No. 1136 ถูกทิ้ง (ตะพาบ) |
|
|
สายวันหนึ่งขับรถไปกับลูกน้องไปรับฟางข้าวที่สั่งซื้อไว้ล่วงหน้าสองสามเดือนมาแล้ว |
เราจำเป็นต้องใช้คลุมแปลงขิงมิให้ความชื้นในดินหายอีกอย่างป้องกันหญ้าขึ้นแย่งอาหารขิง...ตัวไร่อยู่บนดอยสันกู่ที่ไม่สูง |
มากนักอยู่เขต อ.เวียงป่าเป้าคาบเกี่ยวกับอำเภอวังเหนือของลำปาง |
ไปรับแต่รับฟางไม่ได้อีกแหละ... เราใช้สั่งจองฟางข้าวเหนียวที่ลำต้นยาวดีแต่กลับได้ฟางข้าว บ.ส. ที่สั้นกว่าข้าวไทย ปีที่ผมไปทำไร่ขิง มีชาวบ้านปลูกพันธ์บัสมาตีเพื่อส่งขายให้บริษัทรับซื้อ (ภาพข้างล่างจากอินเดีย) |
เพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านอาจจะไม่รู้จัก เป็นข้าว บาสมาตี ของอินเดียที่คนอินเดียในไทยหุงข้าวให้เราได้กิน อินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวบัสมาตีอันดับหนึ่งของโลก น่าจะมีคนหัวแหลมน่าจะปลูกในไทยได้เลยส่งเสริมให้ปลูกที่เชียงรายด้วย ถ้าใช้ก็ต้องเปลืองฟาง |
เปลืองเงินเปลืองแรงงานที่ปูฟางตอนปลูกด้วยเลยต้องขอลดราคากว่าจะตกลงกันได้ ก็เบื่อเดี๋ยวชาวบ้านจะหาว่าเราเขี้ยว |
|
ต้องรีบหามาทดแทนราคาย่อมแพงกว่าปกติ... คนงานใส่ฟางสูงเยอะเกิน เวลารถวิ่งบนดอยเป็นถนนดินแดง |
จะวิ่งโงนเงนอยู่บ้าง ลำบากตอนที่ขับไต่ขึ้นดอย ที่เป็นถนนดินแดง มีร่องกลางเพราะฝนปีก่อน |
เซาะ เวลาขับน่ากลัวรถตกร่อง หมายถึงรถเอียงอาจจะพลิกตกข้างทางได้ |
|
ทำไร่ขิงบางขณะต้องระวังแมงกระสอบช่วงแรกที่ลงแง่งขิงไว้ในแปลงดิน แง่งขิงที่ลงไว้เราต้องให้คนงานปาดให้ |
พอดีพึ่งให้แห้งพอดีไม่มากเกินแล้วจับใส่ถังใหญ่แบบผสมปูนเทน้ำที่ผสมยากันเชื้อราทิ้งให้แง่งขิงดูดซึม |
กะว่าดูดซึมยาดีแล้วก็โกยไปวางผึ่งให้แห้งสะเด็ดน้ำขนใส่กระสอบใหญ่ |
|
ส่วนบนดอย 2 ลูกเราจ้างรถไถ ๆ ด้วยผาน 4 ขุดดินลึกจนทั่วประมาณ 50 ไร่ วันต่อ ๆ มาก็ให้รถไถคันเดิมเปลี่ยนเป็น |
ผาน 7 ย่อยดินให้ละเอียดเอาเศษหญ้าตอไม้เล็กออกตากแดดฆ่าเชื้อราในดินที่อาจจะมี |
เราเช่าที่ดินเป็นฤดูก็ประมาณ 1 ปีของหน่วยงานหนึ่ง...จะสึบดูว่าที่ดินตรงนั้นเคยปลูกขิงมาหรือยังถ้าเคยปลูกขิงอาจะมีเชื้อรา |
ตกค้างถ้ายังไม่เคยปลูกจะเช่าปลูกขิง ดินที่ถูกผาน 7 ย่อยแล้วรถไถจะใช้ผานยกร่องสูงประมาณ 50 ซมเป็นแถวยาวประมาณ 50 เมตร |
|
คนงานชายจะช่วยกันยกกระสอบปุ๋ยที่ใส่แง่งขิงไป วางไว้เป็นจุดคนงานหญิงจะ ใช้จอบหรือมือโกยดินหย่อนแง่งขิงกลบให้แน่น |
เช้าแต่ละวันผมกับเพื่อนมีหน้าที่ขับรถไปรับคนงานตามหมู่บ้านข้างล่างใช้รถพิคอัพ 2 คันกับรถแลนด์โรเวอร์ช่วงยาว |
ไปตอนเช้ามาก ๆ คนงานเขาจะยืนรอหน้าหมู่บ้านมีจอบ ห่อข้าว แกลลอนน้ำของตนเอง |
