัด.. เจ็บสองวันแต่เป็นแผลเล็กคัน ๆ สิบกว่าวัน |
นั่งตบยุงกันไม่กี่ตัวยุงก็หายไป |
แอ่งดอยที่เราอยู่ไม่มีแอ่งน้ำซับยุงเลยไม่มีโชคดีที่เราเลือกที่นี่เป็นที่พัก |
ก่ำไปกับพ่อวางแร้วดักไก่ป่าเลยดอยใกล้บ้าน 3 ดอย. ยุงเยอะที่นั่นมีลำห้วยไหลไปอีกทางแต่ก็มีน้ำซึมแยกไปทางขวา |
ต้นไม้ร่มครึ้มเขียว น้ำที่ซึมจากดอยช้า ๆ จะไปขังอยู่ที่แอ่งพ่อกับก่ำไปวางแร้วกันเงียบ ๆ ยุงกัดแต่ไม่กล้าตบกลัวไก่ป่าได้ยิน |
เลยรีบเดินไปซุ่มอีกเนินดอยใกล้กัน |
แล้วได้ไก่ป่าเยอะเปล่า |
ไป 4 ครั้งดักได้แค่ 2 ตัวเองพี่กาน 555 เลยแอบไปเก็บไข่ไก่ป่ามากินแทน |
หลามข้าวกับผักหวานคงกินได้แล้วพี่.... ว่าแล้วก่ำก็ใช้กาบกล้วยแห้งจับกระบอกไผ่ที่เผามาพิงไว้ข้างขอนไม้ ใช้ไม้เขี่ยจุกข้าวหลาม |
ออกเขี่ยข้าวดู... ข้าวสุกแล้วรอให้มันเย็นก่อน |
ยุงหมดแล้วแต่พี่ไม่แน่ใจ..เราหากิ่งไม้สดมาใส่กองไฟให้ควันไล่ยุงดีเปล่า |
ได้เลยพี่.... |
ช่วยกันตัดกิ่งไม้ใบสดของต้นไม้เล็กสุมควันเริ่มหนา อบอวลไปทั่วหลึบชะหง่อนหินแสงไฟวับแวม...นึกถึงตอนนอนจะมี |
ตัวอะไรยาว ๆ มาเยี่ยมเลยเอาดุ้นฟืนติดไฟสี่ห้าท่อนโยนไปในหลึบดินใช้ไม้เขี่ยไม่มีอะไรเลยคงนอนสบายหน่อย |
|
ลองจับกระบอกที่ใส่ข้าวสารน้ำพริกป่าใบผักหวานตั้งเอียงกับกองไฟอุ่นนิด ๆ เลยใช้มีดเหน็บผ่ากลางตามยาว เม็ดข้าวสีมอ ๆ มี |
ผักหวานปนกับเนื้อเก้งแห้งส่งกลิ่นหอม... |
พี่กานก่ำจะทำช้อนตักข้าวให้รอเดี๋ยว ก่ำผ่าไม้ไผ่สีเขียวเป็นซีกขนาด 1 นิ้วตัดเป็นสองท่อนใช้มีเหน็บถากปลายให้บางลงส่งให้ |
เอาก็เอา...ใช้ผิวไผ่ตักข้าวได้กลิ่นหอมเนื้อเก้งแห้งเผ็ดนิดเค็มหน่อยอร่อย เราสองคนแบ่งกันกินจนหมด |
ก่ำเอาเศษไผ่ข้าวหลามนี่ไปทิ้งไกล ๆ ดีไหมพี่ไม่อยากเจอหมูป่ามาดุนสีข้างก่ำนะ 555 |
ได้เลยพี่.... |
เราเดินลงไปเอากระบอกไผ่ไปตักน้ำห้วยจนเต็มดื่มแล้วเอาไปแขวนไว้กับกิ่งไม้ใกล้ที่นอน |
พี่กานพ่อจะออกตามเราเปล่าพี่ ก่ำกลัว |
ไม่ต้องกลัวกลางคืนพ่อคงไม่เดินหา.. เรานอนพักเอาแรงพรุ่งนี้เช้าค่อยหาทางกลับ |
ปลอบใจก่ำ...แต่ในใจยังวิตกกว่าจะเดินขึ้นดอยลงดอยจะหาบ้านของคนอื่นพบหรือไม่นี่ซิ ถ้าพบแล้วจะขอให้เขาบอกทางกลับ |
บ้านได้แบบไหน..ก็ป่าคือป่าไม่มีหมู่บ้านหรือชื่อหมู่บ้าน...ก่อนหน้านั้นเอามือคลำย่ามผ้าของก่ำ มีข้าวสารเหลือไม่ถึงกำ |
ถ้าหลงทางสองวันจะกินอะไร... |
ก่ำนอนเถอะพี่จะคอยดูไฟไม่ให้มันดับ... ไม่ต้องกลัวก่ำนอนเลยหันหน้าเข้ากองไฟเราหันหลังชนกัน |
ก่ำเอาผ้าขาวม้าปิดหน้านอนก็แล้วกัน |
นั่งชันเข่ามองเปลวไฟที่ลามเลีย แสงไฟจากกองสาดไปน่าจะไม่เกินสามเมตร ข้างหน้าเป็นลำห้วยมืดน้ำยังคงไหลช้า ๆ |
ก่ำนอนเอียงข้างขยับไปมาหลายครั้ง |
ก่ำนอนไม่หลับเหรอ |
ก่ำไม่มีหมอนหนุนนอนเอียงข้างไหล่สูงคอโค้งเจ็บนอนหงายก็ไม่สบายอยากได้หมอน...คิดถึงบ้านเรา |
เอางี้ก่ำเอาของออกจากย่ามให้หมด เอาใบไม้แห้งใบกล้วยยัดใส่แทนให้หนา... นั่นใช่เลยอัดให้แน่นเลยเอาหูย่ามขมวดพันกัน |
ไม่ให้ใบไม้หลุดออกมา.. ก่ำทำตาม...ลงนอนหนุนหมอนชั่วคราวขยับสองสามครั้ง |
ดีเลยพี่กานก่ำหลับนะ |
ได้เลย |
นั่งมองเปลวไฟ กับเพ่งมองความมืดแล้วนึกถึงพาเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์จากบ้านเฉลียงลับ เพชรบูรณ์ไปนอนในป่าใกล้อ่างเก็บน้ำ |
ทุกคนนอนไม่หลับยกเว้นพี่เสริฐเอาเป้ใส่เสื้อผ้าหนุนส่วนผมกับอีกสองคนมีแต่เสื้อยืดสำรองไว้คนละตัว |
เลยเอาใบกล้วยแห้งยัดใส้เป้แทน.. นอนได้พอไหว.. |
อากาศเย็นลงอีก ก่ำนอนงอตัวหันหลังให้ไม่ขยับตัวน่าจะหลับไปแล้ว... นั่งนึกชะหง่อนดินหินที่เราสองคนนอนตอนที่มาถึงไม่ได้ |
เอาไม้เขี่ยใบไม้ออกไม่ได้ดูว่ามีรู พบแต่ขี้หมูป่าแห้งสองสามก้อนคงไม่เป็นไรมั้ง |
นอนหงายดูชะหง่อนหินที่นอนเปลวไฟที่ส่องแวบวับเริ่มหายไปเหลือแต่ความมืด ต้องลุกเอากิ่งไม้เล็กใหญ่เติมกองไฟสองข้าง |
ลืมตามองนาน......คงไม่เป็นไรนะยังไงต้องหาทางกลับบ้านของเราได้ |
รอบกายมืดสนิทได้ยินเสียงเดินย่องของสัตว์ น่าจะอยู่อีกฝั่งของลำห้วยแล้วก็เงียบ... หันไปป่าข้างซ้ายมือมีเสียงเดินเบา ๆ น่าจะ |
สัตว์ป่าตัวเล็กตัวอะไรมันไมกลัวแสงกลิ่นไฟที่จุด เพ่งมองไปปลายเท้าเห็นแสงสีแดง ลอยเลี่ยกับพื้น |
ใช้มือคลำมีดเหน็บไว้แนบตัวเหงื่อเริ่มซึมออกมาค่อย ๆ ลุกนั่งเพิ่งมองไป... |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน 2,589,983. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ |
|
งานเขียนเรื่อง สั้น (ขนาดยาวปานกลาง) |
|
เค้านอนบนห้างสูงจากพื้นมากๆ แล้วก็มีป้าแก่ๆ ผมยาวๆ มายืนอยู่ใต้ต้นไม้ .. น่ากลัวมากๆครับ