เวลาที่ลงมือปลูกไม่นานก็เสร็จ บนแปลงขิงเป็นดินร่วนซุยปล่อยทิ้ง ผมหรือเพื่อนจะผลัดกันมาดูกลางวันหรือนอนค้าง |
ที่กระท่อมตอนกลางคืนไม่ให้...คนจับได้ว่ามาเวลาไหน 555 กระตอบหรือกระท่อมหลังข้างล่างที่ผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวตอน กลางคืน |
พวกมิจฉาชีพกินแรงคนอื่นไม่ต้องลงทุนมาก ชอบขี่มอไซค์ขึ้นมาดูการปลูก ตกกลางคืนเดือนมืดจะค่อย ๆ คืบคลานมา |
ขุดขิงที่ปลูกใหม่รากยังไม่งอกใส่ถุงไปขายหรือไปปลูกเองในไร่พวกมัน |
ระหว่างคนงานทำงานผมกับเพื่อนเดินดูบ้างเวลาแดดออก ร้อนครับ ที่นั่นจะมีคนงานชายที่พูดน้อยค่อนข้างนักเลง |
คอยดูคนงานทำงานแค่เดินไปเดินมาไม่ให้คนงานอู้ประเภทหยุดไปกินน้ำบ่อย |
|
คนงานพิเศษคนนี้เราให้ค่าแรงเท่าคนงานชายคนอื่นแต่ จะมอบเงินให้ไม่ให้คนอื่นเห็นคือให้เกียรติเขา |
|
ทุกคนต้องเตรียมน้ำไปเพราะบนดอยดินไม่มีน้ำตกแบบที่เราเห็นในภาคเหนือนะครับ 555 เป็นดอยโล่ง ๆ ตอนเย็น |
น้องสาวหรือไม่ก็ผมจะยืนหน้าตูบให้คนงานเข้าแถวเรียงยาวประมาณ 30 - 40 คน |
จ่ายค่าแรงคนไหนรับเงินแล้ว ให้ไปอยู่จุดอื่นเพื่อนอีกคนคอยสังเกตมิให้คนรับเงินแล้วมาต่อแถวอีก หุ หุ |
ค่าแรงผู้หญิงผู้ชายต่างกัน 5 บาท |
จ่ายเงินแล้วต่างก็ไปที่รถแต่ละคัน ผมขับรถนิสสันแรงดีมากคนงาน จะเป็นหญิงมากเกือบหมดยืนเกาะเหล็กบนตัวรถ |
ผมไปส่งแถวหมู่บ้านเวียงกาหลง กับบ้านแม่ห่างใต้ |
|
เราปลูกกระท่อมสำหรับ คนงานพักตอนกลางวัน และเป็นที่พักของเราในเวลากลางคืน เราผลัดกันนอนค้างเฝ้าไร่ขิงที่กว้าง |
กว่า 50 ไร่ เผลอไม่ได้แมงกระสอบเยอะ 555 เพื่อนที่ปลูกขิงไว้อีกบนดอยเจอมาแล้ว แมงกระสอบใช้วิธีดึงต้นขิง |
ใช้มือโกยขิงอ่อนหรือขิงแก่ก็เอาทั้งนั้นตัดต้นทิ้งเหลือแต่แง่งขิงใส่กระสอบยกใส่มอไซค์ที่จูงซุกไว้ในพงหญ้าตอนกลางวัน |
ได้ขิงพอก็มัดกระสอบขิงให้แน่นแล้วจูงมอไซค์ลงดอยไปเงียบ ๆ กะว่าให้ห่างจากกระท่อมครึ่ง กม.ก็พอ |
สตาร์ทรถวิ่งลงดอยสบาย ๆ ได้ขิงโดยไม่ต้องปลูกเอาไปขาย |
อาหารสำหรับผมหรือเพื่อนที่ไปนอนเฝ้าหรือดูแลไร่ตอนกลางวันหรือกลางคืน |
ซื้อหมูสามชั้นมาหั่นเป็นก้อน เคล้าเกลือ พริกไทย กระเทียมทำให้สุกเรียกว่าหมูโค๊ะไว้ทีละหม้อเอาไว้กินกับน้ำพริก |
แดง มีข้าวสารไว้ในกระท่อมด้วย |
เย็นวันหนึ่ง นั่งอยู่หน้าตูบ บนดอยมองดู ตัวตลาดบ้านแม่ขะจาน ฝนตกพรำ ๆ เงียบ ๆ อากาศเย็นจนหนาว หิวข้าวแต่ไม่มี |
อะไรกินเลยรออาหารจากเพื่อนที่ลงไปนำมาจากบ้านข้างล่างดอยอาหารหมด |
ฝนที่ตกพรำ ๆ กลับตกหนักไม่มีทีท่าจะหยุด แบบนี้ถนนที่ขึ้นมาบนดอย |
เละเทะแน่นอน รถขึ้นมายาก...มองลงไปจากยอดดอยเห็นตัวตลาดไกลสุดสายตา แสงไฟฟ้าวับแวบเป็นบางครั้งคงมาจาก |
บ้านคนข้างล่างแต่สายฝนที่ตกลงมาหนักจะบังแสงเหงา สุด ๆ คิดถึงบ้านที่ กรุงเทพฯ (ไม่มีภาพกลางคืน) |
|
3 ทุ่มกว่า ฝนตกไม่หยุด หนาว.... ตัวตลาดข้างล่างอยู่ไกลไปกว่า 7 กม..หมอกฝนลงหนักทำให้บริเวณไร่มืดไปทั่ว |
|
นึกถึง สตูเนื้อ ตั้งไฟอุ่น ๆ ท้องร้องจ๊อก ๆ กินน้ำก็ไม่หายหิว ได้เคี้ยวเนื้อนุ่ม ๆ รสหวานจากเนื้อเคี้ยวมันฝรั่งนุ่ม ๆ กลิ่นหอม |
หัวใหญ่ หอมกานพลูนิด ๆนึกแล้วปวดกราม น้ำลายสอหิวจริง ๆ |
รอบไร่เป็นป่า สายฝนที่โปรยปรายไม่หยุด รถคงไม่อาจจะขึ้นมาได้ พยายามทำใจ แต่หิวมาก เลยไปที่หม้อมีเนียมใส่ข้าวสาร |
|
ใช้มือกอบข้าวสารที่ติดอยู่ก้นหม้อป้อนเข้าปาก เคี้ยวกินดิบ ๆ ใช้ขันรองน้ำจากชายคาดื่ม |
ไม่นานข้าวที่เคี้ยวเป็นแป้งหยาบ ๆ เริ่มอึด หนักท้อง คลายหิวไปได้ |
คืนนั้น เลยต้องนอนบน ตูบกระท่อมที่ยกสูงเพียงเข่า ใช้มุ้งเหม็น ๆ ห่มให้หายหนาวท่ามกลางความมืด ตะเกียงน้ำมันก๊าด |
ก็จุดไม่ติดไฟแช็กแก๊สหมด เฮ้อ |
ลุกขึ้นมองก็ไร่ขิงก็มองไม่เห็น ได้ยินเสียงวิ่งของอีเห็น หรือกระต่ายก็ไม่ใช่ หรือ ผี... ขวัญเริ่มกระเจิงกลัว |
มีอยู่ทางเดียวนอนหลับตากลัวผีเห็น หุ หุ |
ไม่ได้นึกโกรธเพื่อนที่ทิ้งเราไว้คนเดียว คงพยายามขับรถขึ้นมาแต่ขึ้นดอยไม่ได้ถนนเละลื่นมีโอกาสตกดอยหรือไถลลง |
ร่องน้ำข้างทางได้ตอนสายวันรุ่งขึ้น |
เป็นแบบที่คิดจริงด้วย เพื่อนพยายามขับรถแลนด์โรเวอร์ช่วงยาวที่มีเกียร์โลว์ 2 ล้อหน้าแต่ขึ้นไม่ได้ รถยี่ห้อนี้เวลาจะ (ภาพแทน) |
ใช้ 4 ล้อพร้อมกันต้องจอดในที่เรียบตั้งล้อหน้าให้ตรงขยับให้ตรงลีอคยึดเกียร์โลว์ ตรงดุมล้อ |
ถ้าไม่ตรงก็ต้องใช้มือโยกรถไปมาแล้วจึงล๊อคล้อหน้าเข้าเกียร์โลว์ได้ทีละข้าง อย่าเพิ่งหัวเราะนะครับโฟล์วิลสมัยก่อนเป็น |
แบบนั้นจริง ๆ เรา 3 คนพยายามจะไม่ใช้รถแลนด์คันนี้มันแข็งโป๊ก ซดน้ำมันด้วย 555 |
ส่วนโทรศัพท์มือถือหมดสิทธิ์ยังใม่มีใช้ ปีนั้นปีพศ.2530 ได้มั้ง พอปี 2535 จะเริ่มมีโทรศัพท์หิ้วไปมาเบ่อเริ่มแล้ว |
ราคาเกินเอื้อม แสนกว่าบาทเรื่องส่งข่าวกันไม่มีทางเลย.. ถ้าเป็นปัจจุบันส่งไลน์ให้ส่งอาหารได้ 555 |
ไปทำงานไร่อยู่บนดอยเพราะ ลาออกจากบริษัทที่ทำงานมากว่า 15 ปีอยู่บ้านแม่ขะจาน บ้านแม่ห่างใต้ บ้านเวียงกาหลง ก่อนฤดูเก็บเกี่ยว..นาเดียวกันเปลี่ยนแปลงแบบนี้ |
อ.เวียงป่าเป้า..จำอากาศหนาว หมอก ฝน น้ำในลำห้วย จิตใจคนในท้องถิ่นอาหารได้ดีอยู่ทำไรเกือบสองปีจึงเดินทางกลับไป |
ไปทำงานในกรุงเทพ ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปเที่ยวเกือบทุกปีที่นั่นเพราะชอบ |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 393/2,781) |
st ผู้เข้าชม 2,381,680. |
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
|
Diarist |